เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
สำหรับวันแม่ปีนี้ (12 สิงหาคม 2556) ลูก ๆ คนไหนที่ยังไม่มีโปรแกรมจะพาแม่ไปเที่ยววันแม่ ก็ตามกระปุกท่องเที่ยวมาเลยค่ะ เพราะหลังจากที่เราเคยแนะนำ "วันแม่...พาแม่เที่ยวไหนดี" กันไปแล้ว คราวนี้เราจะมาแนะนำกิจกรรมที่ทั้งสนุก ทั้งอิ่มท้อง และอิ่มใจใกล้ ๆ กรุงเทพฯ อ๊ะ ๆ และสำหรับใครที่อยากพาแม่ไปพักผ่อนค้างคืนชิล ๆ ริมทะเล หรือสูดอากาศบริสุทธิ์ของขุนเขา เราก็มีมาบอกเหมือนกันค่ะ เอาล่ะ ! ถ้าพร้อมแล้วก็ตามเราไปเที่ยววันแม่กับกิจกรรมดี ๆ กันค่ะ
ไหว้พระ 9 วัดทางน้ำ แม่น้ำเจ้าพระยา กรุงเทพมหานคร
สำหรับโปรแกรมท่องเที่ยว "ไหว้พระ 9 วัดทางน้ำ แม่น้ำเจ้าพระยา กรุงเทพมหานคร" ประกอบด้วย
1. วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร มีคติว่า เดินทางปลอดภัย มีมิตรไมตรีที่ดี
2. วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง) มีคติว่า ชีวิตรุ่งโรจน์ทุกคืนวัน
3. วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร มีคติว่า ชื่อเสียงโด่งดัง คนนิยมชมชอบ
4. วัดอมรินทราราม มีคติว่า พระอินทร์ประทานพรให้ปลอดภัยจากอันตรายใด ๆ ทั้งปวง
5. วัดศรีสุดาราม มีคติว่า มงคลและศักดิ์ศรีแห่งการศึกษา
6. วัดคฤหบดี มีคติว่า เสริมโชควาสนาบารมีดุจดัง ทองนพคุณ เคียงคู่กับ แก้วมรกต
7. วัดราชาธิวาส มีคติว่า มีลาภยศที่ยิ่งใหญ่ ดุจพระราชา
8. วัดเทวราชกุญชร มีคติว่า มงคลเทพเทวดา มหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่ง
9. วัดยานนาวา มีคติว่า การค้าขาย การทูต เจริญรุ่งเรือง
ในระหว่างการล่องเรือผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับความสุขทางใจ ความรู้จากมัคคุเทศก์ เรียนรู้ถึงคุณค่าโบราณสถาน เรื่องราว และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญริมน้ำรอบเกาะกรุงรัตนโกสินทร์โดยรอบ ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ททท. กองตลาดภาคกลาง โทรศัพท์ 0 2250 5500 ต่อ 1333, 1335, 1336, 1337, 1342 หรือ www.เที่ยวภาคกลาง.com
เลาะเลียบทะเลฝั่งตะวันออกภาคตะวันออกเป็นดินแดนแห่งหมู่เกาะและท้องทะเลงาม ซึ่งแวดล้อมด้วยผืนป่าดิบและสวนผลไม้สมบูรณ์ เต็มไปด้วยสารพันแหล่งท่องเที่ยวที่แตกต่างหลากหลาย อีกทั้งยังอุดมด้วยอาหารทะเลสดใหม่ให้ได้อิ่มอร่อยกันทุกฤดู เพราะฉะนั้น ถ้าอยากพาแม่ไปเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง เราก็หยิบเอาสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดทางภาคตะวันออกมาแนะนำกัน โดยเริ่มที่
จังหวัดชลบุรี
จังหวัดชลบุรี หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า "เมืองชล" แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งในปัจจุบัน ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง เช่น บางแสน, พัทยา, ตลาดน้ำสี่ภาค, เกาะล้าน, เกาะสีชัง, สัตหีบ, มิโมซ่า พัทยา และ Art in paradise พัทยา ฯลฯ และนอกเหนือจากที่กล่าวมานี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมายมายที่เราหยิบมาแนะนำกัน ดังนี้
เรือหลวงจักรีนฤเบศร ณ ฐานทัพเรือสัตหีบ เปิดให้เยี่ยมชมเฉพาะคนไทย ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และผู้เข้าชมต้องแต่งกายสุภาพ งดสูบบุหรี่ ห้ามนำกระเป๋าสัมภาระ อาหาร เครื่องดื่ม สัตว์เลี้ยง กล้องวิดีโอ รวมทั้งห้ามพกอาวุธและวัตถุอันตรายขึ้นบนเรือโดยเด็ดขาด วัดญาณสังวราราม วรมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เป็นวัดในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน สร้างเมื่อ พ.ศ. 2519 ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ทรงรับเป็นองค์อุปถัมภ์ สมเด็จพระสังฆราชทรงแนะนำว่า ควรเป็นวัดสำหรับไปปฏิบัติธรรมเพราะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ ดี ทั้งสง่างามและพื้นที่กว้างขวางถึง 366 ไร่ สงบร่มรื่นด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด ส่วนภายในวัดมีพระบรมธาตุเจดีย์มหาจักรีพิพัฒน์ทรงลังกาสีขาว หรือพุทธคยาจำลอง ควรไปสักการะและทำบุญในวันหยุด และมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยสลักด้วยเลเซอร์บนหน้าผาเขาชีจรรย์ นอกจากนี้ ภายในบริเวณวัดมีศาลานานาชาติแต่สร้างตามสถาปัตยกรรมไทยที่สวยงาม น่านั่งพักผ่อนอยู่หลายจุด
พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ตั้งอยู่เส้นทางเดียวกับทางไปวัดญาณสังวราราม วรมหาวิหาร โดยแยกจากถนนสุขุมวิท บริเวณ กม. 160 ไปอีก 6 กิโลเมตร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย แกะสลักด้วยแสงเลเซอร์บนหน้าผา, ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค ตั้งอยู่หมู่ 7 ตำบลนาจอมเทียน ติดกับเขาชีจรรย์ ห่างจากวัดญาณสังวราราม 6 กิโลเมตร เป็นไร่องุ่นขนาดใหญ่ในพื้นที่กว่า 1000 ไร่ปลูกองุ่นถึง 12 สายพันธุ์ให้ผลผลิตสลับเปลี่ยนกันไป นักท่องเที่ยวสามารถวิวสวนองุ่นริมอ่างเก็บน้ำ มีวิวทิวทัศน์สวยงามโดยเฉพาะยามพระอาทิตย์ตก นักท่องเที่ยวนิยมซื้อองุ่นสด และผลิตภัณฑ์จากองุ่น เช่น องุ่นกวน น้ำองุ่น ฯลฯ ที่มีจำหน่ายบริเวณหน้าสวน และเช่ารถ ATV หรือดูรายละเอียดได้ที่ silverlakethai.com
อ่างศิลา เป็นหมู่บ้านประมงริมทะเล อยู่ห่างจากตัวเมืองชลบุรีประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นแหล่งเพาะเลี้ยงหอยนางรมและหอยแมลงภู่ มีร้านอาหารทะเล และร้านขายสินค้าพื้นเมือง ที่ขึ้นชื่อได้แก่ ครกหิน ซึ่งชาวจีนแต้จิ๋วซึ่งอพยพเข้ามาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นผู้ริเริ่มนำหินเนื้อละเอียดที่มีอยู่มากมายแถบอ่างศิลามาแกะสลัก ปัจจุบันมีการแกะสลักเป็นลูกนิมิต ช้าง ม้า สิงห์ และตุ๊กตาตกแต่งสวน นอกจากนี้อ่างศิลายังเคยเป็นสถานตากอากาศชายทะเลเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง มีตำหนักที่ประทับริมทะเลสมัยรัชกาลที่ 5 สถาปัตยกรรมแบบยุโรป ให้เห็นอยู่ วิหารเซียน ตั้งอยู่ที่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. ค่าเข้าชมท่านละ 50 บาท สอบถามรายละเอียด โทรศัพท์ 0 3823 8367 นับเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่ราวกับยกเมืองจีนมาไว้โดย อาจารย์สง่า กุลกอบเกียรติ ตัววิหารสร้างขึ้นด้วยศิลปะจีนแท้ ๆ ภายในประดิษฐานเทพเจ้าและเซียนต่าง ๆ ตามขนบลัทธิเต๋า และพุทธศาสนามหายาน โดยเป็นรูปสลักหินขนาดใหญ่เรียงรายเกือบเต็มพื้นที่ โดยภายในวิหารเซียนยังจำลองท้องพระโรงจักรพรรดิจีนโบราณ จัดแสดงโบราณวัตถุที่ได้รับมอบจากรัฐบาลจีน เช่น รถม้าดินเผาจากสุสานร่วมสมัยจักรพรรดิจิ๋นซี เครื่องสำริด และพระพุทธรูปเก่าแก่ล้ำค่ามากมาย อลังการตื่นตาตื่นใจสุด ๆ ผู้สูงอายุที่เข้าชมควรระมัดระวัง เนื่องจากวิหารเซียนมี 3 ชั้น และมีการเล่นระดับของพื้นอยู่ทั่วไป บางเสร่ เป็นชุมชนหมู่บ้านประมง อยู่ห่างจากพัทยาประมาณ 16 กิโลเมตร มีถนนตัดเลียบชายหาดซึ่งเรียงรายไปด้วยร้านอาหารทะเล และบังกะโลที่พัก, สวนผึ้งบิ๊กบี ฟาร์ม (Big bee farm) ศูนย์การเรียนรู้และอนุรักษ์พันธุ์ผึ้ง แหล่งท่องท่องเที่ยวใหม่ในเมืองพัทยา ที่รวบรวมหลากหลายกิจกรรมความสนุก และความรู้เรื่องผึ้งของเมืองไทยมาไว้ในแห่งเดียว, สวนนงนุช เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในเนื้อที่ 1,500 ไร่ ภายในมีสวนไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิด เช่น กล้วยไม้ ต้นไม้ขวด เฟิร์น สับปะรดสี สวนกระถาง สวนไม้พุ่มไม้ดัด สวนหิน ตะบองเพชร และปาล์มจากทั่วทุกมุมโลก และเมืองจำลองพัทยา เป็นสถานที่จำลองปูชนียสถาน และโบราณสถานที่สำคัญทั้งในประเทศและต่างประเทศ ย่อส่วนในอัตรา 1 ต่อ 25
ระยอง
ระยอง ได้รับการขนานนามให้เป็นเมืองแห่งกวีเอกของกรุงรัตนโกสินทร์ "สุนทรภู่" เนื่องจากฉากในนิทานเรื่องเอกของท่าน คือเรื่องพระอภัยมณีนั้น คือหมู่เกาะน้อยใหญ่ และท้องทะเลที่สวยงามของจังหวัดระยอง นอกจากธรรมชาติอันงดงามระยองยังเป็นแหล่งประมงและผลิตอาหารทะเลแปรรูปที่สำคัญ และเป็นแหล่งปลูกผลไม้ที่มีคุณภาพ มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ เช่น เกาะเสม็ด, หมู่เกาะมัน, หาดแม่รำพึง และแหลมแม่พิมพ์ ฯลฯ แต่จริง ๆ แล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลากหลาย ดังนี้
สวนสุภัทราแลนด์ ตั้งอยู่ที่ ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรในรูปสวนผลไม้เนื้อที่ 800 ไร่ มีผลไม้อร่อยให้ชิมตลอดทั้งปี ซึ่งมีบรรยากาศที่สวยงามดูเจริญหูเจริญตาและน่าสนุก เพราะได้นั่งรถรางเข้าไปในสวน แล้วแวะจอดตามจุดต่าง ๆ เพื่อรับประทานผลไม้ที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้ หรือจะใช้ไม้สอยลงมารับประทานเองก็ได้ สอบถามรายละเอียด โทรศัพท์ 0 3889 2048-9, ศาลสมเด็จกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำประแส ภายในศาลประดิษฐานรูปหล่อเท่าองค์จริงของพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ พระบิดาแห่งกองทัพเรือไทย
ปากน้ำประแส ตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำประแส อำเภอแกลง เป็นชุมชนริมแม่น้ำตั้งแต่สมัยอยุธยา มีแม่น้ำประแสกั้นเขตตำบล มีลำคลองลงสู่ทะเล มีการทำนากุ้ง เลี้ยงปลาน้ำกร่อยริมฝั่งแม่น้ำประแส มีท่าเรือประมงขนาดใหญ่ บริเวณปากแม่น้ำเป็นชุมชนหนาแน่น บริเวณนี้มีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ ศาลสมเด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ศาลตั้งอยู่ริมปากแม่น้ำประแส ภายในศาลประดิษฐานรูปหล่อเท่าองค์จริงของ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ พระบิดาแห่งกองทัพเรือไทย และเป็นที่เคารพสักการะของชาวเมืองระยอง เปิดเวลา 07.00-18.00 น., เรือรบหลวงประแส ตั้งอยู่ที่ชายหาดดำ ปากแม่น้ำประแส เป็นเรือรบปลดระวางแล้ว ชาวตำบลขอให้นำมาเป็นเกียรติประวัติและเป็นที่ศึกษาและท่องเที่ยวของตำบล บริเวณที่ตั้งจะพัฒนาเส้นทางเดินธรรมชาติป่าชายเลนและที่พักผ่อนหย่อนใจ
ชายหาดแหลมสน เป็นชาดหาดที่ทอดยาว ปัจจุบันเทศบาลตำบลปากน้ำประแสได้ดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณชายหาด เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ได้มาเที่ยวชมหาดแหลมสน และวัดแหลมสนที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และได้พักผ่อนอาศัยพร้อมชมการดำเนินชีวิตประมงของชาวแหลมสน, ชายหาดประแส อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับชายหาดแหลมสน อยู่ใกล้กับอนุสรณ์เรือหลวงประแส มีการพัฒนาบริเวณชายหาดให้สะอาด ไว้รองรับนักท่องเที่ยวได้พักผ่อนหย่อนใจ ศูนย์รวมพันธุ์ไม้ภาคตะวันออก (องค์การสวนพฤกษศาสตร์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ตั้งอยู่ หมู่ 2 ตำบลชากพง เป็นศูนย์ส่งเสริมและสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในท้องถิ่นในจังหวัดระยอง เป็นศูนย์รวบรวมพรรณไม้ที่ไม่สามารถปลูกที่ภูมิภาคอื่นได้ มีพรรณไม้มากมายหลายชนิด เช่น พรวด เสม็ดขาว กก กระจูด (สานเสื่อ) เป็นต้น ผู้ที่ต้องการเข้าศึกษาดูงาน โทรศัพท์ 0 3863 8981, 0 3863 8880-1 ชุมชนบ้านจำรุง หรือศูนย์การเรียนรู้ของชุมชนและผู้สูงอายุ ตั้งอยู่หมู่ที่ 7 ตำบลเนินฆ้อ ด้วยสภาพความเป็นอยู่ในชุมชนเน้นการพึ่งพาตนเอง จนเป็นที่ยอมรับและเป็นตัวอย่างที่ดี มีผู้มาศึกษาดูงาน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ตลอดทั้งปี หมู่บ้านจำรุงส่งเสริมให้ประชาชน ได้นำผักพื้นบ้านมารับประทาน อาทิ ดอกอัญชัน ยอดมะระ ขมิ้นชัน ชะอม ใบชะพลู ใบบัวบก ยอดเสม็ดแดง ใช้ประกอบเป็นอาหารหลัก รวมถึงร้านส้มตำจำรุงที่นำผักพื้นบ้านตามธรรมชาติมาปรุงให้นักท่องเที่ยวรับประทาน จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของชุมชนที่นักท่องเที่ยวรู้จัก ผู้สนใจ โทรศัพท์ 08 7103 0482, 0 3886 6237 สะพานชมป่าชายเลน ทุ่งโปรงทอง ตั้งอยู่ที่หมู่ 7 บ้านแสมผู้ เป็นสะพานไม้สร้างจากเงินกองทุนหมู่บ้าน ทอดแนวยาวลัดเลาะไปตามแนวต้นโกงกาง พาดผ่านไปบนยอดต้นโปรงสีเขียวตองอร่ามตา ไปบรรจบกับปลายสะพานทุ่งโปรงทอง โดยสะพานแห่งนี้ทอดไปสิ้นสุดที่ทะเลประแส, สะพานป่าชายเลนบ้านหัวโขด ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลปากน้ำกระแส ชุมชนชาวปากน้ำประแสร่วมกันสร้างไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้เกี่ยวกับวงจรชีวิตของธรรมชาติป่าชายเลน และ แพชมหิ่งห้อย แม่น้ำประแส ชาวบ้านในชุมชนรวมกลุ่มกันอนุรักษ์วิถีชีวิตดั้งเดิม ย้อนกลับสู่วิถีชีวิตคนชาวคลองริมน้ำสัมผัสการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์คนกับแม่น้ำประแส อันเป็นสายน้ำสำคัญของจังหวัดระยอง ในพื้นที่มีบ้านพักและโฮมสเตย์ของเอกชนไว้รองรับนักท่องเที่ยว สนใจสอบถามได้ที่ โทรศัพท์ 0 3866 1720-1 Website : prasae.com ถนนยมจินดา ตลาดเก่าเมืองระยอง อยู่ในเขตเทศบาลนครระยอง ถนนสายนี้เป็นชุมชนเก่าแก่ มีบ้านบุคคลสำคัญในอดีต นอกจากนั้นยังเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ และคมนาคม เป็นถนนสายแรกที่ตัดขึ้นในจังหวัดระยอง ปัจจุบันได้มีการปรับภูมิทัศน์ให้ดูสวยงามเหมือนในอดีต นักท่องเที่ยวที่เดินชมย่านเมืองเก่าจะพบกับร้านค้าโบราณ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ขนมไทยโบราณ ก๋วยเตี๋ยว กาแฟ ส้มตำโบราณ ล้วนแล้วขายกันมานานกว่า10-50 ปี และยังมีร้านขายของเก่าโบราณ ร้านกรอบรูป ร้านทำที่นอนที่เย็บด้วยมือแบบโบราณใช้นานเกินคุ้ม และนวดแผนโบราณก็มีให้บริการเช่นกัน สนใจสอบถาม โทรศัพท์ 08 4945 3939, ตลาดเกาะกลอย อีกแห่งของแหล่งท่องเที่ยวใหม่ในระยอง กับตลาดบรรยากาศย้อนยุค ที่มีทั้งร้านอาหาร และร้านค้าต่าง ๆ มามอบความสุขให้ผู้มาเยือน เปิดทุกวันเวลา 10.00-21.00 น.
เกาะทะลุ อยู่ห่างจากเกาะเสม็ดไป 12 กิโลเมตร สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าทึบ ทิศตะวันตกเป็นผาหินสูงชัน ด้านทิศตะวันออก และทิศใต้มีหาดทรายขาวสะอาด มีปะการังที่อุดมสมบูรณ์อยู่รอบ ๆ เกาะ และเป็นแหล่งเหมาะแก่การดำน้ำลึกอีกแห่งหนึ่ง จุดที่เหมาะแก่การดำน้ำอยู่ทางด้านหน้าเกาะเพราะคลื่นลมสงบและน้ำใส ผู้ที่สนใจเดินทางไปท่องเที่ยวและดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นและตกปลาที่เกาะกุฎี หรือเกาะทะลุ สามารถติดต่อเช่าเรือได้ที่บริเวณท่าเรือข้ามฟากที่ให้บริการที่ท่าเรือที่บ้านเพ จันทบุรี
จังหวัดจันทบุรี ตั้งอยู่ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกของประเทศไทย เป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติทั้งในดินและในน้ำ มีสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการทำการเกษตร โดยเฉพาะการเพาะปลูกผลไม้ที่ขึ้นชื่อของจังหวัด ได้แก่ ทุเรียน เงาะ มังคุด ลางสาด ส่วนบริเวณชายฝั่งก็มีทำการประมงที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารทะเลนานาชนิดและในอีกแง่มุมหนึ่ง นอกจากนี้ ยังเป็นศูนย์กลางธุรกิจด้านอัญมณีที่มีชื่อเสียงแพร่หลายไปทั่วโลก ทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น พระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ, หาดเจ้าหลาว, น้ำตกพลิ้ว, อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล, ตึกแดง และโอเอซีส ซี เวิลด์ ฯลฯ ซึ่งจริง ๆ แล้วยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกเพียบ ให้คุณควงแขนพาแม่ไปเที่ยว ดังนี้
กิจกรรมเดินชมหิ่งห้อย นับว่าเป็นกิจกรรมไฮไลท์สำคัญของศูนย์เรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงนิเวศป่าชายเลนลุ่มน้ำเวฬุ เนื่องจากภายในพื้นที่มีระบบนิเวศป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้หิ่งห้อยมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และทางศูนย์ฯ ได้ตัดเส้นทางถนนลาดยางเข้าไปในป่าชายเลนทำให้สะดวกแก่การเดินชมหิ่งห้อย อีกทั้งยังปลอดภัยและสามารถหยุดชมได้เป็นเวลานาน ซึ่งปัจจุบันมีทั้งจักรยานและรถไฟฟ้าคอยให้บริการ ร่วมไปถึงมีแพลงตอนหรือพรายน้ำที่ส่องแสงระยิบระยับกลางท้องทะเล, วนอุทยานเขาแหลมสิงห์ ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ต.บางกะไชย อ.แหลมสิงห์ พื้นที่ทั้งบกและทะเล รวมกัน 9,500 ไร่ สภาพป่าเป็นแบบดงดิบแล้งและป่าชายหาดซึ่งมีพันธุ์ไม้สำคัญ ได้แก่ กฤษณา กระบก ตะแบก สัตว์ต่าง ๆ ได้แก่ ลิงแสม กระจงเล็ก กระรอกบินสีส้ม ไก่ป่าและนกนานาชนิด ส่วนพืชและสัตว์ทะเลจะพบตามชายหาดและเกาะต่าง ๆ ย่านท่าหลวง ถ.ท่าหลวง ต.ท่าช้าง อ.เมือง เป็นย่านการค้าเก่าของเมืองจันทบูร ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจันทบุรี เป็นชุมชนย่านเก่าแก่ของจีนและญวนมาตั้งแต่สมัยต้นรัตนโกสินทร์ และรุ่งเรืองมากในสมัยรัชกาลที่ 5 สามารถเดินเที่ยวชมบรรยากาศย้อนยุคอย่างสบาย ๆ มองหาอาคารเรือนแถวที่สร้างตามแบบโคโลเนียล ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมลูกครึ่งฝรั่งผสมจีน ลักษณะอาคารเรียงโค้งกันเป็นแถว และประดับชายคาด้วยแป้นไม้แกะฉลุลวดลายโปร่งตา ซึ่งร้านค้าหลายร้านยังคงสภาพแบบดั้งเดิมไว้ เช่น ร้านตัดผมเรือนไม้ ร้านขายยาจีนแผนโบราณ บ้านหลวงราชไมตรี ผู้ได้รับฉายา "บิดาแห่งยางพาราภาคตะวันออก" คหบดีแห่งย่านท่าหลวง ซึ่งบุกเบิกการค้ายางพาราในจังหวัดนี้ ตัวบ้านสร้างแบบโคโลเนียล และเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำหนัง "โหมโรง" และละคร "อยู่กับก๋ง" ทั้งนี้ แวะร้านไอศกรีม "จรวด" เป็นทั้งร้านอร่อย และโรงงานแรกของจังหวัดที่ใช้เครื่องจักรผลิตไอศกรีมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2502 เป็นต้นมา ซึ่งยังคงบรรยากาศเก่าแก่ของตัวอาคารแบบโคโลเนียลไว้ และแวะที่ร้านขายของที่ระลึกต่าง ๆ ชื่อร้าน "ทำสี" ที่ขายดี อาทิ เสื้อยืด โปสการ์ด แม่เหล็กติดตู้เย็น และของใช้จุกจิก อ่าวคุ้งกระเบน ตั้งอยู่ที่ อ.ท่าใหม่ เหมาะสำหรับคนที่รักธรรมชาติ มีป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์และอนุบาลสัตว์น้ำภายใต้อ้อมกอดของป่าโกงกางอันเป็นพื้นที่อนุรักษ์ตามโครงการศูนย์ศึกษาพัฒนาป่าชายเลนตามแนวพระราชดำริ โดยเสน่ห์อยู่ที่สะพานไม้ทอดยาวเข้าไปในพื้นที่ชุ่มน้ำ ระหว่างทางเดินจะได้ชื่นชมกับทิวทัศน์และอ่านป้ายบรรยายพืชพันธุ์ต่าง ๆ เป็นเกร็ดความรู้ติดตัวกลับบ้าน สถานที่เที่ยวใกล้เคียงกับอ่าวคุ้งกระเบน พบกับ หมูดุด หรือ พะยูน ที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลตื้น ๆ ซึ่งก่อนนี้เคยเสี่ยงต่อภาวะสูญพันธุ์ แต่ทุกวันนี้กลับมาให้เห็นอีกครั้ง นอกจากนี้ หากโชคดีอาจได้เห็นปูก้ามดาบ ปูขนาดเล็กสีสันสดใสที่มีก้ามใหญ่กว่าตัวอีกด้วย หรือจะแวะชมปลาทะเลสวยงามพันธุ์ต่าง ๆ ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ เปิดให้บริการทุกวัน เว้นวันจันทร์ 08.30-16.30 น. ตลาดชายแดนไทย-กัมพูชา (ช่องผักกาด) ตั้งอยู่ที่บ้านคลองใหญ่ หมู่ 4 ต.คลองใหญ่ อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอโป่งน้ำร้อน 30 กิโลเมตร เป็นตลาดที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์เครื่องใช้ทหาร ชุดทหาร การจะเดินทางข้ามแดนเข้าไปในกัมพูชาต้องใช้พาสปอร์ต สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ เวลา 07.00-20.00 น. ตลาดนี้จะอยู่ห่างจากกรุงไพลิน 20 กิโลเมตร และห่างจากเมืองพระตะบอง 68 กิโลเมตร และจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม หรือ (ตลาดชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านแหลม) เป็นตลาดที่มีการค้าขายสินค้าอุปโภคบริโภคตามแนวชายแดน อีกทั้งสามารถเดินทางเข้าไปซื้อสินค้าบริเวณชายแดนของสองประเทศได้โดยสะดวก
บางชันโฮมสเตย์ (หมู่บ้านไร้แผ่นดิน ถิ่นเหยี่ยวแดง เกาะสุดท้ายของจันทบุรี) บางชันโฮมสเตย์ ตั้งอยู่ที่ 78 หมู่ 3 ตำบลบางชัน อำเภอขลุง ในบริเวณอ่าวไทยซึ่ง ประกอบอาชีพประมงเป็นหลัก และยังมีทรัพยากรธรรมชาติอีกมากมาย เหมาะสำหรับการเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เช่น ป่าชายเลนและคลองน้ำเค็ม 10 สาย ซึ่งเป็นที่อยู่ของสัตว์น้ำนานาชนิด ชุมชนบางชันจึงเล็งเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างยั่งยืน จึงร่วมกันส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน ระหว่างชุมชนและนักท่องเที่ยว จึงได้มีการจัดโฮมสเตย์เพื่อบริการนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งมีบริการเรื่องการท่องเที่ยวในกิจกรรมต่าง ๆ
มีบริการเรื่องการท่องเที่ยวในกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ กิจกรรมศึกษาวิถีชีวิตและการประกอบอาชีพของชาวบ้าน, ล่องแพชมวิวธรรมชาติของแม่น้ำเวฬุ, นมัสการหลวงพ่อลอย ณ วัดเทพขาหย่าง, ชมเหยี่ยวแดง และชมนกนานาชนิด, นั่งเรือชมป่าชายเลนอายุกว่า 200 ปี และร่วมทำกิจกรรมประกอบอาชีพกับชาวประมง ทั้งนี้ สามารถรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 60 ท่าน มีเรือรับส่ง สอบถามเพิ่มเติม โทรศัพท์ 0 3932 6590, 08 6404 7120
ตราด
ตราด เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ เพราะเป็นที่ตั้งของเกาะที่สวยงามจำนวนมาก จนได้ชื่อว่าเป็น "เมืองเกาะครึ่งร้อย" โดยมีเกาะที่สำคัญที่สุดคือ เกาะช้าง เกาะกูด เกาะหมาก เกาะกระดาด นอกจากนี้ ยังมีทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ มีการคมนาคมทางถนนที่สะดวกสบาย ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ดังนี้
แหลมงอบ เป็นอำเภอเลียบชายหาดอำเภอหนึ่งของจังหวัดตราด อยู่ห่างจากตัวจังหวัดไปตามทางหลวงหมายเลข 3148 สายตราด-แหลมงอบ ประมาณ 17 กิโลเมตร ที่อำเภอแหลมงอบมีท่าเทียบเรือขนาดใหญ่ ชื่อว่า ท่าเรือแหลมงอบ อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอแหลมงอบประมาณ 500 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือโดยสารประจำทาง หรือเช่าเรือไปเที่ยวเกาะต่าง ๆ ได้ นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งร้านขายของที่ระลึกและอาหารทะเล กะปิ น้ำปลา กุ้งแห้ง รวมทั้งงอบแบบต่าง ๆ ด้วย, หาดลานทราย ตั้งอยู่ที่ ต.แหลมกลัด อ.เมือง เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมีบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนกัน, เกาะทรายขาว ทะเลแหวกจังหวัดตราด
ตลาดชายแดนบ้านหาดเล็ก ตั้งอยู่บ้านหาดเล็ก ตำบลหาดเล็ก เป็นหมู่บ้านสุดชายแดนติดต่อกับราชอาณาจักรกัมพูชา อยู่ปลายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 เมื่อสงครามสู้รบในกัมพูชาสิ้นสุดลงราวปี พ.ศ. 2529 ตลาดแห่งนี้นับเป็นแหล่งรับซื้อพืชพันธุ์ธัญญาหารของชาวกัมพูชาเพื่อไปขายต่อที่เกาะกง ตลาดที่บ้านหาดเล็กจะมีเฉพาะในช่วงเช้า เวลาประมาณ 07.00–08.30 น. และยังมีสินค้าราคาถูกที่มาจากประเทศกัมพูชา เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า แว่นตา น้ำหอม เป็นต้น จากจุดนี้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางโดยนั่งรถแท็กซี่จากชายแดนบริเวณบ้านหาดเล็กฝั่งประเทศกัมพูชา เพื่อที่จะไปเกาะกงได้ ราคาค่าโดยสารแล้วแต่จะตกลงกัน ตลาดพลอย ที่ผ่านมาตลาดพลอยในอำเภอบ่อไร่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตพลอยแดง หรือทับทิมสยาม ตลาดพลอยที่น่าสนใจ ได้แก่ ตลาดพลอยหัวทุ่ง ตลาดพลอยบ้านสระใหญ่ ตลาดพลอยหนองบอน เป็นต้น โดยในแต่ละวันตลาดพลอยแต่ละแห่ง จะเริ่มเปิดให้มีการซื้อขายช่วงเช้าตรู่จนถึงเวลา 10.00 น. ปัจจุบันตลาดพลอยในเขตอำเภอบ่อไร่ประสบปัญหาในเรื่องหาแหล่งพลอยได้ยาก จึงทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขายพลอยซบเซาลง ถ้านักท่องเที่ยวที่สนใจจะไปซื้อพลอย หรือชมสภาพโดยทั่ว ๆ ไปของตลาดพลอยนั้น ยังพอมีเหลือให้ชมและซื้ออยู่บ้าง ฝูงเหยี่ยวแดงคอขาว แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดตราด ภายในพื้นที่ของร้านอาหาร "คนพลัดถิ่น" ในเนื้อที่กว่า 30 ไร่ ตั้งอยู่ที่ ต.หนองคันทรง อ.เมือง คุณละเอียด เจริญวิวรรธนะ เจ้าของร้าน เป็นชาวจังหวัดราชบุรี ย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกรากกับญาติที่จังหวัดตราด เมื่อปี 2517 โดยยึดอาชีพประมง ในปี 2544 ทุก ๆ เวลาเที่ยงวันคุณละเอียดจะนำไส้ไก่สับเป็นชิ้น ยาวประมาณ 3 นิ้ว นำมาเป็นอาหารให้ปลาในบ่อที่เลี้ยงไว้ เนื่องจากพื้นที่จังหวัดตราด มีสภาพป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ เป็นผลให้มีฝูงเหยี่ยวแดงมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อเหยี่ยวแดงเห็นไส้ไก่ที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ จึงบินโฉบแย่งไปเป็นอาหาร นำไปจิกกินบนต้นไม้ และมีจำนวนมากขึ้นทุกวัน หลังจากนั้นคุณละเอียดได้เห็นโอกาสในการสร้างจุดขายของร้านตนเอง จึงปรับวิธีทำเหยื่อโดยใช้เศษหมูบดแทน เหตุเพราะเศษหมูบดมีขนาดเล็กน้ำหนักเบา ทำให้ลอยตัวอยู่ที่ผิวน้ำได้เป็นเวลานานกว่าไส้ไก่ที่มีขนาดยาวและหนัก เมื่อเหยี่ยวเห็นจึงบินโฉบแย่งไปเป็นอาหาร และเพราะเศษหมูบดมีขนาดเล็ก จึงทำให้เหยี่ยวสามารถใช้เท้าจับเหยื่อ และส่งเข้าปากได้ในขณะบินโดยไม่ต้องนำไปจิกกินบนต้นไม้ ส่งผลให้เหยี่ยวอีกหลายร้อยตัว หันมารุมแย่งเศษหมูบดกินทุก ๆ เที่ยงวัน
ชุมชนการค้าเก่าแก่ของจังหวัดตราด เป็นที่พบปะแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าของคนหลายกลุ่ม เพราะทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้บริเวณปากแม่น้ำตราดซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมหลักในอดีตบรรดาชาวเกาะจะล่องเรือมาทางปากแม่น้ำ เพื่อนำมะพร้าวมาส่งที่บ้านบางพระ ขณะเดียวกันพ่อค้าชาวจีนก็จะล่องเรือสำเภา นำสินค้าจำพวกเสื้อผ้าแพรพรรณและเครื่องถ้วยกระเบื้องเข้ามาขาย นอกจากนี้ ชาวชองซึ่งเป็นชนพื้นเมืองของตราดก็จะลำเลียงไม้หอม ของป่าและสมุนไพรต่าง ๆ มาทางแม่น้ำตราดเพื่อนำเข้ามาขายและหาซื้อสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นกลับไปยังที่อาศัยในป่าแถบทิวเขาบรรทัด ปัจจุบันริมคลองบางพระยังมีเรือนแถวไม้เก่าแก่ที่เคยเป็นร้านค้านับร้อยคูหา และมีร้านค้าแบบโบราณเหลืออยู่บ้าง ในปัจจุบันชาวบ้านในชุมชนได้ร่วมกันจัดตั้งชมรมรักษ์คลองบางพระขึ้น เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมดั้งเดิมชาวบางพระไว้ ปราจีนบุรี
จังหวัดปราจีนบุรี ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของภาคกลาง เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีทรัพยากรในด้านการท่องเที่ยวมากมายและหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะผืนป่ามรดกโลกของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติทับลาน ที่นับเป็นสมบัติล้ำค่าในด้านของทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร, แก่งหินเพิง และดาษดา แกลลอรี่ อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง ดังนี้
ค้างคาวแม่ไก่วัดบางกระเบา วัดบางกระเบา เป็นวัดของพระเกจิอาจารย์ชื่อเสียงโด่งดัง คือ หลวงพ่อจาด ภายในบริเวณวัดบางกระเบาจะมีค้างคาวแม่ไก่จำนวนนับพันตัวอาศัยอยู่ตามต้นไม้, ต้นศรีมหาโพธิ์ อยู่ในเขตวัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ์ ต.โคกปีบ ภายในวัดมีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย สันนิษฐานว่าเป็นหน่อจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้จากพุทธคยา ประเทศอินเดีย มีอายุกว่า 2,000 ปี ซึ่งนำเข้ามาปลูกเป็นต้นแรก ลำต้นวัดโดยรอบประมาณ 20 เมตร สูงประมาณ 30 เมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 25 เมตร ตามตำนานกล่าวว่า พระเจ้าทวานัมปะยะดิษฐ์ เจ้าครองเมืองศรีมโหสถในสมัยขอมเรืองอำนาจทรงเลื่อมใสในพุทธศาสนา จึงได้ส่งคณะทูตเดินทางไปขอกิ่งต้นโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าประทับเมื่อคราวตรัสรู้จากเจ้าผู้ครองนครปาตุลีบุตร ประเทศอินเดีย แล้วนำกิ่งโพธิ์นั้นมาปลูกที่วัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ์
ตลาดผลไม้หนองชะอม เป็นตลาดผลไม้-พืชผักนานาชนิด เป็นตลาดกลางขายสินค้าพื้นเมืองของฝากจังหวัดปราจีนบุรีและจากจังหวัดอื่น ๆ จึงเป็นจุดพักรถของนักท่องเที่ยวที่ผ่านทางหลวงหมายเลข 33 กิโลเมตรที่ 151 สินค้าในตลาดส่วนใหญ่จะเป็นผลไม้ตามฤดูกาล เช่น ทุเรียน กระท้อน มังคุด ส้มโอ มะไฟ และหน่อไม้ไผ่ตงซึ่งปัจจุบันมีขายตลอดทั้งปี เนื่องจากจังหวัดปราจีนบุรีเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีหน่อไม้ไผ่ตงและปลูกจำนวนมากอีกทั้งมีคุณภาพ นอกจากนี้ แม่ค้ายังรับสินค้าจากต่างถิ่นมาจำหน่ายในช่วงนอกฤดูผลไม้ของปราจีนบุรี สินค้าจึงมีความหลากหลายผลัดเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ตลาดเปิดทุกวันตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ
น้ำตกตะคร้อ เป็นน้ำตกที่มีลักษณะเป็นแก่งน้ำกว้าง มีสะพานแขวนทอดข้ามน้ำตกตะคร้อ ฝั่งซ้ายของลำธารเป็นเนินเขา ส่วนทางด้านฝั่งขวาเป็นป่าโปร่ง เหมาะแก่การพักผ่อน จากน้ำตกตะคร้อมีทางเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึง น้ำตกสลัดได เป็นน้ำตกที่มีความสวยงาม หากจะเดินทางเข้าไปชมน้ำตกสลัดไดควรติดต่อขอเจ้าหน้าที่นำทางจาก หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 10 ที่ตั้งอยู่บริเวณน้ำตกตะคร้อ
พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ ในพื้นที่ 17 ไร่ ของ คุณณรงค์ อยู่สุขสุวรรณ์ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของผู้คนในสมัยก่อน จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์นี้ คือ มีตะเกียงเจ้าพายุจำนวนมากซึ่งเจ้าของเป็นผู้สะสมมานอกจากนี้ ยังมีเหรียญ ธนบัตรเก่า ตู้แบบต่าง ๆ เช่น ตู้ไม้สัก โต๊ะเครื่องแป้ง พัดลมที่ใช้น้ำมันก๊าด สิ่งที่น่าสนใจ คือ ลอตเตอรี่สยามรัฐรุ่นแรกมีอายุกว่า 70 ปี เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น.
เทวสถานพานหิน เป็นโบราณสถานที่ก่อด้วยศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดใหญ่ กว้างด้านละ 15.50 เมตร สูง 3.5 เมตร มีมุขยื่นออกไปทั้งสี่ด้าน สันนิษฐานว่าประดิษฐานเทวรูปพระนารายณ์ มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 12-14 ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 1 แห่งเจนละ ตรงกลางของซากเทวาลัยมีฐานของเทวรูป ซึ่งแต่เดิมตะแคงอยู่ลักษณะคล้ายพาน จึงเรียกว่า "พานหิน" นอกจากนี้ ยังพบศิลาแลงทรงกลม สกัดเป็นรูปฐานเชิง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จทอดพระเนตรโบราณสถานแห่งนี้เมื่อปี พ.ศ. 2451
โบราณสถานเมืองศรีมโหสถ เมืองโบราณสมัยทวารวดีขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นรูปไข่ หรือสี่เหลี่ยมผืนผ้ามุมมน มีเนื้อที่ประมาณ 700ไร่ ลักษณะของเมืองมีคูเมือง และคันดินกำแพงเมืองล้อมรอบคูน้ำ ภายในเมืองมีโบราณสถาน เนินดิน สระน้ำ บ่อน้ำ กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปกว่า 100 แห่ง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยทวารวดี หลักฐานส่วนใหญ่ที่พบมักจะเกี่ยวเนื่องกับศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู เช่น เทวาลัย เทวรูป ศิวลึงค์ โบราณสถานที่สำคัญในเมืองศรีมโหสถ ประกอบด้วย กลุ่มโบราณสถานกลางเมือง อายุราวพุทธศตวรรษที่ 18 เป็นหมู่เทวาลัย ฐานก่อด้วยศิลาแลง ด้านบนก่อด้วยอิฐ ด้านหลังมีบ่อน้ำก่อด้วยศิลาแลง อายุราวพุทธศตวรรษที่ 11-12 โบราณวัตถุที่ขุดพบ ได้แก่ เทวรูปต่าง ๆ และเศษเครื่องปั้นดินเผา สมัยลพบุรี สุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ ภูเขาทอง เป็นเจดีย์รูปกลม ลักษณะเหมือนโอคว่ำ สมัยทวารวดี โบราณสถานหมายเลขที่ 25 เป็นเทวาลัย รากฐานอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ก่อด้วยศิลาแลง อายุราวพุทธศตวรรษที่ 11-12 โบราณสถานสระแก้ว ตั้งอยู่นอกเมืองศรีมโหสถไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เป็นสระน้ำโบราณขนาดกว้างประมาณ 18 เมตร ขุดลงไปในชั้นของศิลาแลงธรรมชาติ ตัวสระเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ทางด้านทิศตะวันตกมีทางลงทำเป็นขั้นบันไดกว้าง 4 เมตร ความยาวทางลง 13.60 เมตร ผนังขอบสระทุกด้านมีการแกะสลักภาพนูนต่ำเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ เช่น รูปช้าง มกร (มะกอน, มะกอระ หรือมะกะระ หมายถึง มังกร) สิงห์ หมู กินรี งูพันเสา สัตว์เหล่านี้เป็นสัตว์ชั้นสูง สันนิษฐานว่าเป็นสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของกษัตริย์เมืองศรีมโหสถ อายุราวพุทธศตวรรษที่ 10-11 สระแก้ว
จังหวัดสระแก้ว ตั้งอยู่ติดชายแดนประเทศด้านตะวันออก มีแหล่งโบราณสถานและโบราณวัตถุหลายแห่ง และมีทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ เช่น อุทยานแห่งชาติปางสีดา และ อุทยานแห่งชาติตาพระยา นอกจากนี้ ยังมีประติมากรรมทางธรรมชาติอย่าง "ละลุ" ที่มีลักษณะแปลกตา และที่สุดชายแดนอำเภออรัญประเทศ เป็นประตูบานใหญ่ที่เปิดสู่อาณาจักรกัมพูชา เชื่อมการคมนาคมและการท่องเที่ยวระหว่างประเทศให้เป็นเส้นทางเดียวกัน มีตลาดโรงเกลือที่เต็มไปด้วยของราคาถูกและสินค้ามือสองจากนานาประเทศเพื่อนบ้าน อ๊ะ ๆ สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดสระแก้วยังไม่หมดเท่านี้นะ เพราะยังมีอีกหลากหลายที่ ดังนี้
สระแก้ว สระขวัญ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของตัวเมือง ในสวนสาธารณะสระแก้ว สระขวัญ ใกล้กับสำนักงานเทศบาลเมืองสระแก้ว ถนนสุวรรณศร (ประมาณกิโลเมตรที่ 246-247) เข้าซอยเทศบาล 2 เชื่อกันว่าน้ำในสระแห่งนี้เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ มีประวัติว่าในสมัยกรุงธนบุรี เมื่อคราวเจ้าพระยาจักรี (ทองด้วง) ได้รับมอบหมายจากพระเจ้ากรุงธนบุรีให้ยกทัพไปปราบปรามความไม่สงบในกัมพูชา ขณะที่ยกทัพมาถึงเขตจังหวัดสระแก้วในปัจจุบัน ได้แวะพักที่บริเวณสระน้ำทั้งสองแห่งนี้ก่อนที่จะยกทัพไปตีเสียมราฐ และเมื่อยกทัพไปถึงก็สามารถจัดการความไม่สงบในเขมรได้สำเร็จ สระแก้ว สระขวัญจึงเป็นสัญลักษณ์ของความศักดิ์สิทธิ์เป็นสิริมงคล ซึ่งเป็นที่มาของชื่อจังหวัดสระแก้ว นอกจากนี้ น้ำในสระแห่งนี้ยังเคยถูกนำไปใช้ในพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาอีกด้วย
โรงเรียนกาสรกสิวิทย์ จัดตั้งขึ้นตามพระราชกระแสรับสั่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเป็นโรงเรียนฝึกกระบือ และให้เกษตรกรมาใช้ชีวิตที่เกี่ยวข้องกับกระบือเพื่องานเกษตรกรรม โดยเกษตรกรจะเข้าพักอาศัยตามสภาพแวดล้อมการดำรงชีวิตแบบพอเพียง ไม่ดิ้นรนหาความเดือดร้อน นับเป็นการฝึกกระบือให้ทำการเกษตรได้ดี และฝึกคนให้เข้าใจถึงวิธีการใช้กระบือในการทำเกษตรกรรม
หลวงพ่อทอง (พระครูรัตนสราธิคุณ) วัดสระแก้ว มีความรู้ด้านวิชาการแพทย์แผนโบราณ หลวงพ่อได้ใช้ความรู้ด้านการแพทย์ช่วยเหลือบำบัดรักษาประชาชนผู้เจ็บป่วยและยังเป็นพระนักพัฒนา จึงเป็นที่เลื่อมใสของประชาชนชาวสระแก้วและจังหวัดใกล้เคียง ที่ได้แวะเวียนมากราบไหว้เสริมสิริมงคลให้แก่ชีวิต, ช่องโอบก อยู่ที่อุทยานแห่งชาติตาพระยา นับเป็นจุดชมทิวทัศน์สุดเขตแดนสยาม จากจุดนี้จะมองเห็นป่าที่อุดมสมบูรณ์และหมู่บ้านของกัมพูชา, ลานหินตัด มีร่องรอยการตัดหินเพื่อนำไปสร้างปราสาทและมีลักษณะทางธรรมชาติที่สวยงาม อยู่ภายในบริเวณอุทยานแห่งชาติตาพระยา ถ้ำหาดทรายแก้ว เป็นถ้ำขนาดเล็ก ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่เกิดจากแนวเขาเดียวกับถ้ำเพชรโพธิ์ทอง มีเพดานและผนังถ้ำที่สวยงามด้วยหินทราย เมื่อแสงตกกระทบเกิดการสะท้อนเป็นแสงระยิบระยับรูปร่างแปลกตา แต่จุดเด่นของถ้ำ คือ เป็นถ้ำที่มีหน้าผาสูงประมาณ 25 เมตร มีกิจกรรมโรยตัวจากหน้าผาดึงดูดให้นักผจญภัยเดินทางมา, ถ้ำเขาศิวะ (ถ้ำน้ำ) เป็นถ้ำที่มีน้ำไหลออกมาทั้งปี ถ้ำลึก 500 เมตร ระดับน้ำสูงตั้งแต่ 10-220 เซนติเมตร ภายในเป็นหินงอกหินย้อยสวยงาม บางบริเวณมีลักษณะคล้ายม่านและยังมีน้ำไหลมองเห็นเป็นน้ำตกขนาดเล็ก เมื่อแสงไฟต้องกับเกล็ดทรายของหินงอกหินย้อยสะท้อนกลับมาสีสันแปลกตา น้ำที่อยู่ภายในถ้ำไหลหมุนเวียนตลอดทั้งปี ภายในถ้ำอากาศถ่ายเทตลอด เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับผู้รักการผจญภัยที่ว่ายน้ำเป็น ใช้เวลาในการเที่ยวชม 1-2 ชั่วโมง อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมไป ได้แก่ ชุดที่ไม่อุ้มน้ำ ไฟฉายกันน้ำ ตะเกียงเจ้าพายุ แพยาง และห่วงยางหรือเสื้อชูชีพ ก่อนไปควรติดต่อผู้นำทางที่ องค์การบริหารส่วนตำบลคลองไก่เถื่อน
ปราสาทสด๊กก๊อกธม เป็นโบราณสถานที่ใหญ่และสำคัญของจังหวัดสระแก้ว สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 15 เพื่อใช้ประดิษฐานรูปเคารพและใช้ประกอบพิธีกรรมตามคติความเชื่อถือในลัทธิศาสนาฮินดู โบราณสถานประกอบด้วยองค์ปราสาท 3 หลัง หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีคูน้ำล้อมรอบ 4 ด้าน มีกำแพงแก้ว 2 ชั้น ชั้นนอกทำด้วยศิลาแลง ชั้นในทำด้วยหินทราย ตัวปราสาทก่อสร้างด้วยหินทราย มีโคปุระหรือซุ้มประตูเหลืออยู่เพียงด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกเท่านั้น ภายในระเบียงคดมีบรรณาลัยก่อด้วยหินทราย 2 หลัง อยู่หน้าปราสาทหลังกลางซึ่งเป็นปรางค์ประธาน ปราสาทด้านซ้ายมือและปราสาทองค์ประธานอยู่ในสภาพปรักหักพัง
ตามจารึกกล่าวว่าประดิษฐานศิวลึงก์ ด้านนอกปราสาททางทิศตะวันออกมีสระน้ำขนาดใหญ่รูปสี่เหลี่ยม มีถนนปูด้วยหินจากตัวปราสาทไปจนถึงสระน้ำตลอดแนว ได้มีการค้นพบศิลาจารึก 2 หลัก จารึกด้วยอักษรขอมโบราณ เป็นหลักฐานสำคัญที่บ่งบอกถึงอายุการสร้างปราสาทสด๊กก็อกธมแห่งนี้ ตลอดจนบอกถึงวัตถุประสงค์ของการสร้างจารึกหลักที่ 2 นัยว่า เพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่พระเจ้าอาทิตยวรมันที่ 2 ในโอกาสที่บูรณะปราสาทสด๊กก็อกธมสำเร็จเมื่อพุทธศักราช 1595 ปัจจุบันจารึกทั้ง 2 หลักถูกเก็บรักษาไว้ที่หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร คำว่า สด๊กก็อกธม หมายถึง เมืองที่มีต้นกกขึ้นรกในหนองน้ำใหญ่ ซึ่งปัจจุบันยังพอมองเห็นหนองน้ำใหญ่ในอดีตอยู่ใกล้ ๆ ปราสาทนั่นเอง
ปราสาทเขาน้อยสีชมภู เป็นโบราณสถานตั้งอยู่บนยอดเขาน้อยซึ่งเป็นเขาหินปูนสูงจากพื้นประมาณ 130 เมตร มีบันไดทางขึ้น 254 ขั้น แล้วเดินขึ้นต่อไปไม่ไกลก็จะถึงบริเวณตัวปราสาท สันนิษฐานว่าปราสาทนี้สร้างในพุทธศตวรรษที่ 12 และมีการบูรณปฏิสังขรณ์ในพุทธศตวรรษที่ 15 และคงความสำคัญจนถึงพุทธศตวรรษที่ 16 เชื่อว่าเป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดู ประกอบด้วยปรางค์ 3 หลัง คือ ปรางค์ทิศเหนือ ปรางค์องค์กลาง และปรางค์ทิศใต้ แต่คงเหลือเพียงปรางค์องค์กลางเท่านั้นที่ยังคงสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ ส่วนปรางค์ทางทิศเหนือและวิหารทิศใต้เหลือเพียงฐานเท่านั้นต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2478 ปราสาทเขาน้อยได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นโบราณสถานแห่งชาติจากกรมศิลปากร และมีการสำรวจขุดพบโบราณวัตถุจำนวนมาก เช่น โบราณวัตถุทำจากโลหะ เครื่องปั้นดินเผา ทับหลังหินทราย 5 ชิ้น และค้นพบแผ่นจารึกบ่งบอกถึงอายุการสร้างปราสาทเรียกว่า จารึกเขาน้อย และทับหลังหินทรายแบบสมโบร์ไพรกุกอายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 12 ศิลาจารึกระบุมหาศักราช 559 ตรงกับ พ.ศ. 1180 ซึ่งเป็นจารึกที่ระบุศักราชเก่าที่สุดในประเทศ โบราณวัตถุต่าง ๆ ที่ได้จากการขุดค้นปัจจุบันเก็บรักษาและตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี
อ่างเก็บน้ำพระปรง เป็นอ่างเก็บน้ำสำหรับการชลประทานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดสระแก้ว พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าในเขตอุทยานแห่งชาติปางสีดาที่ถูกน้ำท่วม ทำให้มีทิวทัศน์สวยงาม เป็นแหล่งอาศัยของนกหลายชนิดและยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยปลาน้ำจืดนานาชนิด เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวชมธรรมชาติ มีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ ล่องเรือทิวทัศน์รอบอ่างเก็บน้ำ เดินป่าศึกษาธรรมชาติดูนก เป็นต้น และ ทะเลคลองหาด เป็นอ่างเก็บน้ำชลประทานขนาดใหญ่ พื้นที่ 250 ไร่ ทัศนียภาพสวยงาม มองเห็นวิวเขาและสายน้ำ บรรยากาศสบาย เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ
พาแม่ทัวร์กิน ชิมของอร่อย ช้อปเพลิน ๆเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่หลาย ๆ ครอบครัวทำกัน นั่นก็คือ นัดรวมพลไปรับประทานอาหารอร่อย ๆ บรรยากาศดี ๆ ดังนั้น เราจึงหยิบเอาร้านอาหารและสถานที่ที่สามารถไปชิม ไปกิน และไปช้อปกันได้ทั้งครอบครัวมาฝากกันค่ะ โดยเริ่มที่
ชวนลิ้มรสกุ้งเผา อยุธยา กับ 15 ร้านอาหารริมน้ำ อยุธยา40 ร้านอาหารโรแมนติก ร้านอาหารแนะนำ12 ร้านอาหารพัทยา โรแมนติก บรรยากาศสบาย ๆ21 ร้านอาหารญี่ปุ่น ทองหล่อ อร่อยน่าลิ้มลองพาไปชิม 12 ร้านอาหารเด็ด ณ เอเชียทีค20 ร้านกาแฟและร้านเค้กน่านั่งในกรุงเทพฯ15 ร้านของหวาน นั่งชิล ๆ ในหัวหิน9 ร้านเค้กในเชียงใหม่ ที่น่าลิ้มลอง20 ตลาดน้ำสุดฮิต ไปสัมผัสวิถีชีวิตริมน้ำ ขณะที่ตลาดช้อปปิ้งที่สามารถควงแขนแม่ไปเดินชิล ๆ เพลิน ๆ ในบรรยากาศที่แสนดี มีดังต่อไปนี้
รฤก หัวหิน แหล่งท่องเที่ยวแห่งความทรงจำในวันวาน สถานที่เที่ยวหางใหม่ในหัวหิน พร้อมร้านค้า ร้านอาหาร เครื่องดื่ม มากมายอร่อย สะอาด ราคาย่อมเยา บรรยากาศน่านั่ง ชมดนตรีและการแสดง มาย้อนอดีตความทรงจำเก่าของหัวหิน คละเคล้าบรรยากาศกลิ่นอายทะเล ถ่ายทอดวิถีชีวิตของคนสมัยก่อนผ่านภาพเก่าของหัวหิน บนเรือนไม้ร่วม 100 ปี ในซอยหัวหิน 51 ตัดถนนแนบเคหาสน์ เปิดทุกวัน สัมผัสและถ่ายภาพสวยกันได้เลย หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก RarukHuaHin สัมผัสวิถีคนมอญที่เกาะเกร็ด เกาะใหญ่กลางลำน้ำเจ้าพระยามีพื้นที่มากกว่า 2,498 ไร่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดนนทบุรี ตัวเกาะเกิดจากการขูดคลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยาในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระแห่งกรุงศรีอยุธยา เพื่อย่นระยะทางการเดินเรือสินค้าจากอ่าวไทยไปยังอยุธยาการ ได้มาเยือนเกาะเกร็ดนอกจากเรื่องท่องเที่ยวแล้ว ยังได้เรียนรู้วิถีชีวิตชาวมอญที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่สมัยอยุธยา เลือกชมเลือกซื้อเครื่องปั้นดินเผาที่เป็นอกลักษณ์ของเกาะเกร็ด ชิมอาหารและขนมไทยสูตรโบราณอร่อย ๆ เช่น ทอดมันหน่อกะลา ดอกไม้ทอด ข้าวแช่ ทองหยิบ ทองหยอด ฯลฯ นอกจากเรื่องของอาหารการกินแล้ว การไหว้พระขอพรก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ตามรอยวิถีไทยเมืองแปดริ้ว ฉะเชิงเทรา เป็นจังหวัดใกล้กรุงที่น่าเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง ระยะทางก็อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไม่มากนัก สามารถขับรถไปเที่ยวโดยใช้เวลาเพียงชั่วโมงกว่า ๆ ก็ถึง เมืองแปดริ้วมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายหลากหลาย ทั้งธรรมชาติและวิถีชีวิตที่น่าสนใจ วันเดียวเที่ยวเมืองแปดริ้วนอกจากการขับรถไปแล้ว ยังมีการเดินทางรูปแบบอื่นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน รถไฟก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่แสนคลาสสิก หรือการท่องเที่ยวโดยทางเรือ ซึ่งนับเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ แถมยังได้อรรถรสในการเที่ยวอีกด้วย เช่น ตลาดคลองสวน 100 ปี ชิมอาหารอร่อยทั้งอาหารคาวที่มีสูตรเฉพาะ ขนมหวาน กาแฟสูตรโบราณดั้งเดิม ชมของเก่า และสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า ตลาดจะมีคนเยอะเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ และตลาดร้อยปีบ้านใหม่ ตลาดโบราณอันเลื่องชื่อมีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 จำหน่ายทั้งอาหารคาว-หวาน ก๋วยเตี๋ยว กาแฟโบราณ เครื่องดื่มโบราณ สมุนไพร ขนมไทย-จีน ของเล่น ของฝากต่าง ๆ ตลาดจะเปิดขายเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ถนนคนเดิน ตลาดเก่า 200 ปี ปราณบุรี หรือที่บางคนเรียกว่า ถนนคนเดินปราณบุรี แหล่งดูของเก่า ชมของแฮนด์เมด ซื้อของเก๋ ช้อปของกินรสเด็ด และสิ่งที่น่าสนใจที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวอยากไปสัมผัสกับที่นี่ คือ ภาพของห้องแถวไม้สุดคลาสสิก บ้านเรือนที่ยังคงรักษาสภาพความเป็นตลาดเก่าได้เป็นอย่างดี วิถีชีวิตที่เรียบง่าย อีกทั้งบริเวณรอบนอกของตลาดก็จะมีบ้านไม้ ร้านกาแฟ และร้านอาหารเก่าแก่ที่เคยขึ้นชื่อมาแต่ครั้งอดีต ร้านขายของที่ระลึก ร้านหนังสือเก่า ๆ เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ฯลฯ และในทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 16.30-21.30 น. ที่นี่จะคึกคักไปด้วยผู้คน อีกทั้งเหล่าบรรดาบ้านเรือนที่เรียงรายอยู่นั้น ก็จะพร้อมใจกันเนรมิตให้กลายเป็น "ถนนคนเดินปราณบุรี" ในบรรยากาศย้อนยุค ให้ได้ไปสัมผัสกลิ่นอายของวันวาน แหม...ช่างเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินตลาดเก่า ๆ เป็นอย่างยิ่ง เทศกาลวันแม่ 2556 ในจังหวัดต่าง ๆ.gif){kind=icon}
ทุ่งดอกกระเจียวบานสื่อรักวันแม่ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจพาคุณแม่เดินทางท่องเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียวบาน ณ ศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ในระหว่างวันที่ 1-31 สิงหาคม 2556 ชมดอกกระเจียวหลากหลายสีและสายพันธุ์ในรูปแบบสวนภูเขาป่า และตระการตากับปทุมมาหลากหลายสายพันธุ์ พบกับการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับความรู้ทางวิชาการเกษตร และการจำหน่ายสินค้า OTOP ซึ่งการจัดงานดังกล่าวเป็นการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยว เกษตรกร และผู้ที่สนใจ เดินทางเข้ามาศึกษาดูงาน ซึ่งได้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรของจังหวัดสุพรรณบุรี
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร (สวนสวรรค์สุพรรณบุรี) โทรศัพท์ 0 3543 7705 ต่อ 101, 08 9837 3277 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ tiewpakklang.com
งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถขอเชิญเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในวันที่ 12 สิงหาคม 2556 ณ ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยภายในงานจะมีการจัดนิทรรศการต่าง ๆ เกี่ยวกับงานศิลปาชีพ การสาธิต การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพแผนกต่าง ๆ เป็นต้น ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรฯ แผนกประชาสัมพันธ์ โทรศัพท์ 0 3536 6252-4 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ thai.tourismthailand.org
มหกรรมวิจิตรแพรวาราชินีแห่งไหมจังหวัดกาฬสินธุ์ ขอเชิญร่วมงาน มหกรรมวิจิตรแพรวาราชินีแห่งไหม ประจำปี 2556 ในวันที่ 12 สิงหาคม 2556 โดยภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ประกอบด้วย การแสดงนิทรรศการผ้าไหมแพรวา ผ้าไหมแพรวาที่ได้รับรางวัลประเภทต่าง ๆ การจัดจำหน่าย ผ้าไหมแพรวาและสินค้าพื้นเมือง พิธีจุดเทียนชัยถวายพระพร การเดินแบบผ้าไหมแพรวา การประกวดธิดาแพรวา การแสดงดนตรีและนาฏศิลป์พื้นเมือง และการแสดงมหกรรมลูกทุ่งไทย นอกจากนี้ ยังจะได้ตื่นตาตื่นใจกับการแต่งกายด้วยผ้าไหมแพรวาอันวิจิตรสวยงามของชาวเมืองกาฬสินธุ์ ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ จังหวัดกาฬสินธุ์ โทรศัพท์ 0 4382 1354 หรือ ททท. สำนักงานขอนแก่น โทรศัพท์ 0 4324 4498-9
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ thai.tourismthailand.org
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
, และ 
