
เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก มูลนิธิโครงการหลวง
วันนี้กระปุกท่องเที่ยวจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยว ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่กันค่ะ เพราะสถานที่แห่งนี้มีป่าสนธรรมชาติผืนใหญ่ที่สุดของประเทศ อีกทั้งเพื่อน ๆ ยังจะได้ดื่มด่ำกับอากาศที่เย็นสบาย ชื่นชมความงดงามทางธรรมชาติ ทั้งขุนเขา ป่าไม้ และน้ำตก รวมถึงสัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้านอีกด้วย นั่นแน่ ! เริ่มอยากไปเที่ยวศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์กันแล้วใช่ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้นก็ตามเราเข้าไปเที่ยวกันเลยค่ะ

เมื่อ พ.ศ. 2522 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฎรชาวเขาในเขตหมู่บ้านวัดจันทร์ ทรงทราบถึงความทุกข์ยากของชาวเขาในพื้นที่ ตลอดจนเส้นทางคมนาคมก็ไม่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิต จึงมีพระราชดำริให้มีการพัฒนาบ้านวัดจันทร์และหมู่บ้านใกล้เคียง จัดตั้ง "ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์" ขึ้นเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของราษฎรในพื้นที่ ส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมปลูกพืชผักและผลไม้เมืองหนาว
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ มีพื้นที่รับผิดชอบ 153,592 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 19 หมู่บ้าน และพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน 2 หมู่บ้าน ประชากรในพื้นที่เป็นชาวเขาเผ่าปกาเกอะญอ (กะเหรี่ยง) จำนวน 1,823 ครัวเรือน ลักษณะภูมิประเทศเป็นพื้นที่ป่าสนและป่าเต็งรังขนาดใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 960 เมตร

สำหรับกิจกรรมท่องเที่ยว ณ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ ก็มีให้เลือกทำหลากหลายตามความชอบ ทั้งการท่องเที่ยวเชิงเกษตร, การท่องเที่ยวทางธรรมชาติ หรือการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ดังนี้







ชมความงามของป่าสนอายุกว่าร้อยปี ถือเป็นป่าสนเขาธรรมชาติผืนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีทั้งสนสองใบและสนสามใบ ซึ่งมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ 2 เส้นทาง คือ เส้นทางที่ 1 ชมป่าสนสองใบ เป็นป่าสนธรรมชาติ มีกล้วยไม้ป่าและนกประจำถิ่นหลายชนิดอยู่ห่างจากศูนย์ฯ 3 กิโลเมตร (เส้นทางรถประมาณ 1 กิโลเมตร จากนั้นเดินเท้าอีก 2 กิโลเมตร) เส้นทางที่ 2 ชมป่าสนสามใบ มีพรรณไม้ป่าและนกหายากหลายชนิด เป็นทางเดินเท้าห่างจากศูนย์ฯประมาณ 1 กิโลเมตร















ชมโบสถ์เรย์แบนที่มีลักษณะแปลกตา ตั้งอยู่ในเขตวัดจันทร์ ทั้งนี้ วัดบ้านจันทร์ เป็นวัดที่สันนิฐานว่ามีอายุเก่าแก่ สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยละว้า (ลั๊วะ) ที่อพยพมาจากเชียงใหม่เมื่อ 300 ปี ก่อน ต่อมาได้รับการค้นพบและบูรณะครั้งแรกในสมัยที่ครูบาศรีวิชัยธุดงค์ผ่านมาในบริเวณวัดจันทร์ในปัจจุบัน ซึ่งเมื่อก่อนนี้เป็นป่าขึ้นรกร้างจึงได้แรงศรัทธาจากชาวบ้านช่วยกันบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระธาตุใหม่ โดยการสร้างซ่อมแซมหุ้มทับพระธาตุองค์เดิม เป็นวัดที่สำคัญของชุมชนชาวกะเหรี่ยงพุทธ ซึ่งประดิษฐานพระสิงห์
พระธาตุจอมแจ้ง พระธาตุเก่าแก่ สันนิษฐานว่ามีอายุมากว่า 300 ปี และที่นี่ยังสามารถชมวิวของหมู่บ้านได้อีกด้วย









ภายในศูนย์ฯ ไม่มีร้านอาหารบริการ แต่สามารถสั่งรายการอาหารล่วงหน้าสำหรับหมู่คณะ นักท่องเที่ยวสามารถประกอบอาหารเองได้ โดยสั่งวัตถุดิบทั้งผักและเนื้อสัตว์จากศูนย์ฯ นอกจากนี้ บริเวณหมู่บ้านยังมีบริการร้านอาหารไว้คอยให้บริการ

เส้นทางที่ 1 จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทางสายเชียงใหม่ไปอำเภอแม่ริม เลี้ยวซ้ายที่อำเภอแม่ริม ต่อไปอำเภอสะเมิง ต่อเนื่องสายสะเมิง-วัดจันทร์ อีกประมาณ 93 กิโลเมตร ระยะทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ถึงศูนย์ฯ 154 กิโลเมตร สภาพเส้นทางเป็นดินลูกรังบางช่วง เส้นทางนี้มีบริการรถโดยสารประจำทางต้นทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ขึ้นที่ตลาดวโรรส
เส้นทางที่ 2 จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เส้นทางสายเชียงใหม่-แม่แตง ก่อนถึงตลาดแม่มาลัย-อำเภอปาย ประมาณ 2-3 กิโลเมตร จะมีเส้นทางเลี่ยงเมืองตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1095 หรือจะไปเลี้ยวซ้ายเข้าสู่เส้น 1095 ได้ที่ตลาดแม่มาลัยต่อไปอำเภอปายก็ได้เช่นกัน ก่อนถึงอำเภอปาย 12 กิโลเมตร จะมีป้ายบอกทางไปวัดจันทร์ให้เลี้ยวซ้าย เข้าสู่เส้น 1265 ไปจนสุดทางแล้วเลี้ยวซ้ายอีกครั้งเข้าสู่ถนน 1349 ขับตรงไปเรื่อย ๆ จะเห็นป่าสน ศูนย์ฯ จะอยู่ทางด้านขวามือ สภาพเส้นทางจะดีกว่าเส้นทางแรก





ขอขอบคุณข้อมูลจาก
