x close

มนตร์เสน่ห์แห่งทะเลหมอก ณ ภูทับเบิก สถานที่ที่ต้องไปเยือน

ภูทับเบิก

          เพราะทุกย่างก้าวของการออกเดินทางมักมีเรื่องราวให้ได้จดจำเสมอ วันนี้เราเลยหยิบเอาอีกหนึ่งเรื่องราวการเดินทางของ คุณชานมชงเอง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่มักหยิบเอาประสบการณ์ดี ๆ และภาพถ่ายสวย ๆ มาแชร์ให้เราได้ชมกัน กับประสบการณ์การกลับไปเยือนยังพื้นที่ที่คุ้นชิน พื้นที่ที่ตราตรึงใจอย่าง “ภูทับเบิก” อีกสักครั้ง ด้วยเหตุผลที่ว่า...อยากมา เพื่อไปดื่มด่ำกับทะเลหมอกกว้างไกลสุดสายตาที่น่าหลงใหล ^^ เอาเป็นว่าเราลองไปชมรีวิว 12 มกราคม 2558 @ ภูทับเบิก-เพชรบูรณ์ by ชานมเวิลด์ กันดีกว่า ไปดูสิว่าภูทับเบิกมีมนตร์เสน่ห์ดึงดูดใจให้ต้องไปเยือนซ้ำ ๆ มากขนาดไหนกันนะ



           ผมรักการเดินทาง...ก็รู้สึกแบบนี้มาตลอด....คงราว ๆ 4-5 ปีที่ผ่านมาได้มั้ง มันเป็นความรู้สึกแบบที่บอกไม่ถูก แต่ผมรู้ว่าผมจะต้องทำมันและทำมันอีกครั้ง

           อีกหนึ่งพื้นที่ของคนรักขุนเขา&สายหมอก เฟซบุ๊ก chanomworld

           ไม่เคยเบื่อหรอกที่ได้กลับมาที่เดิม ๆ ปีหนึ่งหลาย ๆ ครั้ง เพราะถ้าเบื่อคงไม่มา และถ้าเบื่อก็คงไม่ได้ทำ และก็คงนึกไม่ออกว่าตอนนั้นทำอะไรอยู่ ?

ภูทับเบิก

           เหนื่อยไหม ? เหนื่อยบ้างที่ต้องขับรถข้ามคืน 450 กิโลเมตร เพื่อมาที่นี่ เพื่ออะไรก็ไม่รู้ แต่รู้ว่าผมอยากมา...อยากมา...และอยากมา...

ภูทับเบิก

           อยากมา...ก็เลยมาซะคนเดียว...มาเพื่อให้เห็นว่าโอกาสแบบนี้ อาจจะมีแค่เพียง 1 วัน ในฤดูกาลแบบนี้ หรืออาจจะไม่มีอีกเลยก็ได้

ภูทับเบิก

           ผมยังจำปีก่อนได้เลย ปี 2556 กับเช้าวันหนึ่งในช่วงกลางเดือนธันวาคม มีพยากรณ์บอกว่าฝนหลงฤดูที่จะตกที่นี่ 3-4 วัน แล้วฝนก็ตกลงมาจริง ๆ

ภูทับเบิก

           มันทำให้เช้าหนึ่งวันในเดือนธันวาคมปีนั้น พิเศษมาก ๆ ความพิเศษบางอย่างที่หลายคนอาจไม่รู้จัก...แต่ผมรู้จักมันดี

ภูทับเบิก

           ปีนี้ผมก็กลับมาอีกครั้ง หลังจากมีพยากรณ์ว่าฝนจะตกในช่วง 8-11 มกราคม แล้วฝนก็ตกลงมาจริง ๆ แต่กลับทำให้หมอกคลุ้งฟุ้งกระจายจนมองไม่เห็นอะไร

ภูทับเบิก

           ผมได้แต่รอ รอ และรอ แล้วพยากรณ์ก็บอกว่าฝนจะหยุดตกในตอนเที่ยงคืนของวันที่ 11 พร้อม ๆ ที่ท้องฟ้าจะค่อย ๆ เปิด ไร้เมฆ ไร้ฝน ในเช้าวันที่ 12 มกราคม

ภูทับเบิก

           เย็นวันนั้นของวันที่ 11 มกราคม ผมยัดเสื้อผ้าสองสามตัวลงกระเป๋า แล้วขับรถออกจากบ้าน 450 กิโลเมตร  กับ 5 ชั่วโมงกว่าจะไปถึงที่หมายในคืนนี้

ภูทับเบิก

           ผมขับรถไปถึงสี่แยกหล่มสักในตอน 5 ทุ่ม และนอนที่โรงแรมริมทาง 450 บาท/คืน รู้สึกถึงความกังวลบางอย่าง...บางอย่างที่อาจทำให้ปีนี้ไม่เหมือนปีนั้น

ภูทับเบิก

           เช้าวันที่ 12 มกราคม ผมตื่นตั้งแต่ตี 4 แล้วขับรถขึ้นภูอีกครั้ง มองดูรอบ ๆ รู้สึกไม่มีความชื้นเลย ละอองน้ำหายไปไหน ??

ภูทับเบิก

           ยังจำได้เลยว่าตอนนั้นคิดอะไร...แต่ก็ยังขับรถขึ้นภูไปเรื่อย ๆ พอผมขับรถขึ้นภูมาได้ครึ่งทางก็เริ่มเห็นบางอย่างอยู่ตรงหน้า

ภูทับเบิก

           ไฟตัดหมอกที่เพิ่งเคยใช้เป็นครั้งแรก...กับความรู้สึกในตอนนั้น มันคือพลังบางอย่างที่ผมอยากรู้ว่าข้างบนนั้นมันจะเป็นแบบไหน ?

ภูทับเบิก

           ผมขับขึ้นไปด้วยความเร็วที่ต่ำ ๆ มาก รู้สึกรอบตัวขาวโพลนไปหมด มองเห็นได้ในระยะไม่เกิน 5 เมตร แต่ผมกลับดีใจอย่างบอกไม่ถูก

ภูทับเบิก

           แล้วสุดท้ายไอ้ความรู้สึกขับรถทะลุเมฆก็มาถึง ผมคว้ามันได้อีกครั้ง ไม่ได้รู้สึกอะไรไปมากกว่า...การได้เห็นสิ่งนี้ “ทะเลหมอก”

ภูทับเบิก

           ผมมาถึงที่จุดชมวิวหลักของภูทับเบิก ตรงหอแสดงอุณหภูมิตอน 05.30 น. มันมืดและมันก็หนาวมาก ๆ ราว ๆ 12 องศา แค่นั้นเอง

ภูทับเบิก

           ผมไม่อยากพลาดมัน เพราะไม่รู้ว่าลมที่พัดแรงจะทำบางอย่างหายไปตอนไหน ทั้งหนาว ทั้งเย็น ทั้งมืด จนมองอะไรแทบไม่เห็น แต่บางอย่างกลับเด่นชัดอย่างที่สุด

ภูทับเบิก

           มันเป็นทะเลหมอกแบบที่ผมเห็นมันมาทั้งปี แต่สำหรับช่วงเวลานี้มันคือ “ทะเลหมอก” ที่อาจจะเกิดขึ้นได้แค่วันเดียวในฤดูหนาวแบบนี้

ภูทับเบิก

           และมันก็ไม่ได้สำคัญว่ามันจะเกิดขึ้นวันไหนหรือจะเกิดขึ้นกี่วัน แต่มันสำคัญเท่าที่ผมได้ตัดสินใจ ทำอะไรบางอย่างเพื่อมาที่นี่ในเช้าวันนี้ 

ภูทับเบิก

           สิ่งที่ผมทำ...ก็ทำแบบเดิม ๆ แบบที่เคยทำ ทำแบบเดิม ๆ  ซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่จะได้เก็บความสุขบนที่แห่งนี้

ภูทับเบิก

           แค่ได้เฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของมัน นั่นแหละความสุขของผม ความสุขที่บอกได้ไม่หมด แต่มันก็เป็นความหมายแบบนั้นจริง ๆ

ภูทับเบิก

           บางทีความสุขก็ไม่รู้ว่ามันจะมาเมื่อไหร่ เหมือนกับที่เราก็ไม่รู้ว่ามันจะจากไปตอนไหน ?

ภูทับเบิก

           ถ้าไม่คว้าไว้ตอนนี้แล้วตอนสุดท้ายตอนที่ได้นึกถึง เดาไม่ถูกเหมือนกันว่าจะรู้สึกแบบไหน ?

ภูทับเบิก
          
           ผมใช้เวลาดูทะเลหมอกที่หอแสดงอุณหภูมินานพอสมควร ในขณะที่หลาย ๆ คนเริ่มหายไปจากจุดชมวิว...แต่ผมกลับทำบางอย่าง

ภูทับเบิก

           ผมเดินมาที่จุดกางเต็นท์ที่อยู่ริมผาของภูทับเบิก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นของ บ้านริมผา@ทับเบิก

ภูทับเบิก

           เป็นมุมมองอีกมุมที่ผมเคยทำพลาดไปเมื่อช่วงปีก่อน มันเป็นมุมที่มองเห็นวิวทะเลหมอกได้แปลกตาจริง ๆ

ภูทับเบิก

           ผมเริ่มเซลฟี่ตัวเองเก็บไว้เป็นภาพความทรงจำในครั้งนี้ อาจเห็นวิวได้ไม่เยอะ แต่ผมจะไม่มีทางลืมทริปครั้งนี้แน่ ๆ

ภูทับเบิก

           ทริปที่มีที่มาที่ไปอย่างชัดเจน กับปลายทางเช้าวันนี้ กับบางอย่างที่บอกว่าทำอย่างไรให้เจอทะเลหมอกที่นี่ ?

ภูทับเบิก

           จากการเดินทาง 4-5 ปี ที่ผมมาที่นี่ 20 กว่าครั้ง ทำให้ผมเข้าใจอะไรหลาย ๆ อย่างมากขึ้น ปัจจัยสำคัญที่สุดในการเกิดทะเลหมอกของภูทับเบิก คือ ความชื้น และไม่ใช่ความชื้นจากป่าเขา

ภูทับเบิก

           เนื่องจากจุดชมวิวทะเลหมอกที่นี่ไม่ได้เป็นที่ตั้งของป่าเขาต้นไม้ แต่มันเป็นพื้นที่ราบของเขตเกษตรกรรม และเป็นพื้นที่ราบของเขตที่อยู่อาศัย

ภูทับเบิก

           ดังนั้นต้องใช้ความชื้นสะสมที่มาจากปริมาณน้ำฝน ดังนั้นเราถึงได้เห็นทะเลหมอกในช่วงหน้าฝนเป็นหลัก

ภูทับเบิก

           พอเข้าสู่ฤดูหนาว ความชื้นจะค่อย ๆ ลดลง โอกาสการเจอทะเลหมอกก็จะลดน้อยลงตามไปด้วย

ภูทับเบิก

           ส่วนฤดูหนาวความชื้นในอากาศต่ำ บวกกับภูมิศาสตร์จุดชมวิวของภูทับเบิกเป็นที่โล่ง เปิดกว้าง ไม่ได้เป็นจุดชมวิวแบบแอ่งเขา แอ่งกระทะ ทำให้ปริมาตรที่ละอองน้ำเหล่านี้จะแปรผันตรงกับกระแสลม

ภูทับเบิก

           ซึ่งพอเข้าหน้าหนาวกระแสลมที่พัดมาจากจีนจะมีอย่างต่อเนื่อง และค่อนข้างแรงด้วยมวลความกดอากาศสูง ทำให้เราไม่สามารถมองเห็นมวลละอองน้ำที่อัดกันแน่นจนมองเห็นเป็นทะเลหมอกเหมือนแบบที่เห็นในตอนหน้าฝน

ภูทับเบิก

           อาจมองเห็นเป็นแนวฝุ่นละอองน้ำตามเส้นขอบฟ้าเป็นสีจาง ๆ ตัดผ่านกับเส้นแสงของตะวันในยามเช้า เป็นแถบจาง ๆ ยิ่งลมแรงก็ทำให้หมอกฟุ้งกระจายจนมองอะไรไม่เห็นไปเลย ดังนั้นถ้าคุณอยากเห็นทะเลหมอกที่สวย ๆ ของภูทับเบิกต้องหน้าฝนเท่านั้น โดยเฉพาะสองเดือนสุดท้าย คือ สิงหาคม-กันยายน จะมีทะเลหมอกที่สวยที่สุด

ภูทับเบิก

           แต่ถ้าอยากจะลุ้นทะเลหมอกฤดูหนาวแบบเช้าวันนี้ วันที่ 12 มกราคม แบบผม จะต้องดูช่วงเวลาที่มีฝนหลงฤดูเกิดขึ้น ซึ่งโอกาสที่ฝนจะตกในช่วงฤดูหนาวแบบนี้ก็มีทุกปี แต่มาแค่ 2-3 วัน

ภูทับเบิก

           หลังจากที่ผมเต็มอิ่มกับทะเลหมอกในแบบที่ภูทับเบิกมี ผมเริ่มมองหาบางอย่างที่เป็นไฮไลท์ของช่วงเวลาแบบนี้

ภูทับเบิก

           นางพญาเสือโคร่ง...ดอกไม้สีชมพูในแบบที่ใครฝันถึง สีที่บอกถึงความรู้สึกดีหรือทุก ๆ อย่างเอาไว้ด้วยกัน

ภูทับเบิก

           ขอบคุณภาพใบนั้นที่อัพเดทในชมรมคนรักเขาค้อ-ภูทับเบิก ที่ทำให้ผมต้องเดินหาว่ามุมแบบนี้อยู่ที่ไหน ?

ภูทับเบิก

           มันเหมือนเป็นความบังเอิญที่ทุก ๆ อย่างลงตัวไปหมด ขุนเขา สายหมอก และดอกไม้

ภูทับเบิก

           ตอนนี้ผมเริ่มคิดแล้วว่าผมจะไปภูลมโลต่อดีไหม ?? ไปหรือไม่ไป....ไม่ไป หรือไปดี ???

ภูทับเบิก

           หันมาอีกด้านก็จะเห็นมุมมองของวัดป่าภูทับเบิกในระยะไกล ๆ สายหมอกเช้านี้อยู่นาน อยู่ทน แต่ตอนนี้มันกำลังจะหายไป

ภูทับเบิก

           พร้อม ๆ กับความคิดบางอย่างที่เข้ามาอยู่ในหัวตอนนี้ จะอยู่ จะไป หรือจะทำยังไงดีกับถนนสายนี้

ภูทับเบิก

           ผมขับรถกลับมาที่จุดชมวิวเดิมอีกครั้งทำแบบเดิม ๆ ณ จุดชมวิวภูสวรรค์...มุมที่ไม่ควรพลาด

ภูทับเบิก

           แล้วสุดท้าย...ของท้ายที่สุดของภูทับเบิก 12 มกราคม 2558 ก็มาถึง ผมกลับมาที่เดิม ๆ ที่เคยเริ่มต้นของเช้าวันนี้ @ จุดชมวิวตรงลานแสดงอุณหภูมิ

ภูทับเบิก

           ทะเลหมอกในช่วงสาย ๆ แบบนี้ แดดร้อน ๆ แบบนี้ แต่ยังคงไม่หายไปไหน สีของมันเด่นชัด ชัดขึ้น และขาวมากขึ้น

ภูทับเบิก

           จากคนหลายสิบคนในตอนนั้น ตอนนี้เหลือไม่กี่คนในตอนนี้ กับเหตุผลของการได้วนกลับมายืนในจุดที่เคยยืน

ภูทับเบิก

           กับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยเปลี่ยนไป...แต่ตอนนี้มันกำลังเปลี่ยนไป พร้อม ๆ กับมุมมองบางอย่าง

ภูทับเบิก

           มุมมองของผมนะหรือ...ภูทับเบิกของผมก็ยังคงเป็นสถานที่สวยงามเสมอ

ภูทับเบิก

           แม้อะไรจะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่นั่นคือสิ่งที่เราต้องยอมรับและเข้าใจมันให้มากขึ้นและมากขึ้น

ภูทับเบิก

           สิ่งที่ผมทำ คือ พยายามเลือกไปอยู่ในช่วงเวลาและจังหวะที่ธรรมชาติของที่นี่สวยงามและลงตัวที่สุดเสมอ

ภูทับเบิก

           และท้ายที่สุดมันก็อยู่ที่มุมมองและความทรงจำเก่า ๆ จะคอยบอกว่าเราควรจะมองที่นี่แบบไหนกัน ???

ภูทับเบิก

           ความรู้สึกตอนนี้หรือวันข้างหน้าอาจจะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ความทรงจำครั้งเก่าก่อนจะไม่มีวันเปลี่ยน และไม่เปลี่ยนแปลงไป 

<...................... ภูทับเบิก 12 มกราคม 2558...........................>


          [อีกหนึ่งพื้นที่ของคนรักขุนเขา&สายหมอก เฟซบุ๊ก chanomworld]

ภูทับเบิก




 เกาะติดข่าว ภูทับเบิก ทั้งหมดคลิกเลย 





ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
คุณชานมชงเอง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก chanomworld







เรื่องที่คุณอาจสนใจ
มนตร์เสน่ห์แห่งทะเลหมอก ณ ภูทับเบิก สถานที่ที่ต้องไปเยือน อัปเดตล่าสุด 3 พฤศจิกายน 2558 เวลา 10:43:31 4,619 อ่าน
TOP