1. ตะลุยเที่ยว The Central Business District (CBD) ย่านธุรกิจที่มีทั้งสถาปัตยกรรมและงานศิลปะ
สถานที่ที่น่าสนใจใน The Central Business District เช่น
- SEA LIFE Melbourne Aquarium พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเมลเบิร์น ที่มีการจัดแสดงสัตว์น้ำน่าสนใจทั่วทั้งมหาสมุทรทางตอนใต้และในแถบแอนตาร์กติก
- Flinders Street Railway Station สถานีรถไฟที่สำคัญ เป็นจุดรวมรถไฟทุกสาย ทั้งระยะสั้นและระยะยาว
- ACMI (Australian Centre for the Moving Image) พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ ที่เน้นจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับภาพยนตร์ วิดีโอเกม และวัฒนธรรมดิจิทัล & ศิลปะ
- Hosier Lane & Rutledge Lane ตรอกเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยผลงานกราฟิตี้สุดเจ๋ง
- Queen Victoria Market ตลาดท้องถิ่นเก่าแก่อายุนับร้อยปี มีร้านค้าให้เลือกช้อปปิ้งมากกว่า 100 ร้านค้า
- State Library Victoria ห้องสมุดประจำรัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีการออกแบบภายในสวยงามคลาสสิก
- The Ian Potter Centre พิพิธภัณฑ์ศิลปะ ที่จัดแสดงภาพวาด ประติมากรรม ภาพพิมพ์ ภาพถ่าย ผลงานแฟชั่น และสิ่งทอ
- St Paul's Cathedral วิหารเซนต์ปอลที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของออสเตรเลีย
- Chinatown Melbourne ย่านร้านอาหารจีนและเอเชียสุดอร่อย พร้อมกับมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ
2. สัมผัสประสบการณ์นั่งรถ Tram รถรางที่มีอายุเก่าแก่มากกว่า 100 ปี
Tram เป็นระบบขนส่งสาธารณะที่เก่าแก่ของเมืองเมลเบิร์น เป็นรถรางที่มีการสร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1885 ซึ่งปัจจุบันมีให้บริการมากถึง 24 เส้นทาง รถรางเกือบ 500 คัน ทั่วเมืองเมลเบิร์น โดยส่วนใหญ่จะเป็นรถรางรูปทรงทันสมัย มีสายเคเบิลด้านบน ด้านในมีที่นั่งคล้ายกับรถโดยสารสาธารณะ สามารถดูเส้นทางของการให้บริการได้ที่ yarratrams.com.au
สิ่งที่เป็นไฮไลต์ของระบบรถรางเมืองเมลเบิร์น ก็คือ รถราง No.35 จะเป็นเส้นทาง City Circle แล่นไปรอบ ๆ เขต CBD ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ ซึ่งตัวรถรางก็จะเป็นรูปทรงรถรางโบราณ ดูคลาสสิก เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในสมัยก่อน ที่สำคัญเส้นทางนี้ยังสามารถขึ้นได้ฟรี ! ไม่ต้องเสียเงิน จะมีให้บริการทุกวัน วันอาทิตย์-พุธ ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. และวันพฤหัสบดี-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น.
3. ชมงานกราฟิตี้ในย่าน Laneways และเสพงานศิลป์ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะทั่วเมือง
เมืองเมลเบิร์น เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีความโดดเด่นทางด้านวัฒนธรรม เป็นแหล่งรวมของศิลปินในแขนงต่าง ๆ มากมาย มีพิพิธภัณฑ์ สถานที่ชมงานแสดงศิลป์หลากหลายรูปแบบทั่วทั้งเมือง เริ่มกันที่ Laneways ย่านที่มีตรอกซอกซอยเล็ก ๆ แตกออกมาจากถนนเส้นหลัก ซึ่งในซอยเหล่านี้ก็มีงานกราฟิตี้เก๋ ๆ อยู่เพียบ และยังซ่อนคาเฟ่ และร้านอาหารชิค ๆ ไว้มากมาย กลายเป็นเส้นเลือดฝอยที่หล่อเลี้ยงเมืองนี้มาหลายปี
จุดถ่ายรูปกับงานกราฟิตี้สวย ๆ จะอยู่ที่ Hosier Lane & Rutledge Lane และ Union Lane ดูจุดท่องเที่ยวในย่าน Laneways เพิ่มเติมได้ที่ visitmelbourne.com
ส่วนคนรักศิลปะอยากแนะนำให้ลองไปเสพงานศิลป์ในพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น National Gallery of Victoria, ACMI, ACCA และ The Ian Potter Centre นอกจากนี้ เมืองเมลเบิร์นยังมีพิพิธภัณฑ์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น Melbourne Museum พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติและวัฒนธรรมของเมลเบิร์น, Royal Exhibition Building อาคารนิทรรศการหลวงเมืองเมลเบิร์น, The Old Melbourne Gaol พิพิธภัณฑ์ทัณฑสถานเมลเบิร์น, Immigration Museum พิพิธภัณฑ์ผู้อพยพ และ Scienceworks พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งเมลเบิร์น
4. ชมเมืองเมลเบิร์นมุมสูงจาก Eureka Skydeck 88 และ Melbourne Star Observation Wheel
ไม่ว่าไปเที่ยวที่ไหนในต่างประเทศ การได้ชมวิวเมืองในมุมสูงก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด สำหรับเมืองเมลเบิร์น แนะนำให้ลองไปพบกับประสบการณ์การชมวิวเมืองในอีกมุมมองที่ Eureka Skydeck 88 และ Melbourne Star Observation Wheel
Eureka Tower เป็นตึกสูงระฟ้าที่ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำยาร์รา มีควาามสูงมากถึง 297.3 เมตร มีสกายเดคไว้รองรับนักท่องเที่ยวอยู่ที่ชั้น 88 หรือที่เรียกกันว่า Eureka Skydeck 88 สามารถมองเห็นวิวได้ 360 องศา ไกลสุดลูกหูลูกตา และยังมี The Edge เป็นพื้นกระจกรูปทรงสี่เหลี่ยมที่ยื่นออกไปจากตัวตึกขนาดพื้นที่ 3x3 เมตร เรียกความหวาดเสียวได้ไม่น้อย ดูรายละเอียดการเข้าชมได้ที่ eurekaskydeck.com
ส่วน Melbourne Star Observation Wheel เป็นชิงช้าสวรรค์ยักษ์ที่ตั้งอยู่ในย่าน Docklands มีความสูงมากถึง 120 เมตร แต่ละเคเบิลจะเป็นผนังกระจก มองเห็นวิวได้ 360 องศา ยามค่ำคืนยังเปิดไฟสวยงามสีสันสดใส สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ melbournestar.com
5. Shop Like a Local กินอาหารสตรีตฟู้ด พร้อมช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองที่ Queen Victoria Market
ไปเที่ยวเมลเบิร์นแล้วไม่ได้ไป Queen Victoria Market ก็เหมือนกับเที่ยวไม่ครบรส เพราะตลาดแห่งนี้เป็นดั่งสัญลักษณ์สำคัญของเมือง เป็นตลาดเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 140 ปี และมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามโดดเด่น ปัจจุบันได้ขยายพื้นที่ออกมาเป็นตลาดพื้นเมืองขนาดกว้างขวาง มีร้านค้ามากกว่า 600 ร้านค้า มีทั้งผัก-ผลไม้สด สินค้าทางการเกษตร แหล่งซื้อ-ขายเมล็ดกาแฟ เนื้อสัตว์ อาหารทะเล เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ ของฝาก-ของที่ระลึก โดยเฉพาะสตรีตฟู้ด ที่มีให้เลือกสรรและอิ่มอร่อยมากกว่า 100 เมนู ซึ่งมีจุดให้นั่งเอนจอยกับอาหารตั้งแต่ตลาดเปิดจนตลาดปิด
หากชอบบรรยากาศแบบไนท์มาร์เกต ก็จะมีการจัดทุกคืนวันพุธ มีอาหารอร่อย ๆ เพียบ และยังมีสินค้าแฮนด์เมด งานคราฟต์ รวมไปถึงดนตรีสด บาร์เล็ก ๆ ให้ได้มาช้อปปิ้งและนั่งเสพบรรยากาศกันด้วย
6. อิ่มอร่อย กัดเต็มคำกับเบอร์เกอร์ท้องถิ่นที่ร้าน 8Bit
เมลเบิร์นเป็นเมืองที่ได้รับอิทธิพลทางด้านอาหารมาจากทางฝั่งตะวันตกและอเมริกันพอสมควร ร้านอาหารส่วนใหญ่จึงมีเมนูเนื้อสัตว์ สเต๊ก ชีส พาสต้า และขนมปังเป็นพื้นฐาน เมนูฟาสต์ฟู้ดแบบอเมริกันก็ได้รับความนิยมไม่น้อย โดยเฉพาะใครที่ชอบกินเบอร์เกอร์ แนะนำให้ลองไปอิ่มอร่อยกันที่ร้าน 8Bit เป็นร้านฟาสต์ฟู้ดท้องถิ่นที่ได้รับความนิยมจากวัยรุ่นและคนวัยทำงาน ด้วยมีการจัดเสิร์ฟเบอร์เกอร์เนื้อชิ้นใหญ่ชิ้นโต รสชาติอร่อยเข้มข้น พร้อมด้วยฮอตดอก เฟรนช์ฟรายส์ และเครื่องเคียงต่าง ๆ ให้เลือกกินกันอย่างจุใจ และยังมีมิลค์เชกให้กินคู่กันด้วย ซึ่งนอกจากอาหารจะอร่อยแล้ว การตกแต่งร้านยังมีเอกลักษณ์ โดยได้แรงบันดาลใจจากเกมภาพ 8-bit และสะอาด ดูน่านั่งพักกินอาหารชิล ๆ เป็นที่ถูกใจของคนรุ่นใหม่ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ eat8bit.com
7. คาเฟ่ฮอปปิ้ง ชิมลิ้มรสกาแฟอร่อย ๆ ณ เมืองหลวงแห่งกาแฟของออสเตรเลีย
เมื่อไม่นานมานี้เมลเบิร์นได้กลายเป็นเมืองหลวงแห่งกาแฟของออสเตรเลียไปแล้ว ด้วยไลฟ์สไตล์ของชาวเมืองที่ไม่ได้เร่งรีบเหมือนเมืองใหญ่ทั่วไป สามารถนั่งชิล นั่งคุย นั่งทำงานไปด้วยกันได้ จึงทำให้มีร้านกาแฟเปิดให้บริการหลายร้อยแห่ง ซึ่งแต่ละร้านก็คัดสรรเมล็ดกาแฟอย่างดีมาจากทั่วทั้งออสเตรเลียและอีกหลายประเทศทั่วโลก เพื่อนำเสนอให้คอกาแฟได้ชิมลิ้มลองในรูปแบบต่าง ๆ และยังตกแต่งร้านให้มีบรรยากาศสบาย ๆ ผ่อนคลาย เพื่อเอื้อให้เหมาะสมแก่การนั่งเพลิน ๆ
การไปคาเฟ่ฮอปปิ้งในเมลเบิร์นจึงเป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรพลาด จุดที่น่าสนใจในย่าน CBD ก็คือ Degraves Street & Centre Place, Hardware Lane, Guildford Lane และ The Causeway เป็นถนนเล็ก ๆ ที่สองฟากฝั่งจะเต็มไปด้วยร้านกาแฟมากมาย จะได้กลิ่นกาแฟและขนมปังอบหอมกรุ่น พร้อมด้วยเมนูเครื่องดื่ม และขนมหวานน่ากินอีกหลากหลายเมนู นอกจากนี้ยังมีย่านอื่น ๆ ที่มีคาเฟ่น่านั่งที่ได้รับการแนะนำจากคนท้องถิ่น เช่น Carlton, Richmond, Fitzroy, Prahran, South Melbourne และ St Kilda
8. เติมความหวานกับโดนัทหน้าตาน่ารักหลากหลายรสชาติ
แนะนำร้านเบอร์เกอร์และย่านคาเฟ่กันไปแล้ว จะขาดของหวานได้อย่างไร หากพูดถึงขนมที่มีชื่อเสียงอย่างหนึ่งของเมลเบิร์น ก็ต้องยกให้โดนัท ขนมปังกลม ๆ มีรูตรงกลางที่ทุกคนคุ้นเคย เป็นขนมยอดนิยมที่มีร้านแบบโฮมเมดให้ไปลิ้มลองหลากหลายแห่ง ซึ่งแต่ละร้านก็จะสูตรของใครของมัน ตกแต่งให้มีหน้าตาและสีสันสดใสสวยงาม บางแบบก็มีไส้ด้านใน กินสลับกันไปได้ทุกวัน ไม่มีเบื่อ
ร้านโดนัทในเมืองเมลเบิร์นที่อยู่ในลิสต์ต้น ๆ เช่น Doughnut Time, Doughboys Doughnuts, American Doughnut Kitchen, All Day Donuts, Bistro Morgan, Smith & Deli, The Oakleigh Doughnut Co, Shortstop Coffee & Donuts, Dandee Donuts, Dolcetti, Rustica Sourdough และ Bistro Morgan เป็นต้น
9. สนุกสนานไปกับการชมการแข่งขันกีฬาหลากหลายประเภทกับชาวเมลเบิร์น
นอกจากเรื่องงานศิลปะและดนตรีแล้ว ชาวเมลเบิร์นยังหลงใหลในการชมกีฬาด้วย ซึ่งทั่วทั้งเมืองนั้นก็มีอารีน่าและสเตเดียมอยู่เกือบ 10 แห่ง กีฬาที่น่าสนใจก็มีทั้งคริกเกต, เทนนิส (Australian Open), ออสเตรเลียนฟุตบอล, บาสเกตบอล, กอล์ฟ และแข่งขี่ม้า ซึ่งจะมีการจัดการแข่งขันสลับกันไปตลอดทั้งปี
โดยสนามกีฬาที่ใช้จัดการแข่งขันจะกระจายตัวอยู่รอบ ๆ เมืองเมลเบิร์น เช่น Melbourne Cricket Ground, Marvel Stadium, Margaret Court Arena, Rod Laver Arena, Melbourne Arena, AAMI Park, Flemington Racecourse และ Moonee Valley Racing Club ใครสนใจกีฬาประเภทไหนก็ลองไปสัมผัสประสบการณ์เชียร์ติดขอบสนามกันได้เลย
10. ขับรถเที่ยวไปตามถนน Great Ocean Road ดื่มด่ำกับทัศนียภาพธรรมชาติที่งดงาม ไปสู่ The Twelve Apostles
The Great Ocean Road เป็นถนนที่เลาะเลียบชายฝั่งทะเลช่องแคบบาสส์ ซึ่งมีความสวยงามจนได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกแห่งชาติของออสเตรเลีย รวมระยะทางทั้งหมดมากถึง 243 กิโลเมตร เริ่มตั้งแต่เมือง Torquay ไปจนถึงเมือง Allansford รัฐวิกตอเรีย ซึ่งจุดเริ่มต้นของเส้นทางนี้อยู่ห่างจากเมืองเมลเบิร์นไปเพียง 100 กิโลเมตรเท่านั้น นักท่องเที่ยวจึงนิยมที่จะขับรถเล่นชมวิวทะเลไปเพลิน ๆ มีสถานที่ท่องเที่ยวให้แวะเที่ยวชมมากมายตลอดเส้นทาง
เป้าหมายหลักของเส้นทางนี้ คือ The Twelve Apostles เป็นเสาหินปูนขนาดใหญ่ที่ตั้งโดดเด่นอยู่ในทะเลใกล้กับชายฝั่ง มีอายุหลายล้านปี แต่เดิมนั้นมีทั้งหมด 8 เสา แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 7 เสาเท่านั้น เพราะโดนคลื่น ลม และฝนกัดเซาะจนพังทลายไป โดยจะมีจุดถ่ายรูปให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายคู่กับเสาหินเหล่านี้อยู่หลากหลายจุด และยังมีเส้นทางให้เดินลงไปยังชายหาด เพื่อชมเสาหินอย่างใกล้ชิด แต่มุมที่สวยงามที่สุดก็ต้องยกให้มุมสูงที่มาจากเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งมีบริการไว้ให้นักท่องเที่ยวด้วย พร้อมทั้งมีที่พักและร้านอาหารให้บริการครบครัน จะไปเที่ยวแบบวันเดย์ทริปหรือพักค้างคืนก็ได้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ visitgreatoceanroad.org
11. ถ่ายภาพชิค ๆ กับ Brighton Bathing Boxes ห้องอาบน้ำสีสันสดใสที่ชายหาด Brighton
หากเสิร์ชภาพสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองเมลเบิร์น ภาพที่จะปรากฏขึ้นมาลำดับต้น ๆ หนึ่งในนั้นก็คือ Brighton Bathing Boxes ลักษณะคล้ายบ้านพักหลังเล็ก ๆ ที่ตั้งเรียงรายอยู่บนชายหาดสีสันสดใส แต่จริง ๆ แล้วมันคือห้องอาบน้ำของชายหาด Brighton อยู่ห่างจากตัวเมืองเมลเบิร์นราว ๆ 12 กิโลเมตร มีมากกว่า 40 ห้องตลอดแนวชายหาด กลายเป็นจุดถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวอยากถ่ายรูปคู่เก็บไว้เป็นที่ระลึกกันสักครั้ง นอกจากห้องอาบน้ำเหล่านี้แล้ว บริเวณหาด Brighton ยังมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เหมาะต่อการเล่นน้ำ แนะนำให้เตรียมเสื้อผ้าไปเปลี่ยนกันด้วย
12. วันเดย์ทริป ไปเที่ยว Yarra Valley ชมไร่องุ่น โรงบ่มไวน์ พร้อมกับทัวร์ชิมไวน์
Yarra Valley เป็นภูมิภาคที่มีการทำไร่องุ่นอย่างกว้างขวาง ด้วยสภาพภูมิประเทศและสภาพภูมิอากาศของพื้นที่ที่เหมาะต่อการปลูกองุ่น ส่วนใหญ่ก็จะปลูกเพื่อการทำไวน์ เรียกได้ว่าเป็นแหล่งผลิตไวน์ที่สำคัญของออสเตรเลียอีกแห่งก็ว่าได้ โดยไร่องุ่นหลายแห่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชม บางแห่งมีโรงบ่มไวน์เป็นของตัวเองก็จะเปิดเป็นทัวร์ชิมไวน์ไปด้วย รับรองว่าถูกใจสาวกคนดื่มไวน์แน่นอน แต่ถึงแม้จะไม่ดื่มไวน์คุณก็จะต้องตกหลุมรักที่นี่ ด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม ทั้งไร่องุ่น ทุ่งหญ้า ป่าเขาเขียวขจี อากาศเย็นสบายสดชื่น มองไปทางไหนก็เบาสบายตา บนถนนนาน ๆ ก็จะมีรถยนต์แล่นมาสักคัน มีมุมให้ถ่ายรูปสวย ๆ เพียบ นอกจากนี้ยังจะได้ช้อปปิ้งองุ่นสด ๆ และผลิตภัณฑ์จากองุ่นกลับบ้านในราคาย่อมเยาด้วย
13. ชมความน่ารักของขบวนพาเหรดเพนกวิน
นอกจากจิงโจ้และโคอาลาแล้ว ออสเตรเลียก็ยังมีสัตว์พื้นเมืองอีกหลายชนิด หนึ่งในนั่นก็คือ เพนกวินน้อย (Little penguin) หรือที่คนท้องถิ่นเรียกกันว่า เพนกวินนางฟ้า (Fairy penguin) เป็นเพนกวินที่มีขนาดเล็กที่สุดในตระกูลเพนกวิน สูงเพียงแค่ราว ๆ 30-10 เซนติเมตรเท่านั้น มีขนที่หลังเป็นสีฟ้าหรือสีน้ำเงิน มีจะงอยปากสั้นสีดำ เวลาเดินก็จะต้วมเตี้ยม โน้มหัวไปข้างหน้า คล้ายว่าหัวกำลังจะทิ่มลงพื้น พอเดินด้วยกันเยอะ ๆ เป็นฝูงจะดูน่ารักน่าเอ็นดู
สามารถไปชมขบวนพาเหรดเพนกวินน้อยได้ 2 แห่งหลัก ๆ คือ St Kilda Beach และ Phillip Island โดยที่ St Kilda Beach นั้นชมฟรี นักท่องเที่ยวไปนั่งรอชมได้บริเวณท่าเรือ จะมีทางเดินและที่นั่งให้นั่งชม ส่วน Phillip Island จะอยู่ห่างจากเมืองเมลเบิร์นไปราว ๆ 140 กิโลเมตร หากมีเวลาน้อยแนะนำให้เช่ารถไป หรือไปเที่ยวแบบวันเดย์ทริปกับบริษัททัวร์ ซึ่งที่ Phillip Island จะมีจำนวนเพนกวินน้อยหน่อย เพราะอยู่ในเขตอนุรักษ์ ช่วงเย็น ๆ จะเดินเรียงกันออกมาจากกล่องที่เจ้าหน้าที่ทำไว้ให้เป็นขบวนพาเหรดไปตามชายหาด ซึ่งจะมีการจัดที่นั่งไว้ให้ทั้งแบบอัฒจันทร์กลางแจ้งและห้องกระจกใต้ดิน ทั้ง St Kilda Beach และ Phillip Island จะต้องไปชมในช่วงเย็น
14. สวมบทบาทเป็นคนขุดทอง พร้อมชมวิถีชีวิตชาวเหมืองแร่ทองคำ ณ Sovereign Hill
Sovereign Hill เป็นแหล่งท่องเที่ยวในเขตโกลเดนพอยต์ (Golden Point) เมืองบาลเลแรท (Ballarat) ห่างจากเมืองเมลเบิร์นเพียงแค่ราว ๆ 115 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ที่นี่เคยเป็นเหมืองทองเก่าแก่มาก่อน มีการขุดค้นพบทองครั้งแรกในช่วงปี 1851 หลังจากนั้นผู้คนก็พากันอพยพเข้ามายังพื้นที่แห่งนี้ กลายเป็นชุมชนเหมืองทองคำที่รุ่งเรืองที่สุดแห่งหนึ่งของออสเตรเลียในช่วงศตวรรษที่ 19 ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง จัดแสดงให้เห็นสภาพของเหมืองทองคำในยุคนั้น พร้อมข้าวของเครื่องใช้และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการขุดทอง นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ลองลงมือขุดทองกันด้วยตัวเอง มีกิจกรรมให้ร่วมสนุกมากมาย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ sovereignhill.com.au
เห็นแต่ละกิจกรรมของเมืองเมลเบิร์นแล้ว ก็ต้องบอกว่าครบครันและน่าไปลองเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ กันสักครั้ง ซึ่งกิจกรรมที่นำมาให้ชมนั้นก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นด้วยนะ ยังเหลือสิ่งที่น่าสนใจอีกเพียบ เอาไว้เราจะมาอัปเดตให้เรื่อย ๆ แต่หากมีความสนใจอยากไปเมลเบิร์นขึ้นมาแล้ว ก็อยากจะชี้ทางไปจองตั๋วเครื่องบินไปเมลเบิร์นในราคาย่อมเยา กับสายการบินสกู๊ต (Scoot) ที่ตอนนี้มีเส้นทางบินจากเมืองไทยมากถึง 5 เส้นทาง ได้แก่
- เส้นทางบินจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) – เมลเบิร์น
- เส้นทางบินจากหาดใหญ่ – เมลเบิร์น
- เส้นทางบินจากภูเก็ต – เมลเบิร์น
- เส้นทางบินจากเชียงใหม่ – เมลเบิร์น
- เส้นทางบินจากกระบี่ - เมลเบิร์น
เพิ่มความสะดวกสบายขึ้นอีกนิดด้วยการจองที่นั่งแบบ ScootPlus ที่จะได้รับความคุ้มค่าในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิพิเศษในการเช็กอินและขึ้นเครื่องก่อน ได้อัปเกรดน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มขึ้นมาเป็น 30 กิโลกรัม และยังนำขึ้นเครื่องได้อีก 2 ชิ้น น้ำหนักรวมสูงสุดมากถึง 15 กิโลกรัม มีที่นั่งเบาะหนังและที่วางขากว้างสะดวกสบาย พร้อมด้วยปลั๊กไฟให้ชาร์จอุปกรณ์ และมี Wi-Fi ให้ 30MB อีกทั้งยังสามารถเลือกอาหารและเครื่องดื่มได้ พร้อมมีเครื่องดื่มอร่อย ๆ เสิร์ฟให้ตลอดไฟลต์
พิเศษสุด ๆ กับรหัสโปรโมชั่น SCOOT15 จองตั๋วเครื่องบินกับสายการบินสกู๊ตรับส่วนลดได้เลย ตั้งแต่วันนี้ - 25 มีนาคม 2563 โดยตั้งแต่วันนี้ - 15 มีนาคม 2563 จะได้ส่วนลดมากถึง 15% และในวันที่ 16-25 มีนาคม 2563 จะได้ส่วนลด 10% สามารถเดินทางได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 ตุลาคม 2563 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.flyscoot.com
รู้อย่างนี้แล้ว ได้เวลาจองตั๋วล่วงหน้าและเตรียมตัวให้พร้อมไปเที่ยวรับความสุขสนุกสนานจากอีกฟากโลกที่ "เบลเบิร์น" กัน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
flyscoot.com, melbourne.vic.gov.au, visitmelbourne.com, yarratrams.com.au, eurekaskydeck.com, qvm.com, Queen Victoria Market, melbournestar.com, visitgreatoceanroad.org, visityarravalley.com, visitphillipisland.com และ sovereignhill.com.au