เที่ยวต่างประเทศครั้งแรก เรื่องน่ารู้ที่จะทำให้การเที่ยวด้วยตัวเองผ่านฉลุย

          เที่ยวต่างประเทศครั้งแรก แนะนำวิธีการเตรียมตัวเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเองครั้งแรก มีเรื่องน่ารู้อะไรบ้าง หรือมีสิ่งไหนที่ควรเตรียมไป ไม่ควรลืม ผ่านด่านคนตรวจคนเข้า-ออกเมืองยากไหม พกอะไรไปต่างประเทศได้บ้าง ประกันเดินทางสำคัญหรือไม่ แอปพลิเคชันอะไรที่ควรมีไว้ในโทรศัพท์มือถือ และอีกสารพัดข้อแนะนำที่จะทำให้การเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเองสนุกอย่างที่ตั้งใจ
          การเที่ยวต่างประเทศเป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝันว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิตอยากไปเยือนประเทศในฝันกับเขาบ้าง เมื่อโอกาสมาถึง ยิ่งเป็นการเดินทางครั้งแรก ก็จะยิ่งประหม่า ไม่รู้ว่าควรเตรียมตัวอย่างไร มีเรื่องไหนที่ต้องเตรียมพร้อมไว้บ้าง เราจึงได้รวบรวมสิ่งน่ารู้เพื่อการเตรียมตัวเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกมาฝากกัน บอกเลยว่าถ้ารู้ไว้ก็ทำให้เที่ยวได้แบบไร้ความกังวลไปได้เยอะเลย :)

1. พาสปอร์ตต้องมีอายุการใช้งานเหลือเกิน 6 เดือน

เที่ยวต่างประเทศครั้งแรก

          เป็นเรื่องพื้นฐานของการเที่ยวต่างประเทศที่ทุกคนควรรู้เลยทีเดียว ว่าทุกสายการบินและด่านตรวจคนเข้าเมืองจะพิจารณาให้นักท่องเที่ยวเดินทางไป/เข้าประเทศนั้น ๆ ได้จะต้องมีพาสปอร์ตที่มีอายุการใช้งานเหลือเกิน 6 เดือน ใครที่เพิ่งทำมาใหม่ ก็ไม่ต้องกังวลไป

           แต่ใครที่ทำไว้นานแล้ว ต้องลองเช็กกันให้ถี่ถ้วนก่อนเดินทาง เพราะด่านตรวจคนเข้าเมืองหลาย ๆ ประเทศกำหนดไว้เลยว่าผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศนั้น ๆ จะต้องมีหนังสือเดินทางที่มีอายุมากกว่า 6 เดือน ด้วยเหตุผลว่าเผื่อเอาไว้ในกรณีฉุกเฉิน เช่น การพลัดหลง, การเกิดอุบัติเหตุที่ต้องใช้เวลารักษายาวนาน และการติดค้างอยู่ที่สนามบินด้วยเหตุผลบางประการ พาสปอร์ตใครที่เหลืออายุน้อย ซึ่งเสี่ยงต่อการปฏิเสธการเดินทางจากสายการบินและด่านตรวจคนเข้าเมือง แนะนำว่าให้ไปทำใหม่ดีกว่า

12 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการทำพาสปอร์ต ข้อมูลแน่นปึ้ก

2. เรื่องน่ารู้ในขั้นตอนของการเช็กอินที่สนามบิน

เที่ยวต่างประเทศครั้งแรก

ภาพจาก 1000 Words / Shutterstock.com

          ด่านแรกที่ทุกคนกังวลเกี่ยวกับการเดินทางต่างประเทศครั้งแรก ก็อยู่ที่สนามบินนี่เอง มีหลากหลายคำถามและหลายสิ่งที่ต้องกังวล จนบางทีก็ลืมสิ่งนั้นสิ่งนี้ งั้นมาลองดูลิสต์สิ่งที่ควรรู้ในขั้นตอนของการเช็กอินที่สนามบินกัน
 

          - ทันทีที่จองตั๋วเครื่องบิน แล้วได้รับตั๋วเครื่องบินออนไลน์ (E-ticket) มา ให้เช็กรายละเอียดในนั้นอย่างละเอียด เช่น
 

          * ชื่อ-นามสกุล-คำนำหน้าชื่อภาษาอังกฤษตรงกับพาสปอร์ตหรือไม่

          * เป็นเส้นทางบินตรง หรือต่อเครื่องที่ประเทศอื่นก่อนไปถึงประเทศปลายทาง

          * ถ้าต่อเครื่องที่ประเทศอื่นก่อนไปถึงประเทศปลายทาง มีเวลารอเครื่องกี่ชั่วโมง เพื่อจัดสรรเวลาเดินทาง

          * โหลดกระเป๋าใต้ท้องเครื่องได้หรือไม่ ถ้าโหลดได้ โหลดได้กี่ใบ น้ำหนักได้กี่กิโลกรัม

          * ถ้าเป็นเส้นทางที่ต้องไปต่อเครื่องที่ประเทศอื่น ต้องดูว่ากระเป๋าเดินทางที่โหลดใต้ท้องเครื่องจะเป็นแบบ Check Through หรือไม่ ถ้าไม่มีรายละเอียดให้สอบถามสายการบินอีกครั้ง เพราะถ้าหากเราไปต่อเครื่องที่ประเทศอื่นที่จะต้องใช้วีซ่าในการเข้า-ออกประเทศ เช่น ประเทศจีน จะได้เตรียมดำเนินการขอวีซ่า Transit ของจีนไปด้วย

          * ถ้าเป็นเส้นทางบินนานหลายชั่วโมง มีอาหารบนเครื่องบินไว้ให้ไหม จะได้เตรียมเสบียง หรือซื้อเพิ่มเติมก่อนการเดินทาง

          * สายการบินที่เราเดินทางด้วย มีระบบให้เช็กอินออนไลน์ไหม ถ้ามี...ให้ดำเนินการเช็กอินออนไลน์ไปก่อน แล้วค่อยไปโหลดกระเป๋ากับรับบอร์ดดิ้งพาสที่หน้าเคาน์เตอร์
 

          - ในขั้นตอนการเช็กอินที่สนามบิน สำหรับเส้นทางท่องเที่ยวต่างประเทศ จะใช้พาสปอร์ตตัวจริงในการยืนยันตัวตนเท่านั้น เพราะฉะนั้นห้ามลืมหรือฝากไว้ที่ผู้อื่นเด็ดขาด

          - เคาน์เตอร์ของทุกสายการบินจะปิดให้บริการก่อนเวลาเครื่องออก (Boarding Time) อย่างน้อย 45 นาที ควรเผื่อเวลาไว้สำหรับการเข้าคิวโหลดกระเป๋าเยอะ ๆ ควรมาถึงสนามบินก่อนเวลาราว ๆ 1-1.30 ชั่วโมง เผื่อเหตุฉุกเฉิน

3. คำศัพท์ที่ควรรู้บนบอร์ดดิ้งพาส

เที่ยวต่างประเทศครั้งแรก

          * Name >> ชื่อ-นามสกุลผู้เดินทางที่ตรงกับพาสปอร์ต

          * Flight No. >> รหัสเที่ยวบิน เช่น TG328, FD3188, JL417 เป็นต้น

          * Seat >> หมายเลขที่นั่ง เช่น 7A, 7B, 7C เป็นต้น

          * Gate >> ประตูขึ้นเครื่องบิน พอเราผ่านด่านตรวจคนเข้า-ออกเมืองเข้าไปยังพื้นที่ของห้องผู้โดยสารแล้ว ถ้าเป็นสนามบินใหญ่ ๆ เช่น สนามบินสุวรรณภูมิ จะมี Gate อยู่เยอะมาก แต่ก็มีป้ายบอกทาง Gate อยู่ตลอด

          * From >> ชื่อเมือง/สนามบินที่เราจะขึ้นเครื่อง

          * To >> ชื่อเมือง/สนามบินที่เราจะไปลงเครื่อง

          * Date >> วัน/เดือน/ปี ที่จะเดินทาง

          * Boarding Time >> เวลาที่เรียกขึ้นเครื่อง ถ้าไปเช็กอินใกล้เวลาเครื่องออกให้รีบเข้าไปที่เกตให้เร็วที่สุด ต้องเผื่อเวลาในขั้นตอนของด่านตรวจคนเข้า-ออกเมืองด้วย

4. เรื่องน่ารู้บนเครื่องบิน

เที่ยวต่างประเทศครั้งแรก

          แต่ละสายการบิน จะใช้เครื่องบินรุ่นที่แตกต่างกันออกไป เส้นทางในประเทศและต่างประเทศก็จะคนละรุ่นกัน บางท่านเคยขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ก็อาจจะประเดิมด้วยการเที่ยวต่างประเทศเลย ทำให้เครียดและกังวลไม่น้อย แต่ก็อย่าเพิ่งคิดมาก เพราะการขึ้นเครื่องบินไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด และถ้าไม่รู้จริง ๆ เราก็เชื่อว่าทั้งพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินและผู้โดยสารท่านอื่น ๆ ก็เต็มใจให้ความช่วยเหลือ มีอะไรน่ารู้เกี่ยวกับการใช้งานบนเครื่องบินบ้าง ไปดูกัน
 

          - ที่นั่งบนเครื่องบิน ถ้าเป็นเครื่องบินลำเล็ก ส่วนใหญ่จะมีที่นั่งอยู่ 2 แถว ซ้าย-ขวา แต่ละแถวจะมีที่นั่งอยู่ 2-3 ที่นั่ง โดยจะมีรหัส เช่น 1A ก็คือ แถวที่ 1 ที่นั่ง A ส่วนใหญ่จะเรียงจากทางด้านซ้ายมือไปขวามือ (หันหน้าไปทางหัวเครื่องบิน) ฝั่งซ้ายคือ A, B, C และฝั่งขวามือคือ D, E, F ส่วนเครื่องบินลำใหญ่จะมี 3 แถว คือ ซ้าย ตรงกลาง และขวา เรียงจากทางด้านซ้ายมือไปขวามือ (หันหน้าไปทางหัวเครื่องบิน) เช่นกัน ฝั่งซ้าย คือ  A, B, C ตรงกลางคือ D, E, F และฝั่งขวา คือ H, J, K
 

          - บนเครื่องบินจะมีช่องเก็บสัมภาระให้เราใส่กระเป๋าเดินทางและข้าวของต่าง ๆ แต่ไม่ควรวางกระเป๋าเงินหรือสิ่งของมีค่าไว้ด้านบน เพราะเสี่ยงกับการถูกโจรกรรม ควรเก็บสิ่งของมีค่าใส่กระเป๋าสะพายขนาดเล็กวางไว้บนตัก หรือสอดไว้ใต้ที่นั่งด้านหน้าของเราในช่วงเครื่อง Take-off หรือ Landing 

เที่ยวต่างประเทศครั้งแรก

ภาพจาก Akimov Igor / Shutterstock.com

          - การสาธิตใช้อุปกรณ์ฉุกเฉิน ก่อนที่เครื่องจะ Take-off พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจะมีการสาธิตการใช้อุปกรณ์ฉุกเฉินทุกเที่ยวบิน ควรให้ความสนใจอย่างยิ่ง เพราะหากเกิดกรณีฉุกเฉินจริง ๆ จะได้ช่วยเหลือตัวเองและผู้อื่นได้
 

          - บนเครื่องบินมีห้องน้ำ ไม่ต้องอั้นจนถึงปลายทาง แต่จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อมีสัญญาณว่าผู้โดยสารสามารถลุกจากที่นั่งได้ ดูรายละเอียดเกี่ยวกับห้องน้ำบนเครื่องบินเพิ่มเติมได้ที่ การใช้ห้องน้ำบนเครื่องบิน ง่ายนิดเดียว รู้แล้วต้องบอกต่อ
 

          - การปรับเอนเบาะที่นั่ง สามารถทำได้เช่นกันในช่วงที่กัปตันแจ้งสัญญาณว่าปลอดภัยแล้ว โดยส่วนใหญ่ปุ่มปรับเบาะจะอยู่ที่พนักวางมือด้านขวามือ เป็นปุ่มขนาดใหญ่ ให้กดแล้วเอนตัวไปด้านหลัง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นให้ระมัดระวังช่วงเวลาที่มีการเสิร์ฟอาหาร เพราะอาจจะทำให้อาหารของผู้ที่นั่งอยู่ด้านหลังเบาะของเราหกเลอะเทอะ และไม่ควรเอนมากเกินไป
 

          - ไฟอ่านหนังสือ ในช่วงเวลาที่เครื่องบินไต่ระดับนิ่งแล้ว กัปตันจะปิดไฟบนเครื่องบิน ถ้าเป็นเวลากลางคืน ก็จะมืดทั้งลำ แต่ไม่ได้มืดจนเดินมองไม่เห็น แต่ก็ลำบากในการอ่านหนังสือพอสมควร ถ้าอยากเปิดไฟอ่านหนังสือ ให้เปิดที่ด้านบนของที่นั่ง

5. การจัดกระเป๋าเดินทาง และของต้องห้ามนำขึ้นเครื่องบิน

เที่ยวต่างประเทศครั้งแรก

          ไปเที่ยวต่างประเทศ ใช่ว่าเราจะพกทุกสิ่งทุกอย่างไปกับเราได้ ถึงแม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นเพียงของชิ้นเล็ก ๆ น้ำหนักไม่เยอะ แต่ถ้าผิดกฎของสายการบินและกฎหมายของประเทศนั้น ๆ ก็ต้องจำใจวางทิ้งไว้ที่บ้าน แล้วจัดกระเป๋าอย่างไร ไม่ให้โดนรื้อที่สนามบินดีล่ะ...มาดูกัน
 

          - การจัดกระเป๋าจะต้องแยกเอาพวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พาวเวอร์แบงก์ และของมีค่าออกมาจากกระเป๋าเดินทางที่จะโหลดใต้ท้องเครื่อง
 

          - พาวเวอร์แบงก์ที่จะพกไปด้วย ถ้ามีความจุน้อยกว่า 20,000 mAh สามารถนำขึ้นเครื่องได้ไม่จำกัดจำนวน แต่ถ้าความจุอยู่ที่ 20,000-32,000 mAh จะนำขึ้นเครื่องได้เพียง 2 เครื่องเท่านั้น ส่วนถ้าเกินกว่า 32,000 mAh จะไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ และห้ามไม่ให้โหลดใต้ท้องเครื่องในทุกกรณี
 

          - การจัดกระเป๋า จะมีของบางสิ่งบางอย่างที่ไม่สามารถโหลดใต้ท้องเครื่อง หรือนำขึ้นเครื่องบินได้ ดูรายละเอียดได้ที่ ก่อนจัดกระเป๋าควรรู้ สิ่งของต้องห้ามนำขึ้นเครื่องบิน
 

          - น้ำหนักกระเป๋าที่สามารถโหลดใต้ท้องเครื่องบิน และนำขึ้นเครื่องบินได้นั้นจะขึ้นอยู่กับแต่ละสายการบินและเส้นทาง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ น้ำหนักสัมภาระก่อนขึ้นเครื่อง เรื่องควรรู้ของนักเดินทาง

6. เที่ยวต่างประเทศ ควรทำประกันการเดินทาง

เที่ยวต่างประเทศครั้งแรก

           ในกรณีถ้าผู้เดินทางมีกำลังจ่ายสำหรับค่ารักษาพยาบาล หรือค่าเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างเที่ยวต่างประเทศ หรือมีประกันที่ครอบคลุมอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องทำประกันการเดินทางก็ได้ แต่ถ้าหากว่าไม่มีประกันอะไรที่สามารถครอบคลุมถึงการรักษาพยาบาลหรือสิ่งต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างที่อยู่ต่างประเทศ

          แนะนำว่าให้ทำประกันการเดินทางไปดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นประเทศใกล้ไกลแค่ไหน หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา ก็มีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไม่น้อยเหมือนกัน บางประเทศถ้าเราทำให้เกิดอุบัติเหตุอาจจะต้องจ่ายค่าเสียหายต่าง ๆ เองด้วย เช่น ค่าเรียกรถพยาบาล, ค่าเรียกตำรวจ เป็นต้น ทำประกันไปไม่กี่ร้อยบาทมันอุ่นใจกว่าเยอะ

7. ทำอย่างไรให้ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง

เที่ยวต่างประเทศครั้งแรก

ภาพจาก 1000 Words / Shutterstock.com

           อีกหนึ่งเรื่องที่น่ากังวลสำหรับการเที่ยวต่างประเทศ ก็คือ ด่านตรวจคนเข้าเมือง แต่ละประเทศจะมีความเข้มงวดแตกต่างกันไป และเพื่อให้เราผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองได้ง่าย ๆ สิ่งหลัก ๆ ที่ควรเตรียม มีดังนี้
 

           - กรอกใบเข้าเมือง (Arrival Card) ให้ครบถ้วน และตอบตามความเป็นจริง บางประเทศก็มีให้กรอกออนไลน์ บางประเทศก็ไม่ต้องกรอก ดูรายละเอียดของแต่ละประเทศอีกครั้ง

           - แผนการเที่ยวในแต่ละวันที่แน่นอน

           - หลักฐานการจองตั๋วเครื่องบินกลับและการจองที่พัก

           - ตอบคำถามของเจ้าหน้าที่ตามความเป็นจริง

8. ยารักษาโรค พกไปได้แค่บางประเภท

          สำหรับใครที่มีโรคประจำตัวและต้องพกยาติดตัวไปด้วย แนะนำว่าให้ศึกษาก่อนว่าประเทศนั้น ๆ ห้ามนำเข้ายาประเภทใดบ้าง อย่างญี่ปุ่นก็ห้ามนำเข้ายาหลายประเภท เช่น Tylenol Cold, Nyquil Liquicaps, Sudafed และ Advil Cold & Sinus เป็นต้น ถ้าจำเป็นจริง ๆ ให้ขอใบรับรองแพทย์จากสถานพยาบาลที่เรารักษา

9. อาหาร สามารถพกไปได้แค่บางอย่าง

          หลายประเทศจะมีข้อกำหนดการนำเข้าสิ่งของต่าง ๆ อย่างอาหารที่เราเห็นว่าเป็นสิ่งของเล็กน้อย แต่บางอย่างก็ถือว่าเป็นสิ่งของต้องห้ามเข้าประเทศเขาเช่นกัน เช่น ถ้าหากเดินทางไปประเทศที่เคร่งครัดศาสนาอย่างศาสนาอิสลาม ก็ไม่สามารถนำผลิตภัณฑ์ที่เป็นหมูเข้าประเทศนั้น ๆ ได้ บางประเทศอย่างญี่ปุ่น ก็ไม่ให้นำเข้าพืช-ผลไม้บางชนิด และเนื้อสัตว์สด ๆ ทั้งนี้ก็ต้องดูข้อกำหนดของประเทศปลายทางที่เราจะเดินทางไปเที่ยว

10. การใช้โทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตในต่างประเทศ

เที่ยวต่างประเทศครั้งแรก

          ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านการสื่อสารพัฒนาไปเยอะมาก ไม่ต้องซื้อบัตรโทรศัพท์กันให้วุ่นวาย ถ้าใครต้องการความสะดวกก็เปิดโรมมิ่งกับเครือข่ายที่เราใช้งานอยู่ได้เลย ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงสักนิด แต่ก็ไม่ยุ่งยาก และยังโทร. เข้า-ออกได้เหมือนกับตอนที่ใช้งานอยู่ที่เมืองไทย แต่ถ้าต้องการลดค่าใช้จ่ายลงมาอีกหน่อย ก็มีหลายเครือข่ายที่ให้บริการซิมโทรศัพท์สำหรับการเดินทางต่างประเทศในระยะเวลาสั้น ๆ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การใช้โทรศัพท์ต่างประเทศ เที่ยวสบายไม่ขาดการติดต่อกับโลกโซเชียล

11. แอปพลิเคชันช่วยชีวิตระหว่างเที่ยวต่างประเทศ

          เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาไปไกล ก็ต้องใช้ให้เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะแอปพลิเคชันที่ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งมีหลากหลายแอปพลิเคชันที่จะสามารถช่วยเราได้ในยามฉุกเฉิน แอปพลิเคชันที่ควรมีติดเครื่อง อาทิ Google Maps, Google Translate, Yelp, Duolingo, Citymapper, Sygic Travel Maps Offline, AccuWeather เป็นต้น

          ทั้งนี้อยากให้ลองหาแอปพลิเคชันที่เกี่ยวกับตารางรถโดยสารประจำทางและรถไฟฟ้าของประเทศนั้น ๆ ไว้ด้วย เพื่อความสะดวกในการเดินทางท่องเที่ยวโดยระบบขนส่งสาธารณะ

12. พกพาสปอร์ตและเอกสารสำคัญติดตัวตลอด

          เวลาที่เดินเที่ยวอยู่ต่างประเทศ คุณอาจจะโชคดีโดนทักทายโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอเรียกดูพาสปอร์ตก็เป็นได้ เพราะบางประเทศมีการตรวจตรานักท่องเที่ยวเข้มงวดมาก เพื่อป้องกันการหลบหนีเข้าเมือง และการก่อโจรกรรม รวมทั้งอาชญากรรมภายในประเทศของเขา เพราะฉะนั้นก็ควรพกพาสปอร์ตและเอกสารสำคัญต่าง ๆ ติดตัวไว้ตลอด

13. เอาบัตรเครดิต/เดบิตติดไปด้วยเสมอ

          เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็ต้องเตรียมเงินสดไปให้พอกับการใช้จ่ายระหว่างเที่ยวต่างประเทศกันอยู่แล้ว แต่บางครั้งมันก็อาจจะเกิดเหตุการณ์จำเป็นบางอย่างที่ทำให้เราต้องใช้จ่ายเงินเกินงบประมาณที่มี การมีบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตติดตัวไปด้วยจึงช่วยชีวิตได้เยอะมาก สามารถรูดซื้อสินค้าหรือซื้อบริการที่จำเป็นได้ในภาวะฉุกเฉิน หยิบใส่กระเป๋าเงินไว้เลยดีที่สุด

14. ศึกษาวัฒนธรรมของประเทศนั้น ๆ

เที่ยวต่างประเทศครั้งแรก

ภาพจาก MAHATHIR MOHD YASIN / Shutterstock.com

          แต่ละประเทศจะมีวัฒนธรรมและการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันออกไป แนะนำว่าให้อ่านข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับประเทศนั้น ๆ ไปบ้าง เช่น การขึ้นรถโดยสารประจำทาง บางประเทศจะต่อแถวขึ้นรถอย่างเป็นระเบียบ ขึ้นข้างหน้า ลงข้างหลัง หรือการยืนต่อแถวเข้าห้องน้ำสาธารณะ บางแห่งก็จะยืนรอต่อคิวด้านนอก บางแห่งก็ยืนรอที่หน้าห้องน้ำเลย เรื่องอาหารการกินก็สำคัญ บางประเทศกินขนมปังเป็นหลัก ไม่มีข้าว บางประเทศเสิร์ฟอาหารที่ไม่มีเนื้อหมู บางประเทศไม่ให้ดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น ยิ่งถ้าเป็นเรื่องของสิทธิส่วนบุคคลยิ่งต้องระวัง เห็นคนนั้นสวย คนนี้หล่อ เด็กคนนั้นน่ารัก จะไปถ่ายรูปสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ เพราะบางคนถือเรื่องนี้มาก อาจมีการฟ้องร้องดำเนินคดีได้เลย

15. ช้อปปิ้งได้แค่ไหนถึงไม่เสียภาษีที่ด่านศุลกากร

          ไปเที่ยวทั้งทีก็อยากช้อปปิ้งสินค้าราคาถูกจากประเทศนั้น ๆ กลับมากินกลับมาใช้ที่ไทยบ้าง แต่ก่อนจะตัดสินใจเปิดกระเป๋าเงินควักเงินจ่ายไปเพลิน ๆ ให้คิดสักนิดว่าสิ่งนั้นสามารถนำเข้าไทยได้หรือไม่ และเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูงหรือเปล่า เพราะกรมศุลกากรกำหนดให้สามารถซื้อของใช้ส่วนตัวจากประเทศอื่น ๆ เข้ามาได้มูลค่ารวมทั้งหมดไม่เกิน 20,000 บาท และต้องย้ำว่าต้องเป็นสินค้าที่มีเจตนานำเข้ามาเพื่อใช้ส่วนตัวเท่านั้น ห้ามซื้อฝากคนอื่น หรือรับหิ้วสินค้าเพื่อนำไปจำหน่ายต่อในลักษณะเชิงพาณิชย์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่เป็นสำคัญ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ customs.go.th

          ทั้งหมดนี้เป็นเกร็ดท่องเที่ยวเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่มีประโยชน์มากสำหรับคนที่จะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเองครั้งแรก รู้ไว้ก็ทำให้การจัดการการท่องเที่ยวในเรื่องต่าง ๆ ผ่านไปได้ด้วยดี เที่ยวสนุกขึ้น ไร้ความกังวล แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็อยากให้หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเที่ยวประเทศนั้น ๆ เพิ่มเติมด้วย ก็จะช่วยได้อีกเยอะเลยทีเดียว :)

หมายเหตุ : ข้อมูล ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2562

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
caat.or.th, Department of Airports : กรมท่าอากาศยาน, customs.go.th

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เที่ยวต่างประเทศครั้งแรก เรื่องน่ารู้ที่จะทำให้การเที่ยวด้วยตัวเองผ่านฉลุย อัปเดตล่าสุด 27 สิงหาคม 2562 เวลา 15:16:16 82,787 อ่าน
TOP
x close