รวบรวมที่เที่ยวเดือนพฤศจิกายน 2563 ต้อนรับสายลมหนาว มีทั้งทะเล ภูเขา เส้นทางดอกไม้ ย่านเก่าแก่น่าเดิน รวมทั้งเทศกาลที่ห้ามพลาดอีกมากมาย
เดือนพฤศจิกายน เป็นอีกหนึ่งเดือนที่เหมาะแก่การออกไป
ท่องเที่ยวสัมผัสสายลมหนาว ขึ้นดอยไปชมทะเลหมอกขาวโพลนคลอเคลียขุนเขา หรือยลโฉมความงดงามของทุ่งดอกไม้นานาพรรณ รวมถึงร่วมเทศกาลและงานประเพณีต่าง ๆ แต่สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี วันนี้่เราหยิบเอาที่เที่ยวเดือนพฤศจิกายนแจ่ม ๆ มาแนะนำกัน เริ่มที่...
1. งานเทศกาลดอกบัวตองบาน บนดอยแม่อูคอ จังหวัดแม่ฮ่องสอน
เดือนพฤศจิกายนชวนไปเที่ยว “งานเทศกาลดอกบัวตองบาน บนดอยแม่อูคอ” ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน - 15 ธันวาคม 2563 ณ ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งจะมีพิธีเปิดงานในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 โดยผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุก พร้อมทั้งมีสินค้าพื้นเมืองให้เลือกซื้อในบริเวณที่จัดไว้
ทั้งนี้ ดอกบัวตองจะเริ่มทยอยบานไปจนถึงต้นเดือนธันวาคม การเที่ยวชมทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปที่จุดชมวิวที่หน่วยงานท้องถิ่นจัดไว้ให้ได้ ซึ่งจะมีเส้นทางเดินลัดเลาะไปรอบ ๆ ทุ่งดอกบัวตอง ทำให้สามารถถ่ายภาพได้หลากหลายมุม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เฟซบุ๊ก องค์การบริหารส่วนตำบลแม่อูคอ
2. เส้นทางดอกไม้จังหวัดเชียงใหม่
เชียงใหม่ เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีสวนดอกไม้นานาพรรณให้ได้ไปยลโฉมกับความงดงาม ซึ่งช่วงเดือนพฤศจิกายนดอกไม้ต่าง ๆ ก็เริ่มบานสะพรั่งกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็น
- สวนดอกมาร์กาเร็ตและสวนดอกคัตเตอร์ อำเภอแม่ริม มีสวนดอกไม้ที่น่าสนใจ เช่น I love flower farm, ไร่กลิ่นเกสร, กู๊เนียร์ ฟอร์เร็ชท, สวนดอกไม้ลุงจั๋น, สวนดอกไม้ลุงผล, สวนน้ากล้า, สวนดอกไม้ป้ายัน, สวนดอกไม้ป้านกเอี้ยง, สวนลุงรน, สวนดอกไม้ลุงอ้าย ป้าแหม่ม และบ้านนาฟลาวเวอร์ เป็นต้น
- ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ใกล้กับโครงการหลวงขุนแปะ มีชาวบ้านหลายครอบครัวที่อยู่รอบ ๆ ได้ปลูกดอกไฮเดรนเยียไว้เพื่อจำหน่าย และได้พัฒนาให้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ชาวบ้านจะสลับกันปลูกและเก็บเกี่ยวไปตลอดทั้งปี โดยเฉพาะฤดูหนาวที่ดอกจะสวยสมบูรณ์ บานเยอะกว่าฤดูอื่น ๆ นักท่องเที่ยวสามารถที่จะขับรถไปจอดไว้ได้ที่โครงการหลวงขุนแปะ แล้วจะมีรถของชาวบ้านพาไปยังสวนดอกไฮเดรนเยีย
- ทุ่งดอกเก๊กฮวย อำเภอสะเมิง แหล่งปลูกดอกเก๊กฮวยสีขาวขนาดใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่ โดยชาวบ้านในพื้นที่จะปลูกดอกเก๊กฮวยช่วงปลายฝนต้นหนาวเป็นประจำทุกปี แล้วจะเก็บดอกเพื่อนำไปจำหน่าย ซึ่งช่วงที่ดอกเก๊กฮวยบาน บางไร่ก็จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวถ่ายรูปละมุน ๆ กับดอกเก๊กฮวยนับพันนับหมื่นดอก ตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้า เป็นมุมที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
3. ดอยภูแว จังหวัดน่าน
หากหลงรักการเดินทางแบบผจญภัยและหลงใหลในป่าเขา ขอแนะนำให้ไปพิชิตยอด “ดอยภูแว” ภูเขาสูงในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา จังหวัดน่าน กันสักครั้ง เพราะที่นี่เป็นอีกหนึ่งยอดดอยที่สวยงาม มีความสูง 1,837 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นยอดดอยที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น มีลักษณะเป็นทุ่งหญ้าสลับกับโขดหินปูน มีหน้าผาสูงชัน รวมทั้งมีเส้นทางเดินป่าสุดหวาดเสียวที่ลัดเลาะสันเขาขึ้นไปยังจุดชมวิว โดยที่จุดชมวิวจะสามารถมองเห็นทะเลหมอกได้แบบ 360 องศา ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นและตกอย่างสวยงาม โดยในช่วงฤดูหนาวจะมีความสวยงามมาก
การเดินทางโดยทางรถยนต์ จากที่ทำการอุทยานไปถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติภูคาที่ 9 (บ้านด่าน) ระยะทางประมาณ 63 กิโลเมตร และเดินเท้าขึ้นยอดดอยภูแวประมาณ 6 กิโลเมตร (มีลูกหาบให้บริการ) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
อุทยานแห่งชาติดอยภูคา - Doi Phu Kha National Park
4. เที่ยวไร่ชา จังหวัดเชียงราย
ด้วยลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดเชียงรายเป็นภูเขาสูง มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี เหมาะสมที่จะปลูกชา จึงทำให้มีไร่ชากระจายตัวอยู่ทั่วจังหวัด นอกจากจะผลิตชาคุณภาพดีเพื่อการส่งออกทั้งในประเทศและต่างประเทศแล้ว ไร่ชาบางแห่งยังเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมอีกด้วย ดังนี้
- สิงห์ปาร์ค เชียงราย ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่กรณ์ อำเภอเมือง มีเนื้อที่การปลูกชากว่า 600 ไร่ ซึ่งเป็นชาอู่หลงสายพันธุ์จินซวน (Jin Xuan) นอกจากวิวที่งดงามของไร่ชาแล้ว บริเวณโดยรอบยังจัดแต่งด้วยการปลูกต้นไม้ ดอกไม้อย่างสวยงาม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Singha Park Chiang Rai สิงห์ปาร์ค เชียงราย
- ไร่ชาฉุยฟง บนเนื้อที่ตามเนินเขาของตำบลป่าซาง อำเภอแม่จัน มากกว่า 1,000 ไร่ เต็มไปด้วยไร่ชาคุณภาพ ด้วยความที่ตั้งอยู่เหนือกว่าระดับน้ำทะเลมากถึง 1,200 เมตร พร้อมทั้งสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของชา จึงทำให้ชาที่นี่มีรสชาติอร่อยกลมกล่อม มีความหอมเป็นเอกลักษณ์ การันตีคุณภาพจากรางวัลต่าง ๆ ตลอดมา ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เฟซบุ๊ก CHOUI FONG TEA
- ไร่ชา 101 เป็นไร่ชาอู่หลงคุณภาพดีของเมืองไทย ตั้งอยู่ที่ดอยแม่สลอง อำเภอแม่ฟ้าหลวง ต้นชานับพันนับหมื่นต้นเรียงรายกันเป็นแนวยาว ลดหลั่นกันลงมาตามเชิงเขา ในฤดูหนาวไร่ชาจะถูกปกคลุมไปด้วยสายหมอกมากมาย อากาศหนาวเย็น สุดโรแมนติก และเมื่อไปถึงที่นี่แล้วก็ต้องไม่พลาดที่จะลิ้มรสชาไทย คุณภาพดีเยี่ยม กลิ่นหอมละมุน พร้อมกับผลิตภัณฑ์จากใบชาอีกมากมาย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เฟซบุ๊ก ไร่ชา101 ดอยแม่สลอง
ภาพจาก Chingfoto / Shutterstock.com
- ไร่ชาวังพุดตาล เป็นไร่ชาที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของจังหวัด ตั้งอยู่บนดอยสูงในเขตพื้นที่ดอยแม่สลอง อำเภอแม่ฟ้าหลวง มีทัศนียภาพของไร่ชาที่สวยงาม ปลูกเรียงรายลดหลั่นกันลงมาตามเนินเขาเป็นบริเวณกว้าง บริเวณด้านหน้าโดดเด่นด้วยกาน้ำชาขนาดใหญ่ 3 ใบ ตั้งอยู่ในลักษณะที่กำลังรินชาลงในถ้วยชา จึงกลายเป็นจุดถ่ายภาพยอดฮิตของนักท่องเที่ยว ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เฟซบุ๊ก Wang Put Tan Tea
5. ดอยห้วยทู่ จังหวัดตาก
ยอดดอยที่เพิ่งเปิดให้ท่องเที่ยวได้ไม่นาน ยังคงมีความเป็นธรรมชาติอยู่มาก ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลท้องฟ้า ติดกับตำบลสามหมื่น และตำบลทุ่งกระเชาะ อำเภอบ้านตาก ในความสูงราว ๆ 1,200-1300 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทำให้ยอดดอยแห่งนี้มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ตลอดเส้นทางก็จะได้พบกับไร่ข้าวโพด ป่ากล้วย และสวนกาแฟของชาวบ้าน พอขึ้นไปด้านบนระดับสันเขาแล้ว ก็จะเป็นยอดเขาที่มีเพียงทุ่งหญ้า ไม่ค่อยมีต้นไม้ใหญ่ ทำให้สามารถมองเห็นวิวสวย ๆ รอบด้านได้แบบ 360 องศา ส่วนด้านบนบริเวณจุดชมวิวดอยห้วยทู่จะมองเห็นวิวของเทือกเขาน้อยใหญ่
การเดินขึ้นดอยห้วยทู่จะต้องเดินไป-กลับทั้งหมดราว ๆ 12 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินตอนช่วงขาไป 3-4 ชั่วโมง จึงจำเป็นต้องนอนค้างคืนด้านบนเขา 1 คืน โดยจะต้องมีคนนำทางเดินขึ้นไป เพราะเส้นทางบางช่วงจะมีทางแยกเล็ก ๆ เพื่อไปยังไร่สวนของชาวบ้าน ทำให้อาจหลงทางได้ การไปเที่ยวจะติดต่อได้ที่ คุ้มป๋าต๋อง และ ดอยห้วยทู่บ้านลีชอ ตำบลทุ่งกระเชาะ อำเภอ บ้านตาก จังหวัด ตาก
ดอยห้วยทู่ จ.ตาก เส้นทางเดินป่าสวย ๆ มือใหม่หัดเดินป่าก็ไปได้
6. อุทยานแห่งชาติภูเรือ จังหวัดเลย
ที่เที่ยวเดือนพฤศจิกายนที่เราขอแนะนำ สำหรับอุทยานแห่งชาติภูเรือมีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอภูเรือและอำเภอท่าลี่ ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดภูเรือ สัมผัสกับบรรยากาศหนาวเย็น ท่ามกลางทะเลหมอกที่ลอยคลอเคลียยอดเขา นอกจากนี้โดยรอบบริเวณยอดภูเรือยังมีธรรมชาติสวย ๆ ทั้งป่าสนเขา สวนหินธรรมชาติ และดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ให้เราได้ชื่นชม รวมถึงมีที่เที่ยวที่น่าสนใจ เช่น ผาโหล่นน้อย, ผาซ่าทอง, น้ำตกห้วยไผ่, สวนหินพาลี, ทุ่งหินพานขันหมาก และหินเต่า เป็นต้น
ภาพจาก THAIFINN / Shutterstock.com
ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติภูเรือจัดสถานที่กางเต็นท์พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ บริการนักท่องเที่ยว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติภูเรือ
7. งานเทศกาลเที่ยวพิมาย ประจำปี 2563 จังหวัดนครราชสีมา
ชวนเที่ยวงานเทศกาลเที่ยวพิมาย ประจำปี 2563 ระหว่างวันที่ 11-15 พฤศจิกายน 2563 ณ อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย และบริเวณลำน้ำจักราช อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา
ภายในงานมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการแสดงประกอบ แสง สี เสียง ชุดปาจิต อรพิม ตอน อโรคยา..เมตตาแห่งราชันย์ พิมายปุระ THE MUSICA, การแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงชนะเลิศถ้วยพระราชทานฯ ณ สนามแข่งขันเรือพิมาย ที่ตรงและสวยสมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศไทย, นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ในหลวง รัชกาลที่ 9, นิทรรศการประวัติศาสตร์เมืองพิมาย, ช้อป ชิม ชิลตลาดย้อนยุคโบราณจำหน่ายอาหารพื้นบ้าน, การประกวดทำอาหารพื้นบ้าน, การแสดงศิลปวัฒนธรรม, ผลิตภัณฑ์ชุมชน-ผลผลิตทางการเกษตร, สินค้า OTOP, การแสดงจากศิลปินที่มีชื่อเสียง และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ททท.สำนักงานนครราชสีมา TAT Nakhonratchasima
8. มหัศจรรย์งานแสดงช้างสุรินทร์ ประจำปี 2563
ขอเชิญเที่ยวงาน “มหัศจรรย์งานแสดงช้างสุรินทร์ ประจำปี 2563 ครั้งที่ 60 และงานเลี้ยงอาหารช้างที่ยิ่งใหญ่ของโลก” ระหว่างวันที่ 12-23 พฤศจิกายน 2563 ณ สนามแสดงช้าง จังหวัดสุรินทร์
โดยจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ หน่วยงานภาครัฐ/เอกชน และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กำหนดจัดงาน “งานแสดงช้างสุรินทร์” ประจำปี 2563 ครั้งที่ 60 จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 12-23 พฤศจิกายน 2563 และชมการแสดงช้างในวันที่ 21-22 พฤศจิกายน 2563 บริเวณสนามแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสุรินทร์ และวัฒนธรรมประเพณี เสริมสร้างความเป็นชาวสุรินทร์ โดยในปีนี้มีการจัดฉากการแสดงที่สมจริงยิ่งใหญ่ โดยมีกิจกรรม ดังนี้
วันที่ 19 พฤศจิกายน
เวลา 08.00 น. ซ้อมใหญ่งานแสดงช้าง ณ สนามแสดงช้าง
เวลา 18.30 น. การประกวดรถอาหารช้าง บริเวณหน้าอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง
วันที่ 20 พฤศจิกายน
เวลา 08.00 น. งานต้อนรับและเลี้ยงอาหารช้าง บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง ซึ่งเป็นการจัดโต๊ะจีนเลี้ยงอาหารช้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก ความยาวกว่า 400 เมตร มีช้างเข้าร่วมกว่า 250 เชือก
วันที่ 20-21 พฤศจิกายน
เวลา 19.30 น. ชมงานแสดง แสง สี เสียง ณ บริเวณปราสาทศีขรภูมิ อ.ศีขรภูมิ
วันที่ 21-22 พฤศจิกายน
เวลา 08.00 น. การแสดงช้าง ณ สนามแสดงช้าง จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 9 ฉาก หรือ 9 องก์
เวลา 18.00 น. ชมงาน Light & Sound Elephant Show
ราคาบัตรเข้าชมการแสดงของช้างจังหวัดสุรินทร์ ดังนี้
วันซ้อมใหญ่ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 เข้าชมฟรี ทุกที่นั่ง
วันแสดงจริง วันที่ 21-22 พฤศจิกายน 2563 บัตรราคา 500 บาท, 300 บาท
งาน Light & Sound Elephant Show บัตรราคา 200 บาท
ทั้งนี้ ติดต่อจองบัตรและซื้อบัตรได้ที่ สำนักงานจังหวัดสุรินทร์ พร้อมทั้งสามารถโอนเงินได้ที่ชื่อบัญชี งานแสดงช้างสุรินทร์ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 310-0-71191-2 ธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาสุรินทร์ หรือสามารถดาวน์โหลดใบจองได้ที่ surin.go.th หรือสอบถามรายละเอียดสำนักงานจังหวัดสุรินทร์ โทร. 044-512039 การแสดง แสง สี เสียง ณ ปราสาทศีขรภูมิ ในวันที่ 20-21 พฤศจิกายน 2563 สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เทศบาลตำบลระแงง โทร. 044-561243
9. งานเทศกาลพลุเมืองพัทยา 2563 จังหวัดชลบุรี
ชวนชมความงดงามตระการตาของการแสดงพลุไฟใน “งานเทศกาลพลุเมืองพัทยา 2563” (Pattaya Fireworks Festival 2020) ระหว่างวันที่ 27-28 พฤศจิกายน 2563 ณ บริเวณชายหาดพัทยา จังหวัดชลบุรี
โดยการแสดงพลุในครั้งนี้จะเป็นพลุฝีมือคนไทย ที่จะมาแสดงศักยภาพในการจัดแสดงพลุสุดอลังการกลางทะเลพัทยา ทั้งนี้ หากใครวางแผนจะไปเที่ยวชมงานก็มีจุดให้สามารถชมพลุได้หลากหลายจุด เช่น ชายหาดพัทยา, จุดชมวิวเขา ส.ทร.5, ฟู้ดเวฟ ห้างรอยัลการ์เด้น, เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา และร้านอาหาร/บาร์บนดาดฟ้าของโรงแรมต่าง ๆ ริมหาดพัทยา เป็นต้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เฟซบุ๊ก PRPATTAYA
งานพลุพัทยา 2563 ชมความอลังการพลุไฟริมทะเลโดยคนไทย
10. เกาะคลุ้ม จังหวัดตราด
เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ทางด้านหลังของเกาะช้าง แต่เดิมเป็นเพียงจุดดำน้ำ หรือจุดแวะพักระหว่างทริปดำน้ำ โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวพักค้างคืนเมื่อช่วงปลายปี 2562 มีบรรยากาศเงียบสงบ เป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับการไปพักผ่อน บนเกาะยังมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ น้ำทะเลใส และหาดทรายขาว กิจกรรมไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือนที่นี่คือการดำน้ำตื้น ดื่มด่ำกับโลกใต้ท้องทะเล
11. หมู่บ้านอีต่อง จังหวัดกาญจนบุรี
หมู่บ้านที่อยู่ติดชายแดนไทย-เมียนมา มากที่สุดของอำเภอทองผาภูมิ ดั้งเดิมเคยเป็นเหมืองแร่ที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ธุรกิจเหมืองแร่เริ่มเสื่อมโทรม ที่นี่จึงถูกปิดร้างไปยาวนานหลายปี จนกระทั่งกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งด้วยวิวทิวทัศน์สวย ๆ ของหมู่บ้าน ชาวบ้านร่วมใจกันปรับปรุงภูมิทัศน์ เปลี่ยนเหมืองแร่เก่าให้กลายเป็นสระน้ำกว้างสวยใส ปลูกต้นไม้และหญ้าสีเขียว ๆ เช้าบางวันก็มีสายหมอกบาง ๆ ลอยปกคลุมทั่วทั้งหมู่บ้าน
ภาพจาก Larcsky789 / Shutterstock.com
12. อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ที่เที่ยวที่มีธรรมชาติครบครันทั้งทะเลและภูเขา ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอกุยบุรี ติดกับแนวชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของอ่าวไทย จึงทำให้ป่าเขามีสภาพสวยงามแปลกตา บางส่วนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ รายล้อมไปด้วยภูเขาหินปูน วิวทิวทัศน์สวยงาม สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เช่น ถ้ำพระยานคร ถ้ำขนาดใหญ่ ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยเป็นเชิงชั้นเหมือนม่าน บางส่วนก็หยดย้อยลงมาเป็นรูปร่างต่าง ๆ มีจุดเด่นอยู่ที่ "พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์" พลับพลาที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จประพาสเยือนที่นี่ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2433
ศูนย์ศึกษาธรรมชาติบึงบัว บึงน้ำจืดขนาดใหญ่ปกคลุมไปด้วยพืชน้ำและบัวสวยงาม มีทางเดินไม้ให้เดินเที่ยวชม และจุดชมทิวทัศน์เขาแดง ที่จะต้องเดินขึ้นเขาไปประมาณ 400 เมตร เพื่อไปชมวิวอันสวยงามของท้องทะเลไกลสุดลูกหูลูกตา และวิวภูเขาน้อยใหญ่ ไร่นาของชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจคือการล่องเรือคลองเขาแดง ชมความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลน สัมผัสวิถีชีวิตชุมชนชาวประมงริมคลอง เป็นต้น
13. เกาะมัดสุม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เกาะที่ตั้งอยู่ทางใต้ของเกาะสมุย เป็นเกาะขนาดเล็ก ๆ อัดแน่นไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งหาดทรายขาว น้ำทะเลใส ตลอดจนปะการังตลอดแนวชายฝั่ง ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำ เช่น พายเรือคายัก, เล่นน้ำทะเลใส ๆ หรือถ่ายรูปเจ้าหมูป่าทะเลสุดเฟรนด์ลี่ ซึ่งชาวบ้านพาข้ามเรือมายังเกาะ
14. ย่านเมืองเก่าตะกั่วป่า จังหวัดพังงา
อำเภอตะกั่วป่า เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยร่องรอยความเจริญรุ่งเรืองของวันวานอยู่มากมาย ในสมัยยุคทองของเหมืองแร่ดีบุก เห็นได้จากอาคารบ้านเรือนร้านค้าของจีนแบบชิโน-โปรตุกีส บริเวณถนนอุดมธาราและบริเวณถนนศรีตะกั่วป่า (ตลาดใหญ่) ลักษณะเป็นตึกแถวสองชั้น ก่ออิฐถือปูน คล้ายกับตึกแถบเมืองในภูเก็ต โดยมีลวดลายบริเวณช่องลมและระเบียง จะมีซุ้มประตูโค้งตามทางเดินด้านหน้า แม้ว่าปัจจุบันธุรกิจเหมืองแร่จะเลิกร้างไปนานแล้ว แต่ความเป็นตึกเก่าโบราณยังคงหลงเหลืออยู่มาก นอกจากนี้ยังมีสตรีตอาร์ตที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นตะกั่วป่า ทั้งวิถีชีวิตของผู้คนและอาชีพดั้งเดิมต่าง ๆ ให้ได้ไปถ่ายรูปเล่นเพลิน ๆ อีกด้วย
ภาพจาก nuchun / Shutterstock.com
15. อุทยานแห่งชาติเกาะตะรุเตา จังหวัดสตูล
สถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลที่สวยงามอีกแห่งของท้องทะเลฝั่งอันดามัน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 931,250 ไร่ ประกอบไปด้วย พื้นที่เกาะตะรุเตา เกาะอาดัง เกาะราวี และเกาะอื่น ๆ ในท้องที่ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมืองสตูล โดยมีที่ทำการอุทยานแห่งชาติตะรุเตาอยู่ที่ปากบารา และอ่าวพันเตมะละกา บนเกาะตะรุเตา ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานแห่งชาติตะรุเตาจะเป็นท้องทะเลและเกาะต่าง ๆ จึงทำให้มีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลสวยงามมากมาย เช่น เกาะหลีเป๊ะ ที่มีพื้นที่เพียงแค่ราว ๆ 3 กิโลเมตร แต่มีความสวยงามอันดับต้น ๆ ของประเทศ เพราะหาดทรายขาวสะอาด เนียนละเอียด น้ำทะเลใสแจ๋ว มองเห็นแนวปะการังใต้ทะเลได้ลึกหลายเมตร
เกาะตะรุเตา สถานที่ตั้งที่ทำการอุทยาน เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในอุทยาน บริเวณทางด้านทิศใต้ห่างจากเกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย เพียงแค่ 4.8 กิโลเมตรเท่านั้น บนเกาะตะรุเตามีจุดท่องเที่ยวมากมาย เช่น อ่าวพันเตมะละกา, อ่าวตะโละวาว, อ่าวสน, ถ้ำจระเข้, จุดชมวิวผาโต๊ะบู, สถานีรถไฟตรัง, อ่าวตะโละอุดัง, พิพิธภัณฑ์ทัณฑสถาน, อ่าวเมาะและ และน้ำตกลูดู เป็นต้น
เกาะอาดัง ที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ 5 (แหลมสน) เป็นเกาะขนาดใหญ่รองจากเกาะตะรุเตา กว้าง 5 กิโลเมตร และยาว 6 กิโลเมตร มีหาดทรายขาวสะอาด พร้อมด้วยพื้นที่ป่าเขาอุดมสมบูรณ์ บนเกาะมีภูเขาสูงกว่า 690 เมตร สามารถมองได้กว้าง 360 องศา เรียกว่า ผาชะโด อีกทั้งบนเกาะยังไม่มีที่พักเอกชน มีแค่บ้านพักของอุทยานและจุดกางเต็นท์, เกาะราวี ใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากเกาะตะรุเตา และเกาะอาดัง มีหาดทรายขาว น้ำใส เงียบสงบ สามารถกางเต็นท์ได้ พร้อมทั้งดำน้ำตื้น และดำน้ำลึก
เกาะไข่ มีลักษณะโดดเด่น คือ มีซุ้มประตูหินธรรมชาติที่ทอดโค้งจากผืนทรายจรดน้ำ หาดทรายขาวละเอียด เงียบสงบ เป็นจุดวางไข่ของเต่าทะเล,
เกาะหินซ้อน เกาะหินเล็ก ๆ มีความสวยงามตรงที่ก้อนหินขนาดใหญ่ตั้งซ้อนกัน 2 ก้อนโดยที่ไม่ล้มลงมา และเกาะหินงาม เกาะหินขนาดเล็ก โดดเด่นด้วยหาดหินสีดำก้อนกลมมนเกลี้ยง พอคลื่นทะเลซัดสาด ก็จะสะท้อนแสงวับวาวงดงาม เป็นต้น ทั้งนี้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล Tarutao National Park
และนี่คือที่เที่ยวเดือนพฤศจิกายนเพียงบางส่วนเท่านั้นที่เราหยิบมาแนะนำกัน ชอบสถานที่ท่องเที่ยวไหนก็ลิสต์เก็บไว้แล้วเก็บกระเป๋าออกไปเที่ยวกันเลย
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
thailandfestival.org, thai.tourismthailand.org, park.dnp.go.th, thailandtourismdirectory.go.th, Koom Nangphaya Resort Trat, เฟซบุ๊ก TAT KOH SAMUI, เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล Tarutao National Park