เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ ชานมชงเอง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก chanomworld
เมื่อเอ่ยถึง "จังหวัดตาก" หลายคนคงนึกถึงสถานท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความหลากหลาย ความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ อากาศที่หนาวเย็น ดอกไม้เมืองหนาว ภูเขาสูง แต่วันนี้กระปุกท่องเที่ยวจะพาเพื่อน ๆ ไปชมอีกหนึ่งความงดงามของที่นี่ นั่นก็คือ อุทยานแห่งชาติแม่เมย อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ผ่านบันทึกการเดินทางพร้อมภาพถ่ายแจ่ม ๆ ของ คุณ ชานมชงเอง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม กันจ้า อ๊ะ ๆ แต่ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักกับ อุทยานแห่งชาติแม่เมย ซะหน่อย ...
อุทยานแห่งชาติแม่เมย ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติตามพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณ ที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ ป่าท่าสองยาง ในท้องที่ตำบลแม่สอง และตำบลแม่อุสุ อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 115,800 ไร่ หรือ 185.28 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อน มีที่ราบน้อย โดยมีความสูงเฉลี่ย 680 เมตร จากระดับน้ำทะเล จุดสูงสุด 1,250 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมไปด้วยป่าไม้ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีพื้นที่ติดต่อกับชายแดนพม่า และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น น้ำตกผาเทวะ, ทุ่งหญ้านิรนาม, น้ำตกแม่สลิดน้อย และถ้ำแม่อุสุ ฯลฯ นอกจากนี้ อุทยานแห่งชาติแม่เมย ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ซึ่งใช้เวลาเดินประมาณ 6 ชั่วโมง ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง โดยสามารถติดต่อล่วงหน้าที่อุทยานฯ ได้ อย่างไรก็ตาม อุทยานแห่งชาติแม่เมย กำลังเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติและอยากเดินทางขึ้นไปสัมผัสอากาศเย็น ๆ
เอาล่ะ...รู้จักกับ อุทยานแห่งชาติแม่เมย กันพอหอมปากหอมคอแล้ว ก็ได้เวลาตาม คุณ ชานมชงเอง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ไปสัมผัสกับความงดงามกันแล้ว ^___^
ภาพหนึ่งภาพบอกเรื่องราวมากมาย อาจจะเป็นเสี้ยวหนึ่งของแรงบันดาลใจ อาจจะเป็นความคิดถึงที่ยังไงก็ยังคิดถึง แล้วมันไม่เคยหายไปไหน? หรืออาจจะเป็นเพื่อนเก่าที่รู้จักกันมานาน คล้าย ๆ กับข้อความดี ๆ ที่ไม่เคยหายไป มันคงเป็นเรื่องราวความทรงจำที่รู้สึกดี ที่ทำให้ใครก็ตามที่ผ่านมาได้คิดถึงกัน … I MISS YOU ::: ขุนเขาและสายหมอกแห่งแม่เมย @ จังหวัดตาก
แล้วก่อนหน้านี้ความคิดถึงไปอยู่ที่ไหน?? บางทีอาจจะอยู่ที่ไหนสักที่ที่เราไม่เคยไปอาจจะเป็นที่นี่ก็ได้ (ดอยอ่างขางกับนางพญาเสือโคร่ง)
ภาพทุกใบคือความสุขที่ผมได้รับ มันคงเป็นความทรงจำที่คิดถึง ไหน ๆ ก็ได้ไปแล้ว อยากเห็นวิวที่ดีที่สุด เพราะเราคงไม่ได้ไปทุกวัน ไม่ได้ไปทุกเดือน ไม่ได้ไปทุกปี หรือบางทีก็อาจจะไม่ได้ไปอีกเลยก็ได้ จากหนึ่งที่ที่เราเคยไป แล้วมีบางสิ่งที่เชื่อมความรู้สึกดี กับความผูกพันเอาไว้ด้วยกัน ผมจะเรียกมันว่าความคิดถึง
เคยรู้สึกไหมที่บางทีความคิดถึงก็ทำงานเสมอ? อาจจะไม่เคยไปที่นั้นบางทีก็เหมือนรู้สึกเคยไป แต่จริง ๆ ยังไม่ได้ไป แต่ก็รู้สึกคิดถึงที่นั้นขึ้นมา
และนี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ผมกำลังทำทุกอย่าง เพื่อเดินหาสิ่งที่ผมคุ้นเคย ความรู้สึกบอกผมเสมอว่าผมต้องรู้สึกดี รู้สึกผูกพัน และรู้สึกคิดถึงแน่นอน แล้วสุดท้ายมันก็ทำให้ภูเขาจากที่หนึ่งเชื่อมกันกับอีกที่หนึ่งเสมอ
มันคงมีแรงส่งบางอย่างจากขุนเขาที่ไหนสักที่ที่ผมได้เคยไป แล้วส่งผมมาถึงที่นี่ในตอนนี้ จากนี้ที่ผมจะได้เห็นสิ่งที่อยากเห็น กับการเปลี่ยนแปลงในทุกช่วงเวลาของขุนเขาและสายหมอกในที่แห่งนี้
แล้วสักพักผมก็เผลอหลับไป ทั้ง ๆ ที่ตอน 6 โมงเย็น ผมยังอยู่บ้านอยู่เลย ผมจำได้ลาง ๆ ว่า เราแวะพักนอนกันที่ตัวเมืองตากในคืนนั้น โดยที่ผมไม่รู้ตัวเลยว่า ความคิดถึงกำลังเริ่มเดินทางตั้งแต่ตอนนั้น!!!
แสงที่ยังหาไม่เจอในเช้าวันนั้น แต่กลับมีแต่เสียงที่ทำให้ผมรู้สึกตัว เสียงบางอย่างที่พาผมมาถึงจุดชมวิวแม่น้ำเมยก่อนถึงที่ทำการอุทยานฯ เวลานี้ตีสี่ครึ่งแล้ว สติและความรู้สึกของผมค่อย ๆ คืนกลับมาอย่างช้า ๆ
มันเหมือนความฝันที่เลือนลาง ที่ทำให้ผมรู้สึกว่านี่ใช่ไหม "แรงบันดาลใจ" มันคงเป็นสัญญาณอย่างหนึ่งที่กำลังจะทำให้ผมรู้ว่าโลกใบนี้ยิ่งใหญ่แค่ไหน?
แล้วความจริงก็ค่อยเริ่มต้นทีละนิด ผมขับรถออกมาจากโรงแรมตอนตี 5 มาถึงตัวอุทยานแห่งชาติแม่เมย ซึ่งอยู่ในอำเภอท่าสองยาง ในตอนเช้า 7 โมงครึ่ง
ทั้ง ๆ ที่นอนไม่ถึงห้าชั่วโมงและขับรถมาไกล แต่มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกเพลียเลย เหตุผลที่ต้องเดินทางแบบนี้ ก็เพราะอยากอยู่ในบรรยากาศช่วงเช้าสองวันเต็ม ๆ
ผมอยากเต็มที่กับทุกสิ่ง อยากเห็นวิวที่ดีที่สุด เพราะเราคงไม่ได้ไปทุกวัน แล้วก็ไม่ได้ไปทุกเดือน ไม่ได้ไปทุกปี แล้วบางทีก็อาจจะไม่ได้ไปอีกเลยก็ได้
มันเหมือนว่าผมโชคดีเสมอที่ได้เจอบรรยากาศแบบนี้ แต่เอาเข้าจริง ๆ ผมก็ลุ้นตัวโก่งทุกครั้งในตอนเช้าเสมอ เพื่อนที่ไปด้วยมักพูดว่าวันนี้สงสัยไม่ได้เจอหมอกแน่ ๆ ผมก็จะตอบไปด้วยความมั่นใจเกินร้อยว่า มากับใครรู้ซะบ้าง!!!
แต่จริง ๆ ผมก็หวั่นใจอยู่ไม่น้อย ผมก็ไหว้พระก่อนนอนเสมอ แล้วก็ภาวนาให้มีทะเลหมอก มันเป็นความรู้สึกมีความสุขเวลาเจอบรรยากาศแบบนั้น แล้วผมก็มาถึงจนได้จุดชมวิวแรก อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 7 กิโลเมตร
อุทยานแห่งชาติแม่เมย ตั้งอยู่ในเขตอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก มีพื้นที่ติดต่อกับชายแดนสหภาพพม่า โดยมีแม่น้ำเมย เป็นเส้นแบ่งเขตแดน เป็นอีกหนึ่งอุทยานที่มีความสวยงามและอลังการของทะเลหมอกไม่แพ้ที่ไหน ไม่ว่าจะเป็น ม่อนปุยหมอก ม่อนครูบาใส ม่อนกระทิง ม่อนกิ่วลม และม่อนพูนสุดา ซึ่งแต่ละจุดเป็นจุดชมทิวทัศน์ของขุนเขาสีเขียว และทะเลหมอกสีขาวที่สวยงามมาก
จุดชมวิวม่อนครูบาใสเป็นจุดชมวิวขุนเขาและทะเลหมอกได้สวยมาก อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่ใครหลายคนเห็นแล้วต้องชอบ เรามาถึงเกือบสายแล้ว แต่โชคดีที่ยังมีทะเลหมอกเยอะขนาดนี้
ก่อนอื่นต้องขอบคุณข้อมูล และแรงบันดาลที่ดีสำหรับการเดินทางครั้งนี้
1. ข้อมูลแม่เมย – จุดชมวิวขุนเขาและทะเลหมอก – การเดินทาง โดยเว็บไปด้วยกันดอทคอม
http://www.paiduaykan.com/76_province/north/tak/meamuey.html
2. ข้อมูลทุกด้านของแม่เมย – ที่พักบนอุทยาน จากเว็บกรมอุทยานแห่งชาติ
http://www.dnp.go.th/parkreserve/asp/style1/default.asp?npid=221
3. ภาพและเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผมเดินทางไปแม่เมย
3.1 http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E12874282/E12874282.html by nickyraksanook
3.2 http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8734864/E8734864.html by ม่วงมหากาฬ
3.3 http://www.hamanan.com/tour/tak/sunsetmonkrubasai.html by ไปเที่ยวด้วยกันไหม
4. คำนวณแผนที่เส้นทางการเดินทาง จากเว็บกูเกิล แมพ http://maps.google.co.th/
5. เช็กสภาพอากาศ จากเว็บกรมอุตุนิยมวิทยาประเทศไทย http://www.tmd.go.th/index.php
6. วางแผนการเติมแก๊สรถยนต์ LGP http://www.gasthai.com/station/sum.asp
7. ขอบคุณตัวผม และเพื่อนร่วมทางที่ดีเสมอ
พวกเราเคยคุยกันเสมอว่า หรืออยากไปเที่ยวในที่ที่บรรยากาศดี ๆ?
ในความคิดของผม ขุนเขาทำให้สถานที่นั้นสวยงามอยู่แล้ว และสายหมอกก็ทำให้สถานที่นั้นบรรยากาศดีและสวยขึ้นไปอีกเท่าตัว ดังนั้น เวลาที่ผมได้เจอทะเลหมอกบนขุนเขา มันคือสถานที่ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกดี มันคงเหมือนกับประโยคที่ผมพูดบ่อย ๆ ว่ามันมีที่สวย ๆ บนโลกใบนี้ที่เราสามารถได้มาเห็นด้วยตาของเราเลยหรือ? แต่ก่อนผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่หรอก แต่สำหรับตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว แค่ได้นึกถึงวันนั้นก็ยังรู้สึกถึงความสุข ที่ส่งมาถึงตอนนี้ได้เลย
จากจุดชมวิวม่อนครูบาใส เราขับรถไปอีกหน่อย ไปอีกนิดเดียว ก็จะได้เจอจุดชมวิวที่สวยไม่แพ้กัน ระยะทางประมาณ 200 เมตร
มันคือ ม่อนพูนสุดา เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ตกดิน วิวประมาณกับจุดชมวิวม่อนครูบาใสเลยครับ
ชื่อม่อนพูนสุดาตั้งขึ้นตามชื่อของ นักถ่ายภาพชั้นครูของเมืองไทย คือ อาจารย์พูน เกษจำรัส และภรรยาของท่านชื่อ สุดา เพื่อเป็นเกียรติแด่ อาจารย์พูน ในฐานะที่เป็นผู้เดินทางมาถ่ายภาพบนหม่อนนี้เป็นคนแรก
มันเป็นทริปที่ผมตัดสินใจนานที่สุด เพราะมันเป็นทริปแค่สองวันหนึ่งคืน แต่ประเด็นคือมันไกล ไกลมาก!!!! ไปค้างได้แค่คืนเดียว คือ เที่ยววันเสาร์แล้วกลับวันอาทิตย์
ด้วยเหตุผลหลักคือระยะทางที่ไกลมาก เราออกเดินทางกันในคืนวันศุกร์ขับรถไป ฟังเพลงไปในปลายเดือนพฤศจิกายน แล้วแวะนอนที่โรงแรมกลางเมืองตากในตอนห้าทุ่มเศษ แล้วเช้าวันนั้นผมก็ตื่นกันแต่ตีสี่ครึ่ง ชั่วโมงผมก็มาถึงที่แห่งนี้
ใครบอกว่าเส้นทางนี้ขับยาก ผมรู้สึกขับง่ายมาก ไปง่ายกว่าที่คิด !! ผมผ่านอุทยานแห่งชาติที่เคยไปด้วยนั้น คือ อช.ตากสิน แต่ไม่ได้แวะเข้าไป
ถึงตอนนี้ผมอยากจะบอกอะไรบางอย่างกับตัวเองดัง ๆ "ดีใจที่โฟกัสที่นี่ตั้งแต่แรก ดีใจที่แรงบันดาลใจทำงานได้ และดีใจที่เราได้เจอกัน"
ด้วยความรู้สึกดี ๆ มากมาย และมีหลายเหตุผลที่ผมชอบและหลงรักที่แห่งนี้ แม่เมยมีป่าเขาสีเขียว ๆ เหมือนกับสีเขียวบนอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ที่ผมชอบ แม่เมยมีภูเขาสวย ๆ ที่ผมรัก แม่เมยมีทะเลหมอกให้ตื่นตา เหมือนกับทะเลหมอกที่ยิ่งใหญ่และน่าตื่นเต้นบนภูชี้ฟ้า แม่เมยมีอากาศเย็นสบาย เหมือนกับเวลาอยู่บนภูทับเบิกก็ไม่เคยรู้สึกว่าที่นั้นร้อนเลย แม่เมยมีจุดชมวิวเยอะมาก เหมือนกับตอนที่ไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติศรีน่านในตอนนั้น แม่เมยอยู่ไกลขับรถนานมาก แต่มันก็แปลก เพราะยิ่งอยู่ไกลก็ยิ่งอยากไปเหมือนกับตอนไปคิดจะไปดอยผาตั้ง แม่เมยดูลึกลับน่าค้นหา เหมือนกับความรู้สึกตอนนั้นที่ได้ไปที่ดอยกาดผี แม่เมยมีดอกไม้ข้างทางให้ดู เหมือนกับเส้นทางที่กำลังพาผมขึ้นดอยอ่างขาง แล้วแม่เมยก็สงบเงียบราวกับความฝัน เหมือนกับความฝันในโลกแห่งความเป็นจริงบนดอยแม่ตะมาน และนี่ก็เพียงพอที่ทำให้ผมปลื้มกับการเดินทางครั้งนี้เป็นอย่างมาก
หลังจากที่ผมทำความรู้จักกับม่อนครูบาใส – มอนพูนสุดาแล้ว เราขับรถตรงไปอีก 5 กิโลเมตร ก็มาถึงอีกหนึ่งจุดชมวิว นั่นก็คือ จุดชมวิวม่อนกิ่วลม
จุดชมวิวม่อนกิ่วลมถือว่าเป็นจุดชมวิวที่ใครมาที่นี่ก็ไม่ควรจะพลาด!! มันเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นวิวภูเขาได้สวยมาก แต่ตอนนี้ไมมันเป็นแบบนี้?
เป็นเช้าที่มองไรไม่เห็นเลย อาจจะเป็นเพราะว่าตรงนี้เป็นจุดชมวิวที่สูงมาก เลยทำให้โดนกระแสลมพัดอยู่ตลอดเวลา หมอกเลยไม่รู้จะไปทางไหน?
แต่ยังไงสายหมอกยังคงทำงานเสมอ ไม่ว่าผมจะไปที่ไหน เมื่อไหร่ และอย่างไร? แต่ไม่เป็นไรเพราะนี่แค่เช้าสำรองวันแรก... ของจริงคงอยู่วันพรุ่งนี้…สาธุ!!!
ที่ผมทำแบบนี้เพราะอยากเห็นบรรยากาศสองเช้า ต้องมีสักเช้าที่อากาศดี ถ้าเช้าหนึ่งพลาด แล้วเช้านี้ก็เป็นไปตามแผนที่วางไว้ คือผมได้เห็นวิวทะเลหมอกสองจุดใหญ่ แต่พลาดที่ดอยม่อนกิ่วลม แล้วผมก็ได้เห็นอะไรบางอย่างอีกครั้ง? มันคือใบไม้ใบ ใบไม้ที่เปลี่ยนสี สีของมันถูกเปลี่ยนไป สีแดงของใบไม้ ใบอะไรก็ไม่รู้ มันคงได้เวลาของการจากไป ถึงได้ร่วงมาอยู่บนพื้นดิน หรือว่ามันคือปลายทางของความคิดถึง? แม้กระทั้งความรู้สึกหรือความทรงจำที่เคยผ่านมา หรือแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ก็คงกำลังเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนแปลง เหมือนกับใบไม้สีแดงใบนั้นก็เป็นไปได้
แล้วผมก็หันหลังแล้วกลับไปที่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง มุ่งหน้าเข้าสู่ที่ทำการอุทยานฯ ติดต่อเรื่องที่พักที่ได้จองไว้!!!
สองข้างทางบนอุทยานแห่งชาติแม่เมยมันเต็มไปด้วยขุนเขา ต้นไม้สีเขียว สายหมอกสีขาว และอากาศที่เย็นสบาย กับคนไม่กี่คนบนดอยนี้
แม้จะเหนื่อยไปบ้างแต่ผมไม่เคยคิดว่ามันลำบาก เพราะนั้นคือสิ่งที่ผมชอบขุนเขาสีเขียวและสายหมอกสีขาวทำให้ผมรู้สึกสนุกทุกครั้ง!!!!
ระหว่างทางเราได้เจอน้ำตกข้างทางเลย ชื่อน้ำตกแม่ระเมิง ผมยังคุยกับเพื่อนเลยว่า คำมันคล้ายคำของประเทศพม่า แต่ก็ไม่น่าแปลกเพราะเขาโซนนี้ติดประเทศเพื่อน บ้านแม่วงก์ แม่สะเรียง แม่ระเมิง แม่สอด แม่ระมาด ที่คิดได้ก็ประมาณนี้
ขากลับเราก็ยังผ่านจุดชมวิวที่แรกที่เราผ่านมา นั่นก็คือ ม่อนครูบาใส แปลกแต่จริงทีสิบโมงแล้วยังมีทะเลหมอกแบบเบา ๆ ให้ได้เห็นกัน ทั้ง ๆ ที่ตอนเช้าผมได้แวะที่นี่เป็นจุดแรก เพราะรู้สึกดีขากลับก็ต้องแวะอีกรอบ ผมอยากเก็บความรู้สึกดี ๆ แบบนี้ไว้ เพราะไหน ๆ ก็ไปแล้ว มีโอกาสได้เห็นหลายรอบก็ยิ่งดี
ผมขอเต็มที่กับบรรยากาศที่ผมอยากเห็น มันคงเป็นเวลาที่เห็นวิวที่ดีที่สุด เพราะเราคงไม่ได้ไปทุกวัน ไม่ได้ไปทุกเดือน ไม่ได้ไปทุกปี แล้วบางทีก็อาจจะไม่ได้ไปเห็นอีกเลยก็ได้
แล้วผมก็มาถึงที่ทำการอุทยานฯ บ้านพักที่ผมจองไว้เป็นบ้านพักหลังนี้ 1,200 บาท สำหรับ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ผมใช้เวลาไม่นานในการเดินดูรอบตัวอุทยานฯ ตรงโซนที่พัก ใช้เวลานิ่ง ๆ มองอะไรบางอย่าง แต่ก็มันก็มีบางสิ่งที่ชัดเจนเพียงพอที่ทำให้ผมเลือกพักในบนอุทยานฯ นี้ บรรยากาศที่ดีที่พร้อมสำหรับทุกสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นของทริปนี้
แต่ดูเหมือนว่าวันนี้ฟ้าไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ แม้ฟ้าจะปิดแต่การเดินทางเพื่อตามหาความสุข บนเส้นทางของขุนเขาของผมยังดำเนินต่อไป มันคงอยากทำให้ผมรู้ว่าแรงบันดาลใจมันคืออะไร? แรงบันดาลใจที่ทำได้แต่รอ และรอให้มันได้ผลแบบที่ผมเคยทำ เฝ้ารอและรอยคอยอย่างเงียบ ๆ มันอาจจะดูว่าชีวิตในตอนนี้ไม่มีอะไร? แต่ยังดีที่มีบางอย่างให้เราได้คิดถึงใคร หรืออาจจะมีใครสักคนที่กำลังคิดถึงเรา
เช้ามืดวันต่อมา เราตื่นนอนกันแต่ตีห้า แล้วพร้อมเดินทางตอนตีห้าครึ่ง ตอนขับรถขึ้นไปทั้ง ๆ ที่มืดมาก แล้วก็ไม่มีใครตามมาสักคัน นี่ไงครับจุดชมม่อนกิ่วลม เป็นจุดชมวิวที่จะมองเห็นตะวันในเช้าวันใหม่
แล้วเช้าวันนี้ก็วันที่ดีของผมอีกหนึ่งวัน ด้วยเหตุผลของขุนเขาที่ทำให้ผมได้เจอทะเลหมอก จุดเริ่มต้นของเรื่องเล่าดี ๆ ตั้งแต่วินาทีนี้!!!!
"ดีใจที่โฟกัสที่นี่ตั้งแต่แรก ดีใจที่ยังไงก็ไม่เคยผิดแผน ดีใจที่แรงบันดาลใจทำงานได้ และดีใจที่เราได้มาเจอกัน" มันเป็นความสุขเมื่อความบังเอิญตั้งใจมาพบกัน มันรู้สึกดี และอบอุ่นเสมอเพราะเราไม่เคยเปลี่ยนไป
ผมทำได้แต่นั่งรอ รอแล้วก็รอ รอ รอ รู้สึกอีกไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องกลับบ้านแล้ว ยังรู้สึกไม่อิ่มเลยเพิ่งมาถึงเมื่อวานเช้าแท้ ๆ วันนี้ต้องกลับไปแล้วหรือ?
จากวันนั้นผ่านมาถึงตอนนี้ไวเหมือนโกหก เกือบสี่เดือนแล้ว มันคงเป็นส่วนผสมของความผูกพันและความรู้สึกดีเข้าไว้ด้วยกัน ที่ผมอยากเรียกมันว่า ความคิดถึง (I MISS U) และด้วยความคิดถึงก็ทำให้มันกลับมามีชีวิตอีกครั้ง!!!!! ความคิดถึงที่ทำให้ทุกเรื่องราวและความรู้สึกผมในตอนนั้นยังคงสดใหม่เสมอ แล้วมันก็ทำให้ทุกวันเป็นจุดเริ่มต้นของความคิดถึง หรืออาจจะเป็นการจากลาในอีกไม่กี่ชั่วโมง!!!
ภาพหนึ่งภาพบอกเรื่องราวหลายอย่างอาจจะเป็นเพลงนั้นที่เคยฟังแล้วชอบ บางทีอาจจะเป็นเพื่อนเก่าที่ยังคงคิดถึง หรือจะเป็นข้อความดี ๆ ที่ไม่เคยหายไป
และเมื่อผมได้คิดถึงวันข้างหน้าที่ยังมาไม่ถึงมันก็เลยทำให้วันนี้ ผมอยากเต็มที่กับทุกสิ่งกับสิ่งที่ผมรัก อยากรู้ว่าแรงบันดาลใจของผมไปได้แค่ไหนกับสิ่งที่ผมรู้สึกดี อยากรู้ว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดของชีวิตเป็นอย่างไร และดีแค่ไหน?
อยากอยู่ในช่วงเวลาที่ดีที่สุด เพราะช่วงเวลาที่ดีไม่ได้มีทุกวันเวลาที่ดีไม่ได้มีทุกเดือน หรือาจจะไม่ได้มีทุกปี แล้วบางทีอาจจะไม่มีอีกเลยก็ได้ ไม่มีใครรู้!!!!
แต่ผมรู้...ผมรู้...และผมรู้ดีว่าผมจะคิดถึงมันไม่ว่าตอนนี้หรือตอนนั้น ช่วงเวลาที่ดีที่สุดกับอีกหนึ่งรอยยิ้ม อาจจะเป็นรอยยิ้มของผม หรือของใครก็ได้ที่บังเอิญผ่านเข้ามาในรีวิวนี้
การเดินทาง : จากตัวเมืองตากไปตามเส้นทางสายแม่สอด-แม่ระมาด-ท่าสองยาง ทางหลวงหมายเลข 105 ระยะทางประมาณ 114 กิโลเมตร มีทางแยกขวามือที่จุดตรวจแม่สลิดเป็นทางที่ตัดไปสู่อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ เป็นทางขึ้นเขาไปอีกประมาณ 11 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯ ทางขึ้นเขาเป็นทางชันรถบัสใหญ่ไม่สามารถขึ้นไปได้ (หมายเหตุเส้นทางหลวงหมายเลข 105 ช่วงแม่สอด-แม่ระมาด-ท่าสองยางเป็นเส้นทางเลียบชายแดน จึงไม่แนะนำให้เดินทางผ่านหลังเวลา 18.00 น.)
อัตราค่าบริการ : สำหรับชาวไทย เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาท ส่วนชาวต่างชาติ เด็ก 100 บาท ผู้ใหญ่ 200 บาท รถยนต์ 4 ล้อ 30 บาท (ไม่รวมคนขับ)
สถานที่พัก : ทางอุทยานฯ มีบริการบ้านพัก จำนวน 3 หลัง ราคา 1,000 บาท หากต้องการให้อุทยานฯ บริการด้านอาหารต้องแจ้งล่วงหน้า ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติแม่เมย อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก 63150 โทรศัพท์ 0 5551 9644-45 หรือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช บางเขน กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2562 0760 และเว็บไซต์ www.dnp.go.th