x close

กินปลาแม่น้ำสองสี โขงสีปูน มูลสีคราม





กินปลาแม่น้ำสองสี โขงสีปูน…มูลสีคราม(ไทยโพสต์)


           มนุษย์กับสายน้ำเป็นของคู่กัน สมัยก่อนการเลือกตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนมักจะต้องเลือกจุดที่มีแหล่งน้ำใช้  แหล่งน้ำกินเป็นหลัก เพราะขาดอาหารเรายังสามารถมีชีวิตอยู่ได้ต่อ แต่ถ้าขาดน้ำไม่กี่วันรับรองตายเอาง่าย ๆ

           นอกจากแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของคนภาคกลางแล้ว แม่น้ำโขงยังเป็นแม่น้ำสายนานาชาติ ไหลผ่านดินแดนของประเทศต่างๆ ถึง 6 ประเทศ คือ จีน พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม และประเทศไทย ในเมืองไทย แม่น้ำโขงไหลเลาะเลียบผ่านจังหวัดเชียงราย น่าน เลย หนองคาย นครพนม มุกดาหาร และอุบลราชธานี โขงเจียม เป็นอำเภอเล็กๆ ใน จ.อุบลราชธานี มีสถานที่ท่องเที่ยวและจุดชมความงามของแม่น้ำโขงที่สวยและสำคัญที่สุด เสน่ห์ของที่นี่อยู่ที่ความเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามและเรื่องราวของประวัติศาสตร์

           ไฮไลต์สำคัญคือจุดบรรจบกันระหว่างแม่น้ำโขงและแม่น้ำมูล เกิดเป็น "แม่น้ำสองสี" ที่ปรากฏให้เห็นราวกับภาพศิลปะอีกภาพหนึ่งที่ชื่อ "โขงสีปูน. . . มูลสีคราม" ซึ่งจะเห็นชัดและงดงามในช่วงฤดูน้ำหลาก จุดที่สามารถไปชมวิวแม่น้ำสองสีได้สะดวกมี 2 แห่งด้วยกัน ได้แก่ ที่วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ซึ่งเราจะได้เห็นวิวของแม่น้ำสองสีโดยมองจากมุมสูง  และปลายถนนเลียบชายโขงริมตลิ่ง กับศาลาพักผ่อนชมวิวในบริเวณวัดโขงเจียม ซึ่งใกล้จุดบรรจบกันของแม่น้ำมากที่สุดนั่นเอง ก่อนกลับแวะสักการะพระพุทธชินราชจำลองในโบสถ์ของวัดโขงเจียม พร้อมชื่นชมศิลปะพื้นบ้านอีสานที่อุโบสถสีสดของตัววัดอีกด้วย

           สำหรับวัดถ้ำคูหาสวรรค์นั้น ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2521 โดยหลวงปู่คำคนิง จุลมณี ซึ่งเป็นพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ แม้ท่านจะมรณภาพไปนานแล้ว แต่สังขารก็ยังไม่เน่าเปื่อย ปัจจุบันแต่ละวันพุทธศาสนิกชนพากันไปกราบไหว้วันละจำนวนมาก

            นักท่องเที่ยวยังสามารถล่องเรือแม่น้ำสองสีที่โขงเจียม ทวนแม่น้ำมูลขึ้นไปชมความงามของธรรมชาติที่แก่งตะนะ หรือจะไปชมจุดสุดท้ายที่แม่น้ำโขงไหลผ่านประเทศไทย ก่อนที่จะเข้าสู่ประเทศลาว ที่บ้านเวินบึก อำเภอโขงเจียม สำหรับคำว่า "เวินบึก" นั้น คือบริเวณที่ปลาบึกว่ายเข้ามาในลำน้ำหน้าหมู่บ้าน ซึ่งเป็นจุดลึกสุดของน้ำโขง และในบริเวณนั้นเองยังเป็นจุดที่ชาวบ้านมาจับปลาบึกในฤดูกาลล่าปลาบึก
 
           เสร็จสรรพก็มุ่งสู่สถานที่ท่องเที่ยวในลำน้ำมูล โดยไปที่แก่งสะพือ แก่งหินสวยงามในลำน้ำมูล เราสามารถพักผ่อนหย่อนใจ แต่ละครอบครัวจะเอาข้าวเหนียวใส่กระติ๊บขนาดครอบครัว แล้วก็ไปหาซื้อไก่ย่าง ส้มตำ ฯลฯ ปูเสื่อนั่งเอาแถวนั้น

           ก่อนไปเขื่อนปากมูล เป็นเขื่อนหินถมแกนดินเหนียวสร้างกั้นแม่น้ำมูลที่บ้านหัวเหว่ อำเภอโขงเจียม มีความสูง 17 เมตร ยาว 300 เมตร  อำนวยประโยชน์ในด้านการเกษตรและผลิตกระแสไฟฟ้า เขื่อนปากมูลอยู่ห่างจากตัวเมืองอุบลราชธานีประมาณ 75 กม.

           ห่างจากจุดบรรจบของแม่น้ำมูลและแม่น้ำโขงประมาณ 6 กม. สันของเขื่อนปากมูลสามารถใช้เป็นเส้นทางลัดจากอำเภอโขงเจียมไปอำเภอสิรินธรได้โดยไม่ต้องย้อนไปอำเภอพิบูลมังสาหาร ดินแดนซาลาเปา

           นอกจากนี้ บริเวณท้ายเขื่อนยังสามารถล่องเรือชมทิวทัศน์ลำน้ำมูลที่งดงามโดยตลอดไปบรรจบกับแม่น้ำโขงได้ยินชื่อมานาน พอเห็นสภาพผู้คนท้องถิ่น รู้สึกได้ว่า วิถีชีวิตผูกติดอยู่กับแม่น้ำมูลอย่างมาก มีการจับปลากันเป็นชีวิตจิตใจ โดยบางครั้งมีปลามาจากน้ำโขงเข้ามาด้วย แต่พอมีเขื่อน ปลาใหญ่น้อยก็จะถูกปิดกั้น ก็เลยมีทางแก้สองทาง หนึ่งคือการเปิดเขื่อนในเดือนที่เหมาะสม และสองคือการสร้างบันไดปลาโจน เลียนแบบสภาพธรรมชาติ (ในระดับหนึ่ง) เพื่อให้ปลาทั้งหลายว่ายขึ้นมาในน้ำมูลได้ เพื่อทำให้ความอุดมสมบูรณ์ของลำน้ำมูลไม่หมดไป

           แต่หากใครจับปลาไม่เป็น แต่อยากเลือกซื้อปลาสด ๆ ก็กลับไปที่ ตลาดยามเช้าที่อำเภอโขงเจียม มีทั้งพืชผลทางเกษตรที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปตามฤดูกาล แต่ปลาชนิดต่าง ๆ ดูเหมือนจะเป็นสัญลักษณ์ของตลาดแห่งนี้ เนื่องจากมีสองสายน้ำ ลำน้ำมูลและลำน้ำโขงไหลมาบรรจบกันที่อำเภอโขงเจียม สถานที่ไปง่ายคือใกล้ตัวอำเภอ ถ.แคล้วประดิษฐ์ ริมทางหลวง 2134 บ้านด่านเก่า ต.โขงเจียม ก่อนถึงสะพานข้ามแม่น้ำมูล จะเห็นตลาดอยู่ซ้ายมือ

           ตลาดเริ่มครึกครื้นเวลา 04.00-09.00 น. ทุกวัน ผลผลิตที่นำมาขายได้แก่ปลาต่างๆ เช่น ปลาบึก ปลาตะเพียน ปลาสร้อย ปลาช่อน ปลาแขยง ปลาเทโพ ปลากด ปลาคัง ปลาม้า ปลาเนื้ออ่อน ตลอดจน กบ เขียด กิ้งก่า แย้ หนู ไข่มดแดง มาวางขายละลานตา

           หากจะไปกินอาหารยามเช้า ก็มีทั้งปาท่องโก๋ร้อน น้ำเต้าหู้ กาแฟโบราณ ชา โอวัลติน หรือหากไม่อิ่ม ต้องหาก๋วยเตี๋ยวญวนสักชามก็สบายท้องไปถึงกลางวันเลยทีเดียว หรือจะไปอีกตลาดหนึ่งคือ ท่าปลาริมโขง   ช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การเที่ยวชมคือ 06.00-08.00 น. ช่วงเดือน เม.ย. - ต.ค. จะมีปลามาขายมาก

          ที่ตั้ง :  อยู่ใต้ตัวเมือง สุดซอยฉวีวิสัย ถ.ราษฎรบำรุง บ้านด่านเก่า ทางไปร้านอาหารริมโขงและแม่น้ำสองสีซอยจะเล็กมาก ไม่มีจุดสังเกตใดๆ ปลาที่ซื้อขายส่วนใหญ่เป็นปลาขนาดใหญ่ เช่น ปลาเทโพ ปลาคัง ปลาแค้ ปลาม้า พูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวและกินปลาจนอิ่มแล้ว ก็มารู้จักกับแม่น้ำมูลกันบ้าง ซึ่งเป็นแม่น้ำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ความยาว 640 กิโลเมตร พื้นที่ลุ่มน้ำ 69,701 ตร.กม.

           ปัจจุบันชื่อของแม่น้ำสายนี้สะกด "มูล" แต่เดิมนั้นชาวบ้านในท้องถิ่นใช้คำสะกด "มูน" ซึ่งเป็นภาษาถิ่น หมายถึง สิ่งมีค่าน่าหวงแหน เป็นมรดกของบรรพบุรุษสั่งสมเก็บไว้ให้ลูกหลาน แต่ทางราชการได้กำหนดภาษาราชการตามเสียงเรียก โดยสะกด "มูล" ด้วย ล

           เส้นทางแม่น้ำมูลมีต้นกำเนิดจากเทือกเขาตอนใต้ของจังหวัดนครราชสีมา ไหลผ่านอำเภอเมือง อำเภอพิมาย อำเภอชุมพวง (จังหวัดนครราชสีมา), อำเภอสตึก (จังหวัดบุรีรัมย์ ), อำเภอท่าตูม (จังหวัดสุรินทร์), อำเภอราษีไศล อำเภอเมืองฯ และอำเภอกันทรารมย์ (จังหวัดศรีสะเกษ) บรรจบกับแม่น้ำชีบริเวณบ้านขอนไม้ยูง อำเภอวารินชำราบ (จังหวัดอุบลราชธานี) แล้วไหลผ่านอำเภอเมืองอุบลราชธานี อำเภอพิบูลมังสาหาร และไหลลงแม่น้ำโขงที่อำเภอโขงเจียม (จังหวัดอุบลราชธานี) มีความยาวทั้งหมดประมาณ 726 กิโลเมตร ลำน้ำสาขาที่สำคัญ ได้แก่ ลำตะคอง ลำพระเพลิง ลำเชียงไกร ลำปลายมาศ ลำโดมใหญ่ ลำโดมน้อย ลำน้ำเสียว ลำเซบาย และลำมูลน้อย เป็นต้น ซึ่งใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตรเป็นส่วนใหญ่

           สองฝั่งเป็นที่ราบน้ำท่วมถึงลุ่มน้ำมูลมีพื้นที่ลุ่มน้ำ 69,701 ตร.กม. หรือ 43-56 ล้านไร่ หรือ 13.6% ของพื้นที่ลุ่มน้ำทั้งประเทศครอบคลุมพื้นที่ 10 จังหวัด ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและบางส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง ปริมาณน้ำไหลลงสู่แม่น้ำโขงเฉลี่ยประมาณ 26,655 ล้านลูกบาศก์เมตรปี

           คนไทยเป็นคนโชคดี เมืองไทยเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ มีทุกอย่างที่เหมาะแก่การพำนัก มีเสน่ห์เป็นที่ดึงดูดใจในการชวนให้เราไปท่องเที่ยว ลำพังเที่ยวเมืองไทย เที่ยวอย่างไรก็เที่ยวไม่หมด แต่ถ้าเราไม่รีบท่องคาถากำกับว่า "ท่องเที่ยวสดใส ต้องใส่ใจสิ่งแวดล้อม" อันเป็นแนวคิดหลักที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยออกมารณรงค์ เป็นการท่องเที่ยวในอารมณ์แบบกรีนๆ บางทีก็เรียกว่าเที่ยวแบบ 7 Greens  7 -11 มีของกินของใช้ที่แปรรูปมาแล้ว ป้อนให้ถึงปาก
 
           แต่ถ้าใครอยากเห็นธรรมชาติสด ๆ และบริสุทธิ์ อันเป็นสิ่งที่มีเงินก็หาซื้อไม่ได้นอกจากต้องลงมือทำและรักษากันไว้ ก็ต้องใช้แนวคิด 7 Greens เข้ามาช่วย แล้วเราจะได้เห็นโขงสีปูน….มูลสีคราม ที่บางคราวขุ่น บางครั้งใส แต่สะอาดและเป็นธรรมชาติแท้ ๆ เราได้เห็นแล้วในยุคเรา อย่าลืมรักษาไว้เผื่อรุ่นลูกหลานของเราด้วย

               

ขอขอบคุณข้อมูลจาก




                        


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กินปลาแม่น้ำสองสี โขงสีปูน มูลสีคราม อัปเดตล่าสุด 9 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 16:00:01 2,789 อ่าน
TOP