โดยหนังสือเดินทางนั้นมีทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่
หนังสือเดินทางฑูต (Diplomatic) เป็นหนังสือเดินทางสำหรับนักการทูตและข้าราชการการเมือง เพื่อใช้เดินทางไปราชการต่างประเทศเท่านั้น มีสีแดงสด
หนังสือเดินทางราชการ (Official Passport) เป็นหนังสือเดินทางสำหรับข้าราชการ สำหรับเดินทางไปราชการนั้น ๆ เป็นเล่มสีน้ำเงิน
หนังสือเดินทางยกเว้นค่าธรรมเนียม (Gratis) เป็นหนังสือเดินทางสำหรับข้าราชการเกษียณอายุ, พนักงานของรัฐ และข้าราชการที่จะเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศโดยทุนส่วนตัว หรือไปฝึกอบรมในหลักสูตรต่าง ๆ จะป็นเล่มสีน้ำตาล
หนังสือเดินทาง (Passport) เป็นหนังสือเดินทางสำหรับประชาชนทั่วไป หรือข้าราชการ และพนักงานของรัฐ ก็สามารถใช้ในกรณีที่เดินทางไปต่างประเทศด้วยกิจธุระส่วนตัว ตัวเล่มจะใช้สีเลือดหมู
อย่างไรก็ตามตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2548 เป็นต้นมา กรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศได้เปลี่ยนหนังสือเดินทางธรรมดามาเป็น "หนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์" หรือ "E-passport"แล้ว ซึ่งเป็นหนังสือเดินทางที่มีคุณลักษณะเฉพาะทางเทคนิค ตามข้อกำหนดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ซึ่งแตกต่างจากหนังสือเดินทางแบบเดิม ดังนี้
มีการบันทึกข้อมูลชีวภาพ (biometric data) ได้แก่ รูปใบหน้า และ/หรือ ลายนิ้วมือ และ/หรือ ม่านตา ไว้ใน Contactless Integrated Circuit ซึ่งฝังอยู่ในเล่มหนังสือเดินทาง
มีการเข้ารหัสข้อมูล เพื่อการตรวจสอบความถูกต้องแท้จริงของหน้งสือเดินทาง
หนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ดีกว่าหนังสือเดินทางแบบเดิมอย่างไร
สามารถป้องกันการปลอมแปลงได้สูง เป็นมาตรการสำคัญในการสกัดกั้นขบวนการก่อการร้ายข้ามชาติ การลักลอบเข้าเมือง ฯลฯ
สามารถตรวจสอบเพื่อพิสูจน์ตัวบุคคลได้แม่นยำและรวดเร็ว อำนวยความสะดวกต่อการเดินทาง การเข้าเมือง และส่งเสริมการท่องเที่ยว
เสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศ ทำให้หนังสือเดินทางไทยมีความน่าเชื่อถือ และได้รับการยอมรับในระดับสากลยิ่งขึ้น ส่งผลต่อเนื่องทางบวกด้านเศรษฐกิจการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวของประเทศ
เอกสารที่ต้องใช้ในการทำหนังสือเดินทาง (Passport)
สำหรับการขอทำหนังสือเดินทางสำหรับประชาชนทั่วไป ที่อายุเกิน 20 ปีขึ้นไปแล้ว จะต้องเตรียมเอกสารเพื่อยื่นขอทำหนังสือเดินทาง ดังนี้
บัตรประจำตัวประชาชนที่ยังมีอายุใช้งาน หรือบัตรข้าราชการ หรือบัตรประจำตัวที่ใช้แทนตามกฎกระทรวงมหาดไทยฉบับจริง (ในกรณีที่เป็นบัตรข้าราชการให้นำสำเนาทะเบียนบ้านมาด้วย)
หากมีรายการแก้ไขชื่อสกุล หรือวันเดือนปีเกิด ฯลฯ ซึ่งไม่ตรงกับบัตรประชาชนให้นำหลักฐานการแก้ไขที่เกี่ยวข้องมาแสดงด้วย เช่น หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ
การทำหนังสือเดินทางใหม่ ต้องเสียค่าธรรมเนียม 1,000 บาท
กรณีที่ผู้ยื่นขอเป็นผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี ก็จะมีรายละเอียดเอกสารที่ต่างออกไป ดังนี้
สูติบัตรฉบับจริง หากเป็นฉบับสำเนาก็ต้องได้รับการรับรองจากเขตหรืออำเภอ
บัตรประจำตัวประชาชนที่ยังมีอายุใช้งาน หรือบัตรที่ใช้แทนได้ตามกฎกระทรวงมหาดไทยของบิดา มารดา หรือผู้มีอำนาจปกครองฉบับจริง และหากชื่อ-นามสกุล บิดา มารดา ในสูติบัตรไม่ตรงกับบัตรประจำตัวประชาชน ให้นำหลักฐานการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ที่เป็นต้นฉบับมาแสดงด้วย ในกรณีที่มารดาหย่าและจดทะเบียนสมรสใหม่ และใช้นามสกุลใหม่ตามสามีให้นำหลักฐานการหย่าและการสมรสที่เป็นต้นฉบับมา แสดงด้วย
หนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศ และบัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริงของบิดา มารดา ในกรณีที่บิดา/มารดา หรือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่สามารถมาแสดงตัวได้
เอกสารอื่น ๆ ที่จำเป็น อาทิ หลักฐานใบเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล เอกสารหลักฐานการรับรองบุตร หรือรับบุตรบุญธรรม บันทึกการหย่า ซึ่งมีข้อความระบุให้บุตรอยู่ในความดูแลของบิดาหรือมารดา เป็นต้น
การทำหนังสือเดินทางใหม่ ต้องเสียค่าธรรมเนียม 1,000 บาท
ส่วนในกรณีต่าง ๆ เช่น กรณี บิดา มารดา ของผู้เยาว์เสียชีวิต, กรณีที่บิดา มารดา ของผู้เยาว์เป็นชาวต่างชาติที่มิได้จดทะเบียนสมรส, กรณีที่ไม่สามารถตามหา ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมาให้ความยินยอมได้, กรณีบิดามารดามิได้จดทะเบียนสมรสแต่บุตร อยู่ในความดูแลของบิดาฝ่ายเดียวมาตลอด และไม่สามารถตามหามารดาได้ ซึ่งกรณีเหล่านี้ให้นำคำสั่งศาลซึ่งระบุชื่อผู้มีอำนาจปกครอง พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจปกครองมาแสดงด้วย
กรณีหากเป็นผู้เยาว์ที่อายุ 15 ปีขึ้นไป แต่ยังไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ ก็สามารถขอทำหนังสือเดินทางด้วยตัวเองได้โดยใช้เอกสาร ดังนี้
บัตรประจำตัวประชาชนที่ยังมีอายุใช้งาน หรือบัตรประจำตัวที่ใช้แทนตามกฎกระทรวงมหาดไทย
หนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศที่ผ่านการรับรองจากอำเภอหรือเขต และบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ปกครองพร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
เอกสารอื่น ๆ ที่จำเป็น อาทิ หลักฐานใบเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล เอกสารหลักฐานการรับรองบุตรหรือรับบุตรบุญธรรมใบสำคัญการสมรส ทะเบียนสมรส ทะเบียนหย่า ทะเบียนบ้าน คำสั่งศาลกรณีระบุผู้มีอำนาจปกครองแทนบิดามารดา เป็นต้น
เสียค่าธรรมเนียม 1,000 บาท
การจองคิวทำหนังสือเดินทางออนไลน์
กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ได้เปิดการจองคิวทำหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตล่วงหน้าแบบออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ passport.in.th
ขั้นตอนการขอหนังสือเดินทาง
1. รับบัตรคิว
2. ยื่นบัตรประจำตัวประชาชนที่มีเลข 13 หลัก หรือสูติบัตรฉบับจริง (หากไม่มีเลข 13 หลัก ต้องนำสำเนาทะเบียนบ้านมาแสดง) พร้อมเอกสารหลักฐานอื่น ๆ ที่จำเป็น เพื่อตรวจสอบข้อมูล
3. ในการทำหนังสือเดินทางจะมีการเก็บข้อมูลทางชีวภาพ คือมีการวัดส่วนสูง เก็บลายพิมพ์นิ้วมือนิ้วชี้ซ้าย และนิ้วชี้ขวาด้วยเครื่องสแกนเนอร์ และถ่ายรูปใบหน้า
4. แจ้งความประสงค์ว่าจะมารับหนังสือเดินทางด้วยตัวเอง หรือต้องการขอรับเล่มทางไปรษณีย์
5. ชำระค่าธรรมเนียมการทำหนังสือเดินทาง 1,000 บาท หากต้องการให้จัดส่งทางไปรษณีย์ จะต้องชำระค่าส่งไปรษณีย์เพิ่มเติม 40 บาท จากนั้นรับใบเสร็จรับเงินและรับใบนัดรับเล่ม
เมื่อไหร่จะได้รับหนังสือเดินทาง
กรณียื่นขอทำหนังสือเดินทางที่กรมการกงสุล หรือสำนักงานสาขาในกรุงเทพฯ จะสามารถรับหนังสือเดินทางได้ภายใน 2 วันทำการไม่นับวันยื่นคำร้อง และหากรับทางไปรษณีย์จะได้รับใน 5-7 วันทำการ (ไม่รวมวันเสาร์-อาทิตย์)
กรณียื่นคำร้องที่สำนักงานสาขาในต่างจังหวัด หนังสือเดินทางจะจัดส่งให้ทางไปรษณีย์เท่านั้น โดยจะได้รับหนังสือเดินทางภายใน 5-7 วันทำการ ไม่นับวันยื่นคำร้อง และวันเสาร์-อาทิตย์
หลักฐานที่ใช้ประกอบการรับหนังสือเดินทาง
กรณีรับด้วยตัวเอง
1. บัตรประชาชนตัวจริงของผู้รับ
2. ใบรับหนังสือเดินทาง
กรณีมอบหมายให้ผู้อื่นมารับแทน
1. บัตรประชาชนตัวจริงของผู้ถือหนังสือเดินทาง
2. บัตรประชาชนตัวจริงของผู้รับแทน
3. ใบรับหนังสือเดินทางที่ลงนามมอบอำนาจแล้ว
หนังสือเดินทางหาย ทำอย่างไร
กรณีที่ทำหนังสือเดินทางสูญหายในประเทศ ต้องติดต่อแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและรับใบแจ้งความจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อมายื่นขอทำหนังสือเดินทางฉบับใหม่ และยกเลิกการใช้งานหนังสือเดินทางฉบับที่สูญหาย
กรณีที่ทำหนังสือเดินทางสูญหายในต่างประเทศ ต้องแจ้งความหนังสือเดินทางสูญหายต่อทางการท้องถิ่น และนำใบรับแจ้งความดังกล่าวนั้นพร้อมเอกสารแสดงการมีสัญชาติไทยของตน หรือเอกสารทะเบียนราษฎรที่มีอยู่ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน ฯลฯ ไปติดต่อที่สถานทูต สถานกงสุลไทยที่ใกล้ที่สุด เพื่อขอหนังสือเดินทางเล่มใหม่
กรณีที่ทำหนังสือเดินทางสูญหายในต่างประเทศแล้วต้องการเดินทางกลับประเทศไทยเป็นการเร่งด่วน ไม่สามารถรอรับหนังสือเดินทางได้ สถานทูตสถานกงสุลจะออกเอกสารเดินทาง (Certificate of Identity) ให้ใช้เดินทางกลับประเทศไทยได้ครั้งเดียว เมื่อกลับถึงประเทศไทยแล้วเอกสารเดินทางจะหมดอายุการใช้งานทันที
วันเวลา และสถานที่ที่สามารถติดต่อทำหนังสือเดินทางได้
กรมการกงสุล
123 ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210
โทรศัพท์ 0 2981 7257
วันจันทร์-ศุกร์ 08.00-15.30 น.
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ปิ่นเกล้า
อาคาร SC Plaza สถานีขนส่งกรุงเทพ (สายใต่ใหม่) ถนนบรมราชชนนี
โทรศัพท์ 0 2422 3431
วันจันทร์-ศุกร์ 08.30-15.30 น.
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว บางนา
ศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ ชั้น 2 โซน E
โทรศัพท์ 0 2136 3800-01
วันจันทร์-ศุกร์ 08.30-15.30 น.
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว มีนบุรี
ศูนย์การค้าบิ๊กซี สุวินทวงศ์ ชั้น 2 แขวงมีนบุรี กรุงเทพฯ 10510
โทรศัพท์ 0 2024 8362
หนังสือเดินทางฑูต (Diplomatic) เป็นหนังสือเดินทางสำหรับนักการทูตและข้าราชการการเมือง เพื่อใช้เดินทางไปราชการต่างประเทศเท่านั้น มีสีแดงสด
หนังสือเดินทางราชการ (Official Passport) เป็นหนังสือเดินทางสำหรับข้าราชการ สำหรับเดินทางไปราชการนั้น ๆ เป็นเล่มสีน้ำเงิน
หนังสือเดินทางยกเว้นค่าธรรมเนียม (Gratis) เป็นหนังสือเดินทางสำหรับข้าราชการเกษียณอายุ, พนักงานของรัฐ และข้าราชการที่จะเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศโดยทุนส่วนตัว หรือไปฝึกอบรมในหลักสูตรต่าง ๆ จะป็นเล่มสีน้ำตาล
หนังสือเดินทาง (Passport) เป็นหนังสือเดินทางสำหรับประชาชนทั่วไป หรือข้าราชการ และพนักงานของรัฐ ก็สามารถใช้ในกรณีที่เดินทางไปต่างประเทศด้วยกิจธุระส่วนตัว ตัวเล่มจะใช้สีเลือดหมู
อย่างไรก็ตามตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2548 เป็นต้นมา กรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศได้เปลี่ยนหนังสือเดินทางธรรมดามาเป็น "หนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์" หรือ "E-passport"แล้ว ซึ่งเป็นหนังสือเดินทางที่มีคุณลักษณะเฉพาะทางเทคนิค ตามข้อกำหนดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ซึ่งแตกต่างจากหนังสือเดินทางแบบเดิม ดังนี้
มีการบันทึกข้อมูลชีวภาพ (biometric data) ได้แก่ รูปใบหน้า และ/หรือ ลายนิ้วมือ และ/หรือ ม่านตา ไว้ใน Contactless Integrated Circuit ซึ่งฝังอยู่ในเล่มหนังสือเดินทาง
มีการเข้ารหัสข้อมูล เพื่อการตรวจสอบความถูกต้องแท้จริงของหน้งสือเดินทาง
หนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ดีกว่าหนังสือเดินทางแบบเดิมอย่างไร
สามารถป้องกันการปลอมแปลงได้สูง เป็นมาตรการสำคัญในการสกัดกั้นขบวนการก่อการร้ายข้ามชาติ การลักลอบเข้าเมือง ฯลฯ
สามารถตรวจสอบเพื่อพิสูจน์ตัวบุคคลได้แม่นยำและรวดเร็ว อำนวยความสะดวกต่อการเดินทาง การเข้าเมือง และส่งเสริมการท่องเที่ยว
เสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศ ทำให้หนังสือเดินทางไทยมีความน่าเชื่อถือ และได้รับการยอมรับในระดับสากลยิ่งขึ้น ส่งผลต่อเนื่องทางบวกด้านเศรษฐกิจการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวของประเทศ
เอกสารที่ต้องใช้ในการทำหนังสือเดินทาง (Passport)
สำหรับการขอทำหนังสือเดินทางสำหรับประชาชนทั่วไป ที่อายุเกิน 20 ปีขึ้นไปแล้ว จะต้องเตรียมเอกสารเพื่อยื่นขอทำหนังสือเดินทาง ดังนี้
บัตรประจำตัวประชาชนที่ยังมีอายุใช้งาน หรือบัตรข้าราชการ หรือบัตรประจำตัวที่ใช้แทนตามกฎกระทรวงมหาดไทยฉบับจริง (ในกรณีที่เป็นบัตรข้าราชการให้นำสำเนาทะเบียนบ้านมาด้วย)
หากมีรายการแก้ไขชื่อสกุล หรือวันเดือนปีเกิด ฯลฯ ซึ่งไม่ตรงกับบัตรประชาชนให้นำหลักฐานการแก้ไขที่เกี่ยวข้องมาแสดงด้วย เช่น หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ
การทำหนังสือเดินทางใหม่ ต้องเสียค่าธรรมเนียม 1,000 บาท
กรณีที่ผู้ยื่นขอเป็นผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี ก็จะมีรายละเอียดเอกสารที่ต่างออกไป ดังนี้
สูติบัตรฉบับจริง หากเป็นฉบับสำเนาก็ต้องได้รับการรับรองจากเขตหรืออำเภอ
บัตรประจำตัวประชาชนที่ยังมีอายุใช้งาน หรือบัตรที่ใช้แทนได้ตามกฎกระทรวงมหาดไทยของบิดา มารดา หรือผู้มีอำนาจปกครองฉบับจริง และหากชื่อ-นามสกุล บิดา มารดา ในสูติบัตรไม่ตรงกับบัตรประจำตัวประชาชน ให้นำหลักฐานการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ที่เป็นต้นฉบับมาแสดงด้วย ในกรณีที่มารดาหย่าและจดทะเบียนสมรสใหม่ และใช้นามสกุลใหม่ตามสามีให้นำหลักฐานการหย่าและการสมรสที่เป็นต้นฉบับมา แสดงด้วย
หนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศ และบัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริงของบิดา มารดา ในกรณีที่บิดา/มารดา หรือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่สามารถมาแสดงตัวได้
เอกสารอื่น ๆ ที่จำเป็น อาทิ หลักฐานใบเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล เอกสารหลักฐานการรับรองบุตร หรือรับบุตรบุญธรรม บันทึกการหย่า ซึ่งมีข้อความระบุให้บุตรอยู่ในความดูแลของบิดาหรือมารดา เป็นต้น
การทำหนังสือเดินทางใหม่ ต้องเสียค่าธรรมเนียม 1,000 บาท
ส่วนในกรณีต่าง ๆ เช่น กรณี บิดา มารดา ของผู้เยาว์เสียชีวิต, กรณีที่บิดา มารดา ของผู้เยาว์เป็นชาวต่างชาติที่มิได้จดทะเบียนสมรส, กรณีที่ไม่สามารถตามหา ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมาให้ความยินยอมได้, กรณีบิดามารดามิได้จดทะเบียนสมรสแต่บุตร อยู่ในความดูแลของบิดาฝ่ายเดียวมาตลอด และไม่สามารถตามหามารดาได้ ซึ่งกรณีเหล่านี้ให้นำคำสั่งศาลซึ่งระบุชื่อผู้มีอำนาจปกครอง พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจปกครองมาแสดงด้วย
บัตรประจำตัวประชาชนที่ยังมีอายุใช้งาน หรือบัตรประจำตัวที่ใช้แทนตามกฎกระทรวงมหาดไทย
หนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศที่ผ่านการรับรองจากอำเภอหรือเขต และบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ปกครองพร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
เอกสารอื่น ๆ ที่จำเป็น อาทิ หลักฐานใบเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล เอกสารหลักฐานการรับรองบุตรหรือรับบุตรบุญธรรมใบสำคัญการสมรส ทะเบียนสมรส ทะเบียนหย่า ทะเบียนบ้าน คำสั่งศาลกรณีระบุผู้มีอำนาจปกครองแทนบิดามารดา เป็นต้น
เสียค่าธรรมเนียม 1,000 บาท
กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ได้เปิดการจองคิวทำหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตล่วงหน้าแบบออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ passport.in.th
ขั้นตอนการขอหนังสือเดินทาง
1. รับบัตรคิว
2. ยื่นบัตรประจำตัวประชาชนที่มีเลข 13 หลัก หรือสูติบัตรฉบับจริง (หากไม่มีเลข 13 หลัก ต้องนำสำเนาทะเบียนบ้านมาแสดง) พร้อมเอกสารหลักฐานอื่น ๆ ที่จำเป็น เพื่อตรวจสอบข้อมูล
3. ในการทำหนังสือเดินทางจะมีการเก็บข้อมูลทางชีวภาพ คือมีการวัดส่วนสูง เก็บลายพิมพ์นิ้วมือนิ้วชี้ซ้าย และนิ้วชี้ขวาด้วยเครื่องสแกนเนอร์ และถ่ายรูปใบหน้า
4. แจ้งความประสงค์ว่าจะมารับหนังสือเดินทางด้วยตัวเอง หรือต้องการขอรับเล่มทางไปรษณีย์
5. ชำระค่าธรรมเนียมการทำหนังสือเดินทาง 1,000 บาท หากต้องการให้จัดส่งทางไปรษณีย์ จะต้องชำระค่าส่งไปรษณีย์เพิ่มเติม 40 บาท จากนั้นรับใบเสร็จรับเงินและรับใบนัดรับเล่ม
เมื่อไหร่จะได้รับหนังสือเดินทาง
กรณียื่นขอทำหนังสือเดินทางที่กรมการกงสุล หรือสำนักงานสาขาในกรุงเทพฯ จะสามารถรับหนังสือเดินทางได้ภายใน 2 วันทำการไม่นับวันยื่นคำร้อง และหากรับทางไปรษณีย์จะได้รับใน 5-7 วันทำการ (ไม่รวมวันเสาร์-อาทิตย์)
กรณียื่นคำร้องที่สำนักงานสาขาในต่างจังหวัด หนังสือเดินทางจะจัดส่งให้ทางไปรษณีย์เท่านั้น โดยจะได้รับหนังสือเดินทางภายใน 5-7 วันทำการ ไม่นับวันยื่นคำร้อง และวันเสาร์-อาทิตย์
หลักฐานที่ใช้ประกอบการรับหนังสือเดินทาง
กรณีรับด้วยตัวเอง
1. บัตรประชาชนตัวจริงของผู้รับ
2. ใบรับหนังสือเดินทาง
กรณีมอบหมายให้ผู้อื่นมารับแทน
1. บัตรประชาชนตัวจริงของผู้ถือหนังสือเดินทาง
2. บัตรประชาชนตัวจริงของผู้รับแทน
3. ใบรับหนังสือเดินทางที่ลงนามมอบอำนาจแล้ว
หนังสือเดินทางหาย ทำอย่างไร
กรณีที่ทำหนังสือเดินทางสูญหายในประเทศ ต้องติดต่อแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและรับใบแจ้งความจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อมายื่นขอทำหนังสือเดินทางฉบับใหม่ และยกเลิกการใช้งานหนังสือเดินทางฉบับที่สูญหาย
กรณีที่ทำหนังสือเดินทางสูญหายในต่างประเทศ ต้องแจ้งความหนังสือเดินทางสูญหายต่อทางการท้องถิ่น และนำใบรับแจ้งความดังกล่าวนั้นพร้อมเอกสารแสดงการมีสัญชาติไทยของตน หรือเอกสารทะเบียนราษฎรที่มีอยู่ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน ฯลฯ ไปติดต่อที่สถานทูต สถานกงสุลไทยที่ใกล้ที่สุด เพื่อขอหนังสือเดินทางเล่มใหม่
กรณีที่ทำหนังสือเดินทางสูญหายในต่างประเทศแล้วต้องการเดินทางกลับประเทศไทยเป็นการเร่งด่วน ไม่สามารถรอรับหนังสือเดินทางได้ สถานทูตสถานกงสุลจะออกเอกสารเดินทาง (Certificate of Identity) ให้ใช้เดินทางกลับประเทศไทยได้ครั้งเดียว เมื่อกลับถึงประเทศไทยแล้วเอกสารเดินทางจะหมดอายุการใช้งานทันที
วันเวลา และสถานที่ที่สามารถติดต่อทำหนังสือเดินทางได้
กรมการกงสุล
123 ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210
โทรศัพท์ 0 2981 7257
วันจันทร์-ศุกร์ 08.00-15.30 น.
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ปิ่นเกล้า
อาคาร SC Plaza สถานีขนส่งกรุงเทพ (สายใต่ใหม่) ถนนบรมราชชนนี
โทรศัพท์ 0 2422 3431
วันจันทร์-ศุกร์ 08.30-15.30 น.
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว บางนา
ศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ ชั้น 2 โซน E
โทรศัพท์ 0 2136 3800-01
วันจันทร์-ศุกร์ 08.30-15.30 น.
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว มีนบุรี
ศูนย์การค้าบิ๊กซี สุวินทวงศ์ ชั้น 2 แขวงมีนบุรี กรุงเทพฯ 10510
โทรศัพท์ 0 2024 8362
วันจันทร์-ศุกร์ 08.30-15.30 น.
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดขอนแก่น
ศูนย์ราชการจังหวัดขอนแก่น ถนนศูนย์ราชการ จังหวัดขอนแก่น
โทรศัพท์ 0 4324 2707, 0 4324 2655
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดขอนแก่น
ศูนย์ราชการจังหวัดขอนแก่น ถนนศูนย์ราชการ จังหวัดขอนแก่น
โทรศัพท์ 0 4324 2707, 0 4324 2655
วันจันทร์-ศุกร์ 08.30-16.30 น.
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดเชียงใหม่
ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ถนนโชตนา ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
โทรศัพท์ 0 5389 1535-6
วันจันทร์-ศุกร์ 08.00-16.30 น.
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดเชียงราย
อาคารองค์การบริหารส่วนจังหวัดหลังใหม่ ถนนศูนย์ราชการ ตําบลริมกก อําเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
โทรศัพท์ 053 175 375
โทรศัพท์ 053 175 375
วันจันทร์-ศุกร์ 08.00-16.30 น.
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดสงขลา
ศาลากลางจังหวัดสงขลา (หลังเก่า) ชั้น 1 ถนนราชดำเนิน อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา 9000
โทรศัพท์ 0 7432 6510
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดสงขลา
ศาลากลางจังหวัดสงขลา (หลังเก่า) ชั้น 1 ถนนราชดำเนิน อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา 9000
โทรศัพท์ 0 7432 6510
วันจันทร์-ศุกร์ 08.00-16.30 น.
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดอุบลราชธานี
อาคารสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัด
โทรศัพท์ 0 4534 4581-2
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดอุบลราชธานี
อาคารสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัด
โทรศัพท์ 0 4534 4581-2
วันจันทร์-ศุกร์ 08.00-16.30 น.
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ศาลาประชาคม ถนนหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84000
โทรศัพท์ 0 7727 4940, 0 7727 4942-3
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ศาลาประชาคม ถนนหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84000
โทรศัพท์ 0 7727 4940, 0 7727 4942-3
วันจันทร์-ศุกร์ 08.00-16.30 น.
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดนครราชสีมา
ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ถนนมหาดไทย อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา 30000
โทรศัพท์ 0 4424 3132 , 0 4424 3124
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดนครราชสีมา
ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ถนนมหาดไทย อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา 30000
โทรศัพท์ 0 4424 3132 , 0 4424 3124
วันจันทร์-ศุกร์ 08.00-16.30 น.
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดอุดรธานี
ศูนย์อเนกประสงค์ ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี (ตรงข้ามกับศาลหลักเมือง) ถนนอธิบดี อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี 41000
โทรศัพท์ 0 4221 2827, 0 4221 2318
วันจันทร์-ศุกร์ 08.00-16.30 น.
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดพิษณุโลก
ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ถนนเทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก 65000
โทรศัพท์ 0 5525 8173, 0 5525 8155
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดอุดรธานี
ศูนย์อเนกประสงค์ ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี (ตรงข้ามกับศาลหลักเมือง) ถนนอธิบดี อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี 41000
โทรศัพท์ 0 4221 2827, 0 4221 2318
วันจันทร์-ศุกร์ 08.00-16.30 น.
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดพิษณุโลก
ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ถนนเทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก 65000
โทรศัพท์ 0 5525 8173, 0 5525 8155
วันจันทร์-ศุกร์ 08.00-16.30 น.
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดยะลา
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ถนนสุขยางค์ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา 95000
โทรศัพท์ 0 7327 4526 , 0 7327 4036
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดยะลา
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ถนนสุขยางค์ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา 95000
โทรศัพท์ 0 7327 4526 , 0 7327 4036
วันจันทร์-ศุกร์ 08.00-16.30 น.
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดภูเก็ต
ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ถนนนริศร อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต 83000
โทรศัพท์ 0 7622 2080-81
วันจันทร์-ศุกร์ 08.00-16.30 น.
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว เมืองพัทยา
ศูนย์การค้า ดิ อเวนิว ชั้น 1 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี 20150
โทรศัพท์ 0 3842 2438
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว เมืองพัทยา
ศูนย์การค้า ดิ อเวนิว ชั้น 1 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี 20150
โทรศัพท์ 0 3842 2438
วันจันทร์-ศุกร์ 10.00-18.00 น.
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดนครสวรรค์
ศูนย์บริการร่วมจังหวัดนครสวรรค์ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ถนนพหลโยธิน อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ 60000
โทรศัพท์ 0 5623 3453-4
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดนครสวรรค์
ศูนย์บริการร่วมจังหวัดนครสวรรค์ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ถนนพหลโยธิน อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ 60000
โทรศัพท์ 0 5623 3453-4
วันจันทร์-ศุกร์ 08.00-16.30 น.
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดจันทบุรี
อาคารลานค้าชุมชน ถนนเลียบเนิน ตำบลวัดใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี 22000
โทรศัพท์ 039 301 706-9
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดจันทบุรี
อาคารลานค้าชุมชน ถนนเลียบเนิน ตำบลวัดใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี 22000
โทรศัพท์ 039 301 706-9
วันจันทร์-ศุกร์ 08.00-16.30 น.
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำหนังสือเดินทาง
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำหนังสือเดินทางใหม่ได้ที่เว็บไซต์ consular.go.th หรือกรมการกงสุล โทรศัพท์ 0 2981 7257
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำหนังสือเดินทาง
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำหนังสือเดินทางใหม่ได้ที่เว็บไซต์ consular.go.th หรือกรมการกงสุล โทรศัพท์ 0 2981 7257
หวัง ว่ารายละเอียดข้างต้น จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่สนใจไม่มากก็น้อยนะคะ ใครที่มีความฝันอยากจะไปเยือนต่้างประเทศ ก็ลองไปทำพาสปอร์ตด้วยตัวเองกันได้เลย ไม่ยากอย่างที่คิดแน่นอน :)
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง ข้อมูล ณ วันที่ 27 กรกฎาคม 2559
ขอบคุณข้อมูลจาก
consular.go.th