เมื่อภาพถ่ายบอกเล่าความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ณ ภูเขียว ภูหลวง

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณน้าดอก สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

          วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ออกไปสัมผัสธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้และสัตว์ป่านานาชนิด ผ่านบันทึกการเดินทางและภาพถ่ายจากมุมมองของ คุณน้าดอก สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่มีโอกาสไปเยือน "ภูเขียว" หรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว-ทุ่งกะมัง และเลยไปถึง "ภูหลวง" หรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง อ๊ะ ๆ แต่ก่อนจะไปเที่ยวเราไปทำความรู้จักกับสถานที่ทั้ง 2 แห่งกันก่อนดีกว่าค่ะ

          "ภูเขียว" หรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว-ทุ่งกะมัง มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ป่าในเขตอำเภอคอนสาร อำเภอเกษตรสมบูรณ์ และอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ นับเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์อีกแห่งหนึ่งของประเทศ รวมถึงเป็นแหล่งอาหารของสัตว์ป่าที่ให้ได้อาศัยตามธรรมชาติอย่างปลอดภัย เนื่องจากมีการดูแลด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่า การเพาะเลี้ยงและการขยายพันธุ์สัตว์ป่า เช่น ไก่ฟ้าพญาลอ นกยูง เก้ง กวาง และเนื้อทราย เป็นต้น โดยปล่อยสัตว์ให้อาศัยอยู่ในพื้นที่ธรรมชาติ สามารถสืบพันธุ์และขยายพันธุ์ได้เอง แต่ก็มีการจัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติสำหรับผู้สนใจศึกษาธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ดังนั้น จึงเหมาะสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าจริง ๆ

          โดยสถานที่น่าสนใจ เช่น ทุ่งกะมัง เป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ใจกลางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว แหล่งอาหารที่สำคัญของสัตว์กินพืช, น้ำตกนาคราช มีความสูงต่างระดับถึง 3 ชั้น ชั้นแรกสูง 14 เมตร ชั้นที่ 2 สูง 10 เมตร ชั้นที่ 3 สูง 6 เมตร บริเวณน้ำตกมีว่านพญานาคราชขึ้นอยู่จำนวนมากจึงตั้งชื่อว่าน้ำตกนาคราช และผาเทวดา เป็นภูเขาหลายเทือกติดต่อกัน ยาวประมาณ 6 กิโลเมตร ยอดผาสูงประมาณ 1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล ทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออกเป็นเทือกเขายาว โดยหินผาเทวดามีสีขาวคล้ายหินปูน ฯลฯ (เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว-ทุ่งกะมัง)

          ส่วน "ภูหลวง" หรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ซึ่งเกิดจากการยกตัวของพื้นผิวโลกและดินส่วนที่อ่อนพัดพาลงสู่พื้นที่ส่วนต่ำ สภาพทั่วไปเป็นพื้นที่ราบสูง อากาศเย็นตลอดปี โดยตั้งอยู่ในบริเวณท้องที่อำเภอวังสะพุง อำเภอภูเรือ อำเภอด่านซ้าย และอำเภอภูหลวง ซึ่งภูหลวงมีป่าหลากชนิด แต่ป่าที่โดดเด่นที่สุดบนภูหลวง คือ ป่าสนสองใบ สนสามใบ และทุ่งหญ้าตามพื้นที่ราบ เนินเขา และลานหิน นอกจากนี้ ทางด้านตะวันออกของเทือกภูหลวงยังมีการค้นพบซากหินรอยเท้าไดโนเสาร์อายุกว่า 120 ล้านปี ส่วนจุดท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ ผากบ ผาชมวิว โหล่นช้างผึ้ง ซุ้มงูเห่า และน้ำตกสายทอง ฯลฯ (เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง)

          เอาล่ะ...พอรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 2 แห่งกันบ้างแล้ว ก็ได้เวลาตาม คุณน้าดอก สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ไปเที่ยวแล้วค่ะ

ไปต่อกันที่ทุ่งกะมัง...ภูเขียว...โคกนกกระเบาครับ หลังจากลงจากผาตัดมาครับ (ผาตัด..เพชรบูรณ์..วัดผาซ่อนแก้ว..อีกมุมมอง)

นิคอน D7000 และนิคอน D3100 เป็นกล้องสำรอง+เลนส์10-24 Tamron+Tamron SP AF 17-50mm f/2.8 XR Di II VCTamron70-300+เลนส์ fix 50

ภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ

ทุ่งกะมังจากปากทางเข้าภูเขียวไป 20 กว่ากิโลเมตร บรรยากาศยามเย็น

อากาศกลางวันค่อนข้างจะร้อนครับ

มืดแล้วเดี๋ยวเช้า ๆ มาถ่ายภาพใหม่

พักกันที่ทำการข้าง ๆ ทุ่งกะมังครับ เช้าขับรถมา 1 กิโลเมตร ไม่มีนักท่องเที่ยวเลยครับ มีผมคนเดียวออกมาถ่ายภาพ เพื่อน ๆ นอนกันไม่ยอมตื่น

ไม่ต้องแจ้งล่วงหน้าครับ ผมเข้าไปก่อนบ่าย 4 โมงครึ่ง แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่ามาขอพักกางเต็นท์ เขาให้กางเต็นท์ในที่ที่เขาจัดให้เท่านั้นครับ

ทั้งทุ่งกะมังมีผมอยู่คนเดียวถ่ายภาพเพลินไปเลยครับ

จากภูเขียวไปภูหลวงผ่านสะพานมรณะที่รถบัสตกเสียชีวิตหลาย 10 คนครับ

ที่ภูหลวงเหมาะสำหรับเดินป่าชมธรรมชาติซะมากกว่าครับ ผมไปเพื่อน ๆ ไม่เดินเที่ยวกัน ผมก็แค่เก็บภาพระยะใกล้ครับ ที่ไกล ๆ ไม่กล้าเดินคนเดียวครับกลัวช้างป่าครับ