เที่ยวตาก ตะลุยเที่ยวพบพระ 1 วัน ชมธรรมชาติสวย อิ่มอร่อยของกินมากมาย

          จากท่าอากาศยานแม่สอด เราเดินทางไปยังอำเภอพบพระ โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1090 แม่สอด-พบพระ-อุ้มผาง ช่วงที่จะเข้าสู่ตำบลมหาวัน อำเภอแม่สอด จะเป็นเส้นทางขึ้นเขา ช่วงนี้ต้องขับขี่ระมัดระวังนิดหนึ่งค่ะ ใช้เกียร์ต่ำ ซึ่งพอพ้นช่วงนี้ไปได้ก็จะเป็นทางเรียบ ๆ แล้ว ไม่น่ากลัวค่ะ

          ขับขึ้นเขามาเรื่อย ๆ พอพ้นช่วงเขาเราจะได้พบกับความสวยงามแรกของทริปนี้ ก็คือ "เส้นทางดอกไม้ราชพฤกษ์สีชมพู" กำลังออกดอกบานสะพรั่งส่งสีชมพูหวานเต็มสองข้างทางเลยค่ะ บรรยากาศสวยงามมาก และถ้าสังเกตดี ๆ ภูเขาทางด้านซ้ายมือ เราจะเห็นน้ำตกธารารักษ์ที่ไหลลงจากหน้าผาสูงราว ๆ 30 เมตร อยู่ไกล ๆ แต่ก็เป็นภาพที่น่าประทับใจมาก เพราะเราสามารถมองเห็นน้ำตกได้จากถนนใหญ่เลยทีเดียว

2. สวนอาหารกุหลาบดอย

          จากน้ำตกธารารักษ์เราขับรถไปอีกประมาณ 15 นาที ก็จะถึงที่หมายแรกของเราวันนี้ค่ะ สวนอาหารกุหลาบดอย ขอแวะมาเติมพลังสักนิดก่อนไปตะลุยพบพระแล้วกันนะคะ ^^ สวนอาหารกุหลาบดอยอยู่ติดริมถนนค่ะ อยู่ก่อนถึงน้ำตกพาเจริญ พิกัด : 16.499951, 98.739210 เป็นร้านอาหารบรรยากาศสบาย ๆ ออกแบบและตกแต่งด้วยวัสดุธรรมชาติ มีสวนผักปลอดสารพิษอยู่ด้านหน้า ให้ความรู้สึกเหมือนมาแวะพักกินข้าวบ้านญาติเลยค่ะ

          เจ้าถิ่นอย่าง ททท. ตาก แนะนำว่าถ้ามาที่นี่จะต้องกินเมนูจำพวกผัก เพราะทางร้านปลูกเอง ไม่มีสารพิษ เมนูอาหารพื้นเมืองก็รสชาติอร่อยเข้มข้น เมนูแรกที่ห้ามพลาดก็คือ "ยำมะเขือยาวย่าง" มีกลิ่นหอม ๆ ของมะเขือยาวย่าง ผสมกับความหวานของมะเขือและความเปรี้ยวเผ็ดของน้ำยำ กินกับข้าวสวยร้อน ๆ อร่อยถูกใจ ให้ผ่านค่ะ ต่อมาเป็น "ไก่ทอดสมุนไพร" หน้าตาธรรมดา แต่รสชาติไม่ธรรมดานะคะ กินไปกินมาหมดตอนไหนไม่รู้ ^^

          ระหว่างกินไก่ทอดก็มีเมนู "ผัดไทยโบราณ" ร้อน ๆ มาเสิร์ฟ กลิ่นหอมยั่วยวน รสชาติอร่อยเข้มข้น กินหมดจานอีกตามเคย แล้วก็ตามมาด้วยสลัดผักจานใหญ่ ที่คนทั้งโต๊ะบอกว่ากินไม่หมดแน่นอน แต่สุดท้ายพนักงานก็ยกกลับไปเพียงแค่จานเปล่า :D เมนูที่ชอบมาก ๆ และอยากให้ลิ้มลองกันก็คือ "ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน" จานนี้ชอบมาก เนื้อปลาทอดมากรอบสุด ๆ ราดด้วยน้ำฉู่ฉี่สุดเข้มข้น กลิ่นเครื่องแกงหอมฉุย จะกินเปล่า ๆ หรือกินกับข้าวสวยก็อร่อยไปหมด แนะนำให้สั่งเมนูนี้เลยค่ะ


3. อุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ

          หนังท้องตึงแล้ว อยากนอนแล้วสิ...ไม่ได้ ๆ มาถึงพบพระทั้งทีจะมาขี้เกียจนอนเล่นเฉย ๆ ได้ยังไง ไปตะลุยที่เที่ยวพบพระกันเลยค่ะ จากสวนอาหารกุหลาบดอย เลยไปนิดเดียวจะเห็นป้ายทางเข้า "อุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ" ค่ะ ไปเที่ยวชมน้ำตก เอาน้ำเย็น ๆ ลูบหน้าให้หายง่วงนอนกันดีกว่า ^^


          จากบริเวณลานจอดรถเดินไปไม่ไกล เราจะเจอกับตัวน้ำตกค่ะ ทางเดินสะดวกสบาย ผู้สูงอายุก็มาเที่ยวได้ค่ะ จะทางเดินอีกเส้นให้เดินได้อย่างสะดวก ตอนแรกไม่ได้ตั้งความหวังกับน้ำตกที่นี่เลยค่ะ คิดว่าเป็นน้ำตกเล็ก ๆ แต่พอได้เห็นเท่านั้นแหละ ร้องโอ้โห !! เลยทีเดียว ถือได้ว่าเป็นน้ำตกขนาดใหญ่เลยล่ะ มีทั้งหมดมากถึง 97 ชั้น ! ดูเทียบจากขนาดคนในภาพเอานะคะ ว่ามันสูงใหญ่ขนาดไหน

          นี่ขนาดมาตอนปลายหน้าหนาวน้ำยังเยอะเลยค่ะ เจ้าหน้าที่ของอุทยานบอกว่าที่นี่มีน้ำตลอดปี ช่วงที่สวยที่สุดจะอยู่ช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม แต่ช่วงนี้ยังไม่มีค่าบริการนะคะ เข้าเที่ยวชมได้ฟรี ใครมีโอกาสไปเที่ยวพบพระก็แวะไปเช็กอินที่นี่กันนะคะ :)


          ก่อนที่เราจะลงไปที่น้ำตกพาเจริญ บังเอิญมาก ๆ ที่ได้เจอกับชาวบ้านมาขายสตรอว์เบอร์รี ลูกใหญ่มาก ราคาไม่แพงอีกต่างหาก คุยไปคุยมาชาวบ้านบอกว่าเขาบอกกันเองที่นี่ ไม่ได้รับซื้อมาจากเชียงใหม่หรือที่ไหน แบบนี้ก็เลยต้องขอลองไปตะลุยไร่สตรอว์เบอร์รีของพบพระกันหน่อย

4. ไร่สตรอว์เบอร์รีในอำเภอพบพระ

          ไร่สตรอว์เบอร์รีตั้งอยู่ในหมู่บ้านสามยอดดอย ช่วงแรกที่ขับรถเข้าไปเห็นแต่ภูเขาต้นไม้เป็นสีน้ำตาล ดูแห้งแร้ง แล้วจะปลูกสตรอว์เบอร์รีได้ยังไง คนนำทางขับรถลึกเข้าไปเรื่อย ๆ จนเจอกับไร่สตรอว์เบอร์รีสีเขียวชอุ่ม ขนาดไร่ไม่กว้างมากค่ะ แต่ แต่ แต่ !!! สตรอว์เบอร์รีที่เก็บมาเตรียมขายนั่นมันเยอะมาก แล้วก็ลูกใหญ่ลูกโต ดูละลานตาไปหมดเลย คนชอบสตรอว์เบอร์รีอย่างเรากรี๊ดเลยค่ะ

          อยากจะลงไปนอนอยู่ท่ามกลางกองสตรอว์เบอร์รี ชาวบ้านก็ใจดีมาก ๆ หยิบให้ลองชิม ลูกนั้นก็ดี ลูกนั้นก็หวาน โอ๊ย...ขอเอากลับบ้านหมดนี่เลยได้ไหมคะ :D โน้ตไว้สักนิดค่ะ ที่ไร่นี้ไม่ได้เปิดให้เข้าเที่ยวชมปกตินะคะ แต่ถ้าอยากหาสตรอว์เบอร์รีอร่อย ๆ กินกันในช่วงนี้ ก็ลองแวะไปที่น้ำตกพาเจริญ ชาวบ้านจะนำไปขายที่นั่นค่ะ

          หลังจากไปลั้ลลาในไร่สตรอว์เบอร์รีจนหนำใจ ก็ได้เวลาไปหากาแฟเข้ม ๆ เค้กหวาน ๆ กินกันแล้วค่ะ บ่าย ๆ แบบนี้ต้องไปนั่งชิลร้านกาแฟสักหน่อย เรามุ่งหน้าไปที่ไร่เตรยาวรรณ ร้านกาแฟและสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจแห่งใหม่ของอำเภอพบพระ ที่นี่เปิดมาไม่นานค่ะ เป็นพื้นที่ของ คุณวิชัย เตรยาวรรณ และ คุณขวัญเรือน เตรยาวรรณ มีพื้นที่ทั้งหมดราว ๆ 70 ไร่ แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ คือพื้นที่สวนผลไม้ สวนปาล์มประดับ และพื้นที่อยู่อาศัย โดยในพื้นที่อยู่อาศัยนี้ก็แบ่งออกเป็นโซนหลัก ๆ อีก 3 โซน คือร้านกาแฟ สวนหิน และบ้านพักส่วนตัว


          ในส่วนของสวนหินและร้านกาแฟเปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าเยี่ยมชมได้ฟรี ซึ่งจะมีการจัดสวนอย่างสวยงาม เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ พร้อมทั้งสระน้ำกว้างขวาง มีการนำหินรูปร่างสวยงามแปลกตามาจัดแสดงอยู่ทั่วสวน บรรยากาศร่มรื่น และก็ยังมีจุดถ่ายภาพแนวสตรีทอาร์ตเก๋ ๆ ชิค ๆ บอกเล่าถึงประวัติความเป็นมาของคุณวิชัยและคุณขวัญเรือนให้ได้มาถ่ายรูปกัน ใครอยากปั่นจักรยาน เขาก็มีไว้บริการ ไม่เสียค่าใช้จ่าย


            นอกจากนี้ก็ยังมีจุดถ่ายรูปสวย ๆ ให้ไปเซลฟี่อีกเพียบ ส่วนที่ร้านกาแฟก็จะมีเครื่องดื่มเตรียมไว้บริการมากมาย พร้อมทั้งขนมเค้กอร่อย ๆ อีกหลากหลายแบบ ตกแต่งในสไตล์ไทยโบราณผสมผสานยุโรปตะวันตก บรรยากาศสบาย ๆ น่ามานั่งชิลจิบกาแฟสุด ๆ ที่นี่เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-17.00 น.

6. ไร่แมคคาเดเมีย



          ของอร่อยในพบพระยังไม่หมดค่ะ เราจะไปตามหาแมคคาเดเมียอบเคลือบคาราเมล หูย...พบพระมีไร่แมคคาเดเมียด้วยหรือ ? มีค่ะ มีเป็นพันไร่เลย อยู่ห่างจากไร่เตรยาววรรณไปนิดเดียวเอง ชื่อว่า "สวนพงษ์คุ้มภัย" เป็นไร่แมคคาเดเมียขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชม แต่ควรติดต่อมาก่อนนะคะ เพราะบางทีเจ้าของบ้านไม่อยู่ ^^



          ที่นี่เราได้ชมวิธีการหลังจากการเก็บเกี่ยวแมคคาเดเมีย ตั้งแต่การไปเดินชมสวน การคัดแยก การเอาเปลือกสีเขียวออก และการกะเทาะเปลือกสีน้ำตาลชั้นในสุดออก แต่ละขั้นตอนไม่ได้ง่ายเลยนะคะ โดยเฉพาะการกะเทาะเปลือกต้องใช้ความชำนาญสักเล็กน้อย ไม่อย่างนั้นเมล็ดขาว ๆ ข้างในจะแตก เมื่อนำไปขายจะได้ราคาไม่เท่ากัน พอรู้ที่มาที่ไปของแมคคาเดเมียแล้ว ก็ได้เวลาไปหาาแมคคาเดเมียอบเคลือบคาราเมลกินแล้ว เจ้าของไร่ลองหยิบให้ชิม โอ๊ย...ทั้งมัน ทั้งหอม อร่อยแบบหยุดกินไม่ได้ ช่วงนี้ก็ขอตัวไปช้อปปิ้งของฝากก่อนนะคะ ^^


7. ไร่กุหลาบปฐมเพชร

          ยัง ยัง เรายังไม่กลับบ้าน เราจะไปลุยที่เที่ยวพบพระอีกแห่ง ใครที่ชอบกุหลาบตามเรามาทางนี้เลย เราจะพาไปบุกไร่กุหลาบสวย ๆ กัน ที่ไร่กุหลาบปฐมเพชร ทางเข้าไร่จะอยู่ระหว่างไร่เตรยาวรรณและสวนพงษ์คุ้มภัย ที่นี่เป็นไร่กุหลาบขนาดใหญ่ ส่งไปขายทั่วประเทศ เปิดให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจเข้าเยี่ยมชมเช่นกัน

          คุณภราดร กานดา เจ้าของไร่กุหลาบปฐมเพชร พาคณะเราเดินเที่ยวชมไร่กุหลาบยามเย็น อากาศเย็นสดชื่น มีดอกกุหลาบหลากหลายสายพันธุ์ หลากหลายสีสันชูช่อดอกสวยงามละลานตา เดินถ่ายรูปเล่นกันเพลิน ๆ จนลืมเวลาเลยค่ะ





          พอแดดร่มลมตกหน่อย คุณภราดรก็พาเราไปดูไฮไลท์ของที่นี่ นั่นก็คือ "การทำกุหลาบแปรรูป" เป็นกุหลาบอบแห้งที่ยังคงมีสีสันสวยงาม และสามารถอยู่ได้นานถึง 10 ปี เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวเท่านั้นในประเทศไทย โดยการใช้ดอกกุหลาบสดมาจัดเรียงรูปทรงให้สวยงามด้วยทรายซิลิกานำเข้าจากญี่ปุ่น เพื่อดูดน้ำและความชื้นของดอกออก จากนั้นนำไปตั้งในภาชนะที่มีทรายซิลิการองอยู่ด้านล่าง แล้วจึงใช้ทรายซิลิกากลบดอกให้มิดอีกครั้ง ปิดฝาให้สนิท ก่อนนำไปใส่เตาอบต่อไป จากนั้นพออบได้ที่ก็จะนำออกมาจัดตกแต่งใส่ขวดโหลแก้วให้สวยงาม กลายเป็นของฝากของที่ระลึกอันล้ำค่า มีตั้งแต่ราคา 100 บาทขึ้นไป อ๊ะ ๆ ถ้าใครมาช่วงหน้าผลไม้ ก็จะได้ชิมลิ้มลองทุเรียนกันด้วยค่ะ มีให้กินกันช่วงราว ๆ เดือนกันยายน

          สำหรับใครที่สนใจอยากจะไปเที่ยวอำเภอพบพระ จังหวัดตาก สามารถนั่งเครื่องบินมาลงได้ที่แม่สอดค่ะ แล้วเช่าเหมารถจากสนามบินให้มาส่งที่อำเภอพบพระได้ หรือจะเช่าขับเองก็ได้ค่ะ ส่วนใครขับรถไม่เป็นก็สามารถนั่งสองแถวจากในเมืองแม่สอด แถว ๆ ตลาดพาเจริญ ไปยังอำเภอพบพระได้เช่นกัน หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  สำนักงานตาก โทรศัพท์ 0 5551 4341

          จบทริปเที่ยวพบพระไปแบบแฮปปี้สุด ๆ อิ่มท้องอิ่มใจ ได้อยู่กับธรรมชาติอย่างเต็มที่ มีของกินอร่อย แหล่งท่องเที่ยวก็เยอะ วันเดียวเที่ยวที่นี่ไม่พอจริง ๆ ค่ะ แต่ถ้าใครมีเวลาแค่ 1 วัน ก็ตามรอยเราเที่ยวกันได้ค่ะ ทริปหน้าจะพาไปตะลุยที่ไหนกันอีก คอยติดตามนะคะ :)

ขอขอบคุณข้อมูลจาก