เที่ยวอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ที่เที่ยวสตูล ตื่นตาสะพานข้ามกาลเวลา ประทับใจปราสาทหินพันยอด ชมโลกใต้ทะเลสุดสมบูรณ์
พอเข้าช่วงซัมเมอร์ หลายคนก็มองหาที่เที่ยวหน้าร้อน เอาไว้คลายร้อน ลดความร้อนแรงของดวงอาทิตย์ที่แผดเผา ที่เที่ยวคลายร้อนยอดฮิตอย่าง ทะเล จึงกลายเป็นตัวเลือกแรก ๆ ในการวางแผนไปเที่ยวเล่นน้ำทะเลใส ซึ่งในช่วงนี้ทะเลในฝั่งอันดามันกำลังสวยงามเหมาะแก่การไปเที่ยวชมที่สุด และหนึ่งในที่เที่ยวทะเลฝั่งอันดามันที่กำลังเป็นนิยมอย่างมากคือ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ในจังหวัดสตูล เพราะมีความสวยงามโดดเด่นของธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และยังเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานธรณีโลกอีกด้วย วันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ชมไฮไลต์ที่น่าสนใจของที่เที่ยวสตูลแห่งนี้กัน
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา จ.สตูล
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ตั้งอยู่ที่ไหน
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบมะละกาทะเลอันดามัน ในคาบมหาสมุทรอินเดีย ทางฝั่งตะวันตกของไทย ครอบคลุมพื้นที่ทะเลเปิด ชายฝั่ง และหมู่เกาะรวม 30 เกาะ ในท้องที่อำเภอละงู อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล และอำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ได้รับการจัดตั้งเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2527 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 49 และเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลลำดับที่ 14 ของประเทศไทย ทั้งนี้ คำว่า เภตรา เพี้ยนมาจากคำภาษามลายูว่า Pulau Petra

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา พื้นที่
พื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ประกอบด้วยพื้นที่น้ำทะเล เกาะ ภูเขา ซึ่งพื้นที่ในทะเลประกอบด้วยเกาะที่มีขนาดแตกต่างกันประมาณ 22 เกาะ โดยมีเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุด 2 เกาะ คือ เกาะเภตราและเกาะเขาใหญ่ นอกจากนี้ยังมีเกาะสำคัญอื่น ๆ เช่น เกาะละโละแบนแต เกาะลิดี เกาะบุโหลน เกาะเหลาเหลียง และเกาะเปรามะ ซึ่งเกาะส่วนใหญ่จะมีรูปร่างแปลกตาเป็นโพรง ถ้ำ หลุมยุบ หน้าผาสูงชัน และชะง่อนผา ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะพังทลายของคลื่นลมและน้ำขึ้น-น้ำลง เกาะบางแห่งเป็นที่วางไข่ของเต่าทะเลและเป็นแหล่งแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้เกาะหลายแห่งยังมีถ้ำหินปูนและชายหาดเล็ก ๆ เป็นที่พักพิงชั่วคราวของชาวประมงด้วย
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา เขาโต๊ะหงาย
เขาโต๊ะหงาย เป็นภูเขาลูกโดด ๆ ด้านเหนือจรดพื้นที่ราบ ส่วนด้านใต้เป็นลักษณะของหัวแหลมที่มีผาชันยื่นออกไปในทะเล ด้านตะวันออกเฉียงเหนือเป็นอ่าวที่เป็นหาดทรายโค้งเว้าเข้าไปในแผ่นดินและเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา เรียกว่า อ่าวปอ หรือ อ่าวนุ่น บริเวณนี้จะมีเวิ้งอ่าวที่สวยงามเป็นวงโค้งที่มีเขาสูงเป็นฉากหลัง ภาพของหมู่เกาะ น้ำทะเลสีเขียวมรกต หาดทรายสีขาวนวล ชีวิตชาวเรือ ขุนเขา และแมกไม้เขียวขจี ที่ได้พบเห็นที่หาดอ่าวนุ่น สวยสดไม่แพ้ที่อื่น มีชายหาดยาว น้ำใสน่าเล่น อีกทั้งยังมีทางเดินชมธรรมชาติและจุดชมวิวอีกด้วย
ทั้งนี้ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ตั้งอยู่บริเวณอ่าวนุ่น หมู่ที่ 4 บ้านตะโละใส ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล ห่างจากอำเภอละงูประมาณ 7 กม. และห่างจากจังหวัดสตูลประมาณ 56 กม.


ภาพจาก : Polbkt / Shutterstock.com
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา อุทยานธรณีโลกสตูล
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา เป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานธรณีโลกสตูล (Satun UNESCO Global Geopark) ซึ่งได้รับการรับรองจากยูเนสโก เมื่อปี พ.ศ. 2561 เนื่องจากมีความโดดเด่นทางด้านธรณีที่ชัดเจนแน่นอน รวมถึงครอบคลุมไปถึงวิถีชีวิต ผู้คน วัฒนธรรม และธรรมชาติอื่น ๆ ในอาณาบริเวณเดียวกันด้วย
สำหรับอุทยานธรณีสตูลนั้นได้ประกาศขอบเขตพื้นที่ครอบคลุม 4 อำเภอของจังหวัดสตูล คือ อำเภอทุ่งหว้า อำเภอมะนัง อำเภอละงู และบางส่วนของอำเภอเมืองสตูล ครอบคลุมพื้นที่ของ 2 อุทยานแห่งชาติไปด้วย คือ อุทยานแห่งชาติตะรุเตาและอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา โดยมีที่ทำการอุทยานธรณีสตูลอยู่ในบริเวณเดียวกันกับองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งหว้าและที่ว่าการอำเภอทุ่งหว้านั่นเอง
สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลต์ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา
สะพานข้ามกาลเวลา
ตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่ทำการอุทยาน โดยอยู่เลียบไปตามชายฝั่งผาชันด้านตะวันออก แล้วโค้งไปทางตะวันตก ลักษณะเป็นหน้าผาริมทะเลสูงชัน ช่วงหนึ่งของหน้าผามีสีสันของชั้นหินที่แตกต่างกัน อันเกิดจากรอยเลื่อนของเปลือกโลก 2 ยุค คือ หินทรายสีแดงยุคแคมเบรียน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่บรรพบุรุษยุคแรกของสัตว์ทุกชนิดเกิดขึ้น (อายุประมาณ 542-488 ล้านปี) และหินปูนยุคออร์โดวิเชียน (อายุประมาณ 488-444 ล้านปี) โดยรอยสัมผัสของหินทั้งสองยุคดังกล่าวเกิดจากรอยเลื่อนของเปลือกโลก (Fault Contact) ที่มีความชัดเจนมากและหาดูได้ยาก จึงเรียกสะพานแห่งนี้ว่าสะพานข้ามกาลเวลาจากหินยุคหนึ่งไปอีกยุคหนึ่งนั่นเอง


หาด 5 สี
ตั้งอยู่บริเวณชายหาดเขาโต๊ะหงาย เป็นหาดทรายเล็ก ๆ ที่มีหินก้อนกลมมนอยู่ปะปนกันบนชายหาด โดยจะมีหินสีแดง (หรือสีชมพู), สีเทา (หรือสีน้ำเงิน), สีดำ, สีเหลือง (หรือสีน้ำตาล) และสีขาว ที่ยามน้ำลงหินสีเหล่านี้จะโผล่ขึ้นมาจนเกือบเต็มทั้งชายหาด เป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปเล่นกัน
ปราสาทหินพันยอด
อยู่ห่างจากชายฝั่งปากน้ำบาราไปเพียง 15 นาทีเศษ ตั้งอยู่บริเวณเกาะเขาใหญ่ที่มีชายหาดและน้ำทะเลสีเขียวมรกต ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหินปูนปลายยอดแหลมหน้าตาประหลาด มองดูคล้ายปราสาทที่มียอดนับพัน โดยเกิดจากการยกตัวของเปลือกโลกมากว่าหลายร้อยล้านปี ทำให้หินมีรูปร่างแปลกตา การมาเที่ยวที่นี่ต้องพายเรือคายักลอดผ่านช่องแคบเข้าไป จึงจะพบกับความอลังการของหินทรงปราสาทแห่งนี้

อ่าวฟอสซิล หรืออ่าวโต๊ะบะ
ตั้งอยู่บริเวณเกาะเขาใหญ่ ซึ่งที่เรียกว่าอ่าวฟอสซิล เพราะที่นี่มีการพบซากดึกดำบรรพ์ของสัตว์ทะเลจำพวก “นอติลอยด์” สัตว์จำพวกหอย กลุ่มเดียวกับหมึก หมึกยักษ์ ที่เห็นชัดมาก เกิดครั้งแรกมีความยาวเพียง 2-3 มิลลิเมตร เป็นสัตว์ที่มีโครงสร้างอย่างง่าย ลักษณะเปลือกมีทั้งแบบเป็นแท่งตรงคล้ายกรวย และแบบม้วนขดเกลียวเป็นวง อายุประมาณ 470 ล้านปี แทรกตัวอยู่ในเนื้อหินปูนมากมาย บางตัวมีขนาดเล็กเท่าเหรียญสิบฝังอยู่ตามซอกหิน บางตัวก็มีขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือก็มี


เกาะลิดี
อยู่ห่างจากที่ทำการฯ ประมาณ 5 กม. และห่างจากท่าเรือปากบาราประมาณ 7 กม. มีหน้าผาและถ้ำเป็นที่อาศัยของนกนางแอ่นเป็นจำนวนมาก เนื้อที่ประมาณ 10 ตร.กม. มีหาดทรายขาวบริสุทธิ์ และมีเวิ้งอ่าวยื่นเข้าไปในตัวเกาะเป็นสระน้ำใสสะอาด เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบเล่นน้ำทะเล อีกทั้งยังมีบ้านพักและบริเวณที่กางเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยวด้วย

เกาะเหลาเหลียง
เป็นภูเขาหินปูน มีหน้าผาล้อมรอบ หาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใสสีฟ้าอมเขียว และบรรยากาศเงียบสงบราวกับเกาะส่วนตัว โดยเกาะแห่งนี้เป็นเกาะแฝด แบ่งออกเป็นเกาะเหลาเหลียงพี่ และเกาะเหลาเหลียงน้อง โดยบนเกาะเหลาเหลียงพี่จะเป็นที่พักชั่วคราวของชาวประมงสำหรับหลบลมและพักอาศัยเวลาออกทะเล เกาะนี้เป็นสัมปทานรังนก สามารถเดินเที่ยวชมพื้นที่หาดบนเกาะได้ แต่ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวพักค้างคืนบนเกาะ ส่วนเกาะเหลาเหลียงน้องมีหน้าผาสูงกว่าร้อยเมตร หาดทรายขาวสะอาด และมีแนวปะการังที่สวยงามอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของเกาะ มีทั้งดอกไม้ทะเล ฝูงปลาการ์ตูน เหมาะสำหรับการดำน้ำตื้น บนเกาะนี้มีที่พักเอกชนเพียงแห่งเดียวบนเกาะ คือ เหลาเหลียงบีช โดยต้องสำรองที่พักล่วงหน้าก่อนเดินทาง
เกาะเหลาเหลียงจะปิดการท่องเที่ยวเป็นประจำทุกปีในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม เพราะเป็นช่วงมรสุมและเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ รวมทั้งที่พักบนเกาะเหลาเหลียงน้องด้วย โดยจะเปิดเกาะให้ท่องเที่ยวอีกครั้งในช่วงเดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคมเท่านั้น

เกาะบุโหลน หรือหมู่เกาะบุโหลน
อีกหนึ่งหมู่เกาะงามปลายด้ามขวานแห่งท้องทะเลไทยฝั่งอันดามัน ตั้งอยู่ห่างจากท่าเรือปากบาราประมาณ 22 กม. ประกอบด้วย 5 เกาะ กับ 1 หิน ได้แก่ เกาะบุโหลนเล (บือซาค), เกาะบุโหลนดอน (ดางาด), เกาะบุโหลนไม้ไผ่ (ตืองะ), เกาะบุโหลนรัง (ซารัง), เกาะบุโหลนไก่ (อายำ) และหินขาว (กองหินขาว) ซึ่งเกาะบุโหลนนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงามพิสุทธิ์ และคงไว้ด้วยวิถีชาวชุมชน (บนเกาะ) อันเรียบง่าย จนมีคนเปรียบเปรยว่า เกาะบุโหลนคือเกาะสมุย ย้อนไปเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว คือเกาะพีพี ย้อนไปเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว คือเกาะหลีเป๊ะ ย้อนไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความเงียบสงบ เข้าถึงธรรมชาติอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ที่เกาะบุโหลนยังถือเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก เพราะมีจุดดำน้ำดูปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้น้ำที่โดดเด่นอย่าง หินขาว บริเวณนี้มีโลกใต้ทะเลที่งดงาม อุดมสมบูรณ์ และโดดเด่นไปด้วยปะการังเจ็ดสี หรือแนวปะการังอ่อนหลากสีอันสวยงาม คล้ายกับร่องน้ำจาบังของหมู่เกาะตะรุเตา

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ไปช่วงไหน
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ตั้งอยู่ในเขตโซนร้อน เลยทำให้มีฤดูฝนยาวนานและกระจายตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่เยอะหน่อยคือตั้งแต่เดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนตุลาคม และสิ้นเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม ปริมาณฝนจะลดลง แต่ในส่วนฤดูร้อนนั้นจะมีช่วงสั้น ๆ คือระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะที่สุดในการมาเที่ยวทะเลที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา
ค่าธรรมเนียมในการเข้าชมอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา
ในการเข้าชมอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา จะมีค่าธรรมเนียมดังนี้
-
ผู้ใหญ่ คนละ 20 บาท / เด็ก คนละ 10 บาท / ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ฟรี
-
รถยนต์ คันละ 30 บาท / มอเตอร์ไซค์ คันละ 20 บาท / จักรยาน ฟรี

ภาพจาก เฟซบุ๊ก สำนักอุทยานแห่งชาติ - National Parks of Thailand

ภาพจาก เฟซบุ๊ก สำนักอุทยานแห่งชาติ - National Parks of Thailand
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ที่พัก
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา มีบ้านพักพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งเครื่องนอน เครื่องปรับอากาศ พัดลม โทรทัศน์ เครื่องทำน้ำอุ่น และห้องน้ำรวม รวมถึงยังมีจุดกางเต็นท์บริการนักท่องเที่ยว ราคาตั้งแต่ 600-2,400 บาท โดยสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว หรือเฟซบุ๊กของอุทยาน
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา การเดินทาง
การเดินทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา โดยทางรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร จากนั้นสามารถไปได้ 2 เส้นทาง ดังนี้
-
ไปตามทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านจังหวัดนครศรีธรรมราชและพัทลุง จากพัทลุงไปตามทางหลวงหมายเลข 4 แล้วแยกขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 406 ผ่านอำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา เลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4137 ผ่านอำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล จากนั้นเลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 416 เมื่อถึงบริเวณ กม.ที่ 6-7 แยกซ้ายไปตามถนนคอนกรีตสายบ้านตะโละใส เป็นระยะทางประมาณ 1.4 กม. จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา
-
ไปตามทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช แล้วแยกขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 403 และทางหมายเลข 4 เข้าสู่จังหวัดตรัง ผ่านดำเภอย่านตาขาวไปตามทางหลวงหมายเลข 404 ก่อนถึงอำเภอปะเหลียนเลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 416 จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา
ช่องทางการติดต่ออุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา
-
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-20.00 น.
-
ที่อยู่ : 298 หมู่ 4 ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล
-
พิกัด : อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา
-
โทรศัพท์ : 0 7474 0272
-
เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา-Mu ko phetra national park
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา อาจไม่ใช่ชื่ออุทยานแห่งชาติทางทะเลที่เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวมากนัก ทว่าท้องทะเลแห่งนี้กลับมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ ประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่มากมายที่น้ำทะเลนั้นใสแจ๋วจนแทบทำให้หัวใจคนรักทะเลละลายได้ในพริบตา หากมีโอกาสได้ไปเยือนสักครั้งจะต้องตกหลุมรักและอยากกลับไปเยือนอีกอย่างแน่นอน
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
บทความ เที่ยวสตูล เที่ยวทะเล อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- ปักหมุด 15 ที่เที่ยวสตูล เพชรเม็ดงามแห่งทะเลอันดามัน
- ที่เที่ยวสตูล 2 วัน 1 คืน ไม่ลงเกาะ เข้าสวนจำปาดะ ล่องเรือดูนก-ลอดถ้ำ เดินข้ามกาลเวลา
- รู้จักอุทยานธรณีสตูล หลังประกาศเป็นอุทยานธรณีโลกแห่งแรกของไทย
- เที่ยวสตูล ลัดเลาะ 15 เกาะสวยกลางทะเลอันดามัน
- 15 เรื่องน่ารู้ก่อนเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ รู้ไว้จะได้เที่ยวเพลิน ๆ
- ปักหมุด 15 เกาะสวยในไทย 2568 ที่เที่ยวหน้าร้อนที่ไม่ควรพลาด
- ปฏิทินเที่ยวทะเล วางแพลนเที่ยวทะเลโซนไหน ควรเที่ยวเดือนไหนดี หลีกหนีมรสุม
- 10 หาดสวยในไทย เที่ยวทะเลแบบไม่ข้ามเกาะ สัมผัสบรรยากาศร่มรื่น
- 10 จุดดำน้ำดูปะการังฝั่งทะเลอันดามัน มนตร์เสน่ห์แห่งโลกใต้ทะเลแสนงดงาม
ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา-Mu ko phetra national park, เฟซบุ๊ก สำนักอุทยานแห่งชาติ - National Parks of Thailand, เว็บไซต์ สำนักอุทยานแห่งชาติ, ททท., เว็บไซต์ จังหวัดสตูล