ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว 2567 ชวนไปสัมผัสกับที่เที่ยวในช่วงรอยต่อของฤดูกาล พร้อมกับชมธรรมชาติที่สวยงาม
ช่วงรอยต่อระหว่างฤดูฝนกับฤดูหนาว หรือที่เรียกกันว่าปลายฝนต้นหนาว คือประมาณปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงที่อากาศกำลังดี ไม่ร้อนและไม่หนาวจนเกินไป จึงเป็นอีกหนึ่งเวลาที่เหมาะจะออกไปท่องเที่ยวให้ธรรมชาติบำบัดหรือเรียนรู้วิถีชีวิตผู้คนต่างถิ่น วันนี้เราเลยหยิบเอา ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว 2567 มาแนะนำ เผื่อปักหมุดและตามไปเที่ยวกัน
ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว 2567
1. บ้านคลองตาเพิ่ม จังหวัดสมุทรปราการ
ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวใกล้กรุงเทพฯ กับ บ้านคลองตาเพิ่ม ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่รายล้อมด้วยท้องฟ้า สายน้ำ และป่าชายเลน เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่จะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตดั้งเดิมอันเรียบง่ายของชาวบ้านในพื้นที่ พร้อมทั้งสนุกสนานกับกิจกรรมหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการล่องเรือชมวิวธรรมชาติ ไหว้พระ ชิมอาหารทะเลสด ๆ หรือนอนชิลโฮมสเตย์บรรยากาศดี
2. ชุมชนย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี
แนะนำที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวไม่ไกลกรุงเทพฯ ไปสัมผัสกับวิถีชีวิตที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ณ 3 ชุมชนเก่าแก่ริมแม่น้ำเพชรบุรี ได้แก่ ชุมชนคลองกระแชง ย่านที่ผสมผสานอดีตและยุคสมัยใหม่เข้าด้วยกัน, ชุมชนตลาดริมน้ำ (ชุมชนซอยตลาดริมน้ำเพชรบุรี) เรือนแถวแบบเก่าที่มีร้านจำหน่ายสินค้ามากมาย รวมถึงมีภาพ Street Art ฝีมือศิลปินชาวเพชรบุรีให้ถ่ายรูปเช็กอิน และ ชุมชนวัดเกาะ ที่เรื่องราวทั้งวัฒนธรรมไทย-จีนถูกถ่ายทอดผ่านวัด ศาลเจ้า โรงเจ รวมไปถึงบ้านเรือนเก่าที่ยังปรากฏให้เห็นอยู่บ้าง
3. สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
อำเภอที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของธรรมชาติ รวมไปถึงความเข้มแข็งทางวัฒนธรรมที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสเสมอ สำหรับ สังขละบุรี โดยมีไฮไลต์อย่าง สะพานมอญ หรือสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ใช้เป็นสะพานข้ามแม่น้ำซองกาเลีย เพื่อใช้เดินทางไปมาหาสู่ระหว่างชาวไทยและชาวมอญมาเป็นเวลานาน นอกจากนี้ยังมีแพร้านอาหารและที่พักกระจายอยู่ใกล้ ๆ สะพานด้วย รวมถึงยังนิยมนั่งเรือไปชมความสวยงามของ เมืองบาดาล (วัดใต้น้ำ) หรือวัดวังก์วิเวการาม (เก่า) ที่จมอยู่ใต้น้ำหลังจากมีการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ
4. อำเภอเมืองตราด
พาเที่ยวตราดไม่ข้ามเกาะ กับการไปเยือนอำเภอเมืองตราด เมืองท่าชายทะเลที่มีเรื่องราวและสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลากหลายให้เรียนรู้หรือพักผ่อนชิล ๆ ไม่ว่าจะเป็นสักการะขอพรศาลเจ้าพ่อหลักเมืองตราด, ย้อนรอยชมอดีต ณ พิพิธภัณฑสถานเมืองตราด, เดินเที่ยวย่านคลองบางพระ หรือชุมชนรักษ์คลองบางพระ ย่านริมคลองที่ในอดีตเคยเป็นชุมชนการค้าเก่าแก่ ดื่มด่ำกับบรรยากาศของวันวาน และบ้านท่าระแนะ แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และเชิงนิเวศ ชมความงามของลานตะบูนสุดอันซีน เป็นต้น
5. อุทยานแห่งชาติตาพระยา จังหวัดสระแก้ว / จังหวัดบุรีรัมย์
อุทยานแห่งชาติตาพระยา อุทยานแห่งชาติลำดับที่ 82 ของประเทศไทย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของที่ราบสูงโคราช ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดสระแก้วและบุรีรัมย์ เป็นส่วนหนึ่งในเทือกเขาพนมดงรัก มียอดเขาสูงสุดคือ เขาพรานนุช ความสูง 579 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น จุดชมวิวบนเทือกเขาพนมดงรัก, จุดชมวิวผาแดง, เส้นทางศึกษาธรรมชาติโตนเลสาบ, เขายักษ์, รอยจารึกพระบรมราชโองการ ศาลรัชกาลที่ 5 และละลุ ประติมากรรมเสาดินธรรมชาติยิ่งใหญ่ เป็นต้น รวมถึงมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติสำหรับผู้ที่ชอบดูนก ดูผีเสื้อ ศึกษาพรรณไม้และสัตว์ป่า
6. ผาโสก จังหวัดอุบลราชธานี
ชวนไปเยือน ผาโสก จากุซซี่ธรรมชาติริมหน้าผา ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม มีลักษณะเป็นลานหินทรายที่ถูกกัดกร่อนจนกลายเป็นร่องและแอ่งน้ำลึก ที่นี่คือจุดชมทิวทัศน์ที่มองเห็นวิวของแม่น้ำโขงและภูเขาสลับซับซ้อนทอดยาว บอกเลยว่าภาพตรงหน้างดงามเกินบรรยาย โดยสามารถไปเที่ยวได้ทั้งแบบวันเดียวและค้างคืน ด้านบนมีจุดกางเต็นท์และห้องน้ำ แต่ยังไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ
7. ถ้ำผาเจาะ จังหวัดหนองบัวลำภู
ที่เที่ยวหนองบัวลำภูสุด Unseen เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่สามารถมองทิวทัศน์ได้แบบ 360 องศา สำหรับ ถ้ำผาเจาะ ตั้งอยู่ที่บ้านผาเจาะ อำเภอนาวัง ถ้ำในภูเขาหินแกรนิต มีเอกลักษณ์โดดเด่นลักษณะเหมือนถูกเจาะหน้าผา แต่จริง ๆ แล้วเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยทางขึ้นถ้ำจะอยู่ในพื้นที่ของวัดพุทธบรรพต ลักษณะเป็นทางเดินบันไดคอนกรีตต่อด้วยบันไดเหล็กรวมกว่า 500 ขั้น เตรียมฟิตร่างกายกันมาดี ๆ ด้านบนสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์กว้างไกล รวมถึงประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ส่วนภายในถ้ำมีความสวยงามวิจิตรตามธรรมชาติ
8. อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น / จังหวัดเลย
อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน อุทยานแห่งชาติลำดับที่ 72 ของประเทศ ครอบคลุมอาณาบริเวณในอำเภอภูผาม่าน อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น และอำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นพื้นที่แหล่งต้นน้ำลำธารและมีจุดเด่นทางธรรมชาติหลายแห่ง โดยเฉพาะถ้ำและน้ำตก มีสถานที่ท่องเที่ยวเด่น ๆ เช่น ถ้ำพญานาคราช ถ้ำค้างคาว ถ้ำลายแทง ถ้ำปู่หลุบ น้ำตกตาดใหญ่ และน้ำตกพลาญทอง เป็นต้น ที่นี่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล แต่หากจะให้แนะนำ ช่วงปลายฝนต้นหนาว (ตุลาคม-พฤศจิกายน) อากาศกำลังดี อุณหภูมิไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป ธรรมชาติเขียวขจี เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
9. ภูกระดึง จังหวัดเลย
ภูกระดึง แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อจังหวัดเลย ในปี 2567 อุทยานแห่งชาติภูกระดึงเปิดการท่องเที่ยวและพักแรม ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 - 31 พฤษภาคม 2568 โดยนักท่องเที่ยวนิยมจัดทริปแบบ 1 คืน 2 วัน หรือ 2 คืน 3 วัน ด้านบนมีสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างครบครัน เอาจริง ๆ การขึ้นภูกระดึงไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเส้นทางเดินไม่ได้ลำบากจนเกินไป แถมแต่ละซำก็มีร้านขายของบริการ หลักสำคัญคือการเตรียมร่างกายให้พร้อม ในส่วนของแหล่งท่องเที่ยวบนภูกระดึงที่พลาดไม่ได้ เช่น ผานกแอ่น, ผาหล่มสัก, ผานาน้อย, ผาเหยียบเมฆ, ลานพระศรีนครินทร์ (องค์พระพุทธเมตตา), น้ำตกวังกวาง, น้ำตกเพ็ญพบใหม่ และสระอโนดาต เป็นต้น
10. หมุดโลก จังหวัดอุทัยธานี
บนยอดเขาสะแกกรัง ตำบลอุทัยใหม่ อำเภอเมืองอุทัยธานี จะมี หมุดศูนย์กำเนิดพื้นหลักฐาน หรือ หมุดโลก เป็น 1 ใน 3 ในทวีปเอเชียที่มีอยู่ ที่นี่เป็นจุดที่ 2 (หมุดที่ 91) ด้านข้างของหมุดมีข้อความเขียนว่า “สถานีลาพล๊าส กรมแผนที่ทหาร 15 พ.ย. 16 พ.ท.สอาด นิยพันธ์” สร้างขึ้นเพื่อใช้คำนาณและแบ่งแนวเขตในการลงพิกัดแผนที่โลก และเป็นหมุดโลกที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกาปักไว้เพื่อลงพิกัดสำรวจแผนที่ทางการทหารเมื่อปี พ.ศ. 2518 มีลักษณะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมตัวยูคว่ำ ลักษณะคล้ายกรอบรูปคร่อมอยู่บนจุดของที่ตั้งหมุดแผนที่อีกที
11. ยอดเขาหลวง จังหวัดสุโขทัย
ปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ชวนไปออกทริปเดินป่าสัมผัสธรรมชาติ พิชิต ยอดเขาหลวง จุดชมวิวธรรมชาติที่สมบูรณ์และสวยงาม ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติรามคำแหง จังหวัดสุโขทัย เส้นทางความชันของที่นี่ขึ้นชื่อในหมู่ของนักท่องเที่ยวสายลุย ด้วยระยะทางเดินเท้า 3.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ประกอบด้วย 4 ยอดเขา ได้แก่ ยอดเขาเจดีย์ 1,185 เมตร, ยอดเขาภูกา 1,200 เมตร, ยอดเขาพระแม่ย่า 1,200 เมตร (ชมพระอาทิตย์ตก) และยอดเขานารายณ์ 1,160 เมตร (ชมพระอาทิตย์ขึ้น)
12. น้ำตกเต่าดำ จังหวัดกำแพงเพชร
ชวนไปพิชิต น้ำตกเต่าดำ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร น้ำตกขนาดใหญ่กลางป่าลึก เป็นน้ำตกหินดินดาน (สีดำ) หาดูได้ยากในประเทศไทย แต่ละชั้นจะมีความสูงมากกว่า 200 เมตร มีน้ำไหลตลอดทั้งปี ช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้งดงามมาก ทั้งนี้ คนที่จะไปเที่ยวน้ำตกเต่าดำทั้งแบบไป-กลับ หรือพักแรมค้างคืน ควรเตรียมร่างกายให้พร้อม รวมถึงติดต่อขอลงทะเบียนได้ที่จุดให้บริการบริเวณก่อนถึงน้ำตก หรือสอบถามรายละเอียดได้ทาง Inbox ของเพจอุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า
13. บ้านมณีพฤกษ์ จังหวัดน่าน
หมู่บ้านเล็ก ๆ บนดอยสูงที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ บ้านมณีพฤกษ์ ตั้งอยู่ในตำบลงอบ อำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน อดีตเคยเป็นสมรภูมิรบมาก่อน ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวม้งซึ่งอพยพมาจากประเทศจีน จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2527 ทางการได้เข้ามาพัฒนาและส่งเสริมอาชีพต่าง ๆ พร้อมส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกพืชผักและดอกไม้เมืองหนาว ซึ่งรายได้หลักคือกาแฟที่มีปลูกกันอยู่หลายสายพันธุ์ จนกลายเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์โดดเด่นของหมู่บ้าน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น เดินป่าชมธรรมชาติ เรียนรู้วิถีชีวิตท้องถิ่น หรือชิมกาแฟสด ๆ จากไร่ เป็นต้น
14. สวนสาธารณะ อบจ. เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
พื้นที่พักผ่อนสุดชิลไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวเชียงใหม่ กับ สวนสาธารณะ อบจ. เชียงใหม่ ตั้งอยู่บริเวณหลังศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ถนนรอบเมืองเชียงใหม่ บริเวณอ่างหนองเขียว ที่นี่มีสนามหญ้าสีเขียวขนาดใหญ่สลับกับเนินเล็ก ๆ ล้อมรอบด้วยฉากหลังวิวธรรมชาติของดอยสุเทพ โดยเป็นทั้งสวนสาธารณะ สถานที่ออกกำลังกาย และแลนด์มาร์กที่สวยงาม
15. บ้านผาแดง จังหวัดเชียงใหม่
บ้านผาแดง หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่อากาศดี มีวิวทะเลหมอกสวย ๆ ตั้งอยู่ที่หมู่ 1 ตำบลกื้ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากอำเภอแม่แตง 25 กิโลเมตร ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่นี่ส่วนใหญ่เป็นชาวเขาเผ่ามูเซอ ทำอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อน ความสูงเฉลี่ยบริเวณกลางหมู่บ้าน 900 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีกิจกรรมเด่น ๆ คือการได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้านบนดอย เที่ยวชมแปลงปลูกผักของชาวบ้าน ชมวิวทะเลหมอกที่สวยงามในตอนเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาว และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ดูดาวที่สวยงามมากเลยทีเดียว เหมาะสำหรับสายธรรมชาติ สายลุย เนื่องจากเส้นทางยังเป็นดินแดงสลับกับคอนกรีตเป็นบางช่วง ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง
16. ปางอุ๋ง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ปางอุ๋ง หรือโครงการพระราชดำริปางตอง 2 ที่เที่ยวแม่ฮ่องสอนยอดนิยมในช่วงปลายฝนต้นหนาวและหน้าหนาว โดยนักท่องเที่ยวนิยมไปกางเต็นท์นอนดื่มด่ำกับความสวยงามของทะเลสาบ สูดอากาศบริสุทธิ์ พร้อมชมวิวพระอาทิตย์ตกดินสวย ๆ หรือนั่งแพชมทัศนียภาพสองข้างทาง รวมถึงเดินเล่นท่ามกลางป่าสนที่เรียงรายอยู่สองข้างทาง ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ ได้แจ้งกำหนดเปิดลานกางเต็นท์ให้นักท่องเที่ยวมาพักค้างแรมที่ปางอุ๋ง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป โดยจองผ่านเว็บไซต์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
17. บ้านเสียบญวน จังหวัดชุมพร
สัมผัสสไตล์วิถีชุมชนดั้งเดิม ณ บ้านเสียบญวน ชุมชนที่ตั้งอยู่ในตำบลด่านสวี อำเภอสวี จังหวัดชุมพร บรรยากาศเรียบง่าย ชาวบ้านประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน ทำให้มีความอุดมสมบูรณ์ของอาหารทะเล โดยเฉพาะปูดำ ปูม้า ปลาทะเล และมีต้นไม้ประจำชุมชน คือ ต้นนิ้วนารายณ์ ซึ่งเป็นต้นไม้ที่ได้รับการอนุรักษ์ รวมถึงมีโขดหินสวยงามไว้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ และมีที่พักแนวโฮมสเตย์ให้บริการ
18. อ่าวมาหยา จังหวัดกระบี่
อ่าวมาหยา มนตร์เสน่ห์แห่งท้องทะเลอันดามัน ตั้งอยู่บนเกาะพีพีเล จังหวัดกระบี่ เป็นอ่าวขนาดเล็กโอบล้อมด้วยเขาหินปูน เสน่ห์ดึงดูดใจที่ทำเอาใครต่อใครต่างตกหลุมรักนั่นคือ หาดทรายที่ขาวละเอียด ล้อมรอบด้วยทิวทัศน์สวยงาม น้ำทะเลสีเขียวมรกตผืนกว้าง สวยและสงบ สมดั่งฉายาสวรรค์แห่งอันดามันอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ในปี 2567 อ่าวมาหยาได้เปิดให้ท่องเที่ยวชมความงดงามของธรรมชาติในช่วงวันที่ 1 ตุลาคม 2567 - 31 กรกฎาคม 2568
19. บ้านท่าดินแดง จังหวัดพังงา
ชุมชนบ้านท่าดินแดง ตั้งอยู่ที่ตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ห่างจากตัวอำเภอท้ายเหมืองประมาณ 15 กิโลเมตร หมู่บ้านเก่าแก่ที่มีการตั้งถิ่นฐานมาก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวบ้านส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม โดยมีกิจกรรมพายเรือคายักชมความงามและธรรมชาติของป่าโกงกาง โดยมีทีมงานของชุมชนเป็นคนพายออกจากท่าเรือในขุมน้ำใหญ่ ลัดเลาะเข้าไปในลำคลองสายเล็กสายน้อยในป่าชายเลน ท่ามกลางระบบนิเวศที่ธรรมชาติยังมีความสมบูรณ์ของป่าชายเลน เต็มไปด้วยสรรพสัตว์และพืชพรรณอันหลากหลาย และยังได้ชมวิถีการทำประมงพื้นบ้านอีกด้วย
20. อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
เบตง อำเภอที่ตั้งอยู่ใต้สุดของประเทศไทย ห่างจากตัวเมืองยะลาประมาณ 140 กิโลเมตร เมืองที่ถูกโอบล้อมด้วยขุนเขา อากาศเย็นสบาย ผู้คนมีวิถีชีวิตเรียบง่าย ประกอบไปด้วยกลุ่มคนหลากหลายภาษา เชื้อชาติ และศาสนา ผสมผสานกลมเกลียวอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข รวมถึงอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ และมีแหล่งท่องเที่ยวทั้งในและนอกตัวเมืองมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์เมืองเบตง, วัดพุทธาธิวาส, หอนาฬิกาเมืองเบตง, ตู้ไปรษณีย์ยักษ์, อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์, สกายวอล์กทะเลหมอกอัยเยอร์เวง, น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (ตอนล่าง), อุโมงค์ปิยะมิตร, สวนไม้ดอกเมืองหนาวเบตง, ทะเลหมอกฆูนุงซีลีปัต โดยเฉพาะไฮไลต์อย่างสตรีตอาร์ตที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ผ่านภาพวาดศิลปะบนกำแพง อาคารบ้านเรือน หรือผนังตึกเก่า
และนี่เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวปลายฝนต้นหนาวไม่กี่แห่งที่เรานำมาแนะนำ ลองจดไว้และวางแพลนออกไปเที่ยวกันดูนะ
บทความ ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว ที่เที่ยวไทย อื่น ๆ ที่น่าสนใจ
+++ 30 ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว จดลิสต์ไว้แล้วไปลุยกัน
+++ 25 ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว ความสวยงามแห่งรอยต่อฤดูกาล
+++ มัดรวมสถานที่ท่องเที่ยวไทย เทศกาลและประเทศ และทิปส์ท่องเที่ยวขอบคุณข้อมูลจาก : tratcity.go.th, portal.dnp.go.th, portal.dnp.go.th, เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติตาพระยา Ta Phraya National Park, nps.dnp.go.th, เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า-Klong Wang Chao National Park
