10 ที่ท่องเที่ยวหน้าร้อน กับทะเลอีสานและสวนน้ำห้ามพลาด

        ถึงหน้าร้อนทีไรแล้วแทบละลายทุกที เพราะอุณหภูมิความร้อนบ้านเราทำเอาหลายคนหงุดหงิดไม่น้อย เอาเป็นว่าทำใจร่ม ๆ ก่อนแล้วลองมองหาที่เที่ยวคลายร้อนกันดีกว่า ซึ่งวันนี้กระปุกดอทคอมขอเอาใจชาวอีสานด้วยที่เที่ยวคลายร้อนเด็ด ๆ แม้จะไม่มีทะเลสวย ๆ เหมือนที่อื่น แต่แหล่งน้ำธรรมชาติและสวนน้ำในอีสานก็ถือเป็นที่เที่ยวคลายร้อนได้เป็นอย่างดีเลย เริ่มสนใจกันแล้วใช่ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้นมาดูกันดีกว่าว่ามีที่ไหนบ้าง

        เริ่มกันที่ทะเลอีสานหรือแหล่งน้ำธรรมชาติของภาคอีสานกัน ไม่เพียงแต่มีน้ำใสไหลเย็นให้แหวกว่ายเท่านั้น แต่ยังมีหาดทรายซึ่งให้ความรู้สึกราวกับว่าคุณมาเที่ยวทะเลจริง ๆ ด้วย

1. บึงเกลือ จังหวัดร้อยเอ็ด


        บึงเกลือ หรือชาวบ้านมักเรียกว่า "บุ่งเกลือ" ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 ในเขตตำบลบึงเกลือ อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งถือเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ในบึงน้ำแห่งนี้มีน้ำขังตลอดปี ริมบึงทางทิศตะวันตกมีหาดทรายขาวสะอาด กว้างขวาง ยาวประมาณ เกือบ 1 กิโลเมตร ลักษณะของน้ำเป็นน้ำจืด ไม่มีน้ำเค็ม และมีสัตว์น้ำนานาชนิด โดยเป็นแหล่งอนุรักษ์นกเป็ดน้ำและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อประมาณ 200 ปีก่อน พื้นที่แห่งนี้เป็นที่ราบต่ำเป็นแอ่งน้ำ มีห้วยหนองเป็นจำนวนมาก แต่ละแห่งมีต้นไม้ขึ้นปกคลุมหนาแน่น มีสัตว์ป่านานาชนิด โดยในช่วงฤดูแล้งน้ำในแอ่งจะแห้งขอดและพื้นดินจะแห้งแล้งทำให้มีเกร็ดเกลือขึ้นบริเวณนี้ ชาวบ้านจึงนิยมนำมาต้มสกัดเอาเกลือไว้บริโภคกันในครัวเรือน จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกในบริเวณนี้ว่า "บึงเกลือ"

        ปัจจุบันจังหวัดร้อยเอ็ดได้ปรับปรุงภูมิทัศน์ ให้สวยงามและสามารถรับนักท่องเที่ยวมารับอากาศบริสุทธิ์ได้ตลอดปี และมีแพร้านอาหารบริการอาหารอีสานและอาหารตามสั่ง นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนและเล่นกีฬาทางน้ำ และเนื่องจากบรรยากาศของบึงเกลือแห่งนี้เป็นทรายหาดคล้ายทะเล ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวจึงขนานนามบริเวณแห่งนี้ว่า  "บึงเกลือทะเลอีสาน" มาจนถึงปัจจุบันนี้

2. หาดพัทยาน้อย จังหวัดอุบลราชธานี


        หาดพัทยาน้อย ตั้งอยู่บริเวณริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิรินธร พื้นที่บริเวณนี้เป็นทรายคล้ายกับชาดหาดริมทะเล นอกจากน้ำใส ๆ ที่ชวนให้เราไปแหวกว่ายแล้ว ยังมีกระท่อมริมน้ำให้คุณไปนั่งชิล ๆ พร้อมสั่งอาหารมากินริมน้ำได้ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทางน้ำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเจ็ทสกี, พายเรือ รวมทั้งห่วงยางสำหรับใครที่ไม่อยากออกแรงว่ายน้ำแต่อยากแช่ตัวในน้ำเพลิน ๆ

3. บางแสน 2 และหาดจอมทอง จังหวัดขอนแก่น

        บางแสน 2 และหาดจอมทอง ตั้งอยู่ที่บ้านหินเพิง ตำบลท่าเรือ อยู่ห่างจากอำเภอเมืองขอนแก่นไปประมาณ 53 กิโลเมตร ใช้เส้นทางเดียวกับทางไปเขื่อนอุบลรัตน์ แต่อยู่ก่อนถึงเขื่อนอุบลรัตน์มีทางทางแยกไป บรรยากาศโดยรอบของชายหาดริมทะเลสาบน้ำจืดเหนือเขื่อนอุบลรัตน์ สวยสะดุดตาเมื่อพระอาทิตย์ฉายส่องลงมาในยามเย็นกระทบกับทิวเขาภูเก้าที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลัง กิจกรรมกีฬาทางน้ำที่น่าสนใจ ก็คือ การบริการให้เช่าจักรยานน้ำ, บานาน่าโบ๊ท, ห่วงยาง นอกจากนี้ยังมีบริการอาหารเลิศรสที่ปรุงจากปลาภายในอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ ได้แก่ ปลานิล, ปลาเนื้ออ่อน, ปลาช่อน ฯลฯ โดยช่วงเทศกาลสำคัญหรือวันหยุดมักจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปชมธรรมชาติและเล่นน้ำกันเป็นจำนวนมาก

4. หาดจอมมณี จังหวัดหนองคาย


        หาดจอมมณีอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 2 กิโลเมตร ตามถนนเลียบแม่น้ำโขง เป็นหาดทรายริมแม่น้ำโขงที่เกิดขึ้นเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ชายหาดมีความยาวประมาณ 200 เมตร ช่วงที่เหมาะในการไปเที่ยว คือ เดือนเมษายน ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวในจังหวัดและจากบริเวณจังหวัดใกล้เคียงเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนเป็นจำนวนมาก จนได้รับการเรียกขานว่าเป็น "พัทยาอีสาน"  อีกทั้งทิวทัศน์ในบริเวณหาดทรายยังสามารถมองเห็นบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ได้อย่างชัดเจน โดยสามารถมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ เล่นน้ำ หรือทำกิจกรรมทางน้ำดังเช่นกิจกรรมในทะเลได้สนุกไม่แพ้กันเลยทีเดียว นับว่าเป็นสถานที่อกสถานที่หนึ่งที่เป็นสีสันมากที่สุดแห่งหนึ่งเทศกาลหน้าร้อนเลยก็ว่าได้ ซึ่งถือเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ที่อยากไปทะเลจะได้ไม่ต้องเดินทางไปให้ไกลเพราะจังหวัดหนองคายแห่งนี้ก็มีหาดให้เล่นน้ำได้เหมือนกัน


        แก่งกะเบา เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเขตบ้านนาแกน้อย ตำบลป่งขาม อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร ห่างจากตัวจังหวัดมุกดาหาร 35 กิโลเมตร และอยู่ตรงข้าม บ้านแก่งกะเบา เมืองไชยบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งมีลำน้ำโขงเป็นเส้นกั้นกลาง โดยเป็นแก่งหินยาวเหยียดตามลำน้ำโขง บนฝั่งก็ยังมีลานหินกว้างใหญ่เป็นที่พักผ่อนได้อย่างดี ในฤดูแล้งน้ำลดจนเห็นเกาะแก่งกลางน้ำ และมีหาดทรายสวยกว่าฤดูอื่น ๆ

        ลักษณะเด่นของแก่งกะเบา คือ มีแก่งหินและโขดหินที่ขวางกั้นแม่น้ำโขง สายน้ำโขงที่ไหลมาจะมากระทบกับแก่งหินและมีการ กัดเซาะทำให้เกิดรูปร่างที่สวยงาม ในบางที่จะมีลักษณะเหมือนกับหลุมลึกบางที่ก็จะเป็นลักษณะเหมือนถ้ำใต้น้ำ ในฤดูแล้งน้ำลดจะเห็นเกาะแก่งกลางน้ำและหาดทรายสวยกว่าฤดูอื่น ๆ ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจมากมาย ทั้งมาทำกิจกรรมภายในครอบครัวหรือแม้กระทั่งมาเล่นน้ำก็ตาม ภายในแก่งกะเบามีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่พัก ร้านอาหาร บริเวณแก่งมีบริการห่วงยางให้เช่าสำหรับผู้ที่ต้องการลงเล่นน้ำ ในช่วงเวลากลางวันนั้นอากาศร้อนเพราะว่าในแก่งไม่มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา ควรเอาร่มหรือหมวกกันแดดไปด้วย

6. หาดสลึง จังหวัดอุบลราชธานี

        หาดสลึง ตั้งอยู่ที่บ้านสองคอน ตำบลสองคอน อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 115 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 2050 (อุบลฯ-ตระการพืชผล-โพธิ์ไทร) สำหรับที่มาของชื่อ “หาดสลึง” นั้นเชื่อว่า ในสมัยที่เหรียญสลึง 1 เหรียญสามารถซื้อควายได้ 1 ตัว คนที่มาเล่นน้ำสงกรานต์ที่หาดแห่งนี้ได้ตั้งคำท้าทายความสามารถโดยมีเดิมพันว่า กลางเดือนเมษายน ในเวลาเที่ยงวัน หากใครสามารถเดินหรือวิ่งบนหาดได้ตลอดแนว (ระยะทาง 860 เมตร) โดยไม่แวะพัก จะได้รับเงินเดิมพัน 1 สลึง ซึ่งนับตั้งแต่มีการเดิมพันมาไม่เคยมีใครได้รางวัลนี้เลย ชาวบ้านจึงขนานนามหาดแห่งนี้ว่า "หาดสลึง"

        สำหรับหาดสลึง เป็นหาดทรายที่สวยงามริมฝั่งแม่น้ำโขงซึ่งจะมองเห็นได้ในช่วงช่วงฤดูแล้ง ประมาณเดือนมกราคม-พฤษภาคม เมื่อน้ำในแม่น้ำโขงลดระดับลง หาดทรายสีขาวที่ซ่อนตัวอยู่ก็จะปรากฏขึ้นมาให้เหล่านักท่องเที่ยวได้เชยชม กิจกรรมที่ขอแนะนำ คือ ลงไปเดินสัมผัสทรายนุ่ม ๆ พร้อมชมทิวทัศนียภาพฝั่งประเทศลาว และที่หาดสลึงแห่งนี้ มีสิ่งอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก เรือนำเที่ยวแบบเหมาลำ ตลอดจนมัคคุเทศก์ท้องถิ่น หาดสลึงจึงเหมาะที่จะใช้เป็นจุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวทางน้ำเป็นอย่างมาก

        อ๊ะ ๆ เพลิดเพลินกับแหล่งน้ำคลายร้อนท่ามกลางธรรมชาติกันไปแล้ว ก็ลองมาแหวกว่ายสวนน้ำในภาคอีสานกันบ้าง แม้จะไม่ได้อยู่ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ แต่ก็มีเครื่องเล่นมากมายให้คุณเพลิดเพลินได้เช่นกัน

7. สวนน้ำ Dino Water Park, ขอนแก่น

        สวนน้ำ Dino Water Park ขอนแก่น ทะเลเทียมแห่งแรกในภาคอีสาน เพิ่งเปิดตัวรับซัมเมอร์ไปเมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้รับความสนใจไม่น้อยเลย โดยภายในสวนน้ำ Dino Water Park ประกอบด้วยโซนต่าง ๆ ไว้มากมาย ทั้งเครื่องเล่นสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ก็มีครบครัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ไดโนเสาร์" ซึ่งให้บรรยากาศคล้ายยุคจูราสสิค เนื่องจากขอนแก่นเป็นจังหวัดที่ค้นพบซากไดโนเสาร์ที่แรกของประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีเวทีกลางน้ำที่ใหญ่ที่สุด ที่มาพร้อมเทคนิคทั้งแสง สี เสียงสุดตระการตาเพื่อทำการแสดงวัฒนธรรมของประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ให้ผู้เข้ามาใช้บริการได้รับชมด้วย