แนะนำที่เที่ยวเดือนมิถุนายน 2565 ชุ่มฉ่ำไปกับที่เที่ยวหน้าฝนสวย ๆ ทั่วไทย เทศกาลต่าง ๆ และทุ่งดอกไม้แสนสวย เที่ยวได้แบบเพลิน ๆ
พอถึงเดือนมิถุนายน ของทุกปี ถือว่าเป็นการเข้าสู่หน้าฝนอย่างเต็มตัวกันแล้ว สายฝนเริ่มโปรยปรายให้ได้ชุ่มฉ่ำกันอย่างถ้วนหน้า นักท่องเที่ยวจำนวนมากจึงไม่ชอบออกเดินทางไปเที่ยวในช่วงเดือนนี้ แต่หารู้ไม่ว่าเดือนมิถุนายนนี่แหละ เป็นเดือนที่ธรรมชาติป่าเขา น้ำตก และทุ่งนาพร้อมใจกันเขียวขจีสวยงามที่สุด ทำให้ผู้พบเห็นเหมือนได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ หากลองเปิดใจออกไปเที่ยวในฤดูนี้ดูสักครั้ง รับรองว่าจะติดใจแน่นอน ส่วนจะมีที่ไหนบ้างนั้น มาดูไปพร้อม ๆ กันเลย
1. บ้านป่าบงเปียง จังหวัดเชียงใหม่
ชมความอลังการของนาขั้นบันไดที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดในประเทศไทย กับบ้านป่าบงเปียง อำเภอแม่แจ่ม ซึ่งเป็นพื้นที่ของนาขั้นบันได โดยสามารถมองเห็นวิวสวย ๆ ของท้องทุ่งนาสีเขียวบนเนินภูเขาสูงพร้อมกับภูเขาที่อยู่สลับซับซ้อนกันไปได้ ยิ่งถ้ามาในช่วงฤดูฝนด้วยแล้ว จะเป็นช่วงที่เหมาะมาก ๆ กับการมาสัมผัสบรรยากาศความอุดมสมบูรณ์ของภูเขาและป่าไม้ ได้ยลหมอกยามเช้า จิบกาแฟชิล ๆ รับเช้าวันใหม่พร้อมชมวิวไปพลางได้ด้วย สายธรรมชาติต้องถูกใจที่นี่อย่างแน่นอน
2. ภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์
สำหรับใครที่หลงรักธรรมชาติ ภูเขา และทุ่งหญ้าสีเขียวขจี บอกเลยว่าเดือนมิถุนายนเป็นสวรรค์สำหรับคุณแล้ว เพราะเป็นช่วงที่ป่าเขามีความชุ่มฉ่ำเขียวชอุ่มจากหยาดฝนที่โปรยปรายลงมา ต้นไม้ใบหญ้าก็ผลิดอกออกใบเบ่งบานอวดความสวยงาม โดยเฉพาะ ภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ถือเป็นหนึ่งในลิสต์ต้องห้ามพลาดของนักเดินป่าในประเทศไทย ด้วยสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อน อากาศเย็นสบาย และมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกภูสอยดาว ลานสนสามใบ และทุ่งดอกไม้ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยดอกไม้ป่านานาพรรร หมุนเวียนกันผลิดอกออกไปตามช่วงฤดูกาล โดยดอกไม้ที่เป็นที่นิยมและดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นไปชมกันมาก คือ ดอกหงอนนาคสีม่วงอ่อน ซึ่งจะเริ่มบานในช่วงกลางเดือนมิถุนายน และจะบานเต็มที่ในเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน ของทุกปี
3. ภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก
อุทยานแห่งชาติที่วางตัวอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัด ในอดีตเคยเป็นสมรภูมิรบอันยิ่งใหญ่ที่ถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ไทยอย่างไม่มีวันลืมเลือน แต่ปัจจุบันคงเหลือไว้เพียงความสงบ ร่มรื่น และความสวยงามของธรรมชาติป่าเขามาพร้อมกับทิวทัศน์สวยงาม ซึ่งปกคลุมด้วยป่าเต็งรัง ป่าดิบเขา และป่าสนเขาที่มีสนสองใบและสนสามใบขึ้นปะปนกัน นอกจากนี้ยังพบกล้วยไม้ดอกไม้ป่าหลายชนิดขึ้นอยู่ตามลานหินด้วย ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถศึกษาประวัติศาสตร์และนิทรรศการการใช้ชีวิตและการสู้รบของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยที่พิพิธภัณฑ์ซึ่งตั้งอยู่บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวได้ และในบริเวณใกล้เคียงยังมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่างสุสานทหาร กังหันน้ำสำหรับสีข้าว น้ำตกร่มเกล้า-ภราดร ลานหินแตก ลานหินปุ่ม น้ำตกศรีพัชรินทร์ และน้ำตกหมันแดงด้วย
4. ภูป่าเปาะ จังหวัดเลย
พาไปดูฟูจิเมืองเลยกันที่ภูป่าเปาะ อำเภอหนองหิน เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพ ภูเขาเมืองเลยได้เกือบทั้งหมด เช่น ภูหลวง ภูกระดึง ภูยอง ภูผาขวาง ภูค้อ ภูกระแต สวนหินผางาม ภูผาม่าน เป็นต้น อีกทั้งยังมีจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกสุดประทับใจ ยิ่งถ้าขึ้นไปในช่วงหน้าฝนที่ตอนเช้าจะมีทะเลหมอกสีขาวเหมือนปุยฝ้ายปกคลุมภู ดูงดงามราวกับหิมะ ช่างเป็นภาพที่สวยงามตื่นตาตื่นใจอย่างมาก โดยจุดสำคัญของภูป่าเปาะที่หลายคนต้องมาเช็กอินในช่วงหน้าฝนนี้คือ จุดชมวิวภูหอ ซึ่งเป็นภูเขายอดตัดที่มีรูปร่างคล้ายภูเขาไฟฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น จนเป็นที่มาของชื่อ ฟูจิเมืองเลย นั่นเอง
ภาพจาก vespaFoto / Shutterstock.com
5. เที่ยวทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ
เมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าฝน คนรักดอกไม้ไม่ควรพลาดกับการไปเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียว หรือดอกบัวสววรค์ ที่ในหนึ่งปีจะมีแค่หนึ่งครั้งเท่านั้น ที่ดอกกระเจียวทั้งสีชมพู สีม่วง และสีขาว จะเบ่งบานสะพรั่งอวดความงามให้นักท่องเที่ยวได้ชมอย่างจุใจ ซึ่งเป้าหมายส่วนใหญ่ที่นักท่องเที่ยวตั้งเป้าไว้สำหรับการไปดูดอกกระเจียวคือ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม และ อุทยานแห่งชาติไทรทอง โดยจะเริ่มบานในช่วงกลางเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม และเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติไทรทอง
6. ล่องแก่ง กิจกรรมแอดเวนเจอร์สุดมัน
พอเข้าสู่ช่วงหน้าฝน ในเดือนมิถุนายน จะเป็นฤดูที่มีน้ำมาก ทำให้เหมาะสมกับกิจกรรมแอดเวนเจอร์สุดหวาดเสียวอย่างการล่องแก่ง เพราะได้ทั้งความสนุกสนานตื่นเต้น ได้เย็นกายคลายร้อนไปกับสายน้ำไหล และชมวิวสวย ๆ ของธรรมชาติสองข้างทางด้วย ทั้งนี้ ก่อนการวางแผนล่องแก่งแต่ละครั้ง ควรสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ให้ละเอียด เพื่อประเมินว่าปริมาณน้ำในสถานที่นั้นสามารถล่องแก่งได้หรือไม่ หากประเมินว่าอันตรายเกินไป ก็ไม่สามารถเล่นได้ ส่วนสถานที่ล่องแก่งจะมีที่ไหนกันบ้าง เรามีตัวอย่างมาฝากกัน ดังนี้
- ล่องแก่งลำน้ำเข็ก จังหวัดพิษณุโลก : เป็นสถานที่ยอดนิยมในจังหวัดพิษณุโลก โดยเริ่มจากระยะน้ำนิ่ง (ระดับ 1) ไปถึงระดับสูง (ระดับ 5) ตามลำดับ โดยไฮไลต์จะมีอยู่ 3 แก่ง คือ แก่งซาง ที่กระแสน้ำลดระดับลงเรื่อย ๆ แล้วจู่ ๆ จะหักศอกเลี้ยวซ้าย นับเป็นจุดเริ่มต้นความเร้าใจได้ดี แก่งนางคอย แก่งนี้นักล่องแก่งต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เพราะเป็นแก่งที่เต็มไปด้วยโขดหิน และ แก่งยาว ได้ชื่อนี้เพราะมีระยะทางยาวประมาณ 100 เมตร มีจุดที่ลดระดับลาดเอียงเทลงแบบฉับพลัน
ภาพจาก propae / Shutterstock.com
- ล่องแก่งหินเพิง จังหวัดปราจีนบุรี : เป็นบริการล่องแก่งเรือยาง ที่จะนำพานักท่องเที่ยวบุกตะลุยฝ่าสายน้ำเชี่ยวสีเขียวอ่อน ใส และสวยงาม ลอยละลิ่วผ่านแก่งซึ่งมีความยากในระดับ 3-5 จำนวนทั้งหมด 7 แก่ง ได้แก่ แก่งหินเพิง แก่งผักหนามล้อม แก่งวังยาว แก่งลูกเสือ แก่งวังบอน แก่งวังไทร และแก่งงูเห่า รวมเป็นระยะทางล่องแก่งนับจากจุดเริ่มต้นไปจนถึงจุดสิ้นสุดประมาณ 5 กิโลเมตร
ภาพจาก Film photo / Shutterstock.com
- ล่องแก่งแม่น้ำนครนายก จังหวัดนครนายก : มีระดับความยากและง่ายตั้งแต่ระดับ 3-5 สร้างความสนุกได้ทุกเพศทุกวัย แก่งต่าง ๆ ที่จะล่องผ่าน ได้แก่ แก่งโขดคุ้ง เกาะแก่ง สองแก่งนี้มีลักษณะเป็นโขดหินโผล่ขึ้นเหนือน้ำในช่วงฤดูร้อน และในช่วงฤดูฝนกระแสน้ำจะท่วมจนมองไม่เห็น แก่งสุดท้ายที่ถือว่าเป็นไฮไลต์ของการล่องแก่งแห่งนี้คือ แก่งหินสามชั้น ก่อนจะถึงตัวแก่งสามชั้นระยะทางไม่กี่เมตรจะถึงโค้งหักศอกก่อน ซึ่งนักล่องแก่งต้องระมัดระวังตัวและพยายามบังคับฝีพายดี ๆ เพราะจากนี้จะได้พบกับแก่งหินสามชั้นที่มีลักษณะเทลาดเอียงลงมาเป็นขั้นบันได มีระยะทางยาวประมาณ 50 เมตร กระแสน้ำจะไหลวนลงมากระทบกับโขดหินน้อยใหญ่ที่จมอยู่ใต้น้ำ จนเกิดเป็นลูกคลื่นม้วนตัวเข้าหาหินสูง ประมาณ 1 เมตร นับเป็นจุดท้าทายของนักพายเรือคายักและแคนู ซึ่งจะมาประลองกำลังความสามารถกันที่บริเวณแก่งสามชั้นแห่งนี้
ภาพจาก 895Studio / Shutterstock.com
7. นอนแพริมน้ำ จังหวัดกาญจนบุรี
เมืองกาญฯ ในช่วงหน้าร้อนบอกเลยว่า ร้อนจนต้องร้องขอชีวิต แต่พอเข้าสู่ช่วงหน้าฝน ก็ฟินไม่เป็นสองรองใครเหมือนกัน ใครอยากนอนพักผ่อนคลายไปกับเสียงน้ำไหล ตื่นเช้ามาดูสายหมอกหยอกเย้าเพลิน ๆ แนะนำให้ไปลองนอนแพริมน้ำกัน ซึ่งสามารถเลือกได้ทั้งแพสุดชิลและสงบริมน้ำไทรโยค แพบรรยากาศดีริมแม่น้ำแคว แพที่มีกิจกรรมทางน้ำสนุก ๆ ให้ทำในอำเภอศรีสวัสดิ์ หรือแพส่วนตัวที่จะล่องไปในเขื่อนวชิราลงกรณ์ ใครชอบแบบไหน ก็จัดได้ตามชอบ เรียกว่าเป็นการมาเที่ยวที่ได้ทั้งความผ่อนคลาย และได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมาก ๆ อีกด้วย
8. เขากระโจม จังหวัดราชบุรี
จังหวัดใกล้ ๆ กรุงเทพฯ อย่างราชบุรี ขับรถแค่ไม่กี่ชั่วโมง ก็ทำให้ฟินได้ในช่วงหน้าฝนแล้ว ยิ่งได้ขึ้นไปสูดอากาศบริสุทธิ์บนยอดเขากระโจม รับลมเย็น ๆ ชมหมอกหนา และดูพระอาทิตย์ขึ้น ก็นับเป็นการฮีลร่างกายและจิตใจที่ดีเลยทีเดียว ทั้งนี้ เขากระโจม ตั้งอยู่ในอำเภอสวนผึ้ง ด้วยระดับความสูง 1,045 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้เขาแห่งนี้กลายเป็นจุดชมทะเลหมอกที่ใกล้กรุงเทพฯ มาก โดยการเดินทางขึ้นเขากระโจมจำเป็นต้องใช้รถโฟร์วิล และต้องมีคนขับที่ชำนาญทาง เพราะทางขึ้นเป็นดินแดงที่มีรอยแยกขนาดใหญ่ไปเกือบตลอดทาง นับเป็นเส้นทางที่โหดพอสมควร แม้จะไม่ต้องเดินลุยป่า แต่ก็แอดเวนเจอร์ระดับหนึ่งเลย
9. อ่างเก็บน้ำวังบอน จังหวัดนครนายก
เอาใจสายกางเต็นท์ เสพธรรมชาติกันบ้าง กับลานกางเต็นท์ใกล้กรุงเทพฯ สุด ๆ แค่นครนายกนี่เอง กับอ่างเก็บน้ำวังบอน ที่เป็นทั้งอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณตีนทางขึ้นเขาใหญ่ และจุดกางเต็นท์ริมน้ำ อากาศเย็นสบาย และมีกิจกรรมสนุก ๆ ให้ทำมากมาย เช่น พายเรือคายักรอบอ่างเก็บน้ำ เล่นน้ำตกใสไหลเย็น นอนดูดาวพร่างพราวในยามค่ำคืน ยิ่งถ้ามาในช่วงหน้าฝน ก็ยิ่งฟินไปกับสายหมอกจาง ๆ ที่ลอยอยู่เหนืออ่างเก็บน้ำด้วย ขับออกมาจากกรุงเทพฯ แค่ 2 ชั่วโมงนิด ๆ ก็ได้พักผ่อนชาร์จแบตร่างกาย ให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟูความเหนื่อยล้าจากการทำงานแล้ว
ภาพจาก AfriramPOE / Shutterstock.com
10. น้ำตกโกรกอีดก จังหวัดสระบุรี
เมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าฝน ก็ถือว่าเป็นช่วงไฮซีซั่นสำหรับการท่องเที่ยวน้ำตกต่าง ๆ เพราะเป็นช่วงเวลาที่มีน้ำเยอะและไหลแรง ต้นไม้ใบหญ้าได้น้ำท่าสมบูรณ์ ผลิดอกออกใบอวดความเขียวชอุ่มไปทั่ว ซึ่งหนึ่งในน้ำตกที่น่าไปในช่วงเดือนมิถุนายนคือ น้ำตกโกรกอีดก น้ำตกลับที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าของอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินป่าและรักการถ่ายภาพสไตล์มาโคร โดยไฮไลต์ของน้ำตกแห่งนี้ที่หลายคนอยากมาบันทึกความทรงจำไว้ด้วยภาพถ่ายคือ เห็ดแชมเปญ สีสวย ซึ่งจะบานให้เห็นได้ระหว่างทางเดินเข้าไปในน้ำตกนั่นเอง
11. งานเปิดโลกใต้ทะเลเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ใครว่าหน้าฝนเที่ยวทะเลไม่ได้ ต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่แล้ว เพราะในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนกันยายน ของทุกปี จะเป็นช่วงที่ทะเลฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง อย่างเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า และเกาะนางยวน รอดพ้นจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้มีสภาพอากาศที่สดใส คลื่นลมสงบ เหมาะแก่การไปเที่ยวอย่างมาก โดยเฉพาะที่เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี จะมีงานเปิดโลกใต้ทะเลเกาะเต่า ซึ่งเป็นงานประจำปีที่จัดขึ้นประมาณกลางเดือนมิถุนายน ของทุกปี เพื่อเป็นการแสดงออกถึงการมีส่วนร่วมของชุมชนในการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ และส่งเสริมให้เกาะเต่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายในงานจะมีการจัดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีเกาะเต่า การเข้าสู่ความของโลกปะการังใต้ท้องทะเล มุ่งเน้นให้ได้รับรู้ถึงความรักและหวงแหน แสดงออกถึงการมีส่วนร่วมในการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติของทรัพยากรเกาะเต่า เพื่อให้เกาะเต่าเป็นสวรรค์กลางทะเลอ่าวไทยตลอดไป
12. เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
หน้าฝนนอกจากจะขึ้นเหนือไปดูหมอกลอยละลิ่วแล้ว ยังมาชิลกันที่ทะเลใต้ได้อยู่นะ กับเกาะพะงัน ที่มีทั้งความสวยงามของโลกใต้ท้องทะเลและได้เฮฮากับปาร์ตี้สุดมันอย่างฟูลมูลปาร์ตี้ที่จัดขึ้นเป็นประจำในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง ใครที่ชื่นชอบทะเล อยากดำน้ำดูปะการังแบบใกล้ ๆ ต้องไม่พลาดที่นี่เลย เพราะเกาะพะงันก็มีจุดดำน้ำตื้นที่สวยงามอยู่หลายจุด รวมถึงยังมีที่เที่ยวทางธรรมชาติอย่างน้ำตกธารเสด็จ น้ำตกแพง หรือจุดชมวิวสวย ๆ ที่ยังรอให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมอีกมากมาย หรือใครที่เป็นสายปาร์ตี้ บอกเลยว่าห้ามพลาดงานปาร์ตี้ฟูลมูน เพราะเป็นงานชุมนุมของเหล่าผู้คนที่สนุกสุดเหวี่ยงแห่งหนึ่งในไทย จนเป็นหนึ่งในบัคเก็ต ลิสต์ของหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ต้องมาเที่ยวให้ได้สักครั้ง หน้าฝนนี้ใครอยากเที่ยวทะเล ก็ให้เกาะพะงันอยู่ในลิสต์ด้วยนะ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
ภาพจาก Craveleo / Shutterstock.com
13. น้ำตกปาโจ จังหวัดนราธิวาส
ใต้สุดแดดสยามอย่างนราธิวาส ก็มีน้ำตกสวย ๆ ที่รอให้ไปเที่ยวชมอยู่อย่าง น้ำตกปาโจ ตั้งอยู่ในตำบลบาเจาะ อำเภอบาเจาะ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ของผืนป่าบูโด มีน้ำไหลกันตลอดทั้งปีเลย ซึ่งน้ำตกของที่นี่จะมีทั้งหมด 4 ชั้นด้วยกัน ในชั้นแรกจะมีขนาดใหญ่และสวยงดงามที่สุด เป็นความสวยของสายน้ำที่ไหลจากลานผาหินกว้างซึ่งสูงถึง 60 เมตร ก่อนจะลงสู่แอ่งน้ำใหญ่ โดยในช่วงหน้าฝน หรือตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนธันวาคม จะเป็นช่วงที่น้ำตกมีความสวยงามที่สุด เพราะมีน้ำหลาก และสภาพป่าก็จะเขียวชอุ่มชุ่มชื้น มีพันธุ์ไม้มากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น กะลอ หลุมพอ หวาย ปาล์ม รวมไปถึงสัตว์ต่างๆ เช่น ค่างแว่นถิ่นใต้ นกกาฝากท้องสีส้ม เป็นต้น นอกจากนี้ยังมี ย่านดาโอ๊ะ หรือใบไม้สีทอง ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ที่ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกของโลกเลย โดยลักษณะของใบจะปกคลุมด้วยขนกำมะหยี่ มีสีทองหรือสีทองแดงเหลือบ ๆ เป็นประกายสวยงามเมื่อแสงส่องถึง สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล และจะอยู่ที่ด้านหน้าของน้ำตก จนกลายเป็น Unseen จากธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวอยากจะไปดูให้เห็นด้วยตาสักครั้งหนึ่ง
14. กินบุฟเฟ่ต์ผลไม้ จังหวัดระยอง-จันทบุรี
ดือนมิถุนายน นับเป็นช่วงที่ฝนตกชุก อากาศดี สวนผลไม้ในภาคตะวันออกอย่างระยองและจันทบุรีต่างก็ออกผลผลิตรสเลิศ ทั้งทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง และอีกมากมาย ที่รอให้คนรักผลไม้ไปลองลิ้มชิมรสกัน หลายสวนเปิดสวนทำเป็นบุฟเฟ่ต์ผลไม้ เอาใจนักท่องเที่ยวให้ได้ชมสวน ชิมผลไม้สด ๆ จากต้น และซื้อกลับบ้านได้ด้วย บางสวนก็ใช้สื่อโซเชียลให้เป็นประโยชน์โดยการเปิดให้สั่งจองออนไลน์และเดลิเวอรี่ผลไม้สด ๆ ส่งตรงถึงหน้าบ้านด้วย
15. ชมโลกใต้ทะเล สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ
ในช่วงเดือนมิถุนายน นับเป็นช่วงมรสุมที่ทะเลในหลาย ๆ จังหวัด ไม่สามารถเที่ยวได้ แต่ถ้าใครอยากดูชีวิตของเหล่าสัตว์ทะเลแบบใกล้ชิด ก็สามารถไปเที่ยวชมได้ที่สถานจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้ ๆ ได้ ตัวอย่างเช่น
ภาพจาก i viewfinder / Shutterstock.com
- พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำบางแสน จังหวัดชลบุรี : ขยับออกมาไม่ไกลจากกรุงเทพฯ นักกับ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา หรือที่เรียกกันคุ้นปากว่า พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำบางแสน ซึ่งภายในแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ทางทะเล สถานเลี้ยงสัตว์น้ำเค็ม และห้องปฏิบัติการวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเล โดยในส่วนของพิพิธภัณฑ์จะเปิดให้เข้าชมความสวยงามของโลกใต้ทะเล ให้ได้เดินสำรวจฝูงปลาทะเลหายาก ดูปลากระเบน ชมปะการัง ส่องแมงกะพรุน นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมพิเศษอย่างโชว์สาธิตการดำน้ำให้อาหารปลา ถ่ายรูปคู่นักดำน้ำ และให้อาหารปลาปากบ่อด้วย
ภาพจาก ultrapok / Shutterstock.com
ภาพจาก Extarz / Shutterstock.com
เป็นอย่างไรกันบ้าง กับ 15 ที่เที่ยวสวย ๆ ในเดือนมิถุนายนจากทั่วทุกภาคที่เรานำมาฝากกัน อย่าปล่อยให้หน้าฝนเป็นช่วงเวลาที่ห่อเหี่ยว ลองเปิดใจออกไปเที่ยวในช่วงเวลาที่แสนชุ่มฉ่ำนี้ดู แล้วคุณจะรู้ว่า เมื่อสายฝนโปรยปรายลงมาเมื่อไร ธรรมชาติก็ยิ่งสวยสดงดงามขึ้นเมื่อนั้น
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
tatcontactcenter.com, เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม, เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติไทรทอง, tournakhonnayok.com, เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ - Khao Yai National Park, เฟซบุ๊ก ททท. สำนักงานพิษณุโลก, kohtaocompleteguide.com, kanchanaburi.go.th, เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว - Phu soi dao National Park, เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า - Phu Hin Rong Kla National Park, เฟซบุ๊ก SEA LIFE Bangkok Ocean World, เฟซบุ๊ก สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล, เฟซบุ๊ก สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง, เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี Budo Su ngai Padi National Park, สำนักงานจังหวัดเลย, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเกาะพะงัน, เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติธารเสด็จ-เกาะพะงัน
