น้ำหนักกระเป๋าเดินทางที่สามารถโหลดใต้ท้องเครื่องบิน และนำติดตัวขึ้นเครื่องบินของสายการบินยอดนิยม แต่ละสายการบินให้น้ำหนักกระเป๋ามากน้อยเท่าไร เช็กข้อมูลให้ชัวร์ก่อนเดินทางกัน
สัมภาระที่ไม่ต้องลงทะเบียน
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง
ขนาดสัมภาระถือขึ้นเครื่อง ต้องไม่เกิน 30 x 40 x 20 เซนติเมตร การไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดจะส่งผลให้มีการถ่ายโอนเป็นสัมภาระเช็กอิน
หากต้องเดินทางโดยเครื่องบินไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ น้ำหนักกระเป๋าและขนาดกระเป๋าอาจสร้างความกังวลให้กับหลาย ๆ คน วันนี้เราเลยขออาสาไขข้อข้องใจสำหรับนักเดินทาง ด้วยข้อมูลของสัมภาระในแต่ละสายการบิน ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักของสัมภาระติดตัว หรือน้ำหนักของกระเป๋าที่ต้องโหลดใต้ท้องเครื่อง รวมทั้งวัตถุต้องห้ามและข้อมูลอื่น ๆ มาบอกเล่ากัน ที่ไม่ว่าจะท่องเที่ยว เดินทางไปไหน จะได้วางแผนจัดกระเป๋าและนำกระเป๋าขึ้นเครื่องหรือโหลดใต้เครื่องได้อย่างถูกต้อง
สายการบินนกแอร์
สัมภาระที่ไม่ต้องลงทะเบียน
ตามปกติผู้โดยสารแต่ละคนจะได้รับอนุญาตให้นำสัมภาระตามมาตรฐานที่ไม่ต้องลงทะเบียนมายังห้องโดยสารได้ 1 ใบ โดยนับเป็นกระเป๋าถือติดตัวขึ้นเครื่อง ซึ่งจะต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม และมีขนาด 36 x 56 x 23 เซนติเมตร ตามข้อบังคับการบินของบริษัท สัมภาระที่นำขึ้นเครื่องจะต้องมีขนาดพอดีกับพื้นที่ใต้ที่นั่งด้านหน้า หรือพอดีกับช่องเก็บของในห้องโดยสาร วัตถุที่บริษัทระบุว่ามีน้ำหนักหรือขนาดเกินกำหนดจะไม่ได้รับอนุญาตให้นำไปยังห้องโดยสาร
ภาพจาก : content.nokair.com
การพกพาแบตเตอรี่สำรองขึ้นเครื่อง
ภาพจาก : content.nokair.com
สิ่งที่ไม่ถือว่าเป็นสัมภาระ
- วัตถุที่ไม่ได้บรรจุในกระเป๋าหรือภาชนะที่เหมาะสมสำหรับการขนส่งทางอากาศที่ปลอดภัย โดยมีการดูแลรักษาตามปกติ
- วัตถุที่อาจเป็นอันตรายต่อเครื่องบิน บุคคล หรือทรัพย์สินบนเครื่องบิน เช่น วัตถุที่ระบุไว้ในข้อบังคับสินค้าอันตรายขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization - ICA) และสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association - IATA) และข้อบังคับการบินของบริษัท
- วัตถุที่ห้ามมีการขนส่งทางอากาศตามกฎหมาย ข้อบังคับ หรือคำสั่งของรัฐใดก็ตามที่ท่านจะออกเดินทาง ที่จะเดินทางไป และที่จะเดินทางผ่าน
- วัตถุที่บริษัทพิจารณาโดยชอบด้วยเหตุผลแล้วว่าไม่เหมาะกับการขนส่งทางอากาศ เนื่องจากน้ำหนัก ขนาด หรือลักษณะของวัตถุนั้น
- วัตถุที่แตกง่ายหรือชำรุดเสียหายได้
- อาหารทะเลสด หรือแช่แข็ง หรือเนื้อสัตว์อย่างอื่น ที่อาจใส่กระเป๋าถือและนำขึ้นเครื่องได้ นอกจากจะแสดงให้เป็นที่พอใจแก่สายการบินแล้วว่าได้บรรจุหีบห่ออย่างเรียบร้อย
- อาวุธปืนและดินปืน
- ก๊าซที่สามารถระเบิดหรือติดไฟได้และไม่ได้ เช่น ละอองสี ก๊าซที่กลั่นจากน้ำมันปิโตรเลียม (Butane) น้ำมันก๊าด ก๊าซทำความเย็น เช่น ถังดำน้ำที่มีก๊าซบรรจุอยู่, ไนโตรเจนเหลว (เช่น สี ทินเนอร์ ตัวทำละลาย) ของแข็งที่ติดไฟได้ (เช่น ไม้ขีดไฟ ไฟแช็ก) สารอินทรีย์ประเภทเพอร์ออกไซด์ (เช่น เรซิน)
- วัตถุมีพิษ สารอันอาจติดเชื้อได้ (เช่น ไวรัส แบคทีเรีย) สารกัมมันตภาพรังสี (เช่น เรเดียม) สารกัดกร่อน (เช่น กรด ด่าง) ปรอท เครื่องวัดอุณหภูมิ สารที่มีลักษณะเป็นแม่เหล็ก สารออกไซด์ (เช่น สารฟอกขาว)
- ในดุลพินิจของบริษัท อาวุธ เช่น ปืนพกโบราณ ดาบ มีด และวัตถุในลักษณะคล้ายคลึงกัน อาจถือเป็นสัมภาระที่ต้องลงทะเบียนได้ตามข้อบังคับการบินของบริษัท แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้นำไปไว้ในห้องโดยสาร
การขนส่งสัมภาระโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
กระเป๋าเดินทางต้องมีน้ำหนักรวมกันไม่เกินที่ระบุไว้ในเงื่อนไขและข้อจำกัดของบริษัท ซึ่งจะไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- วัตถุที่ไม่ได้บรรจุในกระเป๋าหรือภาชนะที่เหมาะสมสำหรับการขนส่งทางอากาศที่ปลอดภัย โดยมีการดูแลรักษาตามปกติ
- วัตถุที่อาจเป็นอันตรายต่อเครื่องบิน บุคคล หรือทรัพย์สินบนเครื่องบิน เช่น วัตถุที่ระบุไว้ในข้อบังคับสินค้าอันตรายขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization - ICA) และสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association - IATA) และข้อบังคับการบินของบริษัท
- วัตถุที่ห้ามมีการขนส่งทางอากาศตามกฎหมาย ข้อบังคับ หรือคำสั่งของรัฐใดก็ตามที่ท่านจะออกเดินทาง ที่จะเดินทางไป และที่จะเดินทางผ่าน
- วัตถุที่บริษัทพิจารณาโดยชอบด้วยเหตุผลแล้วว่าไม่เหมาะกับการขนส่งทางอากาศ เนื่องจากน้ำหนัก ขนาด หรือลักษณะของวัตถุนั้น
- วัตถุที่แตกง่ายหรือชำรุดเสียหายได้
- อาหารทะเลสด หรือแช่แข็ง หรือเนื้อสัตว์อย่างอื่น ที่อาจใส่กระเป๋าถือและนำขึ้นเครื่องได้ นอกจากจะแสดงให้เป็นที่พอใจแก่สายการบินแล้วว่าได้บรรจุหีบห่ออย่างเรียบร้อย
- อาวุธปืนและดินปืน
- ก๊าซที่สามารถระเบิดหรือติดไฟได้และไม่ได้ เช่น ละอองสี ก๊าซที่กลั่นจากน้ำมันปิโตรเลียม (Butane) น้ำมันก๊าด ก๊าซทำความเย็น เช่น ถังดำน้ำที่มีก๊าซบรรจุอยู่, ไนโตรเจนเหลว (เช่น สี ทินเนอร์ ตัวทำละลาย) ของแข็งที่ติดไฟได้ (เช่น ไม้ขีดไฟ ไฟแช็ก) สารอินทรีย์ประเภทเพอร์ออกไซด์ (เช่น เรซิน)
- วัตถุมีพิษ สารอันอาจติดเชื้อได้ (เช่น ไวรัส แบคทีเรีย) สารกัมมันตภาพรังสี (เช่น เรเดียม) สารกัดกร่อน (เช่น กรด ด่าง) ปรอท เครื่องวัดอุณหภูมิ สารที่มีลักษณะเป็นแม่เหล็ก สารออกไซด์ (เช่น สารฟอกขาว)
- ในดุลพินิจของบริษัท อาวุธ เช่น ปืนพกโบราณ ดาบ มีด และวัตถุในลักษณะคล้ายคลึงกัน อาจถือเป็นสัมภาระที่ต้องลงทะเบียนได้ตามข้อบังคับการบินของบริษัท แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้นำไปไว้ในห้องโดยสาร
การขนส่งสัมภาระโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
กระเป๋าเดินทางต้องมีน้ำหนักรวมกันไม่เกินที่ระบุไว้ในเงื่อนไขและข้อจำกัดของบริษัท ซึ่งจะไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ภาพจาก : content.nokair.com
ซื้อน้ำหนักสัมภาระเพิ่มเติม (นกกระเป๋า)
เมื่อต้องการโหลดสัมภาระที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่ได้รับจากการซื้อบัตรโดยสารประเภทต่าง ๆ ผู้โดยสารสามารถซื้อน้ำหนักสัมภาระเพิ่มได้ล่วงหน้า
ทั้งนี้ ในส่วนของสัมภาระที่ต้องลงทะเบียน (สัมภาระทั่วไปและสัมภาระพิเศษ) และการซื้อน้ำหนักสัมภาระเพิ่ม สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://content.nokair.com/th/Journey-Planning/Baggage.aspx สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 1318 หรือที่เว็บไซต์ https://www.nokair.com/
ผู้โดยสารสามารถนำสัมภาระพกพาขึ้นเครื่องได้คนละ 1 ชิ้น เช่น กระเป๋าถือ กระเป๋าล้อลาก หรือกระเป๋าถือเดินทางขนาดเล็ก และต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม โดยสิ่งของหลายชิ้นที่นำมารัด ห่อ หรือมัดเข้าด้วยกัน จะไม่นับว่าเป็นสัมภาระพกพา 1 ชิ้น
เมื่อต้องการโหลดสัมภาระที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่ได้รับจากการซื้อบัตรโดยสารประเภทต่าง ๆ ผู้โดยสารสามารถซื้อน้ำหนักสัมภาระเพิ่มได้ล่วงหน้า
ทั้งนี้ ในส่วนของสัมภาระที่ต้องลงทะเบียน (สัมภาระทั่วไปและสัมภาระพิเศษ) และการซื้อน้ำหนักสัมภาระเพิ่ม สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://content.nokair.com/th/Journey-Planning/Baggage.aspx สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 1318 หรือที่เว็บไซต์ https://www.nokair.com/
สายการบินแอร์เอเชีย
ผู้โดยสารสามารถนำสัมภาระพกพาขึ้นเครื่องได้คนละ 1 ชิ้น เช่น กระเป๋าถือ กระเป๋าล้อลาก หรือกระเป๋าถือเดินทางขนาดเล็ก และต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม โดยสิ่งของหลายชิ้นที่นำมารัด ห่อ หรือมัดเข้าด้วยกัน จะไม่นับว่าเป็นสัมภาระพกพา 1 ชิ้น
ภาพจาก : support.airasia.com
สัมภาระพกพา
ข้อกำหนดนี้เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม 2563 ผู้โดยสารทั้งหมด (ยกเว้นทารก) สามารถนำสัมภาระพกพาขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ชิ้น ได้แก่ กระเป๋าสัมภาระ 1 ชิ้น หรือกระเป๋าใส่คอมพิวเตอร์ หรือกระเป๋าถือ หรือกระเป๋าขนาดเล็กอีก 1 ชิ้น
สัมภาระพกพา 1 ชิ้น จะต้องมีลักษณะดังนี้
- ต้องมีขนาดไม่เกิน 56 เซนติเมตร (สูง) x 36 เซนติเมตร (กว้าง) x 23 เซนติเมตร (หนา)
ข้อกำหนดนี้เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม 2563 ผู้โดยสารทั้งหมด (ยกเว้นทารก) สามารถนำสัมภาระพกพาขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ชิ้น ได้แก่ กระเป๋าสัมภาระ 1 ชิ้น หรือกระเป๋าใส่คอมพิวเตอร์ หรือกระเป๋าถือ หรือกระเป๋าขนาดเล็กอีก 1 ชิ้น
สัมภาระพกพา 1 ชิ้น จะต้องมีลักษณะดังนี้
- ต้องมีขนาดไม่เกิน 56 เซนติเมตร (สูง) x 36 เซนติเมตร (กว้าง) x 23 เซนติเมตร (หนา)
- ต้องสามารถจัดเก็บไว้ในช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะภายในห้องโดยสารได้
- กระเป๋าใส่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 ใบ หรือกระเป๋าถือ 1 ใบ หรือกระเป๋าใบเล็ก 1 ใบ
- ต้องมีขนาดไม่เกิน 40 เซนติเมตร (สูง) x 30 เซนติเมตร (กว้าง) x 10 เซนติเมตร (หนา)
- กระเป๋าใส่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 ใบ หรือกระเป๋าถือ 1 ใบ หรือกระเป๋าใบเล็ก 1 ใบ
- ต้องมีขนาดไม่เกิน 40 เซนติเมตร (สูง) x 30 เซนติเมตร (กว้าง) x 10 เซนติเมตร (หนา)
- ต้องสามารถจัดเก็บไว้ใต้ที่นั่งด้านหน้าได้
- น้ำหนักรวมของสัมภาระทั้ง 2 ชิ้น ต้องไม่เกิน 7 กิโลกรัม
- เฉพาะเที่ยวบินของแอร์เอเชียอินเดีย (i5) : สายการบินไม่อนุญาตให้นำสัมภาระพกพาขึ้นเครื่องสำหรับเที่ยวบินที่เดินทางจากจัมมู หรือศรีนาการ์ เนื่องจากข้อกำหนดการรักษาความปลอดภัยของสนามบิน
สัมภาระใต้ท้องเครื่อง
หากคุณต้องการน้ำหนักสัมภาระใต้ท้องเครื่องเพิ่ม สามารถสั่งซื้อเพิ่มเติมได้ตามอัตราน้ำหนักสัมภาระใต้ท้องเครื่อง ดังนี้
- น้ำหนักรวมของสัมภาระทั้ง 2 ชิ้น ต้องไม่เกิน 7 กิโลกรัม
- เฉพาะเที่ยวบินของแอร์เอเชียอินเดีย (i5) : สายการบินไม่อนุญาตให้นำสัมภาระพกพาขึ้นเครื่องสำหรับเที่ยวบินที่เดินทางจากจัมมู หรือศรีนาการ์ เนื่องจากข้อกำหนดการรักษาความปลอดภัยของสนามบิน
สัมภาระใต้ท้องเครื่อง
หากคุณต้องการน้ำหนักสัมภาระใต้ท้องเครื่องเพิ่ม สามารถสั่งซื้อเพิ่มเติมได้ตามอัตราน้ำหนักสัมภาระใต้ท้องเครื่อง ดังนี้
โดยต้องเสียค่าธรรมเนียมสัมภาระใต้ท้องเครื่อง
- 15 กิโลกรัม (เฉพาะเที่ยวบินภายในประเทศเท่านั้น)
- 20 กิโลกรัม
- 25 กิโลกรัม
- 30 กิโลกรัม
- 40 กิโลกรัม
หากคุณเดินทางในเส้นทางสหรัฐอเมริกา สามารถสั่งจองน้ำหนักสัมภาระใต้ท้องเครื่องล่วงหน้าได้ ดังนี้
- สัมภาระ 1 ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม
- สัมภาระ 2 ชิ้น น้ำหนักแต่ละชิ้นไม่เกิน 20 กิโลกรัม
หากคุณซื้อแพ็กสุดคุ้ม หรือ Premium Flex หรือจองที่นั่งพรีเมียมแฟลตเบด จะได้รับน้ำหนักสัมภาระเช็กอินที่ได้รวมอยู่ในบริการเสริมแล้ว
หากมีกำหนดการเดินทางเที่ยวบินแอร์เอเชียอินเดีย (รหัสเที่ยวบิน i5) ท่านสามารถโหลดสัมภาระใต้ท้องเครื่องได้ฟรี 1 ชิ้น โดยสัมภาระต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 15 กิโลกรัม (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563) สำหรับผู้ที่สำรองที่นั่งก่อนวันที่ 30 กันยายน 2563 สามารถโหลดสัมภาระใต้ท้องเครื่องได้ฟรี 1 ชิ้น โดยสัมภาระต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม
หากกำลังจะเดินทางในเที่ยวบินไทยแอร์เอเชีย (FD) หรือไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ (XJ) กรุณาตรวจสอบรายการสิ่งของต้องห้ามที่ห้ามนำติดตัวเป็นสัมภาระพกพาและรับฝากสัมภาระใต้ท้องเครื่อง
- รายการสิ่งของต้องห้ามสำหรับเที่ยวบินไทยแอร์เอเชีย (FD)
- รายการสิ่งของต้องห้ามสำหรับเที่ยวบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ (XJ)
- เรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับข้อกำหนดสัมภาระใต้ท้องเครื่อง
- 15 กิโลกรัม (เฉพาะเที่ยวบินภายในประเทศเท่านั้น)
- 20 กิโลกรัม
- 25 กิโลกรัม
- 30 กิโลกรัม
- 40 กิโลกรัม
หากคุณเดินทางในเส้นทางสหรัฐอเมริกา สามารถสั่งจองน้ำหนักสัมภาระใต้ท้องเครื่องล่วงหน้าได้ ดังนี้
- สัมภาระ 1 ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม
- สัมภาระ 2 ชิ้น น้ำหนักแต่ละชิ้นไม่เกิน 20 กิโลกรัม
หากคุณซื้อแพ็กสุดคุ้ม หรือ Premium Flex หรือจองที่นั่งพรีเมียมแฟลตเบด จะได้รับน้ำหนักสัมภาระเช็กอินที่ได้รวมอยู่ในบริการเสริมแล้ว
หากมีกำหนดการเดินทางเที่ยวบินแอร์เอเชียอินเดีย (รหัสเที่ยวบิน i5) ท่านสามารถโหลดสัมภาระใต้ท้องเครื่องได้ฟรี 1 ชิ้น โดยสัมภาระต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 15 กิโลกรัม (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563) สำหรับผู้ที่สำรองที่นั่งก่อนวันที่ 30 กันยายน 2563 สามารถโหลดสัมภาระใต้ท้องเครื่องได้ฟรี 1 ชิ้น โดยสัมภาระต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม
หากกำลังจะเดินทางในเที่ยวบินไทยแอร์เอเชีย (FD) หรือไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ (XJ) กรุณาตรวจสอบรายการสิ่งของต้องห้ามที่ห้ามนำติดตัวเป็นสัมภาระพกพาและรับฝากสัมภาระใต้ท้องเครื่อง
- รายการสิ่งของต้องห้ามสำหรับเที่ยวบินไทยแอร์เอเชีย (FD)
- รายการสิ่งของต้องห้ามสำหรับเที่ยวบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ (XJ)
- เรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับข้อกำหนดสัมภาระใต้ท้องเครื่อง
กระเป๋าหรือสัมภาระพกพาเเบบใช้เเบตเตอรี่ (Smart baggage) สามารถนำขึ้นเครื่องได้ โดยมีเงื่อนไขดังนี้
- หากแบตเตอรี่ไม่สามารถถอดออกได้ ขนาดของแบตเตอรี่จะต้องไม่เกิน 0.3 กรัม สำหรับแบตเตอรี่ที่เป็นโลหะลิเทียม และไม่เกิน 2.7 วัตต์ สำหรับแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน
- หากขนาดของแบตเตอรี่เกินกว่าขนาดที่กำหนดและไม่สามารถถอดออกได้ สัมภาระชิ้นนั้นจะไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ และไม่สามารถโหลดใต้ท้องเครื่องได้
- หากแบตเตอรี่สามารถถอดออกได้ ผู้โดยสารต้องนำแบตเตอรี่ออก และสามารถถือขึ้นเครื่องบินได้
- ปิดสวิตช์อุปกรณ์ Wi-Fi/บลูทูธ/จีพีเอส
- สามารถนำแบตเตอรี่สำรองขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ชิ้น*
*สำหรับในบางประเทศจะมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันไปเกี่ยวกับนโยบายการนำสัมภาระพกพาขึ้นเครื่องบิน กรุณาตรวจสอบข้อกำหนดก่อนการเดินทาง
ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2562-5700 หรือที่เว็บไซต์ https://www.airasia.com
สัมภาระเช็กอิน
ผู้โดยสารสามารถนำพาสัมภาระต่อไปนี้ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและข้อจำกัดของการบินไทย
เกณฑ์พิจารณาตามน้ำหนักของสัมภาระใช้กับการเดินทางในลักษณะต่อไปนี้
- การเดินทางภายในประเทศไทยตลอดเส้นทาง
- การเดินทางภายใน TC3 (เอเชีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์) และการเดินทางระหว่าง TC2 (ยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง) และ TC3 (เอเชีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์)
เกณฑ์พิจารณาตามจำนวนชิ้นของสัมภาระใช้กับการเดินทางในลักษณะต่อไปนี้
- การเดินทางไปยัง/มาจากสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
หากท่านเดินทางด้วยเที่ยวบินของการบินไทยตลอดทั้งการเดินทาง สิทธิ์น้ำหนักสัมภาระของท่านจะเป็นดังนี้
น้ำหนักสัมภาระอนุญาตสำหรับช่วงของการเดินทางในประเทศเท่านั้น
- หากแบตเตอรี่ไม่สามารถถอดออกได้ ขนาดของแบตเตอรี่จะต้องไม่เกิน 0.3 กรัม สำหรับแบตเตอรี่ที่เป็นโลหะลิเทียม และไม่เกิน 2.7 วัตต์ สำหรับแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน
- หากขนาดของแบตเตอรี่เกินกว่าขนาดที่กำหนดและไม่สามารถถอดออกได้ สัมภาระชิ้นนั้นจะไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ และไม่สามารถโหลดใต้ท้องเครื่องได้
- หากแบตเตอรี่สามารถถอดออกได้ ผู้โดยสารต้องนำแบตเตอรี่ออก และสามารถถือขึ้นเครื่องบินได้
- ปิดสวิตช์อุปกรณ์ Wi-Fi/บลูทูธ/จีพีเอส
- สามารถนำแบตเตอรี่สำรองขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ชิ้น*
*สำหรับในบางประเทศจะมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันไปเกี่ยวกับนโยบายการนำสัมภาระพกพาขึ้นเครื่องบิน กรุณาตรวจสอบข้อกำหนดก่อนการเดินทาง
ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2562-5700 หรือที่เว็บไซต์ https://www.airasia.com
สายการบินการบินไทย
สัมภาระเช็กอิน
ผู้โดยสารสามารถนำพาสัมภาระต่อไปนี้ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและข้อจำกัดของการบินไทย
เกณฑ์พิจารณาตามน้ำหนักของสัมภาระใช้กับการเดินทางในลักษณะต่อไปนี้
- การเดินทางภายในประเทศไทยตลอดเส้นทาง
- การเดินทางภายใน TC3 (เอเชีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์) และการเดินทางระหว่าง TC2 (ยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง) และ TC3 (เอเชีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์)
เกณฑ์พิจารณาตามจำนวนชิ้นของสัมภาระใช้กับการเดินทางในลักษณะต่อไปนี้
- การเดินทางไปยัง/มาจากสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
หากท่านเดินทางด้วยเที่ยวบินของการบินไทยตลอดทั้งการเดินทาง สิทธิ์น้ำหนักสัมภาระของท่านจะเป็นดังนี้
น้ำหนักสัมภาระอนุญาตสำหรับช่วงของการเดินทางในประเทศเท่านั้น
ภาพจาก : www.thaiairways.com
นโยบายสัมภาระใต้ท้องเครื่องตามแนวคิดเรื่องน้ำหนักที่ใช้กับส่วนต่าง ๆ ระหว่างประเทศภายใน TC3 (เอเชีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์) ระหว่าง TC2 (ยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง) และ TC3 (เอเชีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์)
ภาพจาก : www.thaiairways.com
หมายเหตุ
1. เมื่อผู้โดยสารถูกเปลี่ยนชั้นที่นั่งให้ต่ำลงโดยไม่ตั้งใจ ให้พิจารณาค่าสัมภาระตามเกณฑ์ของชั้นที่นั่งระดับสูงได้ แม้จะมีการคืนค่าความต่างของราคาโดยสารให้ก็ตาม
2. ข้อยกเว้นจากน้ำหนักสัมภาระเพิ่ม สามารถปรับใช้ได้กับผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางภายใต้เงื่อนไขของ การบินไทยและภาครัฐบาล ข้อยกเว้นดังกล่าวจะปรับใช้ได้โดยยึดเงื่อนไขตามประเภทของบัตรโดยสารเท่านั้น ตามข้อกำหนดหรือข้อตกลงของรัฐบาล ประเภทชั้นโดยสารบางประเภทอาจได้รับการละเว้นค่าสัมภาระ โดยแยกการพิจารณาจากระบบทั่วไป การปรับการละเว้นค่าสัมภาระดังกล่าวจะมีการแจ้งไว้ในบัตรโดยสาร
3. เงื่อนไขในหมายเหตุข้อที่ 2 ใช้สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางจากประเทศไทยเท่านั้น สำหรับพื้นที่/ประเทศอื่น ๆ ให้พิจารณาตามเกณฑ์ของสายการบินประจำชาตินั้น ๆ
4. ในกรณีเดินทางตามชั้นที่นั่งโดยสารแบบคละประเภท ซึ่งผู้โดยสารเดินทางโดย F-class ส่วนหนึ่ง และ C-, U- หรือ Y-class อีกส่วนหนึ่ง การไม่เสียค่าสัมภาระนั้นควรยึดตามเกณฑ์ของค่าบัตรโดยสารที่จ่ายมาจริง ในกรณีที่ผู้โดยสารที่จ่ายเงินเพื่อ F-class แต่อาจได้นั่งชั้น C-, U- หรือ Y-class เกณฑ์พิจารณาค่าสัมภาระต้องใช้หลักเกณฑ์สำหรับที่นั่งแบบ F-class
5. รถเข็นชนิดพับได้สามารถเก็บไว้ที่เก็บของเหนือศีรษะได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
นโยบายสัมภาระ พิจารณาตามเกณฑ์จำนวน ใช้สำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ และไปยัง/มาจาก สหรัฐอเมริกาและแคนาดา
1. เมื่อผู้โดยสารถูกเปลี่ยนชั้นที่นั่งให้ต่ำลงโดยไม่ตั้งใจ ให้พิจารณาค่าสัมภาระตามเกณฑ์ของชั้นที่นั่งระดับสูงได้ แม้จะมีการคืนค่าความต่างของราคาโดยสารให้ก็ตาม
2. ข้อยกเว้นจากน้ำหนักสัมภาระเพิ่ม สามารถปรับใช้ได้กับผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางภายใต้เงื่อนไขของ การบินไทยและภาครัฐบาล ข้อยกเว้นดังกล่าวจะปรับใช้ได้โดยยึดเงื่อนไขตามประเภทของบัตรโดยสารเท่านั้น ตามข้อกำหนดหรือข้อตกลงของรัฐบาล ประเภทชั้นโดยสารบางประเภทอาจได้รับการละเว้นค่าสัมภาระ โดยแยกการพิจารณาจากระบบทั่วไป การปรับการละเว้นค่าสัมภาระดังกล่าวจะมีการแจ้งไว้ในบัตรโดยสาร
3. เงื่อนไขในหมายเหตุข้อที่ 2 ใช้สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางจากประเทศไทยเท่านั้น สำหรับพื้นที่/ประเทศอื่น ๆ ให้พิจารณาตามเกณฑ์ของสายการบินประจำชาตินั้น ๆ
4. ในกรณีเดินทางตามชั้นที่นั่งโดยสารแบบคละประเภท ซึ่งผู้โดยสารเดินทางโดย F-class ส่วนหนึ่ง และ C-, U- หรือ Y-class อีกส่วนหนึ่ง การไม่เสียค่าสัมภาระนั้นควรยึดตามเกณฑ์ของค่าบัตรโดยสารที่จ่ายมาจริง ในกรณีที่ผู้โดยสารที่จ่ายเงินเพื่อ F-class แต่อาจได้นั่งชั้น C-, U- หรือ Y-class เกณฑ์พิจารณาค่าสัมภาระต้องใช้หลักเกณฑ์สำหรับที่นั่งแบบ F-class
5. รถเข็นชนิดพับได้สามารถเก็บไว้ที่เก็บของเหนือศีรษะได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
นโยบายสัมภาระ พิจารณาตามเกณฑ์จำนวน ใช้สำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ และไปยัง/มาจาก สหรัฐอเมริกาและแคนาดา
ภาพจาก : www.thaiairways.com
เกณฑ์น้ำหนักสัมภาระทั่วไป
- ผู้โดยสารชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจ ได้รับสิทธิ์สัมภาระฟรี 2 ชิ้น โดยน้ำหนักของแต่ละชิ้นจะต้องไม่เกิน 32 กิโลกรัม (70 ปอนด์) และผลรวมของขนาดสัมภาระ (ความยาว + ความกว้าง + ความสูง) จะต้องไม่เกิน 158 เซนติเมตร (62 นิ้ว)
- ผู้โดยสารประเภทชั้นประหยัด ได้รับสิทธิ์สัมภาระฟรี 2 ชิ้น โดยน้ำหนักของแต่ละชิ้นจะต้องไม่เกิน 23 กิโลกรัม (50 ปอนด์) และผลรวมของขนาดสัมภาระ (ความยาว + ความกว้าง + ความสูง) จะต้องไม่เกิน 158 เซนติเมตร (62 นิ้ว)
- สมาชิกบัตรรอยัลออร์คิดพลัส (อาร์โอพี) โกลด์ และสมาชิกบัตรรอยัลออร์คิดแพลตินัม จะได้รับสิทธิพิเศษสัมภาระเพิ่มอีก 1 ชิ้น จากสิทธิ์สัมภาระทั่วไปของชั้นโดยสารทุกประเภท สิทธิพิเศษดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ร่วมกับสถานะสะสมไมล์การบิน สำหรับบัตรโดยสารชนิดออนไลน์ทั้งหมด หรือบัตรโดยสารแบบเปลี่ยนสายการบิน ร่วมกับสายการบินอื่นที่ยอมรับเงื่อนไขการใช้สิทธิประโยชน์ได้เท่านั้น
- อัตราค่าบริการสัมภาระพิเศษ สามารถนำมาใช้พิจารณาขนาดและน้ำหนักที่เกินจากที่กำหนดตามปกติได้ โปรดติดต่อสำนักงานการบินไทยในพื้นที่ ส่วนการพิจารณาค่าบริการสัมภาระส่วนเกิน สามารถดูได้จาก "ค่าบริการสัมภาระและค่าบริการทางเลือกของบริษัท การบินไทย จำกัด มหาชน สำหรับการเดินทางไปยัง/ออกจากประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา"
- ผู้โดยสารชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจ ได้รับสิทธิ์สัมภาระฟรี 2 ชิ้น โดยน้ำหนักของแต่ละชิ้นจะต้องไม่เกิน 32 กิโลกรัม (70 ปอนด์) และผลรวมของขนาดสัมภาระ (ความยาว + ความกว้าง + ความสูง) จะต้องไม่เกิน 158 เซนติเมตร (62 นิ้ว)
- ผู้โดยสารประเภทชั้นประหยัด ได้รับสิทธิ์สัมภาระฟรี 2 ชิ้น โดยน้ำหนักของแต่ละชิ้นจะต้องไม่เกิน 23 กิโลกรัม (50 ปอนด์) และผลรวมของขนาดสัมภาระ (ความยาว + ความกว้าง + ความสูง) จะต้องไม่เกิน 158 เซนติเมตร (62 นิ้ว)
- สมาชิกบัตรรอยัลออร์คิดพลัส (อาร์โอพี) โกลด์ และสมาชิกบัตรรอยัลออร์คิดแพลตินัม จะได้รับสิทธิพิเศษสัมภาระเพิ่มอีก 1 ชิ้น จากสิทธิ์สัมภาระทั่วไปของชั้นโดยสารทุกประเภท สิทธิพิเศษดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ร่วมกับสถานะสะสมไมล์การบิน สำหรับบัตรโดยสารชนิดออนไลน์ทั้งหมด หรือบัตรโดยสารแบบเปลี่ยนสายการบิน ร่วมกับสายการบินอื่นที่ยอมรับเงื่อนไขการใช้สิทธิประโยชน์ได้เท่านั้น
- อัตราค่าบริการสัมภาระพิเศษ สามารถนำมาใช้พิจารณาขนาดและน้ำหนักที่เกินจากที่กำหนดตามปกติได้ โปรดติดต่อสำนักงานการบินไทยในพื้นที่ ส่วนการพิจารณาค่าบริการสัมภาระส่วนเกิน สามารถดูได้จาก "ค่าบริการสัมภาระและค่าบริการทางเลือกของบริษัท การบินไทย จำกัด มหาชน สำหรับการเดินทางไปยัง/ออกจากประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา"
หมายเหตุสำคัญ
หากการเดินทางของคุณใช้สายการบินมากกว่า 1 สายการบิน โปรดตรวจสอบกฎเรื่องสัมภาระของแต่ละสายการบินให้เรียบร้อย ในกรณีที่เป็นเที่ยวบินแบบรหัสร่วม (Code Share) ซึ่งรวมการสะสมไมล์ในอาณาเขตประเทศสหรัฐอเมริกา/สหราชอาณาจักรนั้น สายการบินที่ทำหน้าที่การตลาดจะเป็นผู้กำหนดกฎสัมภาระในบางกรณี กฎเรื่องสัมภาระที่ใช้ในการเดินทางอาจเป็นกฎของสายการบินซึ่งเป็นคู่สัญญากับการบินไทย โดยสามารถขอรับคำแนะนำเพิ่มเติมได้จากตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสาร/สำรองที่นั่ง
อย่างไรก็ตาม การบินไทยได้ออกประกาศเกี่ยวกับข้อกำหนดสัมภาระเดินทางแบบใหม่ จากเดิมที่ผู้โดยสารจะได้รับสิทธิ์สัมภาระเป็นปริมาณน้ำหนัก (Weight Concept) โดยจะปรับเป็นกำหนดสิทธิ์สัมภาระจำนวนชิ้น ( Piece Concept) รายละเอียดดังนี้
* การเดินทางภายใน TC3 (เอเชีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์)
* การเดินทางระหว่าง TC3 (เอเชีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์) และ TC2 (ยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง)
โดยมีข้อกำหนดดังนี้
- ชั้นหนึ่ง สิทธิ์สัมภาระสูงสุด 3 ชิ้น (32 กิโลกรัม/ชิ้น)
- ชั้นธุรกิจ สิทธิ์สัมภาระสูงสุด 2 ชิ้น (32 กิโลกรัม/ชิ้น)
- ชั้นประหยัดพิเศษ สิทธิ์สัมภาระสูงสุด 2 ชิ้น (23 กิโลกรัม/ชิ้น)
- ชั้นประหยัด (Y/B/M) สิทธิ์สัมภาระสูงสุด 2 ชิ้น (23 กิโลกรัม/ชิ้น)
- ชั้นประหยัด (อื่น ๆ) สิทธิ์สัมภาระสูงสุด 1 ชิ้น (23 กิโลกรัม/ชิ้น)
- ROP Platinum Member (On TG Sector Only) Extra สิทธิ์สัมภาระสูงสุด 3 ชิ้น (23 กิโลกรัม/ชิ้น)
- ROP & Star Alliance Gold Member Extra สิทธิ์สัมภาระสูงสุด 2 ชิ้น (23 กิโลกรัม/ชิ้น)
- ROP Silver Member (On TG Sector Only) Extra สิทธิ์สัมภาระสูงสุด 1 ชิ้น (23 กิโลกรัม/ชิ้น)
หมายเหตุ : นโยบายนี้มีผลสำหรับบัตรโดยสารที่ออกตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป และการเดินทางตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2545-1873 หรือที่เว็บไซต์ www.thaiairways.co.th
หากการเดินทางของคุณใช้สายการบินมากกว่า 1 สายการบิน โปรดตรวจสอบกฎเรื่องสัมภาระของแต่ละสายการบินให้เรียบร้อย ในกรณีที่เป็นเที่ยวบินแบบรหัสร่วม (Code Share) ซึ่งรวมการสะสมไมล์ในอาณาเขตประเทศสหรัฐอเมริกา/สหราชอาณาจักรนั้น สายการบินที่ทำหน้าที่การตลาดจะเป็นผู้กำหนดกฎสัมภาระในบางกรณี กฎเรื่องสัมภาระที่ใช้ในการเดินทางอาจเป็นกฎของสายการบินซึ่งเป็นคู่สัญญากับการบินไทย โดยสามารถขอรับคำแนะนำเพิ่มเติมได้จากตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสาร/สำรองที่นั่ง
อย่างไรก็ตาม การบินไทยได้ออกประกาศเกี่ยวกับข้อกำหนดสัมภาระเดินทางแบบใหม่ จากเดิมที่ผู้โดยสารจะได้รับสิทธิ์สัมภาระเป็นปริมาณน้ำหนัก (Weight Concept) โดยจะปรับเป็นกำหนดสิทธิ์สัมภาระจำนวนชิ้น ( Piece Concept) รายละเอียดดังนี้
* การเดินทางภายใน TC3 (เอเชีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์)
* การเดินทางระหว่าง TC3 (เอเชีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์) และ TC2 (ยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง)
โดยมีข้อกำหนดดังนี้
- ชั้นหนึ่ง สิทธิ์สัมภาระสูงสุด 3 ชิ้น (32 กิโลกรัม/ชิ้น)
- ชั้นธุรกิจ สิทธิ์สัมภาระสูงสุด 2 ชิ้น (32 กิโลกรัม/ชิ้น)
- ชั้นประหยัดพิเศษ สิทธิ์สัมภาระสูงสุด 2 ชิ้น (23 กิโลกรัม/ชิ้น)
- ชั้นประหยัด (Y/B/M) สิทธิ์สัมภาระสูงสุด 2 ชิ้น (23 กิโลกรัม/ชิ้น)
- ชั้นประหยัด (อื่น ๆ) สิทธิ์สัมภาระสูงสุด 1 ชิ้น (23 กิโลกรัม/ชิ้น)
- ROP Platinum Member (On TG Sector Only) Extra สิทธิ์สัมภาระสูงสุด 3 ชิ้น (23 กิโลกรัม/ชิ้น)
- ROP & Star Alliance Gold Member Extra สิทธิ์สัมภาระสูงสุด 2 ชิ้น (23 กิโลกรัม/ชิ้น)
- ROP Silver Member (On TG Sector Only) Extra สิทธิ์สัมภาระสูงสุด 1 ชิ้น (23 กิโลกรัม/ชิ้น)
หมายเหตุ : นโยบายนี้มีผลสำหรับบัตรโดยสารที่ออกตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป และการเดินทางตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2545-1873 หรือที่เว็บไซต์ www.thaiairways.co.th
สายการบินไทยไลอ้อนแอร์
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง
ขนาดสัมภาระถือขึ้นเครื่อง ต้องไม่เกิน 30 x 40 x 20 เซนติเมตร การไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดจะส่งผลให้มีการถ่ายโอนเป็นสัมภาระเช็กอิน
ภาพจาก : www.lionairthai.com
มาตรการจำกัดปริมาณของเหลว เจล และสเปรย์ขึ้นเครื่องบิน
ของเหลว เจล และสเปรย์ทุกชนิด ต้องบรรจุในภาชนะที่มีขนาดความจุไม่เกิน 100 มิลลิลิตร สำหรับภาชนะที่เกิน 100 มิลลิลิตร แม้จะบรรจุของเหลว เจล และสเปรย์ เพียงเล็กน้อย ก็ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้
- ภาชนะทั้งหมดต้องใส่รวมไว้ในถุงพลาสติกใสซึ่งเปิด-ปิดผนึกได้ โดยถุงพลาสติกใสต้องมีขนาดไม่เกิน 1 ลิตร
- ผู้โดยสารสามารถนำถุงพลาสติกใสขึ้นในห้องโดยสารได้เพียงคนละ 1 ถุงเท่านั้น และต้องแยกออกจากสัมภาระติดตัวอื่น ๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเมื่อถึงจุดตรวจค้น
- ของเหลวที่ได้รับการยกเว้น ได้แก่ นม และอาหารสำหรับเด็กทารกในปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงยาที่มีเอกสารกำกับชัดเจน
- ของเหลว เจล และสเปรย์ ที่ซื้อจากร้านค้าปลอดอากร (Duty free shops) ที่สนามบินหรือบนเครื่องบิน ต้องบรรจุในถุงพลาสติกใสปิดผนึกปากถุง ไม่มีร่องรอยการเปิดปากถุง และมีหลักฐานแสดงว่าได้ซื้อ ณ วันที่เดินทาง และควรตรวจสอบข้อมูลจากร้านค้าปลอดอากรก่อนซื้อสินค้า
โหลดสัมภาระเช็กอิน
สัมภาระเช็กอินน้ำหนักสูงสุดของสัมภาระเช็กอินแต่ละชิ้นคือ 32 กิโลกรัม
เส้นทางภายในประเทศ
ของเหลว เจล และสเปรย์ทุกชนิด ต้องบรรจุในภาชนะที่มีขนาดความจุไม่เกิน 100 มิลลิลิตร สำหรับภาชนะที่เกิน 100 มิลลิลิตร แม้จะบรรจุของเหลว เจล และสเปรย์ เพียงเล็กน้อย ก็ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้
- ภาชนะทั้งหมดต้องใส่รวมไว้ในถุงพลาสติกใสซึ่งเปิด-ปิดผนึกได้ โดยถุงพลาสติกใสต้องมีขนาดไม่เกิน 1 ลิตร
- ผู้โดยสารสามารถนำถุงพลาสติกใสขึ้นในห้องโดยสารได้เพียงคนละ 1 ถุงเท่านั้น และต้องแยกออกจากสัมภาระติดตัวอื่น ๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเมื่อถึงจุดตรวจค้น
- ของเหลวที่ได้รับการยกเว้น ได้แก่ นม และอาหารสำหรับเด็กทารกในปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงยาที่มีเอกสารกำกับชัดเจน
- ของเหลว เจล และสเปรย์ ที่ซื้อจากร้านค้าปลอดอากร (Duty free shops) ที่สนามบินหรือบนเครื่องบิน ต้องบรรจุในถุงพลาสติกใสปิดผนึกปากถุง ไม่มีร่องรอยการเปิดปากถุง และมีหลักฐานแสดงว่าได้ซื้อ ณ วันที่เดินทาง และควรตรวจสอบข้อมูลจากร้านค้าปลอดอากรก่อนซื้อสินค้า
โหลดสัมภาระเช็กอิน
สัมภาระเช็กอินน้ำหนักสูงสุดของสัมภาระเช็กอินแต่ละชิ้นคือ 32 กิโลกรัม
เส้นทางภายในประเทศ
ภาพจาก : www.lionairthai.com
เส้นทางระหว่างประเทศ
ภาพจาก : www.lionairthai.com
อุปกรณ์กีฬา : คิดเป็นสัมภาระเช็กอิน ภายใต้น้ำหนักสัมภาระที่อนุญาต
วัตถุอันตราย
สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ ไม่อนุญาตให้นำพาสิ่งของที่เป็นวัตถุอันตรายบนทุกเที่ยวบินของการบินไทย ไม่ว่าจะบรรจุในสัมภาระชนิดต่าง ๆ หรือพกติดตัว ซึ่งวัตถุอันตรายนั้นหมายถึง วัตถุหรือสารซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ ความปลอดภัย และทรัพย์สินหรือสภาพแวดล้อม โดยแบ่งได้ 9 ประเภท ดังนี้
- วัตถุระเบิด
- ก๊าซ
- ของเหลวไวไฟ
- ของแข็งไวไฟ
- สารออกซิไดซ์ และออร์แกนิกเพอร์ออกไซด์
- สารพิษและสารติดเชื้อ
- วัตถุกัมมันตรังสี
- สารกัดกร่อน
- วัตถุหรือสารอื่น ๆ ซึ่งอาจเป็นอันตรายขณะการขนส่งทางอากาศ รวมถึงสารที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม
วัตถุอันตราย
สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ ไม่อนุญาตให้นำพาสิ่งของที่เป็นวัตถุอันตรายบนทุกเที่ยวบินของการบินไทย ไม่ว่าจะบรรจุในสัมภาระชนิดต่าง ๆ หรือพกติดตัว ซึ่งวัตถุอันตรายนั้นหมายถึง วัตถุหรือสารซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ ความปลอดภัย และทรัพย์สินหรือสภาพแวดล้อม โดยแบ่งได้ 9 ประเภท ดังนี้
- วัตถุระเบิด
- ก๊าซ
- ของเหลวไวไฟ
- ของแข็งไวไฟ
- สารออกซิไดซ์ และออร์แกนิกเพอร์ออกไซด์
- สารพิษและสารติดเชื้อ
- วัตถุกัมมันตรังสี
- สารกัดกร่อน
- วัตถุหรือสารอื่น ๆ ซึ่งอาจเป็นอันตรายขณะการขนส่งทางอากาศ รวมถึงสารที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม
ภาพจาก :www.lionairthai.com
ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2142-9988, 0-2529-9999 หรือที่เว็บไซต์ https://www.lionairthai.com/th/
ผู้โดยสารสามารถนำกระเป๋าถือขึ้นเครื่องได้ 1 ชิ้น โดยมีขนาดรวมของความกว้าง ความยาว และความสูง ไม่เกิน 115 เซนติเมตร หรือ 44.85 นิ้ว (56 x 46 x 25 เซนติเมตร หรือ 21.5 x 18 x 9.75 นิ้ว) และมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม (15.4 ปอนด์) หากกระเป๋าของผู้โดยสารมีขนาดเกินกว่าที่กำหนด ต้องนำกระเป๋าใบนั้นไปเช็กอินที่หน้าเคาน์เตอร์ก่อนออกเดินทางว่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระได้กี่กิโลกรัม
ผู้โดยสารสามารถนำกระเป๋าถือขึ้นเครื่องได้ 1 ชิ้น โดยมีขนาดรวมของความกว้าง ความยาว และความสูง ไม่เกิน 115 เซนติเมตร หรือ 45 นิ้ว (56 เซนติเมตร x 45 เซนติเมตร x 25 เซนติเมตร หรือ 22 นิ้ว x 18 นิ้ว x 10 นิ้ว) และน้ำหนักสูงสุดไม่เกิน 7 กิโลกรัม (15 ปอนด์) กระเป๋าที่มีขนาดเกินกว่านี้จะต้องฝากเข้าใต้เครื่อง ณ เคาน์เตอร์เช็กอินก่อนการเดินทาง สำหรับผู้โดยสารสุภาพสตรีสามารถนำกระเป๋าถือปกติติดตัวขึ้นเครื่องได้อีก 1 ชิ้น
โหลดสัมภาระลงใต้เครื่องได้กี่ใบ ?
ไทยสมายล์ไม่จำกัดจำนวนสัมภาระที่โหลดใต้ท้องเครื่อง แต่มีข้อจำกัดทางด้านน้ำหนัก ดังนี้
- สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ จะได้รับน้ำหนักสัมภาระเดินทางฟรี 20 กิโลกรัม (44 ปอนด์) เมื่อเดินทางในชั้นโดยสาร Smile Class และ 30 กิโลกรัม (66 ปอนด์) เมื่อเดินทางในชั้นโดยสาร Smile Plus
- สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ จะได้รับน้ำหนักสัมภาระเดินทางฟรี 30 กิโลกรัม (66 ปอนด์) เมื่อเดินทางในชั้นโดยสาร Smile Class และ 40 กิโลกรัม (88 ปอนด์) เมื่อเดินทางในชั้นโดยสาร Smile Plus
- สมาชิก WE Prestige จะได้รับสิทธิ์น้ำหนักสัมภาระเพิ่มเติม 10 กิโลกรัม
- สมาชิกรอยัล ออร์คิด พลัส จะได้รับสิทธิ์น้ำหนักสัมภาระเพิ่มเติมตามระดับสมาชิก คือ 10 กิโลกรัม สำหรับสมาชิกระดับ Silver และ 20 กิโลกรัม สำหรับสมาชิกระดับ Gold และ Platinum
- เด็กทารกที่ไม่ได้รับการจัดสรรที่นั่ง ได้รับน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระสูงสุดไม่เกิน 10 กิโลกรัม (22 ปอนด์) ยกเว้นรถเข็นหรือตะกร้าเด็กเล็ก
ของที่ห้ามถือเป็นสัมภาระขึ้นเครื่อง
กฎหมายระหว่างประเทศเกี่ยวกับวัตถุอันตราย ห้ามนำวัตถุที่เป็นแม่เหล็ก วัตถุไวไฟ สารกัดกร่อน สารกัมมันตภาพรังสี สารเร่งไฟหรือวัตถุระเบิด ก๊าซแรงดันสูง สารพิษ ถังออกซิเจนความดันสูง สี ปรอท อาวุธยุทโธปกรณ์ และพลุดอกไม้ไฟ สำหรับสัมภาระทั้งที่ฝากและถือขึ้นเครื่อง ในหลายประเทศห้ามรับสิ่งของเหล่านี้ขึ้นเครื่อง เช่น วัสดุที่ส่งกลิ่นรุนแรง น้ำมันเติมไฟแช็ก ผลไม้และอาหารสด สัตว์ที่แพร่เชื้อโรค หรืออาวุธต่าง ๆ หากฝ่าฝืนอาจถูกยึดหรือถูกปรับ ขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ของประเทศนั้น ๆ หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสัมภาระว่าจะนำไปได้หรือไม่ กรุณาสอบถามจากพนักงานของสายการบินไทยสมายล์ก่อนทำการเช็กอิน
สิ่งของที่ห้ามนำโหลดใต้เครื่อง
กฎหมายระหว่างประเทศเกี่ยวกับวัตถุอันตราย ห้ามนำวัตถุที่เป็นแม่เหล็ก วัตถุไวไฟ สารกัดกร่อน สารกัมมันตภาพรังสี สารเร่งไฟหรือวัตถุระเบิด ก๊าซแรงดันสูง สารพิษ ถังออกซิเจนความดันสูง สี ปรอท อาวุธยุทโธปกรณ์ และพลุดอกไม้ไฟ สำหรับสัมภาระทั้งที่ฝากและถือขึ้นเครื่อง ในหลายประเทศห้ามรับสิ่งของเหล่านี้ขึ้นเครื่อง เช่น วัสดุที่ส่งกลิ่นรุนแรง น้ำมันเติมไฟแช็ก ผลไม้และอาหารสด สัตว์ที่แพร่เชื้อโรค หรืออาวุธต่าง ๆ หากฝ่าฝืน อาจถูกยึดหรือถูกปรับ ขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ของประเทศนั้น ๆ หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสัมภาระว่าจะนำไปได้หรือไม่ กรุณาสอบถามจากพนักงานของสายการบินไทยสมายล์ก่อนทำการเช็กอิน
ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2118-8888 หรือที่เว็บไซต์ https://www.thaismileair.com/th/
สัมภาระเช็กอิน
- ชั้นประหยัด : ผู้โดยสารเด็กและผู้ใหญ่ได้รับน้ำหนักสัมภาระคนละ 20 กิโลกรัม / เด็กทารกได้รับน้ำหนักสัมภาระ 10 กิโลกรัม
- ที่นั่งชั้นธุรกิจบลูริบบอน : ผู้โดยสารเด็กและผู้ใหญ่ได้รับน้ำหนักสัมภาระคนละ 40 กิโลกรัม / เด็กทารกได้รับน้ำหนักสัมภาระ 10 กิโลกรัม
การซื้อสัมภาระล่วงหน้า
- ผู้โดยสารที่ต้องการจะซื้อน้ำหนักสัมภาระเพิ่มเติมล่วงหน้า สามารถติดต่อซื้อในราคาพิเศษได้ผ่านช่องทาง คอลเซ็นเตอร์ 1771 สำนักงานขายบางกอกแอร์เวย์ส เว็บไซต์ https://www.bangkokair.com/ หรือในเมนูจัดการเที่ยวบินและตัวแทนจำหน่ายตั๋วโดยสาร
- ผู้โดยสารสามารถซื้อสัมภาระล่วงหน้าได้จนถึงเวลาก่อนเดินทางล่วงหน้า 4 ชั่วโมง
- การซื้อสัมภาระล่วงหน้าให้บริการเฉพาะเที่ยวบินที่ดำเนินการบินด้วย บางกอกแอร์เวย์ส เท่านั้น
- การซื้อสัมภาระล่วงหน้าจะไม่สามารถคืนเงินหรือเปลี่ยนเส้นทางได้
เส้นทางในประเทศ : อัตราค่าธรรมเนียมการซื้อสัมภาระล่วงหน้าจะเป็นไปตามน้ำหนักที่กำหนดตามตารางต่อไปนี้
สายการบินไทยสมายล์ แอร์เวย์
ผู้โดยสารสามารถนำกระเป๋าถือขึ้นเครื่องได้ 1 ชิ้น โดยมีขนาดรวมของความกว้าง ความยาว และความสูง ไม่เกิน 115 เซนติเมตร หรือ 44.85 นิ้ว (56 x 46 x 25 เซนติเมตร หรือ 21.5 x 18 x 9.75 นิ้ว) และมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม (15.4 ปอนด์) หากกระเป๋าของผู้โดยสารมีขนาดเกินกว่าที่กำหนด ต้องนำกระเป๋าใบนั้นไปเช็กอินที่หน้าเคาน์เตอร์ก่อนออกเดินทางว่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระได้กี่กิโลกรัม
ผู้โดยสารสามารถนำกระเป๋าถือขึ้นเครื่องได้ 1 ชิ้น โดยมีขนาดรวมของความกว้าง ความยาว และความสูง ไม่เกิน 115 เซนติเมตร หรือ 45 นิ้ว (56 เซนติเมตร x 45 เซนติเมตร x 25 เซนติเมตร หรือ 22 นิ้ว x 18 นิ้ว x 10 นิ้ว) และน้ำหนักสูงสุดไม่เกิน 7 กิโลกรัม (15 ปอนด์) กระเป๋าที่มีขนาดเกินกว่านี้จะต้องฝากเข้าใต้เครื่อง ณ เคาน์เตอร์เช็กอินก่อนการเดินทาง สำหรับผู้โดยสารสุภาพสตรีสามารถนำกระเป๋าถือปกติติดตัวขึ้นเครื่องได้อีก 1 ชิ้น
โหลดสัมภาระลงใต้เครื่องได้กี่ใบ ?
ไทยสมายล์ไม่จำกัดจำนวนสัมภาระที่โหลดใต้ท้องเครื่อง แต่มีข้อจำกัดทางด้านน้ำหนัก ดังนี้
- สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ จะได้รับน้ำหนักสัมภาระเดินทางฟรี 20 กิโลกรัม (44 ปอนด์) เมื่อเดินทางในชั้นโดยสาร Smile Class และ 30 กิโลกรัม (66 ปอนด์) เมื่อเดินทางในชั้นโดยสาร Smile Plus
- สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ จะได้รับน้ำหนักสัมภาระเดินทางฟรี 30 กิโลกรัม (66 ปอนด์) เมื่อเดินทางในชั้นโดยสาร Smile Class และ 40 กิโลกรัม (88 ปอนด์) เมื่อเดินทางในชั้นโดยสาร Smile Plus
- สมาชิก WE Prestige จะได้รับสิทธิ์น้ำหนักสัมภาระเพิ่มเติม 10 กิโลกรัม
- สมาชิกรอยัล ออร์คิด พลัส จะได้รับสิทธิ์น้ำหนักสัมภาระเพิ่มเติมตามระดับสมาชิก คือ 10 กิโลกรัม สำหรับสมาชิกระดับ Silver และ 20 กิโลกรัม สำหรับสมาชิกระดับ Gold และ Platinum
- เด็กทารกที่ไม่ได้รับการจัดสรรที่นั่ง ได้รับน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระสูงสุดไม่เกิน 10 กิโลกรัม (22 ปอนด์) ยกเว้นรถเข็นหรือตะกร้าเด็กเล็ก
ของที่ห้ามถือเป็นสัมภาระขึ้นเครื่อง
กฎหมายระหว่างประเทศเกี่ยวกับวัตถุอันตราย ห้ามนำวัตถุที่เป็นแม่เหล็ก วัตถุไวไฟ สารกัดกร่อน สารกัมมันตภาพรังสี สารเร่งไฟหรือวัตถุระเบิด ก๊าซแรงดันสูง สารพิษ ถังออกซิเจนความดันสูง สี ปรอท อาวุธยุทโธปกรณ์ และพลุดอกไม้ไฟ สำหรับสัมภาระทั้งที่ฝากและถือขึ้นเครื่อง ในหลายประเทศห้ามรับสิ่งของเหล่านี้ขึ้นเครื่อง เช่น วัสดุที่ส่งกลิ่นรุนแรง น้ำมันเติมไฟแช็ก ผลไม้และอาหารสด สัตว์ที่แพร่เชื้อโรค หรืออาวุธต่าง ๆ หากฝ่าฝืนอาจถูกยึดหรือถูกปรับ ขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ของประเทศนั้น ๆ หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสัมภาระว่าจะนำไปได้หรือไม่ กรุณาสอบถามจากพนักงานของสายการบินไทยสมายล์ก่อนทำการเช็กอิน
สิ่งของที่ห้ามนำโหลดใต้เครื่อง
กฎหมายระหว่างประเทศเกี่ยวกับวัตถุอันตราย ห้ามนำวัตถุที่เป็นแม่เหล็ก วัตถุไวไฟ สารกัดกร่อน สารกัมมันตภาพรังสี สารเร่งไฟหรือวัตถุระเบิด ก๊าซแรงดันสูง สารพิษ ถังออกซิเจนความดันสูง สี ปรอท อาวุธยุทโธปกรณ์ และพลุดอกไม้ไฟ สำหรับสัมภาระทั้งที่ฝากและถือขึ้นเครื่อง ในหลายประเทศห้ามรับสิ่งของเหล่านี้ขึ้นเครื่อง เช่น วัสดุที่ส่งกลิ่นรุนแรง น้ำมันเติมไฟแช็ก ผลไม้และอาหารสด สัตว์ที่แพร่เชื้อโรค หรืออาวุธต่าง ๆ หากฝ่าฝืน อาจถูกยึดหรือถูกปรับ ขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ของประเทศนั้น ๆ หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสัมภาระว่าจะนำไปได้หรือไม่ กรุณาสอบถามจากพนักงานของสายการบินไทยสมายล์ก่อนทำการเช็กอิน
ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2118-8888 หรือที่เว็บไซต์ https://www.thaismileair.com/th/
สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส
สัมภาระเช็กอิน
- ชั้นประหยัด : ผู้โดยสารเด็กและผู้ใหญ่ได้รับน้ำหนักสัมภาระคนละ 20 กิโลกรัม / เด็กทารกได้รับน้ำหนักสัมภาระ 10 กิโลกรัม
- ที่นั่งชั้นธุรกิจบลูริบบอน : ผู้โดยสารเด็กและผู้ใหญ่ได้รับน้ำหนักสัมภาระคนละ 40 กิโลกรัม / เด็กทารกได้รับน้ำหนักสัมภาระ 10 กิโลกรัม
การซื้อสัมภาระล่วงหน้า
- ผู้โดยสารที่ต้องการจะซื้อน้ำหนักสัมภาระเพิ่มเติมล่วงหน้า สามารถติดต่อซื้อในราคาพิเศษได้ผ่านช่องทาง คอลเซ็นเตอร์ 1771 สำนักงานขายบางกอกแอร์เวย์ส เว็บไซต์ https://www.bangkokair.com/ หรือในเมนูจัดการเที่ยวบินและตัวแทนจำหน่ายตั๋วโดยสาร
- ผู้โดยสารสามารถซื้อสัมภาระล่วงหน้าได้จนถึงเวลาก่อนเดินทางล่วงหน้า 4 ชั่วโมง
- การซื้อสัมภาระล่วงหน้าให้บริการเฉพาะเที่ยวบินที่ดำเนินการบินด้วย บางกอกแอร์เวย์ส เท่านั้น
- การซื้อสัมภาระล่วงหน้าจะไม่สามารถคืนเงินหรือเปลี่ยนเส้นทางได้
เส้นทางในประเทศ : อัตราค่าธรรมเนียมการซื้อสัมภาระล่วงหน้าจะเป็นไปตามน้ำหนักที่กำหนดตามตารางต่อไปนี้
ภาพจาก : www.bangkokair.com
เส้นทางระหว่างประเทศ : อัตราค่าธรรมเนียมการซื้อสัมภาระล่วงหน้าจะเป็นไปตามโซนตามตารางต่อไปนี้
ภาพจาก : www.bangkokair.com
สัมภาระถือขึ้นเครื่อง
ผู้ใหญ่ ผู้โดยสารเด็ก และผู้โดยสารทารกที่มีที่นั่ง สามารถถือสัมภาระขึ้นเครื่องได้คนละ 1 ชิ้น (ยกเว้นทารกที่ไม่มีที่นั่ง)
ผู้ใหญ่ ผู้โดยสารเด็ก และผู้โดยสารทารกที่มีที่นั่ง สามารถถือสัมภาระขึ้นเครื่องได้คนละ 1 ชิ้น (ยกเว้นทารกที่ไม่มีที่นั่ง)
ภาพจาก : www.bangkokair.com
ค่าธรรมเนียมน้ำหนักสัมภาระเกินกำหนด
- เส้นทางบินภายในประเทศ : 180 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม ต่อ 1 เที่ยวบิน (มีผลตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2562)
- เส้นทางบินระหว่างประเทศ : ราคาเป็นไปตามต้นทางและปลายทางของการเดินทางตามตารางด้านล่าง (มีผลตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2562)
- เส้นทางบินภายในประเทศ : 180 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม ต่อ 1 เที่ยวบิน (มีผลตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2562)
- เส้นทางบินระหว่างประเทศ : ราคาเป็นไปตามต้นทางและปลายทางของการเดินทางตามตารางด้านล่าง (มีผลตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2562)
ภาพจาก : www.bangkokair.com
ภาพจาก : www.bangkokair.com
อ้างอิงจากข้อกำหนดของท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ผู้โดยสารแต่ละท่านได้รับน้ำหนักสัมภาระสูงสุด 32 กิโลกรัม หากน้ำหนักสัมภาระแต่ละชิ้นเกิน 32 กิโลกรัม สัมภาระนั้น ๆ จะต้องทำการบรรจุใหม่ โดยแยกออกเป็นสัมภาระย่อย
สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส รับพิจารณาอุปกรณ์กีฬาเป็นสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องตามมาตรฐานของสัมภาระ หากอุปกรณ์ดังกล่าวมีน้ำหนักรวมเกินกว่าที่กำหนด จะถูกประเมินด้วยอัตราค่าธรรมเนียมของสัมภาระเกินกำหนดตามตารางด้านบน
สำหรับเที่ยวบินของสายการบินพันธมิตร หรือเที่ยวบินที่ดำเนินการบินโดยสายการบินอื่น ผู้โดยสารกรุณาติดต่อสายการบินที่ดำเนินการบินโดยตรงเพื่อติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสัมภาระ น้ำหนักสัมภาระเกินกำหนดจะไม่สามารถรับเงินคืนได้
ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2265-5678 หรือที่เว็บไซต์ https://www.bangkokair.com/tha/
สัมภาระพกพา
ผู้โดยสารแต่ละคนมีสิทธิ์พกพาของได้ 1 ชิ้น และ/หรือกระเป๋าโน้ตบุ๊ก 1 ใบ หรือกระเป๋าถือ 1 ใบ เข้าห้องโดยสารของเครื่อง ของแต่ละชิ้นต้องมีขนาดไม่เกิน 56 x 36 x 23 เซนติเมตร และห้ามหนักเกิน 7 กิโลกรัม เมื่อรวมกับสัมภาระพกพาแล้ว นอกจากนี้สัมภาระดังกล่าวควรจะสามารถเก็บไว้ใต้ที่นั่งด้านหน้าท่านหรือช่องเก็บของเหนือศีรษะได้
สัมภาระใต้ท้องเครื่อง
- สัมภาระใต้ท้องเครื่องแต่ละชิ้นจะต้องมีขนาดไม่เกิน 119 x 119 x 81 เซนติเมตร และน้ำหนักไม่เกิน 32 กิโลกรัม
- สัมภาระที่ไม่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่อง
- สายการบินขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธไม่ให้นำสัมภาระขึ้นเครื่อง หากพบสิ่งของเหล่านี้ในสัมภาระของท่าน
- วัตถุที่ไม่ได้บรรจุในกระเป๋าหรือภาชนะอื่น ๆ ที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางอย่างปลอดภัย
- วัตถุที่อาจเป็นอันตรายต่อเครื่องบิน บุคคล หรือทรัพย์สินบนเครื่องบิน เช่น วัตถุที่ระบุไว้ในข้อบังคับสินค้าอันตราย ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) และในเงื่อนไขในการเดินทางและเงื่อนไขในสัญญาของเรา
- วัตถุที่ห้ามมีการขนส่งทางอากาศตามกฎหมาย ข้อบังคับที่มีผลบังคับใช้ หรือคำสั่งของประเทศที่ท่านออกเดินทาง ที่เดินทางไปถึง หรือที่จะเดินทางผ่าน
- สัมภาระที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากน้ำหนัก ขนาด รูปร่าง หรือลักษณะของสิ่งนั้น
- วัตถุที่แตกง่ายหรือเน่าเสียได้
- สัตว์ที่มีชีวิตหรือไม่มีชีวิต
- ร่างของมนุษย์หรือสัตว์ : สายการบินจะอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้โดยต้องเป็นสัมภาระเช็กอินหรือสัมภาระแฮนด์อิน โดยจะต้องบรรจุอย่างระมัดระวังในภาชนะบรรจุสุญญากาศ ต้องมีใบมรณบัตรและใบรับรองการกักกันป้องกันการแพร่เชื้อประกอบด้วย
- อาหารที่มีกลิ่นแรง (เช่น ทุเรียน ขนุน น้ำปลา เป็นต้น)
- อาหารทะเลสดหรือแช่แข็ง หรือเนื้อสัตว์อย่างอื่นที่อาจนำขึ้นเครื่องโดยเป็นสัมภาระไม่ลงทะเบียน เว้นแต่จะแสดงให้เป็นที่พอใจแก่สายการบินแล้วว่าได้บรรจุหีบห่ออย่างเรียบร้อยแล้ว ในกล่องโฟมและ/หรือกล่องเก็บความเย็นซึ่งบรรจุอาหารแห้งหรืออาหารที่ไม่เน่าเสียง่าย สายการบินจะอนุญาตให้ลงทะเบียน
- สัมภาระได้หลังจากที่ได้รับการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว หากผู้โดยสารปฏิเสธการตรวจสอบ เรามีสิทธิ์ปฏิเสธไม่รับสัมภาระดังกล่าวได้
- อาวุธปืนและยุทธภัณฑ์ วัตถุระเบิด แก๊สที่ติดไฟได้หรือติดไฟไม่ได้ (เช่น สีสเปรย์ แก๊สบิวเทน น้ำมันไฟแช็กชนิดเติม) แก๊สเหลวอุณหภูมิต่ำมาก (เช่น ถังดำน้ำที่มีแก๊สบรรจุอยู่ ไนโตรเจนเหลว) ของเหลวไวไฟ (เช่น สี ทินเนอร์ ตัวทำละลาย) ของแข็งที่ติดไฟได้ (เช่น ไม้ขีดไฟ ไฟแช็ก) สารอินทรีย์ประเภทเพอร์ออกไซด์ (เช่น เรซิน) วัตถุมีพิษ สารที่อาจติดเชื้อได้ (เช่น ไวรัส แบคทีเรีย) สารกัมมันตภาพรังสี (เช่น เรเดียม) สารกัดกร่อน (เช่น กรด ด่าง ปรอท เครื่องวัดอุณหภูมิ) สารที่มีลักษณะเป็นแม่เหล็ก สารออกซิไดซ์ (เช่น สารฟอกขาว)
- อาวุธ เช่น ปืนพกโบราณ ดาบ มีด สายยาง สายไฟ กระบองไฟฟ้า ถุงมือไฟฟ้า ระเบิดแก๊สน้ำตา ปืนแก๊สน้ำตา ปืนแก๊สที่ทำให้เกิดภาวะขาดออกซิเจน ปีนแก๊สพิษ ปืนคลอโรฟอร์ม ปืนกระสุนพลาสติก ปืนกระสุนยาง ปืนเลเซอร์ ปืนยิงตะปู ปืนแม่เหล็กไฟฟ้า ปืนยิงพลุ กุญแจมือโลหะกุญแจมือพลาสติก และวัตถุในลักษณะคล้ายคลึงกัน
สัมภาระที่ไม่อนุญาตให้ลงทะเบียนได้
ท่านไม่สามารถลงทะเบียนทรัพย์สินเป็นสัมภาระที่ต้องลงทะเบียนได้ และท่านต้องรับความเสี่ยงอันอาจเกิดกับทรัพย์สินดังกล่าวเอง หากท่านส่งทรัพย์สินดังกล่าวเป็นสัมภาระลงทะเบียน ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวรวมถึงเงิน อัญมณี หินมีค่า เครื่องเงิน คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอกสารที่แลกเปลี่ยนเป็นเงินได้ หลักทรัพย์หรือของมีค่าอื่น ๆ เอกสารทางธุรกิจ หนังสือเดินทาง และเอกสารแสดงตนอื่น ๆ หรือสิ่งอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน โดยผู้โดยสารจะต้องลงนามยินยอมในเอกสารจำกัดขอบเขตความรับผิดชอบของสายการบิน เมื่อทำการเช็กอิน ณ เคาน์เตอร์ เพื่อแสดงความยินยอมไม่ทำการเรียกร้องใด ๆ ต่อสายการบิน
สิทธิ์ในการตรวจค้น
ด้วยเหตุผลทางด้านความปลอดภัยและความมั่นคง สายการบินอาจขอให้ท่านเข้ารับการตรวจค้น เอกซเรย์ หรือสแกนด้วยวิธีอื่น เพื่อตรวจสอบตัวท่านหรือสัมภาระของท่าน เราขอสงวนสิทธิ์ในการตรวจค้นสัมภาระของท่านในขณะที่ท่านไม่ได้อยู่ ณ ที่นั้นได้ เพื่อตรวจสอบว่าสัมภาระของท่านบรรจุสิ่งที่ไม่เป็นที่ยอมรับหรือวัตถุต้องห้ามหรือไม่ หากท่านปฏิเสธไม่ปฏิบัติตามการตรวจค้นหรือการสแกนดังกล่าว สายการบินขอสงวนสิทธิ์ไม่อนุญาตให้ท่านและสัมภาระของท่านขึ้นเครื่อง โดยสายการบินจะไม่มีการชำระเงินคืนหรือรับภาระผูกพันใด ๆ ในกรณีที่การตรวจค้นหรือการสแกนก่อให้เกิดความเสียหายแก่ท่านหรือสัมภาระของท่าน สายการบินจะไม่รับผิดชอบต่อการเสียหายดังกล่าว นอกเสียจากว่าความเสียหายนั้นจะเกิดจากความผิดหรือความประมาทเลินเล่อของสายการบิน
สัมภาระลงทะเบียน
เมื่อท่านนำสัมภาระมาลงทะเบียนเพื่อยืนยันการเดินทาง สัมภาระนั้นจะอยู่ในความดูแลของสายการบิน ซึ่งสายการบินจะออกป้ายสัมภาระสำหรับสัมภาระแต่ละชิ้นที่ลงทะเบียนแล้ว สัมภาระลงทะเบียนจะต้องมีชื่อของท่านหรือหลักฐานแสดงตนอื่น ๆ ติดไว้อย่างแน่นหนา สัมภาระลงทะเบียนจะถูกขนส่งไปพร้อมกับเที่ยวบินที่ท่านเดินทาง เว้นแต่ว่าสายการบินได้เลือกที่จะขนส่งสัมภาระไปพร้อมกับเที่ยวบินอื่นเพื่อความปลอดภัย ความมั่นคง หรือด้วยเหตุผลในการปฏิบัติงาน หากสัมภาระลงทะเบียนของท่านถูกขนส่งไปกับเที่ยวบินถัดไป เราจะนำสัมภาระดังกล่าวส่งคืนให้แก่ท่านภายในเวลาที่เหมาะสมเมื่อเที่ยวบินนั้นเดินทางถึงที่หมายแล้ว (เว้นแต่กฎหมายที่ใช้บังคับจะกำหนดให้ท่านมาแสดงตนเพื่อขอรับสัมภาระต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร)
ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2089-1909 หรือที่เว็บไซต์
สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส รับพิจารณาอุปกรณ์กีฬาเป็นสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องตามมาตรฐานของสัมภาระ หากอุปกรณ์ดังกล่าวมีน้ำหนักรวมเกินกว่าที่กำหนด จะถูกประเมินด้วยอัตราค่าธรรมเนียมของสัมภาระเกินกำหนดตามตารางด้านบน
สำหรับเที่ยวบินของสายการบินพันธมิตร หรือเที่ยวบินที่ดำเนินการบินโดยสายการบินอื่น ผู้โดยสารกรุณาติดต่อสายการบินที่ดำเนินการบินโดยตรงเพื่อติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสัมภาระ น้ำหนักสัมภาระเกินกำหนดจะไม่สามารถรับเงินคืนได้
ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2265-5678 หรือที่เว็บไซต์ https://www.bangkokair.com/tha/
สายการบินเวียดเจ็ทแอร์
สัมภาระพกพา
ผู้โดยสารแต่ละคนมีสิทธิ์พกพาของได้ 1 ชิ้น และ/หรือกระเป๋าโน้ตบุ๊ก 1 ใบ หรือกระเป๋าถือ 1 ใบ เข้าห้องโดยสารของเครื่อง ของแต่ละชิ้นต้องมีขนาดไม่เกิน 56 x 36 x 23 เซนติเมตร และห้ามหนักเกิน 7 กิโลกรัม เมื่อรวมกับสัมภาระพกพาแล้ว นอกจากนี้สัมภาระดังกล่าวควรจะสามารถเก็บไว้ใต้ที่นั่งด้านหน้าท่านหรือช่องเก็บของเหนือศีรษะได้
สัมภาระใต้ท้องเครื่อง
- สัมภาระใต้ท้องเครื่องแต่ละชิ้นจะต้องมีขนาดไม่เกิน 119 x 119 x 81 เซนติเมตร และน้ำหนักไม่เกิน 32 กิโลกรัม
- สัมภาระที่ไม่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่อง
- สายการบินขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธไม่ให้นำสัมภาระขึ้นเครื่อง หากพบสิ่งของเหล่านี้ในสัมภาระของท่าน
- วัตถุที่ไม่ได้บรรจุในกระเป๋าหรือภาชนะอื่น ๆ ที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางอย่างปลอดภัย
- วัตถุที่อาจเป็นอันตรายต่อเครื่องบิน บุคคล หรือทรัพย์สินบนเครื่องบิน เช่น วัตถุที่ระบุไว้ในข้อบังคับสินค้าอันตราย ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) และในเงื่อนไขในการเดินทางและเงื่อนไขในสัญญาของเรา
- วัตถุที่ห้ามมีการขนส่งทางอากาศตามกฎหมาย ข้อบังคับที่มีผลบังคับใช้ หรือคำสั่งของประเทศที่ท่านออกเดินทาง ที่เดินทางไปถึง หรือที่จะเดินทางผ่าน
- สัมภาระที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากน้ำหนัก ขนาด รูปร่าง หรือลักษณะของสิ่งนั้น
- วัตถุที่แตกง่ายหรือเน่าเสียได้
- สัตว์ที่มีชีวิตหรือไม่มีชีวิต
- ร่างของมนุษย์หรือสัตว์ : สายการบินจะอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้โดยต้องเป็นสัมภาระเช็กอินหรือสัมภาระแฮนด์อิน โดยจะต้องบรรจุอย่างระมัดระวังในภาชนะบรรจุสุญญากาศ ต้องมีใบมรณบัตรและใบรับรองการกักกันป้องกันการแพร่เชื้อประกอบด้วย
- อาหารที่มีกลิ่นแรง (เช่น ทุเรียน ขนุน น้ำปลา เป็นต้น)
- อาหารทะเลสดหรือแช่แข็ง หรือเนื้อสัตว์อย่างอื่นที่อาจนำขึ้นเครื่องโดยเป็นสัมภาระไม่ลงทะเบียน เว้นแต่จะแสดงให้เป็นที่พอใจแก่สายการบินแล้วว่าได้บรรจุหีบห่ออย่างเรียบร้อยแล้ว ในกล่องโฟมและ/หรือกล่องเก็บความเย็นซึ่งบรรจุอาหารแห้งหรืออาหารที่ไม่เน่าเสียง่าย สายการบินจะอนุญาตให้ลงทะเบียน
- สัมภาระได้หลังจากที่ได้รับการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว หากผู้โดยสารปฏิเสธการตรวจสอบ เรามีสิทธิ์ปฏิเสธไม่รับสัมภาระดังกล่าวได้
- อาวุธปืนและยุทธภัณฑ์ วัตถุระเบิด แก๊สที่ติดไฟได้หรือติดไฟไม่ได้ (เช่น สีสเปรย์ แก๊สบิวเทน น้ำมันไฟแช็กชนิดเติม) แก๊สเหลวอุณหภูมิต่ำมาก (เช่น ถังดำน้ำที่มีแก๊สบรรจุอยู่ ไนโตรเจนเหลว) ของเหลวไวไฟ (เช่น สี ทินเนอร์ ตัวทำละลาย) ของแข็งที่ติดไฟได้ (เช่น ไม้ขีดไฟ ไฟแช็ก) สารอินทรีย์ประเภทเพอร์ออกไซด์ (เช่น เรซิน) วัตถุมีพิษ สารที่อาจติดเชื้อได้ (เช่น ไวรัส แบคทีเรีย) สารกัมมันตภาพรังสี (เช่น เรเดียม) สารกัดกร่อน (เช่น กรด ด่าง ปรอท เครื่องวัดอุณหภูมิ) สารที่มีลักษณะเป็นแม่เหล็ก สารออกซิไดซ์ (เช่น สารฟอกขาว)
- อาวุธ เช่น ปืนพกโบราณ ดาบ มีด สายยาง สายไฟ กระบองไฟฟ้า ถุงมือไฟฟ้า ระเบิดแก๊สน้ำตา ปืนแก๊สน้ำตา ปืนแก๊สที่ทำให้เกิดภาวะขาดออกซิเจน ปีนแก๊สพิษ ปืนคลอโรฟอร์ม ปืนกระสุนพลาสติก ปืนกระสุนยาง ปืนเลเซอร์ ปืนยิงตะปู ปืนแม่เหล็กไฟฟ้า ปืนยิงพลุ กุญแจมือโลหะกุญแจมือพลาสติก และวัตถุในลักษณะคล้ายคลึงกัน
สัมภาระที่ไม่อนุญาตให้ลงทะเบียนได้
ท่านไม่สามารถลงทะเบียนทรัพย์สินเป็นสัมภาระที่ต้องลงทะเบียนได้ และท่านต้องรับความเสี่ยงอันอาจเกิดกับทรัพย์สินดังกล่าวเอง หากท่านส่งทรัพย์สินดังกล่าวเป็นสัมภาระลงทะเบียน ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวรวมถึงเงิน อัญมณี หินมีค่า เครื่องเงิน คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอกสารที่แลกเปลี่ยนเป็นเงินได้ หลักทรัพย์หรือของมีค่าอื่น ๆ เอกสารทางธุรกิจ หนังสือเดินทาง และเอกสารแสดงตนอื่น ๆ หรือสิ่งอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน โดยผู้โดยสารจะต้องลงนามยินยอมในเอกสารจำกัดขอบเขตความรับผิดชอบของสายการบิน เมื่อทำการเช็กอิน ณ เคาน์เตอร์ เพื่อแสดงความยินยอมไม่ทำการเรียกร้องใด ๆ ต่อสายการบิน
สิทธิ์ในการตรวจค้น
ด้วยเหตุผลทางด้านความปลอดภัยและความมั่นคง สายการบินอาจขอให้ท่านเข้ารับการตรวจค้น เอกซเรย์ หรือสแกนด้วยวิธีอื่น เพื่อตรวจสอบตัวท่านหรือสัมภาระของท่าน เราขอสงวนสิทธิ์ในการตรวจค้นสัมภาระของท่านในขณะที่ท่านไม่ได้อยู่ ณ ที่นั้นได้ เพื่อตรวจสอบว่าสัมภาระของท่านบรรจุสิ่งที่ไม่เป็นที่ยอมรับหรือวัตถุต้องห้ามหรือไม่ หากท่านปฏิเสธไม่ปฏิบัติตามการตรวจค้นหรือการสแกนดังกล่าว สายการบินขอสงวนสิทธิ์ไม่อนุญาตให้ท่านและสัมภาระของท่านขึ้นเครื่อง โดยสายการบินจะไม่มีการชำระเงินคืนหรือรับภาระผูกพันใด ๆ ในกรณีที่การตรวจค้นหรือการสแกนก่อให้เกิดความเสียหายแก่ท่านหรือสัมภาระของท่าน สายการบินจะไม่รับผิดชอบต่อการเสียหายดังกล่าว นอกเสียจากว่าความเสียหายนั้นจะเกิดจากความผิดหรือความประมาทเลินเล่อของสายการบิน
สัมภาระลงทะเบียน
เมื่อท่านนำสัมภาระมาลงทะเบียนเพื่อยืนยันการเดินทาง สัมภาระนั้นจะอยู่ในความดูแลของสายการบิน ซึ่งสายการบินจะออกป้ายสัมภาระสำหรับสัมภาระแต่ละชิ้นที่ลงทะเบียนแล้ว สัมภาระลงทะเบียนจะต้องมีชื่อของท่านหรือหลักฐานแสดงตนอื่น ๆ ติดไว้อย่างแน่นหนา สัมภาระลงทะเบียนจะถูกขนส่งไปพร้อมกับเที่ยวบินที่ท่านเดินทาง เว้นแต่ว่าสายการบินได้เลือกที่จะขนส่งสัมภาระไปพร้อมกับเที่ยวบินอื่นเพื่อความปลอดภัย ความมั่นคง หรือด้วยเหตุผลในการปฏิบัติงาน หากสัมภาระลงทะเบียนของท่านถูกขนส่งไปกับเที่ยวบินถัดไป เราจะนำสัมภาระดังกล่าวส่งคืนให้แก่ท่านภายในเวลาที่เหมาะสมเมื่อเที่ยวบินนั้นเดินทางถึงที่หมายแล้ว (เว้นแต่กฎหมายที่ใช้บังคับจะกำหนดให้ท่านมาแสดงตนเพื่อขอรับสัมภาระต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร)
ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2089-1909 หรือที่เว็บไซต์
https://th.vietjetair.com/
นอกจากข้อกำหนดของสายการบินที่คุณต้องปฏิบัติตามแล้ว คุณยังจำเป็นต้องรู้ข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการเรื่องของเหลวและการตรวจค้นของท่าอากาศยานไทยด้วย โดยสามารถเข้ามาดูรายละเอียดได้ที่ มาตรการเรื่องของเหลวและการตรวจค้น
จะเห็นว่าแต่ละสายการบินนั้นมีข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ดังนั้นผู้ที่มีความประสงค์จะเดินทางโดยสายการบินข้างต้นหรือสายการบินอื่น ๆ จำเป็นต้องตรวจสอบเงื่อนไขและรายละเอียดของสายการบินนั้น ๆ ให้ถี่ถ้วนด้วยนะคะ จะได้วางแผนในการจัดกระเป๋าเดินทางได้อย่างถูกต้อง แถมยังประหยัดเงินได้มากอีกด้วย เพราะการเสียค่าน้ำหนักกระเป๋าเกินหน้าเคาน์เตอร์เช็กอินนั้นมีราคาแพงกว่าการซื้อน้ำหนักกระเป๋าล่วงหน้าเป็นไหน ๆ นอกจากนี้ควรศึกษาข้อมูลเรื่องความรับผิดชอบกรณีสัมภาระสูญหายหรือชำรุดด้วยนะ จะได้ไม่ต้องเสียทั้งเงินและเวลานั่นเอง
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก : support.airasia.com, content.nokair.com, thaiairways.com, lionairthai.com,
thaismileair.com, bangkokair.com, th.vietjetair.com
จะเห็นว่าแต่ละสายการบินนั้นมีข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ดังนั้นผู้ที่มีความประสงค์จะเดินทางโดยสายการบินข้างต้นหรือสายการบินอื่น ๆ จำเป็นต้องตรวจสอบเงื่อนไขและรายละเอียดของสายการบินนั้น ๆ ให้ถี่ถ้วนด้วยนะคะ จะได้วางแผนในการจัดกระเป๋าเดินทางได้อย่างถูกต้อง แถมยังประหยัดเงินได้มากอีกด้วย เพราะการเสียค่าน้ำหนักกระเป๋าเกินหน้าเคาน์เตอร์เช็กอินนั้นมีราคาแพงกว่าการซื้อน้ำหนักกระเป๋าล่วงหน้าเป็นไหน ๆ นอกจากนี้ควรศึกษาข้อมูลเรื่องความรับผิดชอบกรณีสัมภาระสูญหายหรือชำรุดด้วยนะ จะได้ไม่ต้องเสียทั้งเงินและเวลานั่นเอง
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก : support.airasia.com, content.nokair.com, thaiairways.com, lionairthai.com,
thaismileair.com, bangkokair.com, th.vietjetair.com