x close

เที่ยวออสเตรเลียครั้งแรก กับเรื่องน่ารู้และเกร็ดท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด

          แนะนำเกร็ดท่องเที่ยว พร้อมให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับประเทศออสเตรเลีย เพื่อให้การเที่ยวออสเตรเลียด้วยตัวเองง่ายยิ่งขึ้น จะต้องทำวีซ่าอย่างไร มีที่เที่ยวออสเตรเลียอะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปถึงแล้วไม่ควรพลาดกิจกรรม มีอะไรให้กินบ้าง หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะติดต่อใครดี เรามีคำตอบ
          ประเทศออสเตรเลีย ถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางธรรมชาติและวัฒนธรรม เพราะมีพื้นที่กว้างใหญ่ มีทั้งแผ่นดินใหญ่และเกาะแก่งต่าง ๆ อีกมากมาย ทำให้ออสเตรเลียมีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ซ่อนตัวอยู่เพียบเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นท้องทะเล ภูเขา น้ำตก ทะเลทราย และอื่น ๆ อีกเพียบ ที่นี่จึงเป็นสวรรค์อีกแห่งของนักเดินทางทั่วโลก และเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวต่างปักหมุดเก็บไว้ในเช็กลิสต์ของ Bucket List

          สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย อาจจะมองว่าออสเตรเลียอยู่ไกลเกินความฝัน แต่ถ้าเราวางแผนดี ๆ ก็มีสิทธิ์ไปเยือนประเทศนี้ได้ไม่ยากเหมือนกัน ซึ่งเมื่อช่วงการแพร่ระบาดโควิด 19 มีผลทำให้ออสเตรเลียต้องปิดพรมแดนเป็นระยะเวลานานร่วม 2 ปี และเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้น ออสเตรเลียกลับมาเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้ง สำหรับคนที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ครบสองโดส (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ออสเตรเลีย เปิดประเทศเต็มรูปแบบ พร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ) และเพื่อให้พร้อมก่อนไปตะลุยเที่ยวแดนจิงโจ้ เราก็ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประเทศออสเตรเลีย พร้อมทั้งเกร็ดการท่องเที่ยวเบื้องต้นมาฝากกันด้วย เรื่องน่ารู้ของออสเตรเลียจะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันค่ะ

ประเทศออสเตรเลียอยู่ที่ไหน

          ถ้าดูในแผนที่โลก ประเทศออสเตรเลียจะอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศไทย มีทั้งพื้นที่เกาะขนาดใหญ่ และเกาะเล็กเกาะน้อยที่อยู่โดยรอบในมหาสมุทรอินเดีย มหาสมุทรแปซิฟิก และมหาสมุทรใต้ รวมพื้นที่ทั้งหมดมากกว่า 7,690,000 ตารางกิโลเมตร ถือว่าเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก พร้อมทั้งยังเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว และเป็นประเทศอันดับต้น ๆ ในบรรดาประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกด้วย
          ทั้งนี้ประเทศออสเตรเลียได้ถูกขนานนามว่าเป็นทวีปเกาะ (Island Continent) เพราะมีลักษณะเป็นเกาะที่ใหญ่และโดดเด่นมากที่สุดในทวีปออสเตรเลีย

รัฐและดินแดนของออสเตรเลีย

          ประเทศออสเตรเลีย แบ่งออกเป็น 6 รัฐใหญ่ ๆ ได้แก่ รัฐนิวเซาท์เวลส์ (New South Wales), รัฐควีนส์แลนด์ (Queensland), รัฐเซาท์ออสเตรเลีย (South Australia), รัฐแทสเมเนีย (Tasmania), รัฐวิกตอเรีย (Victoria) และรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย (Western Australia) และยังมีอีก 2 ดินแดนที่อยู่บนแผ่นดินใหญ่ คือ นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี (Northern Territory) และออสเตรเลียนแคพิทอลเทร์ริทอรี (Australian Capital Territory)

ภาพจาก Dan Breckwoldt / Shutterstock.com

ภูมิประเทศและภูมิอากาศของออสเตรเลีย

          ด้วยความที่ประเทศออสเตรเลียมีพื้นที่ที่กว้างใหญ่ไพศาล ทำให้มีภูมิประเทศที่แตกต่างกัน ทางตะวันออกเฉียงเหนือจะเป็นป่าฝนเขตร้อน ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทางตะวันตกเฉียงใต้ และทางตะวันออก จะเป็นพื้นที่แนวเทือกเขา ส่วนตอนกลางของประเทศจะเป็นทะเลทรายและพื้นที่แห้งแล้ง
          ภูมิอากาศของออสเตรเลียก็จะแตกต่างกัน ทางด้านตอนเหนือนั้นจะเป็นภูมิอากาศแบบเขตร้อน ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้จะเป็นภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน ส่วนทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งเกาะแทสเมเนียจะเป็นภูมิอากาศแบบเมืองหนาว เพราะฉะนั้นถ้าหากจะไปเที่ยวออสเตรเลีย ก็ต้องดูก่อนว่าเราจะไปเที่ยวเมืองไหน แล้วเมืองนั้นอยู่ในภูมิภาคใด ก็จะทำให้สามารถจัดเตรียมเสื้อผ้าและแผนการเดินทางได้ง่ายขึ้น  

เมืองหลวงของประเทศออสเตรเลีย

          หลาย ๆ ท่านอาจจะคิดว่าเมืองหลวงของประเทศออสเตรเลียนั้น คือ เมืองซิดนีย์ (Sydney) เพราะเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและเป็นศูนย์กลางในด้านต่าง ๆ มากมาย แต่อันที่จริงแล้ว เมืองหลวงของประเทศออสเตรเลียนั้น อยู่ที่ "เมืองแคนเบอร์รา" (Canberra) ในดินแดนออสเตรเลียนแคพิทอลเทร์ริทอรี/มลฑลนครหลวงออสเตรเลีย (Australian Capital Territory) เป็นสถานที่ตั้งของสถานที่ราชการสำคัญ สถานทูตและกงสุลของนานาประเทศ

          แคนเบอร์รา เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่า ปลอดมลพิษ เพราะไม่มีตึกสูงระฟ้า ไม่มีปัญหาการจราจรติดขัด รายล้อมไปด้วยพื้นที่ของธรรมชาติทั้งทะเลสาบและป่าเขา บรรยากาศเงียบสงบ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของแคนเบอร์รา อาทิ Australian War Memorial, New Parliament House, Museum of Australian Democracy, Lake Burley Griffin, National Gallery of Australia, Questacon และ National Library of Australia เป็นต้น

จิงโจ้และโคอาลา

          ถ้าพูดถึงสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่จะทำให้นึกถึงประเทศออสเตรเลีย ก็คงหนีไม่พ้นเจ้าจิงโจ้และโคอาลา สัตว์ประจำท้องถิ่นออสเตรเลียที่มีความน่ารักสุด ๆ เจ้าจิงโจ้นั้นปัจจุบันมีมากถึง 40 ล้านตัว กระจายตัวอาศัยอยู่รอบ ๆ ประเทศ ส่วนโคอาลานั้น ก็เป็นสัตว์ที่สำคัญ ตัวเมียจะมีกระเป๋าหน้าท้องเช่นเดียวกับจิงโจ้ ปัจจุบันจะพบได้ในรัฐควีนส์แลนด์, รัฐนิวเซาท์เวลส์, รัฐวิกตอเรีย และรัฐเซาท์ออสเตรเลีย

ภาษาที่ใช้ในออสเตรเลีย

          ประเทศออสเตรเลียใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก แต่สำเนียงจะแตกต่างจากฝั่งอเมริกัน ถ้าใครคุ้นชินกับสำเนียงอเมริกัน ก็อาจจะบอกว่าสำเนียงออสเตรเลียนั้นฟังยาก แต่ก็ไม่ลำบากเกินไปสำหรับนักท่องเที่ยว อาจจะมีคำสแลงบ้าง ถ้าไม่เข้าใจก็ให้เขาพูดซ้ำอีกครั้งช้า ๆ ไม่ต้องเขิน :)

เมืองน่าเที่ยวของออสเตรเลีย

          ประเทศออสเตรเลีย มีหลายเมืองที่น่าสนใจ แต่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด อาทิ เมืองซิดนีย์, เมืองเมลเบิร์น, เมืองบริสเบน, เมืองเพิร์ท, เมืองแคนเบอร์รา, เมืองแอดิเลด, เมืองโกลด์โคสต์ และเมืองโฮบาร์ต เป็นต้น

          ที่เที่ยวออสเตรเลีย

          สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองซิดนีย์ เช่น
 
  • ซิดนีย์ โอเปร่า เฮาส์ (Sydney Opera House)
  • สะพานฮาร์เบอร์ (Harbour Bridge)
  • หาดบอนได (Bondi Beach)
  • สวนสัตว์ทารองก้า (Taronga Zoo)
  • ตึกควีนวิกตอเรีย (Queen Victoria Building)
  • ย่านนิวทาวน์ (Newtown)
  • ซิดนีย์ ฟิซ มาร์เกต (Sydney Fish Market)
  • ท่าเรือดาร์ลิ่ง (Darling Harbour)
  • พิพิธภัณฑ์ศิลปะ นิวเซาท์เวลส์ (Art Gallery of New South Wales)
  • ย่านเดอะร็อคส์ (The Rocks)

ภาพจาก Neale Cousland / Shutterstock.com

          สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองเมลเบิร์น เช่น
 
  • สถานีรถไฟถนนฟินเดอร์ (Flinders Street Station)
  • ห้องสมุดรัฐวิกตอเรีย (State Library Victoria)
  • อนุสรณ์สถานทหารผ่านศึก (Shine of Remembrance)
  • ถนนเกรตโอเชียน (Great Ocean Road) และเสาหิน 12 แท่งริมทะเล (The Twelve Apostles)
  • รถไฟพลังไอน้ำพัฟฟิ่ง บิลลี่ (Puffing Billy Railway)
  • เกาะฟิลลิป (Phillip Island)
  • เมลเบิร์น สตาร์ ออบเวอร์เวชัน วีล (Melbourne Star Observation Wheel)
  • ย่านเซาต์ ยาร์รา (South Yarra)
  • ย่านฟิทซ์รอย (Fitzroy)
  • Australian Centre for the Moving Image
  • Hosier Lane Street Art
  • Royal Exhibition Building
     

          สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองบริสเบน เช่น
 

  • บริสเบน ซิตี้ ฮอลล์ (Brisbane City Hall)
  • ควีน สตรีต มอลล์ (Queen Street Mall)
  • เกาะมอร์ตัน (Moreton Island)
  • บริสเบน โบทานิค การ์เด้น (Brisbane Botanic Gardens)
  • สวนสาธารณะโรมา สตรีต (Roma Street Parkland)
  • ศูนย์วัฒนธรรมควีนแลนด์ (Queensland Cultural Centre)
  • สวนสาธารณะเซาท์แบงก์ (South Bank Parklands)
     

          สถานที่ท่องเที่ยวออสเตรเลียอื่น ๆ
 

  • หาดไวท์เฮเวน (Whitehaven Beach)
  • แนวปะการังเกรตแบร์ริเออร์รีฟ (Great Barrier Reef)
  • โขดหินอุลูรู (Uluru)
  • ยอดเขาสามพี่น้อง (The Three Sisters)
  • เกาะเฟรเซอร์ (Fraser Island)
  • ภูเขาคอสซีออสโก (Mount Kosciuszko)
  • หุบเขาบารอสซา (Barossa Valley)

อาหารออสเตรเลีย

          มาเยือนถึงออสเตรเลียแล้วก็ต้องลองอาหารท้องถิ่นของคนที่นี่กันสักนิด และถ้าใครรักการกินเนื้อ บอกเลยว่าที่นี่จะเป็นสวรรค์ของคุณอย่างแน่นอน เพราะออสเตรเลียมีแหล่งผลิตทั้งเนื้อวัว เนื้อแกะ และเนื้อจิงโจ้ที่อร่อยสุด ๆ ไม่ว่าจะเอาไปทำเป็นบาร์บีคิว สเต๊ก หรืออาหารประเภทอื่น ๆ ก็กินกันฟินไปเลยล่ะ

          นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารที่ไม่ควรพลาดอีกมากมาย อาทิ พายเนื้อ, พัฟโลว่า, สปาเกตตี โบลองนีส, เค้กลามิงตัน, เวจเจไมต์, แอนแซก บิสกิต เป็นต้น
 

ของฝากออสเตรเลีย

          ของฝากออสเตรเลียมีให้เลือกซื้อเยอะมาก แต่ที่น่าสนใจ อาทิ วิตามินยี่ห้อต่าง ๆ, ไวน์พื้นเมือง, ผลไม้, ครีมรกแกะ, น้ำหอม, ช็อกโกแลต, เครื่องสำอางและครีมบำรุงผิว, ลิปบาล์ม, ขนมกินเล่นกับน้ำชา, ชุดกีฬาและอุกปรณ์กีฬาทางน้ำจากแบรนด์ดัง, แมคคาเดเมีย, ของที่ระลึกเกี่ยวกับจิงโจ้และโคอาลา, ของตกแต่งบ้านแนวยิปซี, สินค้าพื้นเมือง เป็นต้น

ภาพจาก TK Kurikawa / Shutterstock.com

เกร็ดท่องเที่ยวออสเตรเลีย

          + สำหรับผู้ที่ถือหนังสือเดินทางประเทศไทย จะต้องทำเรื่องขอวีซ่ากับสถานทูตออสเตรเลีย โดยสามารถยื่นได้ 2 วิธี คือ การยื่นผ่านระบบออนไลน์และการยื่นเอกสารผ่านศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (VFS) โดยจะต้องเตรียมเอกสารต่าง ๆ ให้พร้อม เมื่อยื่นเอกสารแล้ว ก็จะต้องไปทำการเก็บข้อมูลอัตลักษณ์ (การทำไบโอเมทริกซ์) บุคคลที่ VFS โดยค่าธรรมเนียมนั้น ถ้าใครยื่นออนไลน์ ก็จะเสียค่าธรรมเนียมวีซ่าท่องเที่ยว (ประเภท 600) 3,450 บาท และการทำไบโอเมทริกซ์ 851 บาท แต่ถ้าไปยื่นที่ VFS ก็จะต้องเสียค่ายื่นใบสมัครเพิ่มเติมอีก 45 บาท และแนะนำว่าควรยื่นก่อนการเดินทางอย่างน้อย 45 วัน เผื่อเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ vfsglobal.com

          + ก่อนเดินทางไปเที่ยวออสเตรเลีย แนะนำว่าให้แลกเงินไปทั้งสกุลดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์สหรัฐ บางพื้นที่ที่อยู่นอกเมืองออกไปจะไม่มีที่ให้แลกเงิน เพราะฉะนั้นควรคำนวณให้ดี ๆ และไม่ควรลืมนำบัตรเดบิตหรือเครดิตติดตัวไปด้วย เผื่อขาดเหลือก็ยังมีบัตรให้รูดได้

          + ปลั๊กไฟออสเตรเลียจะหน้าตาไม่เหมือนกับเมืองไทย จะมีลักษณะเป็นแบบ Type I เป็นขาแบน 3 ขา รูปสามเหลี่ยม ขาล่างวางตัวแนวตั้ง ส่วน 2 ขาด้านบนวางตัวเอียง 45 องศา คล้ายรูปตัว V แนะนำให้เตรียม Universal Adapter ติดตัวไปด้วย

          + เวลาของประเทศออสเตรเลียนั้นจะแบ่งออกเป็นหลายโซน ถ้าทางฝั่งตะวันตกอย่างเมืองเพิร์ท จะเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง โซนทางเหนือและตอนกลางอย่างเมืองดาร์วิน จะเร็วกว่าประเทศไทย 2.30 ชั่วโมง โซนทางตะวันออกเฉียงเหนืออย่างเมืองทาวส์วิลล์และบริสเบน จะเร็วกว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง โซนทางตอนใต้อย่างเมืองแอดิเลด จะเร็วกว่าประเทศไทย 3.30 ชั่วโมง โซนทางตะวันออกเฉียงใต้อย่างเมืองเมลเบิร์น จะเร็วกว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง

          + หากใครที่ต้องการการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอดการเดินทาง ก็คงต้องลงทุนซื้อซิมโทรศัพท์ใหม่ ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่แนะนำให้ซื้อซิมท้องถิ่นของออสเตรเลีย มีให้เลือกหลายค่าย เช่น Optus, Telstra และ Vodafone

          + ค่าครองชีพในออสเตรเลีย ได้ชื่อว่าแพงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ค่าอาหาร 1 มื้อ ก็เริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 200 บาท ถ้ามาเที่ยวหลาย ๆ วัน ก็ต้องคำนวณค่าใช้จ่ายให้ถี่ถ้วนสักนิด

          + ที่พักออสเตรเลีย ถ้าเป็นเมืองใหญ่ ๆ จะมีให้เลือกหลายแบบ ราคาแตกต่างกันออกไป อย่างต่ำ ๆ ก็ตกคืนละประมาณ 1,000-1,500 บาท

          + การเดินทางท่องเที่ยวในออสเตรเลีย ถ้าเที่ยวในเมืองใหญ่อย่างซิดนีย์, เมลเบิร์น บริสเบน หรือเพิร์ท การเดินทางเที่ยวในเมืองก็จะไม่ลำบากมากนัก เพราะจะมีทั้งรถไฟฟ้าใต้ดินและรถโดยสารประจำทางให้บริการทั่วถึง แต่ถ้าจะออกไปเที่ยวนอกเมืองไกล ๆ นักท่องเที่ยวก็นิยมที่จะเช่ารถขับเที่ยวกันมากกว่า

          + เที่ยวออสเตรเลียช่วงไหนดี ? ประเทศออสเตรเลียนั้นมีพื้นที่ใหญ่มาก ซึ่งแต่ละภูมิภาคก็มีภูมิอากาศที่แตกต่างกันออกไป ทำให้เป็นประเทศที่สามารถเที่ยวได้ทั้งปี มีสิ่งที่น่าสนใจให้ได้เที่ยวชมไม่รู้เบื่อ เพราะฉะนั้นก่อนการเดินทางก็ต้องดูก่อนว่าเราจะไปเที่ยวเมืองไหน แล้วจึงมาไล่ดูสภาพอากาศเมืองนั้น ๆ อีกครั้ง

สถานที่ติดต่อในกรณีฉุกเฉิน

          - สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์

          Level 8, 131 Macquarie Street, Sydney, NSW 2000
          โทรศัพท์ : +61 2 9241 2542
          อีเมล : info@thaiconsulatesydney.org
          เว็บไซต์ thaiembassy.org
          เฟซบุ๊ก : Royal Thai Consulate-General, Sydney

          - สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา

          111 Empire Circuit, Yarralumla, ACT 2600
          โทรศัพท์ : +61 2 6206 0100
          เว็บไซต์ : canberra.thaiembassy.org
          เฟซบุ๊ก : Royal Thai Embassy Canberra

          หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่กำลังวางแผนจะเยือนเมืองจิงโจ้ครั้งแรกกันนะ วางแผนให้ดี ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ สักครั้งในชีวิต เราต้องมีโอกาสได้เห็นออสเตรเลียด้วยตาของเราเอง :)

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก
visitcanberra.com.au, australia.com, canberra.thaiembassy.org และ thaiembassy.org
 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เที่ยวออสเตรเลียครั้งแรก กับเรื่องน่ารู้และเกร็ดท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด อัปเดตล่าสุด 24 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 15:44:38 78,132 อ่าน
TOP