คู่มือเที่ยวฮ่องกง ฉบับปี 2024 แชร์การเตรียมตัว พิกัดที่เที่ยว ที่พัก ที่กิน จัดมาให้ครบ

          คู่มือเที่ยวฮ่องกง 2024 ต้องเตรียมอะไรบ้าง พร้อมแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมมอบประสบการณ์น่าประทับใจ คุ้มค่าแก่การไปเยือน กับแคมเปญ Hong Kong Night Treats 

          อยากเที่ยวต้องได้เที่ยว ! ยิ่งถ้าได้ไป ฮ่องกง (Hong Kong) เมืองที่ไม่เคยหลับใหล ให้ไปกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ เพราะมากมายด้วยเสน่ห์ แถมยังมีที่เที่ยวครบทุกแนว ตั้งแต่ชมเมือง, ช้อปปิ้ง, ไหว้พระ, สวนสนุก, ธรรมชาติ หรือหาของกินอร่อย ๆ ใครที่ยังไม่เคยไป หรือใครเคยไปแล้วจะกลับไปเที่ยวใหม่ก็ไม่เสียหาย ว่าแล้วเลยจะมาอัปเดตข้อควรรู้ก่อนไปเที่ยวฮ่องกง 2024 แถมตอนนี้ฮ่องกงก็ยังมีแคมเปญ “Hong Kong Night Treats” มอบเวาเชอร์มูลค่า 100 ดอลลาร์ฮ่องกง ให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อใช้เป็นส่วนลดค่าอาหารและเครื่องดื่มได้ที่ร้านอาหารและบาร์ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ว้าวหนักเบอร์แรงสุด ๆ เตรียมปักหมุดรอไว้ได้เลย  

          ฮ่องกง มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประกอบด้วย เขตเกาลูน (Kowloon), เขตเกาะฮ่องกง (Hong Kong Island), เขตนิวเทอร์ริทอรีส์ (New Territories) และหมู่เกาะรอบนอก 200 เกาะ

          ข้อมูลจากเว็บไซต์ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง (ณ วันที่ 6 เมษายน 2566) ได้ระบุขั้นตอนการเดินทางเข้าฮ่องกงจากประเทศไทย ว่าไม่มีเงื่อนไขและข้อกำหนดเกี่ยวกับการได้รับวัคซีนอีกต่อไป นั่นเท่ากับว่ามีแค่หนังสือเดินทาง (Passport) ก็ไปฮ่องกงได้แล้ว  

          *** ผู้ถือหนังสือเดินทางไทยที่ยังมีอายุใช้งาน ที่ต้องการจะเข้าฮ่องกงเพื่อท่องเที่ยว เยี่ยมญาติ ทำธุรกิจ ประชุม เป็นต้น สามารถอยู่ฮ่องกงได้ 30 วัน โดยไม่ต้องทำวีซ่า  

          สำหรับใบ Arrival Card สามารถรับเอกสารได้จากบนเครื่องบิน หรือที่สนามบินก่อนเข้า ตม. ก็ได้ โดยนักท่องเที่ยวจะต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ ได้แก่  
 

• Family name นามสกุล
• Given name ชื่อ
• Sex เพศ Male/Female
• Travel document No. เลขที่หนังสือเดินทาง
• Place and date of issue สถานที่ออกบัตรจะระบุไว้ในหนังสือเดินทาง
• Nationality สัญชาติ
• Date of birth วันเกิด 
• Place of birth สถานที่เกิด 
• Address in Hong Kong ชื่อโรงแรมที่เข้าพัก
• Home address ที่อยู่ในประเทศไทย
• Flight No./Ship's name เลขที่เที่ยวบิน
• From สถานที่ต้นทาง Thailand
• Signature of traveller ลายเซ็นที่ตรงตามหน้าหนังสือเดินทาง

          เมื่อกรอกเสร็จแล้วให้เดินไปยัง Visitor และยื่นหนังสือเดินทางที่ช่อง ตม. แนะนำว่าให้เตรียมเอกสารต่าง ๆ เช่น ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ, ใบจองที่พัก, แพลนเที่ยว (ถ้ามี) หรือเอกสารอะไรก็ตามที่สามารถยืนยันได้ว่าเราไปฮ่องกงตามจุดประสงค์นั้น ๆ เผื่อไว้ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม 

          ทุกวันนี้มีสายการบินที่บินตรงจากไทยไปฮ่องกงให้บริการมากมาย เช่น คาเธ่ย์แปซิฟิค (Cathay Pacific), สายการบินไทย (Thai Airways), ฮ่องกงเอ็กซเพรส (Hong Kong Express), แอร์เอเชีย (AirAsia), ฮ่องกงแอร์ไลน์ (Hong Kong Airlines) และเอมิเรตส์ (Emirates Airlines) เป็นต้น โดยแต่ละสายการบินก็จะมีช่วงเวลาการเดินทางตลอดจนการเซอร์วิสที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้เดินทาง แต่บางครั้งสายการบินก็มีตั๋วโปรโมชั่นราคาสบายกระเป๋าปล่อยออกมาให้ช่วงชิงอยู่ตลอด ต้องคอยติดตามให้ดี ๆ ทั้งนี้ ตารางการบินอาจมีการเปลี่ยนแปลง แนะนำให้ตรวจสอบในเว็บไซต์เพื่ออัปเดตข้อมูลเรื่อย ๆ 

          อากาศที่ฮ่องกงแบ่งออกเป็น 4 ฤดู ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ซึ่งแต่ละช่วงฤดูก็จะมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป
 

• ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม-พฤษภาคม) อากาศกำลังเย็นสบาย แต่ก็อาจเจอฝนตกบ้างเล็กน้อย ทิวทัศน์ของเมืองประดับประดาไปด้วยดอกไม้หลากสีสันและต้นไม้เขียวขจี ช่วงเวลานี้ถือได้ว่าเหมาะกับการมาเที่ยวฮ่องกงมากที่สุดช่วงหนึ่ง
   
• ฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน-สิงหาคม) โดยรวมแล้วอากาศค่อนข้างร้อนชื้นและมีแดดจัด แต่บางช่วงวันก็อาจเจอกับพายุฝนหรือฝนตกปรอย ๆ แต่ก็เป็นโอกาสดีของนักช้อปทั่วโลก เพราะตรงกับเทศกาลลดทั้งเกาะ เดินทางมาจับจ่ายใช้สอยกันได้เต็มที่
   
• ฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายน-พฤศจิกายน) อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าสดใสและปลอดโปร่ง ถ่ายรูปออกมาสวย เป็นช่วงที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวและทำกิจกรรมกลางแจ้ง 
   
• ฤดูหนาว (เดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์) อากาศหนาวเย็น มีเมฆมาก แต่ถ้าใครชอบอากาศหนาวแต่ไม่ถึงกับมีหิมะตกก็จะแฮปปี้กับช่วงฤดูนี้ และยังเป็นช่วงที่อบอวลไปด้วยเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง ทั้งคริสต์มาส ปีใหม่ แต่ละที่เที่ยวจะมีการประดับประดาไฟสวยงามให้ได้ชม  

          หลายคนอาจรู้สึกกังวลใจกับภาษาที่ใช้ เพราะกลัวว่าไปเที่ยวแล้วจะสื่อสารไม่รู้เรื่อง ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ เพราะภาษาราชการของฮ่องกง คือ ภาษาอังกฤษและภาษาจีน เราจึงเห็นว่าเวลาไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ก็จะมีภาษาอังกฤษกำกับ งานนี้ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะต้องไปงมกับภาษาจีนจนตาลาย  

          สกุลเงินของฮ่องกง คือ ดอลลาร์ฮ่องกง (HKD) โดยอัตราการแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 อยู่ที่ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง เท่ากับ 4.54 บาท (ทั้งนี้ อัตราการแลกเปลี่ยนอาจมีความผันผวนตามแต่ละช่วงเวลา)

           ฮ่องกงมีระบบการขนส่งสาธารณะที่ทันสมัย เรียกได้ว่าสะดวกสุด ๆ และมีหลายตัวเลือกให้นักท่องเที่ยวใช้บริการ เช่น
 

• รถไฟฟ้าใต้ดิน MTR ครอบคลุมแทบทุกพื้นที่ของฮ่องกง ที่สำคัญมีวิธีการใช้คล้ายกับรถไฟฟ้าบ้านเรา ซึ่งแต่ละสถานีและแต่ละสายจะมีราคาแตกต่างกันไป สามารถใช้บัตรเติมเงิน Octopus เพื่อเข้าใช้บริการ ซื้อบัตรแบบเป็นเที่ยวก็ทำได้เช่นกัน และเมื่อปลายปี 2023 ผู้โดยสารสามารถใช้บัตร Visa แตะชำระค่าโดยสารที่ประตูสีฟ้าอ่อนได้เลย สามารถดูแผนที่การเดินทางรถไฟฟ้าใต้ดิน MTR ได้ที่เว็บไซต์ mtr.com.hk

• รสบัส มีเครือข่ายครอบคลุมพื้นที่ทั่วทุกแห่งของฮ่องกงเช่นกัน ใช้งานง่ายและสะดวก ที่สำคัญราคาค่อนข้างถูก สามารถใช้ Google Maps แล้วปักหมุดตำแหน่งที่เราจะเดินทางไป แอปฯ ก็จะบอกสายรถและจุดที่ขึ้นรถไว้เสร็จสรรพ เวลาขึ้นให้ขึ้นที่ประตูหน้า แล้วแตะบัตร Octopus หรือจ่ายเงินสดที่ช่องข้างคนขับ แต่ควรเตรียมเงินให้พอดี  

• รถราง Tram ระบบขนส่งสุดคลาสสิก และมีให้บริการเฉพาะที่เกาะฮ่องกงเท่านั้น แต่จะต่างกับรถบัสตรงที่เวลาขึ้นให้ขึ้นจากด้านหลัง แล้วเวลาลงให้ลงที่ทางออกด้านหน้าแล้วค่อยจ่ายเงินขาลงที่ช่องข้างคนขับ โดยสามารถชำระผ่านบัตร Octopus, Visa, Mastercard, Apple Pay, Samsung Pay และอื่น ๆ อีกหลากหลายวิธี หรือถ้าจ่ายเป็นเงินสดก็ได้ แต่ควรเตรียมเงินให้พอดี อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการจ่ายค่าโดยสารที่นี่

          สามารถดูแผนที่การเดินทางรถ Tram ได้ที่เว็บไซต์ hktramways.com

          นอกจากระบบขนส่งมวลชนที่ว่าไปแล้วนั้น ในฮ่องกงก็ยังมีตัวเลือกอื่น ๆ สำหรับการเดินทาง เช่น แท็กซี่ และเรือเฟอร์รี่ เป็นต้น ใครที่จะไปเที่ยวจุดไหน ลองศึกษาวิธีการเดินทางไว้ด้วยก็ดี รับรองว่าไม่ยุ่งยากและซับซ้อน  

          สำหรับใครที่มาฮ่องกงจะเห็นว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมใช้บัตร Octopus กันเยอะมาก ไม่ว่าจะนั่งรถ MTR ซื้อของในร้านสะดวกซื้อ ช้อปปิ้ง ก็จะเห็นบัตรนี้อยู่ทุกที่ แนะนำว่าให้มีติดตัวไว้ เพราะจะช่วยทำให้การเที่ยวสะดวกขึ้นเป็นกอง แถมยังสามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ ที่เคาน์เตอร์ Airport Express ตรงบริเวณหน้า Arrival Hall ในสนามบินฮ่องกง, Customer Service Centre ภายในสถานีรถไฟ MTR ทุกสถานี และร้านสะดวกซื้อทั่วไป (ดูรายละเอียดข้อมูลบัตร Octopus เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ octopus.com.hk) 

          ฮ่องกงเป็นเมืองที่มีความหลากหลาย เราจึงเห็นภาพของตึกระฟ้า อาคารทันสมัย ตลาดขายของพื้นเมือง วัดวาอาราม เหล่านี้ทำให้ฮ่องกงมีมนตร์เสน่ห์และดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาไม่ขาดสาย ทั้งยังมีที่เที่ยวและกิจกรรมน่าทำ พร้อมมอบความเพลิดเพลินให้แก่นักท่องเที่ยวทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น

          - ชมสวนสนุกธีมใหม่ World of Frozen ที่ Hong Kong Disneyland

          แฟน ๆ Frozen เห็นทีต้องร้องกรี๊ด สำหรับโซนใหม่ World of Frozen โดยเนรมิตดินแดน Arendelle มาไว้ที่ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ ตื่นเต้นไปกับการจำลองเมือง ล่องเรือชมปราสาทน้ำแข็งของเอลซ่า, นั่งรถไฟเหาะท่ามกลางหุบเขาน้ำแข็ง และยังมีเครื่องเล่นอื่น ๆ พาเข้าสู่โลกของ Frozen พลาดไม่ได้กับการชมโชว์ของเอลซ่ากับอันนา ที่จะมาสอนเราเสกน้ำแข็ง โชว์จะมีเป็นรอบ ๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องทำการจองผ่านแอปฯ Hong Kong Disneyland ให้เรียบร้อย เพื่อที่ว่าไปถึงก็ทำการแสดงหลักฐานการจองแล้วเข้าชมได้เลย

          - เดินชิล ชิม และช้อป ที่ถนนคนเดิน Temple Street 

          นอกจากย่านช้อปปิ้งชื่อดังในฮ่องกงที่เป็นที่รู้จักกันดีอย่าง Tsim Sha Tsui, Mong Kok หรือย่าน Central แล้ว ถนนคนเดิน Temple Street ถือได้ว่าเป็นตลาดยามค่ำที่ครึกครื้นที่สุดแห่งหนึ่งของฮ่องกง ยามเมื่อตะวันตกดินถนนสายนี้จะละลานตาไปด้วยสินค้าตั้งแต่เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ ของโบราณ และอื่น ๆ ให้เดินเลือกซื้อหา ไม่เพียงเอาใจขาช้อปเท่านั้น ที่นี่ยังมีร้านอาหารอร่อยเรียงราย แถมยังเอาใจสายมูกับซุ้มดูดวงกับหมอดู ทั้งไพ่ ลายมือ โหงวเฮ้ง ตลอดจนกิจกรรมไนท์ไลฟ์ทั้งการแสดงและงานเฉลิมฉลองอีกมากมาย ใครที่อยากปลุกเอเนอร์จีความคึกคักในการมาเที่ยวฮ่องกง ถนนคนเดินเส้นนี้ตอบโจทย์มาก ๆ 

          - ตะลุยกินให้ตัวแตกแบบ Dai Pai Dong ขนานแท้

          ใคร ๆ ก็รู้ว่าฮ่องกงเต็มไปด้วยร้านอาหารต่าง ๆ แต่ถ้าอยากสัมผัสประสบการณ์เรื่องกินแบบออริจินัล เห็นทีต้องลองร้านสไตล์ Dai Pai Dong ที่มีลักษณะเป็นแผงอาหารข้างถนน ส่วนใหญ่จะอยู่ตามตรอกซอกซอย อย่างย่าน Central เดินไปตามริมถนนสแตนลีย์ (Stanley St) มาไม่ไกลก็จะเห็นครัวและเตาผัดพร้อมพ่อครัวควงกระทะกับตะหลิวทำกันให้เห็นสด ๆ โต๊ะที่นั่งก็เป็นแบบง่าย ๆ ซึ่งแต่ละร้านก็จะมีเมนูจานเด็ดมัดใจคนกินแบบอยู่หมัด

          - เที่ยวพิพิธภัณฑ์ เอาใจสายอาร์ตตัวแม่

          ฮ่องกงได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีพิพิธภัณฑ์น่าสนใจไม่น้อยหน้าหลายเมืองในประเทศต่าง ๆ แต่ถ้าจะให้แนะนำสักที่ต้องเป็น Art Museum แห่งใหม่ของเกาะฮ่องกง (ฝั่งเกาลูน ตรง West Kowloon) ที่ M+ เป็นมากกว่าพิพิธภัณฑ์ เพราะที่นี่โชว์ผลงานทั้ง Art ดีไซน์และนิทรรศการอีกมากมาย รวมถึงมีจุดถ่ายรูปเก๋ ๆ เพียบ เรียกได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยน่าเช็กอินที่สุดแห่งหนึ่งของฮ่องกง (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ mplus.org.hk)

          - เดินไฮกิ้งสัมผัสธรรมชาติแบบอันซีน

          เห็นฮ่องกงเป็นเมืองที่มีแต่ตึกอาคารสูงเสียดฟ้าอย่างนี้ แต่ถ้าพูดถึงที่เที่ยวธรรมชาติก็มีหลายสถานที่น่าสนใจ อย่าง The Peak จุดชมวิวที่มองเห็นฮ่องกงแบบพาโนรามา และยังเป็นสถานที่ให้มานั่งชิลกินอาหารในร้านอาหารที่มีวิวอลังการ อีกทั้งยังมีทางเดินธรรมชาติให้สำรวจอีกด้วย หรือจะเป็นที่ Sunset Peak สัมผัสบรรยากาศความสวยงามยามพระอาทิตย์ตกดินตัดกับสีเขียวของเนินหญ้า เป็นความโรแมนติกที่แลกด้วยกำลังขา ถึงจะเหนื่อยแต่รับรองว่าคุ้ม  

          - ไหว้พระขอพรวัดดังในฮ่องกง

          ถ้าพูดถึงเรื่องมู ฮ่องกงก็เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่มีแหล่งไหว้พระขอพร ขอเงินทอง ขอโชคลาภ ขอความรัก ที่ขึ้นชื่อเรื่องความขลังและความปังไม่แพ้ที่ไหน และมีผู้คนให้ความสนใจบินไปไหว้ขอพรกันตลอดทั้งปี เช่น วัดหวังต้าเซียน (Wong Tai Sin Temple), วัดแชกง หรือวัดกังหัน (Che Kung Temple), วัดซีซ่าน (Tsz Shan Monastery), วัดเจ้าแม่ทับทิมทินห่าว (Tin Hau Temple), วัดโป่วหลิน (Polin Temple), วัดหมั่นโหมว (Man Mo Temple) และอื่น ๆ ซึ่งแต่ละวัดก็จะมีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องต่าง ๆ แตกต่างกันไป ตามพลังความเชื่อและศรัทธาของนักท่องเที่ยวที่มาเยือน

          ที่พักฮ่องกงมีให้เลือกหลากหลาย หลัก ๆ แล้วขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และงบประมาณที่นักท่องเที่ยวกำหนด โดยราคาก็จะแปรผันตามปัจจัยความต้องการต่าง ๆ เช่น สภาพแวดล้อม การเดินทาง สิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ซึ่งพื้นที่หลัก ๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมพักกันจะอยู่ที่เกาะฮ่องกงและฝั่งเกาลูน เพราะระบบการเดินทางพร้อมสรรพ แต่ละสถานีรถไฟอยู่ห่างกันไม่มาก ทำให้การไปเที่ยวที่ต่าง ๆ ทำได้อย่างสะดวก 

          - รอบสถานี Tsim Sha Tsui ย่านที่พักยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาฮ่องกง เพราะอยู่บนฝั่งเกาลูน รอบ ๆ มีสถานที่เที่ยวต่าง ๆ เช่น ชมแสง สี เสียง A Symphony of Lights, เดินเล่นชมวิวที่ Avenue of Stars หรือชมวิวฮ่องกงบนตึกสูง ณ จุดชมวิว Sky100 เป็นต้น และด้วยทำเลที่ตั้งของย่านนี้อยู่ใกล้ริมน้ำ จึงทำให้เดินทางข้ามไปยังเกาะฮ่องกงได้ง่าย ๆ อีกด้วย 

          ที่พักแนะนำ : Intercontinental Grand Standford Hotel, Royal Pacific Hotel, The Peninsular Hong Kong

          - รอบสถานี Central หนึ่งในย่านที่มีความเจริญมากที่สุดของฮ่องกง เพราะทุกตารางพื้นที่จะมองเห็นแต่ตึกสูงเสียดฟ้า สำนักงาน ธนาคารต่าง ๆ เรียกได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางธุรกิจ ซึ่งบริเวณด้านล่างของตึกเหล่านั้นเต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนมหรู ส่วนใครที่ชอบกินก็มีร้านอาหารให้เลือกตั้งแต่ร้านข้างทางไปจนถึงร้านอาหารสุดหรูระดับมิชลินสตาร์ และยังมีบาร์เด็ด ๆ หลายร้านในย่าน Lan Kwai Fong อีกด้วย 

          ที่พักแนะนำ : 99 Bonham, iclub Sheung Wan Hotel, Ovolo Central, The Sheung Wan by Ovolo, The Pottinger Hong Kong

          - รอบสถานี Causeway Bay ย่านศูนย์กลางการค้าคึกคักของฮ่องกง ได้แก่ ห้าง Time Square สัญลักษณ์ของ Causeway Bay ที่เป็นแหล่งรวมแบรนด์เนม ของแต่งตัว เครื่องประดับ และร้านอาหาร, ห้าง SOGO รวบรวมสินค้าจากประเทศญี่ปุ่นมากมาย, ห้าง Hysan Place อัดแน่นด้วยร้านค้าและร้านอาหารระดับท็อป

          ที่พักแนะนำ : Best Western Hotel Causeway Bay, Harbour Grand Causeway Bay, Nina Hotel Causeway Bay, The Park Lane, A Pullman Hotel

          - ย่าน Mong Kok ย่านที่ไม่เคยหลับใหล เพราะเป็นที่ตั้งของร้านค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิงยามค่ำ ตลาดที่มีเสน่ห์ และวัดวาอารามแบบดั้งเดิม เหมาะกับการมาอัปเดตเทรนด์สินค้าใหม่ ๆ มีทั้งของแพงของถูกให้ได้เลือก หรือจะต่อราคาเอาพอสนุก ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งสีสันที่ Mong Kok พร้อมมอบให้กับนักท่องเที่ยว

          ที่พักแนะนำ : The City View, Dorsett Mongkok, Royal Plaza Hotel, Cordis Hong Kong, The Beacon, Eaton Hong Kong

          - ย่าน Wan Chai อดีตเคยเป็นหมู่บ้านประมง หากแต่ปัจจุบันได้กลายเป็นย่านธุรกิจสำคัญที่ยังคงอนุรักษ์เสน่ห์วิถีชีวิตแบบดั้งเดิมเอาไว้ มีครบทั้งศิลปะ วัฒนธรรม และการช้อปปิ้ง โดยเฉพาะบนถนน Queen's Road หากว่าใครรักและชอบที่จะเดินดูงานดีไซน์เก๋ ๆ และผู้คนไม่พลุกพล่านมากนัก บอกเลยว่าย่านนี้เหมาะมาก

          ที่พักแนะนำ : Novotel Century Hong Kong, AKI Hong Kong - MGallery, Burlington Hotel, The Hari, The Fleming, Dorsett Wanchai

          เหล่านี้เป็นย่านที่พักฮ่องกงยอดนิยม ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเน้นพักในตัวเมือง แต่สำหรับใครที่ไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์และนองปิง ก็มีอีกหนึ่งตัวเลือกที่พักบริเวณเกาะลันตา ด้วยความที่อยู่ใกล้สนามบิน บางที่พักจึงมีรถบริการรับ-ส่งจากสนามบิน ยังไงลองสอบถามเพิ่มเติมกันได้  

          เที่ยวฮ่องกงให้ถึงที่ก็ต้องไปกินอาหารฮ่องกงด้วยถึงจะถูก เพราะมีร้านเด็ดและดังอยู่แทบทุกย่าน ไล่เรียงตั้งแต่ร้านข้างทาง Street Food ไปจนถึงร้านระดับมิชลินสตาร์ แนะนำว่าให้คิดมาก่อนล่วงหน้าว่าอยากกินอาหารประเภทไหน หรือถ้าร้านไหนที่ต้องจองก็ดำเนินการให้เรียบร้อย จะได้ไม่เป็นการเสียเวลา และที่สำคัญแลกเงินไปเยอะ ๆ เพราะเกือบทุกร้านรับเป็นเงินสด เดี๋ยวจะอารมณ์สะดุดก่อนท้องอิ่ม

          โจ๊กฮ่องกง อาหารที่ใครไปฮ่องกงแล้วก็ต้องกิน ร้านโจ๊กฮ่องกงขึ้นชื่อต้องที่ Hung Lee แนะนำให้สั่งโจ๊กรวม เนื้อโจ๊กเนียน พร้อมด้วยหมู ตับ และเครื่องในชิ้นใหญ่ นอกจากนี้ยังมีบะหมี่เกี๊ยวกุ้ง บะหมี่ไข่ บะหมี่ผัด ไคกี่หรือบะหมี่ลูกชิ้นหมึกสาหร่าย และติ่มซำ ไว้ให้เลือกชิมอีกเพียบ 

          ห่านย่าง อิ่มอร่อยกับห่านตัวใหญ่หมักด้วยเครื่องเทศ ย่างด้วยเตาถ่านจนเนื้อนุ่มและหนังกรอบ เวลาเสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้มซีอิ๊วและขิงดองเอาไว้ตัดเลี่ยน เป็นอีกหนึ่งเมนูสุดฮอตที่มีร้านเด็ดให้ลิ้มลองเพียบ อย่างร้าน Keung Kee ย่าน Wan Chai, ร้าน Yung Kee Restaurant ย่าน Central, ร้าน Praise House ย่าน Tsim Sha Tsui 

          ทาร์ตไข่ เมนูของว่างยอดนิยมของฮ่องกง กับทาร์ตไข่ชื่อดังที่ร้าน Bakehouse มีหลายสาขาให้ได้เลือก ทั้งที่ Central, Wan Chai, Tsim Sha Tsui, Stanley, Causeway Bay เนื้อคัสตาร์ดไข่เนียนนุ่ม หอมและหวานกำลังดี ถ้าจะให้ดีไปช่วงเช้า ๆ คนยังไม่เยอะมาก แถมยังจะได้กินทาร์ตไข่อุ่น ๆ บอกเลยว่าฟิน 

          ข้าวอบหม้อดิน ใครอยากกินข้าวอบหม้อดินก็ต้องที่ร้าน Hing Kee เนื้อหมักมาอย่างนุ่ม ข้าวหุงมาหอม ๆ ติดหม้อเกรียม ๆ กับไข่เจียวหอยนางรมที่ต้องสั่งมากินคู่กันพร้อมจิ้มซอสพริก และยังมีอีกหนึ่งเมนูเด็ด ลูกชิ้นเดือด ทำจากเนื้อปลาล้วน ๆ ต้มอยู่ในน้ำจิ้มรสเด็ด

          ติ่มซำ คนฮ่องกงนิยมกินติ่มซำกันเฉพาะมื้อเช้าและมื้อกลางวัน อาจเลยไปถึงมื้อนํ้าชา ซึ่งมีหลากหลายร้านให้ได้เลือกกิน เช่น Dimdimsum, Duddell’s, Yum Cha, Maxim’s Palace เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีร้านติ่มซำตามห้องอาหารของโรงแรม หรือจะเป็นร้านแบบห้องแถวก็อร่อยประทับใจไม่แพ้กัน 

          บะหมี่ไข่ฮ่องกง ใครมาแถวย่าน Mong Kok แนะนำให้ลองกินเมนูสุดคลาสสิกอย่างบะหมี่ไข่ เกี๊ยวกุ้ง พร้อมกับน้ำซุปหอม ๆ ที่ได้จากการเคี่ยวเปลือกกุ้ง หอยเชลล์แห้ง และกระดูกปลา เรียกว่าเป็นต้นตำรับแท้ ๆ ที่อยากให้มาลอง 

          หมูย่างหนังกรอบ สัมผัสหมูย่างหนังกรอบสูตรฮ่องกงอันเป็นเอกลักษณ์ที่มีชั้นเนื้อถึง 5 ชั้น ได้แก่ ส่วนหนัง ชั้นไขมัน สันนอก ไขมัน และสันใน นำมาย่างจนหนังกรอบเหลืองนวล พร้อมเนื้อในที่หมักกับเกลือและเครื่องเทศหอม ๆ แนะนำให้มาที่ร้าน The King’s Cuisine ย่าน Jordan, ร้าน Joy Hing Food Shop ย่าน Wan Chai

          อาหารเช้าสไตล์ฮ่องกง อาหารฮ่องกงมีการผสมผสานกันอย่างลงตัวของตะวันออกและตะวันตก อย่างเมนูอาหารเช้า เช่น ซุปมักกะโรนี ขนมปังชุบไข่ทอดหรือเฟรนช์โทสต์ ขนมปังปิ้งทาเนย ไข่ กินกับชานมหรือกาแฟร้อน โดยไข่ที่นิยมกินกันจะเป็นไข่กวนหรือไข่ดาว อย่างที่ร้าน Lan Fong Yuen ย่าน Central, ร้าน Australia Dairy Company ย่าน Jordan 

          วาฟเฟิลฮ่องกง ขนมฮิตอีกหนึ่งอย่างของฮ่องกง รูปร่างหน้าตาเหมือนแผงไข่เล็ก ๆ กรอบนอกนุ่มใน ข้างในสอดไส้หลายรสชาติ ทั้งช็อกโกแลต สตรอว์เบอร์รี และมะพร้าว ยิ่งถ้าได้กินตอนร้อน ๆ ออกใหม่ ๆ จากเตา จะยิ่งอร่อยกว่าเดิมแบบคูณสอง แนะนำให้มาที่ร้าน Lee Ken ย่าน Jordan และร้าน Lee Keung Kee ย่าน North Point

          บอกเลยว่าเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้อัดแน่นไปด้วยร้านอาหารแสนอร่อยทั้งคาวหวานให้ได้ชิมกันตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะอาหารมื้อค่ำ ทำให้ การท่องเที่ยวฮ่องกง (Hong Kong Tourism Board : HKTB) ผุดแคมเปญ “Hong Kong Night Treats” มอบเวาเชอร์มูลค่า 100 ดอลลาร์ฮ่องกง ให้กับนักท่องเที่ยว ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2024 เพื่อใช้เป็นส่วนลดค่าอาหารและเครื่องดื่มได้ที่ร้านอาหารและบาร์ ที่ร่วมรายการ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป โดยมีวิธีการรับบัตรและร่วมแคมเปญ ดังนี้  

• เมื่อเดินทางถึงฮ่องกง สามารถรับบัตรกำนัลรับประทานอาหาร “Hong Kong Night Treats” ได้ที่ศูนย์นักท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวฮ่องกง หรือจุดแลกคูปองและของสมนาคุณที่สถานี West Kowloon, ท่าเรือ Star Ferry (จิมซาจุ่ย) และ wwwtc mall (Causeway Bay) 
   
• เข้าไปดูวิธีการรับคูปองและใช้คูปองที่เว็บไซต์ discoverhongkong.com
  
  สมัครใช้งานด้วยหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ไม่ใช่หมายเลขของฮ่องกง จากนั้นจะมีการส่ง Code เพื่อยืนยันตัวตน ให้ลงทะเบียนไว้ก่อนเข้าฮ่องกงหากจะไปซื้อซิมฮ่องกงเพื่อใช้งาน แต่ถ้าใช้ซิมท่องเที่ยวจากไทย หรือเปิดโรมมิ่ง จะลงทะเบียนเมื่อไปถึงฮ่องกงก็ได้เช่นกัน สามารถดูรายชื่อร้านอาหารและบาร์ที่เข้าร่วมทั้งหมดได้ที่เว็บไซต์ discoverhongkong.com

          นับเป็นอีกหนึ่งแคมเปญดี ๆ จากการท่องเที่ยวฮ่องกง ที่ต้องการเชิญชวนนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เดินทางมาเพลิดเพลินกับอาหาร สถานบันเทิงยามค่ำคืน ตลอดจนที่เที่ยวและกิจกรรมต่าง ๆ ของเมืองให้มากขึ้น ร่วมสัมผัสและค้นหาเสน่ห์ของฮ่องกง ดินแดนแห่งสีสันที่ไม่เคยหลับใหล มากี่ครั้งก็ตกหลุมรักซ้ำ ๆ ได้เสมอ

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : เว็บไซต์ discoverhongkong.com และ เฟซบุ๊ก Royal Thai Consulate-General