x close

เที่ยวฟาร์ม ตามดูโคบาลไทย

ฟาร์มโชคชัย เที่ยวฟาร์ม ตามดูโคบาลไทย

ฟาร์มโชคชัย เที่ยวฟาร์ม ตามดูโคบาลไทย

เที่ยวฟาร์ม ตามดูโคบาลไทย (อ.ส.ท.)

ปิยะฤทัย ปิโยพีระพงศ์...เรื่อง
อธิษฐ์ พีระวงศ์เมธา...ภาพ

          นุ่ม หยุ่น และอุ่น คือความรู้สึกที่ได้รับเมื่อมือขวาจับและกำฐานเต้านมของแม่โคที่ยืนสงบเสงี่ยมอยู่ในซองรีดนม ทันทีที่บีบมือ น้ำนมสีขาวสะอาดก็พุ่งปรี๊ดออกจากเต้านมแม่โคลงไปในถังรองรับทันที

          "บางทีแค่เขายืนอยู่เฉย ๆ น้ำนมก็หยดออกมาแล้วค่ะ" นักรีดนมตัวจริงบอกเล่า "แม่โคมีน้ำนมมาก เราต้องรีดออกทุกวัน วันละ 3 รอบ ตีสี่ บ่ายสอง และสามทุ่ม ถ้าไม่รีดแล้วเขาจะคัดนมค่ะ"

ฟาร์มโชคชัย เที่ยวฟาร์ม ตามดูโคบาลไทย

          แม่โคสีขาวดำพันธุ์โชคชัย ฟรีเชียน ซึ่งเป็นพันธุ์เฉพาะที่ทางฟาร์มคัดเลือกสายพันธุ์โฮลสไตน์ ฟรีเชียน มาผสมกับสายพันธุ์พื้นเมือง ยืนนิ่งราวกับไม่รู้สึกอะไรเลยเมื่อฉันเริ่มต้นกระบวนการรีดนมด้วยมืออีกครั้ง โดยกำนิ้วโป้งและนิ้วชี้เป็นวงล็อกหัวนมแม่โคไว้แนบแน่น แล้วค่อย ๆ ไล่สามนิ้วที่เหลือลงมาจนกลายเป็นการกำ

          "ล็อกให้แน่นเลยค่ะ ไม่อย่างนั้นแม่โคจะเจ็บ" การถูกล็อกแน่นเช่นนี้เป็นความเคยชินของแม่โคจำนวน 1,500 ตัว ในฟาร์มโชคชัย ทว่าเปลี่ยนจากมือคนไปเป็นหัวเครื่องรีดนม ซึ่งว่ากันว่าถูกออกแบบให้แม่วัวรู้สึกเหมือนลูกน้อยกำลังดูดน้ำนมจากอก เทคโนโลยีนี้ทำให้ฟาร์มโชคชัยสามารถรีดนมโคได้ภายในเวลา 8 นาที ต่อ 1 ตัว เร็วกว่าสมัยที่ใช้วิธีรีดด้วยมือ ซึ่งใช้เวลามากกว่าครึ่งชั่วโมงในการรีดนมโค 1 ตัว และบทสรุปสุดท้ายในแต่ละวันคือ ทางฟาร์มได้น้ำนมดิบถึงวันละ 20 ตัน นำเข้าสู่โรงงานผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์นมตรา "อืมม!..มิลค์" เพียง 1ใน 4 ของปริมาณที่ได้ นอกจากนั้นก็ขายให้ผู้ประกอบการที่ต้องการน้ำนมดิบคุณภาพดีเพื่อนำไปใช้ในการแปรรูปต่อไป

ฟาร์มโชคชัย เที่ยวฟาร์ม ตามดูโคบาลไทย

          แม้จะปรับเปลี่ยนจากมือคนมาเป็นการรีดนมด้วยเครื่อง ทว่าก่อนสวมหัวเครื่องรีดนมไปที่เต้าทั้งสี่ของแม่โค ก็ยังต้องอาศัยมือคนในการรีดน้ำนมเพื่อตรวจสอบคุณภาพน้ำนมที่ดีต้องมีสีขาวนวล ไม่จับตัวเป็นลิ่ม หรือเป็นก้อน มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ตามธรรมชาติ เมื่อมั่นใจว่าได้น้ำนมดีแล้ว กระบวนการรีดนมโคด้วยเครื่องก็เริ่มต้น ตั้งแต่กดหมายเลขประจำตัวของแม่โคที่เครื่องบันทึกข้อมูล (ฉันแอบคิดขำ ๆ ว่าเป็นหมายเลขประจำหูต่างหาก) จากนั้นจึงเปิดเครื่องรีดแล้ว สวมหัวเครื่องรีดไปที่หัวนมทั้งสี่ของแม่โค ในเวลาไม่นานนัก น้ำนมสีขาวบริสุทธิ์ สด สะอาดก็หลากไหลผ่านท่อสายยางไปยังท่อแก้ว ก่อนเข้าสู่ถังพัก ผ่านเข้าสู่กระบวนการกรอง แล้วไหลผ่านท่อแก้วไปเก็บรวบรวมไว้ที่ศูนย์รับน้ำนมดิบ ซึ่ง ณ จุดนั้นน้ำนมจะถูกลดอุณหภูมิไว้ที่ 4 องศาเซลเซียส เพื่อรักษาคุณภาพ ก่อนนำไปแปรรูปหรือจำหน่ายต่อไป ตลอดเส้นทางน้ำนมไม่ได้สัมผัสอากาศภายนอกเลย จึงมั่นใจในคุณภาพและความสะอาดได้อย่างแน่นอน

          "เวลารีดนมตอนตีสี่ เราเปิดเพลงให้แม่โคฟังด้วยนะคะ แม่โคจะได้อารมณ์ดี" สาวชาวฟาร์มคนหนึ่งเล่าพร้อมรอยยิ้ม ฉันนึกถึงเสียงดนตรีบรรเลงฟังรื่นใจ ทว่าคำอธิบายเพิ่มเติมทำให้อดขำไม่ได้

          "คนรีดชอบฟังเพลงอะไร แม่ก็ได้ฟังเพลงแบบนั้นล่ะค่ะ" ฟาร์มโคนมเป็นชุมชนของสาวแก่แม่ม่ายโดยแท้จริง สำหรับโคตัวผู้ ซึ่งถูกแยกเลี้ยงไว้ต่างหากนั้น มีเฉพาะพ่อพันธุ์ 12 ตัว และโค "ตัวล่อ" ซึ่งทำหน้าที่กระตุ้นความรู้สึกของพ่อพันธุ์บางตัว

           "เรารีดน้ำเชื้อพ่อพันธุ์สัปดาห์ละ 2 วัน คือ วันอังคารและวันพฤหัสฯ ซึ่งจะใช้โคตัวเมียที่มีขนาดใหญ่มาเป็นตัวล่อ เพราะต้องรับน้ำหนักตัวมหาศาลของพ่อพันธุ์ เรื่องแปลกก็คือพ่อพันธุ์บางตัวต้องใช้ตัวล่อเป็นตัวผู้มาตลอด พอได้กลิ่นตัวเมียก็เลยรู้สึกไม่ปลอดภัย"

           แม้จำนวนโคพ่อพันธุ์จะเป็นสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนโคนมกว่า 3,000 ตัว แต่ก็มีความสำคัญนัก เพราะน้ำเชื้อของพ่อพันธุ์ที่ผ่านการคัดเลือกสายพันธุ์มาแล้วนี้ เมื่อนำไปผสมกับโคตัวเมีย หากได้ลูกตัวเมียก็นับเป็นว่าที่ผู้ผลิตน้ำนมคุณภาพดีต่อไป บางตัวเติบโตเป็นแม่พันธุ์ที่ส่งออกไปยังหลายประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนลูกตัวผู้นั้น มีทั้งคัดเก็บไว้เป็นพ่อพันธุ์ในอนาคตและขายให้เกษตรกรรายอื่นไป ทุกชีวิตในฟาร์มกว้างใหญ่นี้ล้วนมีคุณค่า แม้ว่าจะแตกต่างกัน

ฟาร์มโชคชัย เที่ยวฟาร์ม ตามดูโคบาลไทย

ฟาร์มโชคชัย เที่ยวฟาร์ม ตามดูโคบาลไทย

           "ควั่บ !!!" เสียงตวัดแส้แหวกอากาศกรีดก้อง ณ มุมหนึ่งของฟาร์มโชคชัย หลายคนสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงดังที่ทำให้จินตนาการถึงสัมผัสหนักหน่วงที่ฟาดลงมาเจ็บแปลบบนผิวเนื้อ คาวบอยสวมชุดเต็มยศตรงกลางลานทรายรูปวงกลมยังคงเหวี่ยงข้อมือตวัดแส้พลิกพลิ้วตัดอากาศอย่างฉับไวและหนักแน่น

           เสียง "ควั่บ ๆ" ดังต่อเนื่อง นั่นคือหนึ่งในชุดการแสดงโชว์ของคาวบอยและม้าในฟาร์มโชคชัยที่ผู้มาเยือนประทับใจ นับแต่เริ่มเปิดฉากด้วยคาวบอยหนุ่มใหญ่ผู้มีใบหน้าละม้ายชาวอินเดียนเดินม้าออกมายืนง่ากลางลาน ประกอบเสียงบรรยายบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับหน้าที่การงานในทุ่งกว้างท่ามกลางฝูงปศุสัตว์นับพัน รวมถึงเหตุผลของการแต่งตัวเท่ ๆ ซึ่งแท้จริงแล้วคือเรื่องจำเป็น ไม่จะเป็นกางเกงยีนส์ตัวหนาที่ถูกสวมทับด้วยแชปส์ (Chaps) หรือแผ่นหนังที่คลุมตั้งแต่เอวลงไปถึงท่อนาทั้งหมด ก็เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากเขาวัว รวมทั้งลดการเสียดสีกับขนหยาบของม้า ส่วนรองเท้าบูทหุ้มข้อ สวมเพื่อช่วยป้องกันหญ้าบาดและป้องกันงูฉก ต้องมีส้นเพราะเมื่อสอดเท้าเข้าโกลนแล้ว ส้นรองเท้าจะถูกรั้งไว้ที่โกลน ทำให้เท้าไม่ลื่นผ่านโกลนไปเมื่อม้าควบ ส่วนหัวรองเท้านั้นมักเป็นแบบปลายแหลม เพราะถ้าตกม้าจะได้ซักเท้าออกจากโกลนได้ทันที ทำให้ไม่ถูกม้าลากถูกลู่ถูกกังให้เจ็บตัวยิ่งขึ้น

ฟาร์มโชคชัย เที่ยวฟาร์ม ตามดูโคบาลไทย

ฟาร์มโชคชัย เที่ยวฟาร์ม ตามดูโคบาลไทย

          ยังมีโชว์อีกหลายอย่างที่ครอบคลุมเรื่องราวของวิถีคาวบอย เช่น การใช้บ่วงบาศคล้องวัว ซึ่งนอกจากจะทำให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการเหวี่ยงเชือกของคาวบอยและความแสนรู้ของม้าแล้ว ยังได้อมยิ้มกับบทบาทล้มลงกองบนพื้นทรายอย่างหมดท่าของวัวอีกต่างหาก รอยยิ้มยังไม่คลายเมื่อชมการแสดงถัด ๆ ไป ทั้งการควงปืนโดยคาวบอยมาดยียวนการควงเชือกบ่วงบาศแข่งกันในหมู่ผู้ชายกลางแจ้ง ฯลฯ จากนั้นจึงเป็นเวลาตามอัธยาศัยของนักท่องเที่ยว จะเลือกนั่งบนหลังม้าให้คาวบอยจูงไปรอบ ๆ เมืองคาวบอยจำลอง ตื่นเต้นท้าทายบนหลังม้าพยศ (ตัวปลอม) ยิงปืนพิสูจน์ความแม่นยำ หรือนั่งจิบเครื่องดื่ม กินไอศกรีม "อืมม!..มิลค์" ก่อนขึ้นฟาร์มแทรกเตอร์ไปยังจุดท่องเที่ยวต่อไป ก็ล้วนแล้วแต่ได้บรรยากาศของการมาเยือนสถานที่อันเป็นตำนานของโคบาลไทยทั้งนั้น

          เมื่อฟาร์มแทรกเตอร์ของรอบนี้แล่นผ่านไปพร้อมนักท่องเที่ยวที่มีรอยยิ้มระบายอยู่บนใบหน้า แดนคาวบอยจำลองก็กลับสู่ความเงียบอีกครั้ง ทว่ายังมีชีวิตชีวาด้วยฝูงม้าร่างสูงใหญ่ หนึ่งในนั้นเป็นม้าสีน้ำตาลกำยำด้วยมัดกล้าม มีสีขาวพาดแนวหน้าผากลงมาจดจมูก ข้อเท้าทั้งสี่เป็นกำยำด้วยมัดกล้าม มีสีขาวพาดแนวหน้าผากลงมาจดจมูก ข้อเท้าทั้งสี่เป็นสีขาวคล้ายสวมถุงเท้า มันทำให้ฉันคิดถึง "กลางดง"

ฟาร์มโชคชัย เที่ยวฟาร์ม ตามดูโคบาลไทย

          "เช้าวันนี้ "กลางดง" ไม่ได้อยู่ในคอกของมัน ประตูลูกกรงแข็งแรงถูกเลื่อนเปิดกว้าง แสงรำไรส่องลอดผ่านหน้าต่างทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้มองเห็นกองฟางซึ่งปูลาดเป็นที่นอนอยู่มุมขวาสุดของคอกคอกดูโล่งและว่างเปล่า เมื่อไม่มีเจ้าของคอกยืนและเล็มหญ้าในรางอาหารรงมุมซ้ายเหมือนเช่นทุกวัน..." บันทึกบทเก่าถูกเปิดย้อนอ่านอีกครั้งเมื่อเห็นม้าสีน้ำตาล มีสีขาว พาดแนวหน้าผากลงมาจดจมูก และข้อเท้าทั้งสี่เป็นสีขาวคล้ายสวมถุงเท้าเจ้าธงสิทธิ์ทำให้ฉันคิดถึง "กลางดง" ม้าเลือดผสมระหว่างควาเตอร์ฮอร์ส (Quarter Horse) กับโธโรเบรด (Thoroughbrd) ซึ่งเป็นม้าตัวแรกที่ฉันขี่มันเหยาะย่างในแปลงกว้างเมื่อสิบกว่าปีก่อน

          เช้าวันนี้กลางดงไม่ได้อยู่ในคอกของมัน ด้วยวัยกว่า 15 ปี ในวันที่เราพบกันถึงวันนี้กลางดงจากไปอย่างไม่มีวันกลับแล้ว คอกของมันคงกลายเป็นที่อยู่ของม้าตัวใดตัวหนึ่งในบรรดาม้าแข็งสายพันธุ์อาระเบียน ที่ทางฟาร์มเพาะไว้เพื่อเก็บสายพันธุ์ดี หรือเป็นบ้านของม้าพันธุ์ควาเตอร์ฮอร์ส ซึ่งเป็นม้าที่เหมาะกับการทำงานต้อนฝูงวัว

ฟาร์มโชคชัย เที่ยวฟาร์ม ตามดูโคบาลไทย

          "ควาเตอร์ฮอร์สเป็นม้าที่นิยมใช้ในฟาร์มเพื่อต้อนวัวค่ะ เหตุผลหนึ่งคือเพราะเสียงฝีเท้าของมันใกล้เคียงกับวัว ทำให้วัวไม่เตลิดไปไกล" สาวตาคมในชุดคาวบอยบอกเล่าขณะเราย้ายมายืนอยู่ข้างแปลงหญ้าอ่อนที่ปลูกไว้เพื่อเป็นอาหารลูกโค เรายืนอยู่ใต้ต้นไม้ที่ขึ้นเรียงรายเป็นอุโมงค์สีเขียวสวย สายตาจับจ้องม้าฝูงเล็ก ๆ ที่คาวบอยขี่เหยาะพามันออกกำลังกายเบา ๆ พักผ่อนเพลิน ๆ ท่ามกลางทุ่งกว้าง เป็นโอกาสดีของเจ้าม้าฝูงนี้ที่ได้ก้มและเล็มหญ้าอ่อนสด ๆ ระหว่างออกภูมิประเทศ โคบาลซึ่งอยู่บนหลังมันดูผ่อนคลายไม่ต่างกัน น้ำเสียงเรียกชื่อและวิธีปฏิบัติต่อม้าดูราวกับเป็นครอบครัวเดียวกัน

          หลังจากปล่อยให้ม้าก้มหน้างีบหญ้าเป็นฟ่อนมาเคี้ยวหยับ ๆ อยู่สักพัก คาวบอยก็พาพวกมันออกกำลังกายอีกหน คราวนี้เป็นการควบตะลุยไปในทุ่งโล่งเจ้าแฮตทริกสีน้ำตาลซึ่งจัดเป็นม้าแรงห้อตะลุยจนฝุ่นดินคละคลุ้งไล่เลี่ยไปกับเจ้าบราวน์

          "ม้าตัวผู้นี่ไม่ค่อยยอมกันค่ะ ถ้าได้ควบแล้วจะต้องเอาชนะอีกตัวให้ได้เลย" สาวโคบาลอมยิ้มมองตามร่างกำยำที่ควบเร็วรี่จนไปผ่อนความเร็วใกล้ต้นจามจุรีแผ่นกึ่งกว้าง สัญชาตญาณเพศผู้ผลักต้นให้ม้าหนุ่มเป็นเช่นนั้นม้าที่นำมาขี่จึงต้องตอนหลังอายุพ้น 2 ปี ไม่อย่างนั้นมันจะยิ่งยากเอาชนะกันมากกว่านี้ จนไม่สามารถนำมาฝึกเพื่อทำงานร่วมกันได้เลย ส่วนม้าตัวเมียก็ไม่นิยมนำมาขี่รวมฝูงกับตัวผู้ เพราะกลิ่นของมันจะทำให้ตัวผู้ไม่มีสมาธิ จิตใจกระเจิดกระเจิง...ว่าอย่างนั้นเถอะ

          ขณะที่ม้า 2 ตัวควบคู่กันอยู่ในทุ่งกว้าง ม้าตัวอื่น ๆ ก็พักผ่อนและเล็มหญ้าอยู่ใกล้ตัวเรา ฉันถือโอกาสใกล้ชิดเดินไปลูบหัว แต่ไม่ลูบหาง เพราะการเข้าหาม้าจากทางด้านหลังมีโอกาสถูกม้าเตะสูงมาก ก่อนสัมผัสม้าก็ต้องอ่านอารมณ์จากลักษณะของใบหูด้วย เมื่อไรที่ใบหูทั้งสองลู่ไปด้านหลังจนแทบแนบชิดคอ แปลว่ามันอารมณ์ไม่ดีสุด ๆ ห้ามเข้าใกล้โดยเด็ดขาด แต่ถ้าใบหูลู่มาทางด้านหน้าตาจ้องเป๋งไปที่อะไรสักอย่าง เหมือนที่เจ้าธงสิทธิ์ทำอยู่ตอนนี้ แปลว่ากำลังสงสัยใคร่รู้

          "ธงสิทธิ์เป็นม้าขี้สงสัยค่ะ มันมองแฮตทริกกับบราวน์ใหญ่เลย คงสงสัยว่าสองตัวนั้นจะทำอะไรต่อไป"

          ส่วนปังปอนด์ ม้าแสนซนซึ่งคาวบอยผูกเชือกไว้กับต้นไม้ ปล่อยให้เล็มหญ้ารอเพื่อน กลับเดินกระสับกระส่ายอยู่ไม่สุข "มันคิดว่าตัวอื่น ๆ กำลังจะกลับคอก แล้วทิ้งมันไว้ลำพัง" การอยู่ร่วมกันจนรู้จักรู้ใจเช่นนี้เป็นความน่ารักที่เราพบได้ในฟาร์มโชคชัย ไม่ใช่เฉพาะคนกับคน แต่รวมถึงคนกับสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ในฟาร์มที่เกิดจากความฝันของเด็กชายคนหนึ่งเมื่อกว่า 50 ปีที่แล้ว ซึ่งเขาได้สานต่อฝันจนเป็นจริง แล้วส่งต่อทั้งความฝันแลแรงบันดาลใจให้กบคนรุ่นต่อมาอีกมากมาย

ฟาร์มโชคชัย เที่ยวฟาร์ม ตามดูโคบาลไทย

          ดร.โชคชัย บูลกุล คือผู้สร้างตำนานคาวบอยไทย และวันนี้อาณาจักรเล็ก ๆ ของเขาซึ่งเริ่มจากพื้นที่ 250 ไร่ ขยายกว้างขวางขึ้นกว้างใหญ่นับพันนับหมื่นไร่ โดยส่วนหนึ่งนั้นจัดเป็นพื้นที่บริการท่องเที่ยวที่เรายืนอยู่ขณะนี้

          เมื่อเอ่ยชื่อฟาร์มโชคชัย ภาพแรกที่แล่นเข้ามาในห้วงความคิด คือท้องทุ่งกว้างใหญ่ โคนม ม้า และคาวบอย ทว่าแท้จริงแล้ว ฟาร์มนี้ยังมีจุดท่องเที่ยวน่าสนใจอีกมากมายกระจายอยู่ในพื้นที่ CR 1 (Chokchai Ranch 1) การเที่ยวชมให้ครอบคลุมกิจกรรมและสถานที่ที่น่าสนใจภายในเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง จึงสะดวกที่สุดโดยการนั่งฟาร์มแทรกเตอร์ ซึ่งจัดระบบไว้เป็นรอบการชมอย่างพอเหมาะพอดี วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ สามารถรองรับผู้มาเยือนได้มากที่สุดถึง 18 รอบ ขณะที่วันอื่น ๆ มีรอบปกติ 2 รอบในช่วงสายและบ่าย

          การจัดการอย่างลงตัวโดยมืออาชีพ ซึ่งนำพานักท่องเที่ยวไปเรียนรู้วิถีเกษตรควบคู่กับความเพลิดเพลิน รวมถึงความรับผิดชอบต่อสังคมกับการท่องเที่ยวแบบ CSR Knowledge Tourism ทำให้ฟาร์มโชคชัยได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย หรือรางวัลกินรี จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ถึง 3 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2545, 2549 และ 2551 เป็นการการันตีคุณภาพว่ามาเที่ยวเมื่อไหร่ก็ไม่ผิดหวัง นับจากวันเปิดตัวเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 จนถึงวันนี้จำนวนนักท่องเที่ยวก็ยังอุ่นหนาฝาคั่งทุกเสาร์ อาทิตย์ และเทศกาลวันหยุดยาว

ฟาร์มโชคชัย เที่ยวฟาร์ม ตามดูโคบาลไทย

ฟาร์มโชคชัย เที่ยวฟาร์ม ตามดูโคบาลไทย

          หลังจากผ่านการเที่ยวชมกระบวนการีดนมโค นั่งฟาร์มแทรกเตอร์เที่ยวชมพื้นที่พร้อมฟังสาระความรู้เกี่ยวกับการทำฟาร์มเพลิน ๆ แล้วได้ตื่นตาตื่นใจกับการแข่งของคาวบอย ตื่นเต้นกับการขี่ม้า สนุกกับการถ่ายภาพในทุ่งทานตะวันเหลืองอร่ามท้าแดดจัดจ้า ยังมีกิจกรรมน่ารักที่มีสัตว์เป็นตัวเอก นั่นคือ การแสดงของสุนัขต้อนแกะ ซึ่งเรานั่งชมจากบนฟาร์มแทรกเตอร์ได้เลย จากนั้นจึงไปก้าวลงจากรถในบริเวณสวนสัตว์ ซึ่งก็มีกิจกรรมสบาย ๆ ให้ทุกคนในครอบครัวทำร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการป้อนอาหารวาง แกะ กระต่าย หรือป้อนนมให้ลูกโค เด็กน้อยหลายคนติดใจการขี่ม้าแคระและสนุกกับการชมการแสดงของสัตว์แสนรู้ ส่วนผู้ใหญ่ก็สุขใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของลูกน้อย

          เวลา 2 ชั่วโมงครึ่งมากมายด้วยความสุข ซึ่งจะสะสมเป็นความทรงจำให้รำลึกในวันหน้า แต่เรายังอยากขยายเวลาของการใช้ชีวิตในฟาร์มให้ยาว.ว.ว.ว....ออกไป อีกส่วนหนึ่งของพื้นที่ CR 1 ไม่ไกลจากจุดท่องเที่ยวนี้นัก จึงเป็นสถานที่แห่งความรื่นรมย์และร่มรื่นที่เราไม่ยอมพลาด ใต้ร่มเงาไม้ใบบังจนแดดส่องลงดินได้เพียงรำไร คือที่ตั้งของเต็นท์หลังใหญ่ซึ่งกระจายกันห่าง ๆ พอเป็นส่วนตัว สิ่งที่น่าทึ่งนอกเหนือจากเต็นท์โอ่โถงซึ่งด้านในปูพรม ตั้งเตียงคู่ วางเครื่องปรับอากาศ มีตู้โต๊ะ และสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างพอเพียง ก็คือ พื้นที่ป่านี้เป็นป่าปลูกที่ผู้บริหารฟาร์มโชคชัยชักชวนพนักงานมาช่วยกันลงต้นไม้เมื่อสิบยี่สิบปีที่แล้ว ถึงวันนี้ต้นไม้จึงเติบใหญ่ให้ร่มเงาครึ้มเย็น ป่าปลูกของฟาร์มโชคชัยยังขยายพื้นที่ออกไปเรื่อย ๆ ในบริเวณอื่นของฟาร์ม เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างความร่มรื่นและอากาศสดสะอาดให้สูดหายใจได้เต็มปอดเฮือก.ก.ก.ก.ก.ก...

ฟาร์มโชคชัย เที่ยวฟาร์ม ตามดูโคบาลไทย

          หลังจากท้าลมท้าแดดมาทั้งวัน เมื่อรูดซิปเปิดประตูเต็นท์เข้าไปสัมผัสไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่พนักงานมาเปิดรอไว้ ฉันก็แทบกระโดดขึ้นเตียงแล้วสลบไสล แต่พอหันไปมองรอบเต็นท์ เห็นตะกร้าใส่ผ้าขนหนูขาวนุ่ม และขวดสบู่ แชมพูขนาดเล็กน่ารัก ติดฉลากรูปวัวก็อดใจไม่ไหว ขอหิ้วตะกร้าเป็นคุณนายไปอาบน้ำให้สดชื่นสักหน่อยดีกว่า ห้องน้ำตั้งอยู่ทางซีกขวาสุดและซ้ายสุดของพื้นที่แคมป์ แบ่งส่วนหญิง-ชายเสร็จสรรพ และยังแบ่งย่อยเป็นห้องน้ำ ห้องสุขาอีกด้วย เพียงแค่เปิดประตูเข้าห้องอาบน้ำ ฉันก็ร้อง "ว้าว !" ในใจ เพราะเบื้องหน้านั้นคือผืนป่าเขียวชอุ่มชุ่มชื่นตา ยืนอาบน้ำไปมองต้นไม้ไปแสนจะเพลินใจ ยังทำกุ๊กกิ๊กวักน้ำใส่ต้นไม้อีกต่างหาก

          "อ้าว! เอ๊ะ! แล้วถ้ามีคนเดินมาจากป่าล่ะ" สำนักแห่งการสงวนกายไม่ให้ใครเห็นเพิ่งปรากฏ ฉันเกือบจะคว้าผ้าขนหนูที่พาดไว้กับลำไม้ไผ่มาปกปิดตัวอยู่แล้วเขียว พอดีสายตาดีเหลือบไปเห็นแนวกำแพงอยู่ไกล ๆ เป็นอันว่าปลอดภัย เราอยู่ในขอบเขตมิดชิดที่อุดมด้วยต้นไม้จนพานนึกว่าอยู่ในป่าจริงไปเสียนี่

          เข็มนาฬิกาผ่านพ้นเลข 10 เสียงฝนตกเปาะแปะกระทบเต็นท์ คล้ายธรรมชาติกำลังตีกลองใบน้อยให้ฟังก่อนนอนยังดังผ่านเข้ามา แสงไฟนวลตากับอากาศเย็นชื่นเพิ่มความรื่นรมย์ให้ค่ำคืนนี้ นอนในเต็นท์หลังใหญ่นั้นสบายนัก มันเป็นอาณาจักรส่วนตัวของฉันในคืนนี้ ก่อนเดินทางกลับในวันพรุ่ง เมื่ออยู่เงียบ ๆ ลำพัง ความคิดพาตัวเองไปพบความจริงว่า ฉันกับม้าไม่ต่างกันอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นคือ แม้หัวใจจะรักอิสระและพึงใจกับการรอนแรมไปไหนต่อไหน แต่เมื่อถึงเวลาหนึ่งเราก็ต้องกลับบ้าน กลับไปเพื่อพักพิง...และฝันถึงการเดินทางครั้งต่อไป

ขอขอบคุณ

          ผู้บริหารฟาร์มโชคชัย
          คุณภาส วิชัยสุชาติ, คุณเนาวนิตย์ บัวสุวรรณ
          คุณสุวิยา มโนชาติ เหล่าคาวบอย และเจ้าหน้าที่ฟาร์มโชคชัย สำหรับการอำนวยความสะดวกในการจัดทำสารคดีเรื่องนี้อย่างดียิ่ง

ฟาร์มโชคชัย เที่ยวฟาร์ม ตามดูโคบาลไทย

คู่มือนักเดินทาง

          ฟาร์มโชคชัยตั้งอยู่ในเขตอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มีรูปแบบการจัดการอย่างเป็นระบบได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards) ยอดเยี่ยมและดีเด่น ประเภทแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปี พ.ศ. 2545, 2549 และ 2551

การเดินทาง

          จากกรุงเทพฯ ถึงฟาร์มโชคชัยมีระยะทางประมาณ 160 กิโลเมตร ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) ไปจนเข้าเขตจังหวัดสระบุรี แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 2 (มิตรภาพ) ผ่านมวกเหล็ก กลางดง จนเข้าเขตอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา จะเห็นป้ายบอกทางให้กลับรถไปยังฟาร์มโชคชัยซึ่งอยู่ทางฝั่งถนนเข้ากรุงเทพฯ

ฟาร์มโชคชัย เที่ยวฟาร์ม ตามดูโคบาลไทย

ฟาร์มโชคชัย เที่ยวฟาร์ม ตามดูโคบาลไทย

เที่ยวชมฟาร์ม

          เรียนรู้เรื่องราวของการทำฟาร์มโคนม ลองรีดนมด้วยมือคุณเอง นั่งฟาร์มแทรกเตอร์ชมบรรยากาศรอบฟาร์ม สนุกกับการแสดงวิถีชีวิตของคาวบอย เพลินกับการขี่ม้า เที่ยวทุ่งทานตะวัน ยิ้มกับความแสนรู้ของสุนัขต้อนแกะ ใกล้ชิดกับสัตว์นานาชนิดในสวนสัตว์

          โดยฟาร์มโชคชัยจัดเวลาสำหรับการเที่ยวชมเป็นรอบ ใช้เวลารอบละประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง วันอังคาร-ศุกร์ วันละ 2 รอบ เวลา 10.00 น. และ 14.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันละ 18 รอบ รอบเช้า เวลา 09.00-11.40 น. รอบบ่าย เวลา 13.00-14.40 น. โดยรถแทรกเตอร์ชมฟาร์มออกทุก ๆ 20 นาที ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ คนละ 300 บาท เด็ก (ความสูง 90-140 เซนติเมตร) คนละ 150 บาท ควรสำรองบัตรเข้าชมล่วงหน้าที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2998 9381 ต่อ 150-5, 0 4493 5504-5 ต่อ 116

ฟาร์มโชคชัย เที่ยวฟาร์ม ตามดูโคบาลไทย

ที่พัก

          ฟาร์มโชคชัยมีบูติกเต็นท์พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบคัน (ยกเว้นโทรทัศน์) ให้บริการ รวมทั้งมีฟรี Wi-Fi ครอบคลุมทั่วบริเวณแคมป์ เต็นท์หลังใหญ่จัดวางอยู่ในพื้นที่สวนป่าปลูกร่มรื่น ห้องน้ำรวมแยกส่วนหญิง-ชาย และแยกห้องอาบน้ำ ห้องสุขาจากกัน

          ค่าบริการ วันจันทร์-พฤหัสบดี เต็นท์หลังละ 2,800 บาท วันศุกร์-อาทิตย์ 3,500 บาท รวมอาหารเช้า พักได้หลังละ 2 คนเตียงเสริม 1,500 บาท นอกจากนี้ ยังมีแพ็กเกจซึ่งรวมการเที่ยวชมฟาร์มและอาหาร 3 มื้อไว้ด้วยแล้ว สำรองที่พักได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2998 9381 ต่อ 150-7 และ 0 4432 8610

อาหาร

          นอกจากโชคชัยสเต็กเฮ้าส์ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านหน้า ติดถนนมิตรภาพ ยังมีร้านอาหารกลางฟาร์ม ซึ่งอยู่ตรงต้นทางเข้าสู่ฟาร์มโชคชัยแคมป์

การติดต่อ

ฝ่ายขายฟาร์มโชคชัย โทรศัพท์ 0 2998 9381 ต่อ 1411-3, 0 4493 5628-30, 0 4432 8386 หรือเว็บไซต์ www.farmchokchai.com

ฟาร์มฝากบอก

          งดการนำสัตว์เลี้ยงเข้าสู่ฟาร์ม เนื่องจากฟาร์มโชคชัยมีสัตว์เลี้ยงอยู่มากมาย และการเข้าชมฟาร์มเป็นการนำชมเป็นกลุ่ม หากนักท่องเที่ยวนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปอาจจะเกิดปัญหาความไม่ปลอดภัยขึ้นได้

          พื้นที่ปศุสัตว์จะมีกลิ่นของดิน หญ้า อาหาร และกลิ่นเฉพาะตัวของสัตว์ ซึ่งแม้ฟาร์มโชคชัยจะได้ดูแลทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออย่างเข้มงวด แต่กลิ่นเหล่านี้ก็ยังคงมีอยู่ตามธรรมชาติ

          ด้วยกลิ่นของอาหารที่ใช้เลี้ยงโค รวมทั้งบริเวณพื้นที่ในเขตอำเภอปากช่องที่ส่วนใหญ่เป็นสวนผลไม้ จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีแมลงหวี่และแมลงวันเข้ามารบกวน

          กิจกรรมการท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมมากลางแจ้ง นักท่องเที่ยวจึงควรสวมใส่เสื้อผ้าที่กระชับ รัดกุม และทะมัดทะแมง และควรเตรียมตัวให้เหมาะสมกับฤดูกาล เช่น เตรียมหมวก แว่นกันแดด ร่ม เสื้อกันฝน เป็นต้น

          การเข้าชมฟาร์มต้องตรงต่อเวลาและเป็นไปตามเส้นทางที่กำหนด เนื่องจากการเข้าชมฟาร์มเป็นการนำชมเป็นกลุ่มตามรอบเวลา

          เส้นทางการเข้าชมฟาร์มเป็นเส้นทางปลอดบุหรี่

          เนื่องจากพื้นที่ท่องเที่ยวในฟาร์มโชคชัยตั้งอยู่ภายในฟาร์มโคนมที่มีการปฏิบัติงานจริง จึงมีความจำเป็นที่ต้องของดเว้นการถ่ายภาพเครื่องไหวในทุกกรณี




สุริยา มโนชาติ โคบาลในฟาร์มจริง

          ใบหน้าขรึม บุคลิกนิ่ง เป็นเอกลักษณ์ของชายคนนี้ สุริยา มโนชาติ หนึ่งในสิบโคบาลที่ทำงานอยู่ในฟาร์มโชคชัย นักท่องเที่ยวจะเห็นมาดเท่ ๆ ของเขาได้ในช่วงชมโชว์ม้า ซึ่งในชีวิตจริงของ สุริยา หรือ "พี่เหนาะ" ของน้อง ๆ ก็คือโคบาลที่คลุกคลีอยู่กับฟาร์มม้าและวัวมานานนับสิบปี

          "ผมเริ่มทำงานที่ฟาร์มโชคชัย เพราะพ่อบุญธรรมทำงานอยู่ที่นี่ แรก ๆ ก็มาจับม้าให้พ่อ จับบ่อย ทุกวัน ๆ พอสักสิบขวบเข้าสิบเอ็ดขวบก็เริ่มขี่ม้า พออายุสามสิบผู้จัดการฟาร์มให้มาเลี้ยงวัว วัวตัวไหนดื้อผมก็จะเข้าไปจับให้ เพราะเป็นคนตัวเล็ก ซอกแซกได้ แต่ตอนดึงนี่ไม่ไหว เพราะไม่มีแรง ต้องให้คนตัวใหญ่เข้าไปดึง"

          "มาขี่ม้าจริง ๆ ประมาณปี 2527 มีคนฝึกให้ แล้วก็ทำงานขี่ต้อนวัวตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น พอเราเริ่มขี่เก่งก็ได้ไปฝึกม้าต่อ ตกม้าบ่อยครับ คนที่ฝึกม้าใหม่นี่ตกทุกคน แต่เรารู้ตัวก่อนว่าจะตก เพราะตัวลอยออกจากที่นั่ง เราก็หมุนตัวลงไปเลย ไม่ต้องพยายามยึดไว้ เพราะยิ่งพยายามยิ่งเจ็บ ถ้าตกก็ต้องตก ส่วนการโชว์ม้าเริ่มประมาณปี 2543 แต่ว่าเรื่องโยนบ่วง คล้องบ่วงนี่ผมเป็นมาตั้งแต่เลี้ยงวัว เพราะใช้จริงตั้งแต่ยังเด็ก ตอนนั้นเวลาดึงไม่อยู่ก็ให้คนใหญ่มาช่วยดึง”
         
          "ก่อนจะมาขี่มาโชว์ผมทำงานหลายอย่าง ทั้งปลูกพืชไร่ ทั้งเลี้ยงวัว ตอนทำงานจริงไม่ได้แต่งตัวแบบนี้ (หมายถึงชุดคาวบอยเต็มสูตร) เราแต่งลูกทุ่ง ๆ บางทีใส่บูทยางเพราะฝนตก เวลาเดินเข้าไปในคอกสัตว์จะได้ไม่เลอะเทอะ

          คาวบอยไทยผู้มีใบหน้าคล้ายชาวอินเดียน ชนพื้นเมืองทางฝั่งตะวันตกของอเมริกา ยิ้มน้อย ๆ ก่อนขอตัวไปดูแลม้า ใบหน้าและมาดนิ่งเป็นสิ่งจริงแท้ของเขา รวมถึงวิถีการทำงานในฟาร์ม ซึ่งเป็นจริงมานานนับสิบปี






ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

หนังสืออสท. ปีที่ 53 ฉบับที่ 12 กรกฎาคม 2556





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เที่ยวฟาร์ม ตามดูโคบาลไทย อัปเดตล่าสุด 15 สิงหาคม 2556 เวลา 11:20:30 5,304 อ่าน
TOP