15 ที่เที่ยวเดือนพฤศจิกายน 2567 สัมผัสบรรยากาศฤดูหนาว กับที่เที่ยวสุดชิลทั่วไทย

           เดือนพฤศจิกายน เที่ยวไหนดี ? ไปสัมผัสอากาศเย็นสบายกับธรรมชาติที่สวยงามและวัฒนธรรมที่หลากหลาย อย่ารอช้า รีบเตรียมกระเป๋าและออกไปผจญภัยกันเถอะ !
           เดือนพฤศจิกายน ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวหน้าหนาวในประเทศไทยและต่างประเทศ เมื่ออากาศเริ่มเย็นลง ท้องฟ้าปลอดโปร่ง และธรรมชาติเขียวชอุ่ม ทำให้หลายสถานที่กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการพักผ่อน ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นภูเขาเพื่อสัมผัสอากาศหนาว ชมดอกไม้บานสะพรั่ง สัมผัสทะเลหมอก หรือลงใต้ไปแหวกว่ายสายน้ำใสในฝั่งทะเลอันดามัน ถ้าใครมีคำถาม หนาวนี้เที่ยวไหนดี ? เรามีที่เที่ยวเดือนพฤศจิกายน 2567 ดี ๆ มาฝากให้คุณได้วางแผนทริปและเตรียมพร้อมรับความประทับใจในฤดูหนาวนี้อย่างเต็มที่

ที่เที่ยวเดือนพฤศจิกายน 2567
หนาวนี้ เที่ยวไหนดี ?

1. งานพลุพัทยา จังหวัดชลบุรี

          เทศกาลงานพลุพัทยา 2567 หรือ งานพลุนานาชาติ ปี 2567 เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่โดดเด่นที่สุดของเมืองพัทยา จัดขึ้นทุกปีเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ไฮไลต์ของงานคือการแสดงพลุสุดอลังการจากหลายประเทศทั่วโลกที่มาร่วมโชว์ความสวยงามเหนือท้องฟ้าของชายหาดพัทยา นอกจากการแสดงพลุแล้ว งานนี้ยังมีกิจกรรมบันเทิงมากมาย เช่น การแสดงดนตรีสด การแสดงศิลปวัฒนธรรม และการแสดงแสง สี เสียง ที่สร้างบรรยากาศตระการตา เทศกาลนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความทันสมัยของพัทยา แต่ยังส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในท้องถิ่นอีกด้วย 

          โดยในปี 2567 ข้อมูลจากเฟซบุ๊ก PRPATTAYA ได้แจ้งกำหนดการงานพลุพัทยา 2567 ในวันที่ 29-30 พฤศจิกายน ณ ชายหาดพัทยากลาง จังหวัดชลบุรี ภายในงานพลุพัทยา นักท่องเที่ยวจะได้พบกับไฮไลต์ต่าง ๆ เช่น ชมการแสดงพลุจากหลากหลายประเทศที่จะมาประชันความสวยงามตระการตาบนท้องฟ้าพัทยา สัมผัสบรรยากาศสุดโรแมนติกริมชายหาดพัทยากลาง พร้อมชมวิวพลุที่สวยงาม และยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกมากมาย ทั้งการแสดงดนตรี การออกร้าน และโซนถ่ายรูปสุดชิค
งานพลุพัทยา จังหวัดชลบุรี

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก PRPATTAYA

2. เกาะกูด จังหวัดตราด

           เกาะกูด เป็นเกาะที่อยู่สุดท้ายทางทิศตะวันออกในไทยแห่งน่านน้ำทะเลตราด และใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเกาะช้าง หรือเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของไทย เสน่ห์ของเกาะกูดนั้นอยู่ที่หาดทรายสีขาวสะอาด และน้ำทะเลใส ๆ สีมรกต จนได้รับฉายาว่า อันดามันแห่งทะเลตะวันออก และ มัลดีฟส์เมืองไทย อีกทั้งสภาพของธรรมชาติโดยรอบบนเกาะกูดนั้นสมบูรณ์มาก มีทั้งภูเขาและที่ราบสันเขา ต้นกำเนิดสายน้ำ ลำธาร และยังมีน้ำตกหลายแห่งด้วย แถมบนเกาะยังมีที่พักหลากหลายสไตล์และมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ได้ทำ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอย่างมาก สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไปเที่ยวเกาะกูด คือ ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม เพราะเป็นช่วงปลอดมรสุม และเป็นช่วงหน้าร้อนที่น้ำใส ทรายขาวสวยมากที่สุดด้วย
เกาะกูด จังหวัดตราด

3.ทุ่งทานตะวัน จังหวัดลพบุรี

           เมื่อถึงช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน เจ้าดอกทานตะวันนับแสนต้นก็พร้อมใจกันเชิดหน้าชูคอท้าพระอาทิตย์ เหลืองอร่ามไปทั่วจังหวัดลพบุรี ที่นี่มีการจัดเทศกาลชมทุ่งทานตะวันสวย ๆ ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมของทุกปี รอให้นักท่องเที่ยวทั้งหลายไปเยี่ยมชมถ่ายรูปเช็กอินกันหลายแห่ง โดยจะมีไฮไลต์อยู่ 2 จุดหลัก ๆ คือ ทุ่งทานตะวัน เขาจีนแล ที่ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมทุ่งทานตะวันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีพื้นที่กว่า 1,400 ไร่ เต็มไปด้วยดอกทานตะวันบานสะพรั่งกลางหุบเขา มีแบ็กกราวนด์เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีขาวอยู่ไกลลิบ ๆ ประดิษฐานอยู่บนเขา ซึ่งเป็นพระพุทธรูปของวัดเวฬุวัน คนที่มาเที่ยว ณ จุดนี้ จึงมีโอกาสขึ้นไปกราบนมัสการด้วย และอีกจุดหนึ่งคือ ทุ่งทานทะวัน บ้านหัวดง ชมวิวทุ่งดอกทานตะวันท่ามกลางทุ่งนา ทุ่งข้าวโพด และภูเขาเตี้ย ๆ มีกระท่อมปลายนาเป็นฉากหลัง หวนให้นึกถึงบรรยากาศแบบลูกทุ่ง แต่แฝงไปด้วยความร่วมสมัย ทั้งนี้ ช่วงเวลาแนะนำสำหรับการไปดูดอกทานตะวันคือช่วงเช้าตรู่ไปจนถึง 10 โมงเช้า เพราะแดดจะไม่ร้อนจนเกินไปนัก
ทุ่งทานตะวัน เขาจีนแล จังหวัดลพบุรี

4. เทศกาลลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย

            ประเพณีเก่าแก่ยาวนานของจังหวัดสุโขทัย จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-17 พฤศจิกายน 2567 บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย เอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่หลายคนอยากมาชมความวิจิตรตระการตาที่สะท้อนความประณีตของช่างศิลป์เมืองสุโขทัย คือ กระทงทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ มีลักษณะเป็นยอดดอกบัวตูม ประดิษฐ์ตามแบบเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ สถาปัตยกรรมเก่าแก่ต้นแบบสุโขทัย นอกจากนี้ภายในงานยังคึกคักด้วยบรรยากาศตลาดโบราณ ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงกลิ่นอายวัฒนธรรมด้วยการแลกหอยเบี้ยแทนเงินสด เพื่อใช้ซื้ออาหารคาว-หวานพื้นเมือง มีกิจกรรมขบวนแห่นางนพมาศ ประกวดกระทงเล็ก-กระทงใหญ่ และไฮไลต์สำคัญอยู่ที่การแสดงแสง สี เสียง Sukhothai Light & Sound 2024 สุดอลังการ ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสเรื่องราวประวัติศาสตร์มนตร์เสน่ห์แห่งอารยธรรมเมืองมรดกโลก
เทศกาลลอยกระทง เผาเทียนเล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

5. Flora Park & Rose Park จังหวัดนครราชสีมา

             มหกรรมงานดอกไม้ประดับนับล้าน ๆ ดอก ฟลอร่า พาร์ค และ โรส พาร์ค (Flora Park & Rose Park) พร้อมเปิดสวนให้เข้าชมแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 - 28 กุมภาพันธ์ 2568  ภายใต้ธีม “Blooming Flower Land” กุหลาบกว่า 10,000 ต้น มากสายพันธุ์ หลากหลายสีสัน เบ่งบานคู่มิติดอกไม้ ด้านในมีการปรับสวนโฉมใหม่ มีมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ ให้แอ็คได้หลายท่า หลายมุม บรรยากาศโรแมนติกเหมือนอยู่ในเทพนิยายจริง ๆ แวะซื้อของกินของใช้ที่ตลาดนัดสุดสัปดาห์ สนุกสนานในโซนเด็กเล่น และช้อปปิ้งสินค้าออร์แกนิกจากดอกกุหลาบ ที่สำคัญพลาดไม่ได้กับไฮไลต์พิเศษอย่าง Flower Maze วงกตดอกไม้ที่เดียวในประเทศไทย และ Immersive Experience ห้องฉายหนัง รวมถึงโซนอาหาร คาเฟ่ และโซนถ่ายรูปสุดปัง งานนี้คนรักกุหลาบพลาดไม่ได้ !
Flora Park & Rose Park จังหวัดนครราชสีมา

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก ศูนย์เรียนรู้ฯฟลอร่า พาร์ค

6. ภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย

            ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม เป็นจุดชมทิวทัศน์บนเนินเขาเล็ก ๆ ที่สามารถมองเห็นบ้านเรือนในพื้นที่อำเภอสังคมและเกาะแก่งกลางแม่น้ำโขง ทั้งยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามของจังหวัดหนองคาย และเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่น่าสนใจ เพราะได้ชมทั้งทะเลหมอกและวิวสวย ๆ ของเทือกเขาน้อยใหญ่สลับกับแม่น้ำโขงซึ่งหาได้ไม่มากในประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวมีโอกาสจะได้เห็นทะเลหมอกลอยปกคลุมเหนือแม่น้ำโขง การชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกบนภูห้วยอีสัน สามารถขึ้นไปชมได้เฉพาะช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤษภาคมของทุกปี โดยการขึ้นภูห้วยอีสันไม่สามารถนำรถยนต์ส่วนตัวขึ้นไปได้ ต้องใช้บริการรถอีแต๊กของชาวบ้านขึ้นไป นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมขึ้นภูห้วยอีสันกันตั้งแต่เช้ามืด เพื่อให้ทันชมแสงแรกของวันบนยอดภูนั่นเอง
ภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย

7. วัดศรีบึงบูรพ์ จังหวัดศรีสะเกษ

            ตั้งอยู่ริมลำห้วยทับทัน ตำบลบึงบูรพ์ เป็นสถานที่บำเพ็ญเพียรภาวนาของพระอาจารย์ศรี จันทสาโร พระสงฆ์ที่มีประชาชนศรัทธาเลื่อมใส ซึ่งท่านมีดำริที่จะสร้างวัดศรีบึงบูรพ์ให้เป็นพุทธสถานมรดกอีสานใต้ เป็นวัดสวยที่มีบรรยากาศและสิ่งก่อสร้างที่สวยงามอย่างมาก โดยเฉพาะพระอุโบสถมีลักษณะสูงโปร่ง สีทองอร่าม หน้าบันเป็นรูปพระศิวะ และรูปปั้นพญานาคทั้ง 2 ฝั่งของประตู เป็นศิลปะสมัยอยุธยาผสมรัตนโกสินทร์ มีเสาทั้งหมด 32 ต้น มีประตู 5 บาน ทำจากไม้สักแกะสลักเป็นลวดลายปริศนาธรรม ภายในพระอุโบสถยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลอง และมีจิตรกรรมฝาผนังที่ปรากฏเรื่องราวในนิทานชาดกและพุทธประวัติ นอกจากนี้ภายในวัดยังเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธชินราชจำลององค์ที่ 2 ของประเทศไทย และมีศาลเจ้าพ่ออุปราช เทวดาตามความเชื่อของชาวบึงบูรพ์ วัดแห่งนี้จึงเป็นวัดสวยแห่งอีสานใต้ที่น่าไปสักการะกราบไหว้อย่างมากเลยทีเดียว
วัดศรีบึงบูรพ์ จังหวัดศรีสะเกษ

8. เขาสันหนอกวัว จังหวัดกาญจนบุรี

           เขาสันหนอกวัว เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี มีระดับความสูงที่ 1,767 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ตั้งอยู่ทางเหนือของที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อำเภอสังขละบุรี ในแนวเทือกเขาเขียว ที่เป็นป่าฝั่งตะวันตกของพื้นที่อุทยาน มีส่วนที่ติดต่อกับพื้นที่ป่าในเขตทุ่งใหญ่นเรศวร จึงมีความเป็นธรรมชาติค่อนข้างสมบูรณ์ สภาพป่ามีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น และยังคงมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่ คำว่า สันหนอกวัว มาจากลักษณะของยอดเขาที่นูนออกมา รูปร่างคล้ายกับส่วนที่เป็นสันนูนบนหลังของวัว ที่เรียกว่า โหนก หรือหนอก วิวบนยอดเขาเป็นภูเขาหญ้า คล้ายเขาช้างเผือก มีลักษณะเปิดโล่ง ไม่มีต้นไม้ใหญ่บดบังทัศนียภาพ จึงสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามได้สุดลูกหูลูกตา เห็นทะเลสาบจากเขื่อนวชิราลงกรณ และภูเขาสลับซับซ้อนเบื้องล่าง
เขาสันหนอกวัว จังหวัดกาญจนบุรี

9. งานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1000 ดวง จังหวัดตาก

           ประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1000 ดวง เป็นประเพณีที่มีความสำคัญของจังหวัดตาก และมีเอกลักษณ์โดดเด่นกว่าประเพณีลอยกระทงทั่วไป ประเพณีนี้เป็นการลอยกระทงที่ทำจากกะลามะพร้าว และประดับด้วยเทียน เพื่อสร้างภาพการไหลของแสงสว่างเป็นสายยาวกลางแม่น้ำปิง จัดขึ้นทุกปีในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสอง เพื่อบูชาและแสดงความกตัญญูต่อพระแม่คงคา รวมถึงการขอขมาและอธิษฐานเพื่อความเป็นสิริมงคล สะท้อนถึงวิถีชีวิต ความเชื่อ และศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ได้รับการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ โดยในปี 2567 จะจัดงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1000 ดวง หรือ ลอยกระทงสาย 2567 ระหว่างวันที่ 15-18 พฤศจิกายน ณ ริมสายธารลานกระทงสาย เชิงสะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก
กำหนดการจัดงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1000 ดวง หรือ ลอยกระทงสาย 2567

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Tak's Loi Krathong Sai Festival

ลอยกระทงสาย 2567 สืบสานประเพณีเอกลักษณ์ของชาวเมืองตาก

10. ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

           เดือนพฤศจิกายน ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการไปชมความงามของทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ เพราะดอกบัวตองจะบานเต็มรูปแบบ เหลืองทองสะพรั่งไปทั่วทั้งดอย จนเหมือนกับเป็นพรมสีทองปูเต็มพื้นที่ดอยกันเลยทีเดียว ซึ่งปัจจุบันนี้การเดินทางไปเที่ยวแม่ฮ่องสอนก็สะดวกสบายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนั่งเครื่องบินแค่ไม่นานก็ถึงแม่ฮ่องสอนหรือเชียงใหม่ จากนั้นนั่งรถทัวร์และรถยนต์ส่วนตัวที่ฟันฝ่ากว่า 1,864 โค้ง ก็จะถึงดอยแม่อูคอ ซึ่งเป็นดอยที่มีความสูง 1,600 เมตร จากระดับน้ำทะเล โดยสามารถมองเห็นดอกบัวตองได้ตั้งแต่ทางขึ้นไปจนถึงจุดชมวิวทุ่งดอกบัวตอง ซึ่งอยู่บนสุดของยอดดอยเลย สำหรับใครที่จะมาชมดอกบัวตองนั้น แนะนำว่าต้องเตรียมการล่วงหน้ากันหน่อย เพราะระยะเวลาในการบานของดอกบัวตองมีค่อนข้างจำกัดอยู่เพียงไม่กี่อาทิตย์เท่านั้น ดังนั้น ควรวางแผนและเช็กอัปเดตการบานของดอกบัวตองให้ดี ๆ ก่อนเดินทางด้วยนะ
ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

11. น้ำตกห้วยแก้ว จังหวัดเชียงราย

           ตั้งอยู่ภายในเขต อุทยานแห่งชาติลำน้ำกก บริเวณบ้านโป่งน้ำร้อน ตำบลดอยฮาง อำเภอเมืองเชียงราย เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ 3 ชั้น แต่ละชั้นมีลักษณะที่โดดเด่นและสวยงามแตกต่างกันไป โดยชั้นที่ 1 จะมีสายน้ำไหลจากหน้าผาสูง 30 เมตร ลงมายังแอ่งน้ำเบื้องล่าง สามารถลงเล่นน้ำได้ เมื่อเดินจากชั้นที่ 1 ไปประมาณ 200 เมตร ก็จะถึงชั้นที่ 2 ที่มีสายน้ำไหลลงมาจากผาสูง 40 เมตร เป็นทั้งจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม และจุดเล่นน้ำเย็น ๆ ได้ ส่วนชั้นที่ 3 ผาน้ำตกสูงเพียง 10 เมตร ซึ่งส่วนใหญ่ผู้คนจะเดินทางขึ้นมาถึงแค่ชั้นที่ 2 เท่านั้น น้ำตกแห่งนี้สามารถเข้าชมได้ตลอดทั้งปี เพราะมีน้ำใสไหลเย็น บรรยากาศแวดล้อมไปด้วยผืนป่าร่มรื่นและเขียวขจี และยังอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงรายเพียง 25 กิโลเมตร เหมาะกับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวน้ำตกสวย ๆ นอกเมือง
น้ำตกห้วยแก้ว จังหวัดเชียงราย

12. ม่อนบาหลู่โข่ จังหวัดเชียงใหม่

           ลานกางเต็นท์วิวทะเลหมอกสุดอลังการบนยอดเขาของบ้านห้วยวอก ตำบลบ้านทับ อำเภอแม่แจ่ม อยู่เลยม่อนหมื่นหมากขึ้นไป ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงจากตัวอำเภอแม่แจ่ม บนดอยมีลานกางเต็นท์ทั้งหมด 3 ลาน มีห้องน้ำ ร้านค้าขายอาหาร มีสัญญาณโทรศัพท์ แต่ไม่มีไฟฟ้า ใครที่อยากมาสัมผัสอากาศเย็น ๆ กลางคืนมองเห็นดาวเต็มท้องฟ้า ไร้แสงไฟรบกวน และชมทะเลหมอกหนา ๆ ต้องลองมาที่นี่เลย บอกก่อนว่าทะเลหมอกหนา ๆ จะมีให้ชมเพียง 2-3 เดือน คือตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงธันวาคมเท่านั้น
ม่อนบาหลู่โข่ จังหวัดเชียงใหม่

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Manus Tagsri

13. ถ้ำเขาจูบกัน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

           ชวนไปนั่งเรือชมธรรมชาติ ทุ่งดอกบัวหลวง ชมแสงอาทิตย์ยามเย็นลอดผ่านช่องเขาขนาดเล็กที่มีหินเป็นลักษณะเงามืดคล้ายคนกำลังจูบกัน สร้างความโรแมนติกและความสวยงามของวิวทิวทัศน์ โดยถ้ำเขาจูบกันนี้ตั้งอยู่บริเวณบ้านเกาะไผ่-เกาะมอญ หมู่ 5 ตำบลไร่ใหม่ อำเภอสามร้อยยอด ในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด โดยมีค่าบริการเรือลำละ 600 บาท ต่อ 4 คน ใช้เวลาไป-กลับ 2 ชั่วโมง ให้บริการตั้งแต่เวลา 07.00-18.30 น. ทั้งนี้ มีข้อควรปฏิบัติคือ นักท่องเที่ยวต้องสวมเสื้อชูชีพตลอดเวลาทุกครั้งเมื่อเรือเคลื่อนที่ ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ ข้อปฏิบัติ และข้อกฎหมายตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และห้ามให้อาหารสัตว์ หรือนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติโดยเด็ดขาด รวมถึงไม่ให้มีการทำลายสิ่งแวดล้อมทั้งภายในพื้นที่ชุ่มน้ำและนอกพื้นที่ชุ่มน้ำเด็ดขาด
ถ้ำเขาจูบกัน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด - Khao Sam Roi Yot National Park

14. เที่ยวทะเลอันดามัน จังหวัดพังงา

           งานนี้คนรักทะเลต้องเลิฟ เพราะถึงช่วงเวลาของฤดูกาลท่องเที่ยว 3 อุทยานแห่งชาติในทะเลอันดามัน ได้แก่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ และอุทยานแห่งชาติแหลมสน หลังจากปิดเพื่อฟื้นฟูธรรมชาตินานกว่า 6 เดือน โดยจะเปิดบริการนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2567 - 15 พฤษภาคม 2568
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา
          บริเวณหมู่เกาะสิมิลัน (เกาะแปด) และเกาะเมียง (เกาะสี่) ขึ้นชื่อในเรื่องน้ำทะเลสีคราม หาดทรายขาวนวล และหินขนาดใหญ่รูปร่างแปลกตา โดยเฉพาะ หินเรือใบ สัญลักษณ์ของเกาะสิมิลัน รวมถึงแหล่งดำน้ำระดับโลกที่มีปะการังอ่อนและปะการังแข็งหลากสีสัน
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา
           บริเวณอ่าวช่องขาด, อ่าวไม้งาม, อ่าวแม่ยาย, เกาะสต๊อค, อ่าวจาก, อ่าวผักกาด, เกาะตอรินลา, เกาะมังกร, กองหินริเซริล, อ่าวบอน, อ่าวสับปะรด ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล แนวปะการังที่สวยงาม และโอกาสในการพบเห็นฉลามวาฬ นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านชาวเลมอแกนให้เยี่ยมชมวิถีชีวิตดั้งเดิม สำหรับบริเวณอ่าวสุเทพทั้งหมด และอ่าวเต่าบางส่วน ยังคงปิดการท่องเที่ยวเป็นการชั่วคราว เนื่องจากพบสถานการณ์การฟอกขาวของปะการัง
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา

อุทยานแห่งชาติแหลมสน จังหวัดระนองและพังงา
           บริเวณเกาะกำตก เกาะญี่ปุ่น และเกาะค้างคาว ที่โดดเด่นด้วยหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใสสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ และแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะสำหรับการดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก
เกาะกำตก อุทยานแห่งชาติแหลมสน จังหวัดระนองและพังงา

15. ถ้ำภูผาเพชร จังหวัดสตูล

          ตั้งอยู่ที่บ้านป่าพน ตำบลปาล์มพัฒนา อำเภอมะนัง เป็นหนึ่งในพื้นที่ของอุทยานธรณีสตูล เนื่องจากบางจุดของผนังถ้ำพบซากดึกดำบรรพ์ของหมึกทะเลโบราณ (นอติลอยด์) มีอายุอยู่ในช่วงออร์โดวิเชียน หรือประมาณ 450 ล้านปีมาแล้ว ถ้ำแห่งนี้เป็นถ้ำขนาดใหญ่ติดอันดับ 4  ของโลก มีเนื้อที่ภายในถ้ำกว่า 50 ไร่ ภายในถ้ำจัดสรรแบ่งออกเป็นหลายห้อง มีชื่อเรียกแตกต่างกันโดยตั้งชื่อแต่ละห้องตามธรณีสัณฐานที่พบเห็น เช่น ห้องม่านเพชร มีลักษณะคล้ายผ้าม่านแขวนเป็นหลืบซ้อนกัน, ห้องพญานาค มีหินงอกต่อตัวกันคล้ายงูใหญ่หรือพญานาค ภายในถ้ำมีหินงอก-หินย้อย เมื่อกระทบกับแสงไฟผนังถ้ำจะมีประกายแวววาวเหมือนเพชร จึงเป็นที่มาของชื่อถ้ำเพชร ภายหลังจึงเปลี่ยนชื่อเต็มอย่างเป็นทางการว่า ถ้ำภูผาเพชร

          ไฮไลต์ของถ้ำภูผาเพชร คือ ลานแสงมรกต เป็นลานกว้าง บนเพดานถ้ำมีลักษณะเป็นช่องที่มีแสงส่องผ่านลงมากระทบกับหิน เกิดเป็นแสงสีเขียวมรกต สามารถมองเห็นความสวยงามของหินงอก-หินย้อย จึงทำให้ลานห้องแห่งนี้กลายเป็นสีเขียวมรกตสวยงามแปลกตา

ถ้ำภูผาเพชร จังหวัดสตูล

          เดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ซี่งมีอากาศเย็นสบายและธรรมชาติที่สวยงาม โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายให้เลือก หรือจะลงใต้ไปทางฝั่งทะเลอันดามันก็จะพบกับความสวยงามของโลกใต้ทะเลที่พ้นช่วงมรสุมไปแล้ว การเดินทางในเดือนนี้ไม่เพียงแค่ช่วยให้คุณได้สัมผัสกับอากาศที่ดี แต่ยังเป็นโอกาสในการสร้างความทรงจำใหม่ ๆ และสัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายด้วย
 

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

บทความ เที่ยวหน้าหนาว อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : เฟซบุ๊ก PRPATTAYA, เฟซบุ๊ก สายตรงนายกเมืองพัทยา, เฟซบุ๊ก ททท. ตราด, เฟซบุ๊ก ททท. สำนักงานลพบุรี : TAT Lopburi Office, เฟซบุ๊ก อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย, เฟซบุ๊ก ททท.สำนักงานสุโขทัย : TAT Sukhothai Office, เฟซบุ๊ก ศูนย์เรียนรู้ฯฟลอร่า พาร์ค, เฟซบุ๊ก ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวจังหวัดหนองคาย, เฟซบุ๊ก วัดศรีบึงบูรพ์, เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติเขาแหลม - Khao Laem National Park, เฟซบุ๊ก Tak's Loi Krathong Sai Festival, เฟซบุ๊ก ททท.สำนักงานตาก : TAT Tak Office, เฟซบุ๊ก พช.ขุนยวม แม่ฮ่องสอน, เฟซบุ๊ก ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน TAT. Maehongson, เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติลำน้ำกก Lam nam kok National Park, เฟซบุ๊ก บ่าหลู่โข่, เฟซบุ๊ก ม่อนบาหลู่โข่, เฟซบุ๊ก Manus Tagsri, เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด - Khao Sam Roi Yot National Park, เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน - Mu Ko Similan National park, เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ - Mu Ko Surin National Park, เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติแหลมสน - Laem Son National Park, เฟซบุ๊ก ททท.สำนักงานสตูล : TAT Satun Office, ชุมชนการท่องเที่ยวภูผาเพชร
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
15 ที่เที่ยวเดือนพฤศจิกายน 2567 สัมผัสบรรยากาศฤดูหนาว กับที่เที่ยวสุดชิลทั่วไทย อัปเดตล่าสุด 22 ตุลาคม 2567 เวลา 11:50:48 10,867 อ่าน
TOP
x close