แนะนำ 5 ที่เที่ยวต่างประเทศใกล้ไทย เหมาะกับครอบครัวคนรุ่นใหม่ ไม่ใช้วีซ่า

          แนะนำเส้นทางท่องเที่ยวต่างประเทศใกล้ไทย ที่เที่ยวเองได้ง่าย ใช้เวลาเดินทางไม่นาน ว่างปุ๊บบินไปเที่ยวได้ปั๊บ เพราะเป็นประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า และยังสะดวกสบายด้วยเส้นทางบินที่มีเที่ยวบินเกือบทุกวัน ราคาคุ้มค่า เหมาะแก่การเที่ยวต่างประเทศแบบครอบครัว

          หากกำลังมองหาที่เที่ยวต่างประเทศใกล้ไทย เพื่อไปเที่ยวพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศเบา ๆ ช่วงวันหยุดยาวหรือช่วงปลายปี เรามีเส้นทางเที่ยวต่างประเทศใกล้ไทยมาแนะนำ และยังดีงามด้วยเป็นประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า เดินทางง่าย จึงตอบโจทย์สำหรับคนที่ชอบเที่ยวเอง อีกทั้งยังมีที่เที่ยวเจ๋ง ๆ ที่เหมาะกับครอบครัว มีเด็กไปด้วยก็เที่ยวได้ ที่สำคัญสะดวกสบายด้วยเส้นทางบินที่มีเที่ยวบินรองรับเกือบทุกวัน ว่าแต่จะมีที่ไหนบ้าง เราคัดมาให้แล้ว 5 ประเทศ ดังนี้

1. ประเทศสิงคโปร์

          จุดหมายปลายทางยอดนิยมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศเล็ก ๆ ที่มีสิ่งที่น่าสนใจรออยู่มากมาย ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ นั้นก็ล้วนอยู่ระดับแนวหน้าของโลก และยังแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร มีหลากหลายประเภท การเดินทางสะดวกสบาย ปลอดภัย เที่ยวเองได้ ผู้คนน่ารัก ที่สำคัญคือเป็นประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า ที่นี่จึงเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวของคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะการท่องเที่ยวต่างประเทศแบบครอบครัว ไปถึงสิงคโปร์ก็ต้องไปถ่ายรูปคู่กับเมอร์ไลออน แต่นอกจากรูปปั้นสิงโตพ่นน้ำนี้แล้ว ยังมีที่เที่ยวสิงคโปร์อันตื่นตาตื่นใจอีกหลายแห่ง ดังนี้
  • Jewel Changi Airport

    สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของสิงคโปร์ ที่กำลังเป็นที่พูดถึงไปทั่วโลก Jewel Changi Airport คือ ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่อยู่ภายในสนามบินชางงี มีการออกแบบภายในที่แปลกแตกต่างไม่เหมือนใคร เนรมิตน้ำตกขนาดใหญ่ให้ไหลจากเพดานโดมสูงกว่า 40 เมตร และยังมีการตกแต่งสวนด้านในด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาพรรณให้เป็นสวนสไตล์ทรอปิคอล พร้อมด้วยสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Canopy Park, Canopy Bridge, Manulife Sky Nets - Bouncing, Manulife Sky Nets - Walking, Hedge Maze และ Shiseido Forest Valley เป็นต้น และยังมีร้านอาหาร ร้านค้าแบรนด์ดัง พร้อมทั้งบริการต่าง ๆ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ jewelchangiairport.com

ภาพจาก Square Box Photos / Shutterstock.com

  • ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ (Universal Studio Singapore)

    สวนสนุกครบวงจรของสตูดิโอสุดโด่งดังอย่างยูนิเวอร์แซล ที่เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่นสุดหวาดเสียว การแสดงโชว์สุดตระการตา ถนนแห่งความบันเทิง ศูนย์การค้าที่เต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนมระดับโลก ร้านอาหารหลากหลายสไตล์ และโรงแรมที่พักที่มีการดีไซน์โดดเด่น มาที่เดียว ครบจบทุกความสนุก ซึ่งความสนุกเหล่านี้จากยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ ค่าเข้าก็เริ่มต้นอยู่ที่ 79 ดอลลาร์สิงคโปร์เท่านั้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ rwsentosa.com
  • การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Gardens by the Bay)

    สวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่อันเป็นแลนด์มาร์กสำคัญอีกแห่งของสิงคโปร์ โดดเด่นด้วยซูเปอร์ทรี โครงสร้างต้นไม้แห่งอนาคตขนาดสูงใหญ่ระหว่าง 25-50 เมตร เทียบเท่ากับตึกสูง 9-15 ชั้น ตกแต่งด้วยไม้ประดับนานาชนิด มีทางเดินลอยฟ้า OCBC ระยะทาง 128 เมตร เชื่อมระหว่างต้นซูเปอร์ทรี (Supertrees) ยามค่ำคืนห้ามพลาดกับการแสดงแสงสีสวยงามตระการตา

         นอกจากนี้ยังมี Floral Fantasy โดมที่ตกแต่งประดับประดาไปด้วยดอกไม้หลากสีสัน พร้อมทั้ง Flower Dome, Cloud Forest, Art Sculptures และสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ ให้เที่ยวชมอีกมากมาย

          การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00-02.00 น. ในโซนด้านนอก ส่วนโซนอื่น ๆ จะมีเวลาเปิด-ปิดแตกต่างกันออกไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ gardensbythebay.com.sg

  • พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และศิลปะ (ArtScience Museum Singapore)

    จุดเช็กอินที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ด้วยมีผลงานศิลปะที่สอดแทรกไปกับหลักการวิทยาศาสตร์ที่น่าสนใจมากมาย เริ่มความน่าสนใจด้วยอาคารที่มีสถาปัตยกรรมคล้ายกับนิ้วมือทั้งสิบริมอ่าวมารีน่าเบย์ อันสื่อถึงการโบกมือต้อนรับสู่สิงคโปร์ ซึ่งสามารถกรองแสงธรรมชาติได้ ทำให้การจัดแสดงงานต่าง ๆ จะอยู่ภายใต้แสงธรรมชาติที่งดงาม

    ด้านในก็มีการจัดแสดงผลงานทั้งแบบถาวรและชั่วคราว แต่ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในขณะนี้ก็คือผลงานอาร์ตเวิร์กจาก teamLab ที่ชื่อว่า Future World ซึ่งนำเสนองานศิลปะผ่านระบบแสงดิจิทัลและงานศิลปะแบบติดตั้ง เกิดเป็นภาพกราฟิกที่สวยงามแปลกตา ผู้ใหญ่ตื่นตา เด็กเที่ยวสนุก ถ่ายรูปเพลิน

ภาพจาก Creativa Images / Shutterstock.com

          ArtScience Museum Singapore เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ให้เข้าชมเป็นรอบ ได้แก่ 10.00 น., 11.00 น., 13.00 น., 14.30 น., 16.00 น. และ 17.30 น. ราคาเริ่มต้นที่ 18 ดอลลาร์สิงคโปร์ (สำหรับตั๋วออนไลน์ล่วงหน้า) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ marinabaysands.com และ เฟซบุ๊ก ArtScience Museum  
  • ถนนฮาจิเลน (Haji Lane)

    ตั้งอยู่ระหว่าง North Bridge Rd. กับ Beach Rd. เป็นถนนเส้นเล็ก ๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพียงก้าวแรกที่เดินเข้าสู่ถนนเส้นนี้ก็จะรู้สึกได้ถึงความสนุกสนาน ด้วยอาคารบ้านเรือนสไตล์โคโรเนียลหลากสีสัน และผลงานสตรีตอาร์ตที่มีชีวิตชีวา พร้อมด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และร้านกาแฟชิค ๆ มากมาย คึกคักทั้งกลางวันและค่ำคืน อีกทั้งยังเที่ยวเชื่อมต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในย่านกัมโปงกลาม (Kampong Glam) ได้อีกด้วย

ภาพจาก Klanarong Chitmung / Shutterstock.com

+ ระยะเวลาพำนักในประเทศสิงคโปร์โดยไม่ต้องใช้วีซ่า : ไม่เกิน 30 วัน
+ การเดินทางไปสิงคโปร์กับสายการบินสกู๊ต : เส้นทางบินกรุงเทพฯ - สิงคโปร์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ flyscoot.com

2. มาเก๊า

          ลาสเวกัสแห่งเอเชีย เมืองเล็ก ๆ ที่มีแสงเปล่งประกายอยู่ตลอดเวลา ผสมผสานไว้ทั้งกลิ่นอายของตะวันออกและตะวันตก โดดเด่นด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และเป็นศูนย์รวมความบันเทิงที่อยู่อันดับต้น ๆ ของเอเชีย มีที่เที่ยวมาเก๊าที่สามารถรองรับได้ทั้งเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ บรรยากาศของเมืองละมุนกำลังพอดี ไม่เงียบเหงาแต่ก็ไม่วุ่นวายจนเกินไป มีมุมให้ได้เดินเที่ยวชิล ๆ สูดลมหายใจยาว ๆ สลับกับแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอยู่เป็นระยะ

          เที่ยวมาเก๊าด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ เพราะมีระบบขนส่งสาธารณะที่เอื้อต่อการท่องเที่ยว และยังเชื่อมต่อไปยังฮ่องกงได้ มีสนามบินของตัวเอง ผู้คนน่ารักและพูดภาษาอังกฤษได้ดี คนไทยไม่ต้องขอวีซ่า มีพาสปอร์ตที่เหลืออายุการใช้งานมากกว่า 6 เดือน ก็สามารถบินไปเที่ยวได้เลย ทั้งนี้ก็มีจุดเช็กอินที่เป็นแลนด์มาร์กที่ไม่ควรพลาด ดังนี้

  • เวเนเชียน (The Venetian Macao Resort Hotel) และหอไอเฟลจำลอง (Eiffel Tower)

    ที่เที่ยวที่ถูกพูดถึงมากที่สุดแห่งหนึ่งในมาเก๊า สำหรับเวเนเชียนมีลักษณะเป็นคอมเพล็กซ์ความบันเทิงขนาดใหญ่ ตกแต่งอย่างสวยงามสไตล์อิตาเลียน รวบรวมไว้ทั้งโรงแรมระดับเวิลด์คลาส ร้านอาหารหรู กาสิโน และศูนย์การค้าที่มีแบรนด์ดังระดับโลก โดยจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูปก็คือ Grand Canal Shoppes เป็นชั้นศูนย์การค้าขนาดกว้างใหญ่ ตกแต่งบรรยากาศให้คล้ายกับเมืองเวนิส เจ้าเรือกอนโดลา มาเก๊า ก็อยู่ที่นี่นั่นเอง สามารนั่งล่องเรือชมวิวร้านค้าแบรนด์ดังต่าง ๆ ได้ด้วย


    ในส่วนของ Grand Canal Shoppes เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-23.00 น. วันศุกร์-เสาร์ จะเปิดถึง 24.00 น. เข้าชมฟรี ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ venetianmacao.com

          ถัดมาจากโรงแรมเวเนเชียน ที่ใกล้ ๆ กันนั้นจะเป็นหอไอเฟลจำลองขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ด้านหน้า Hotel Parisian มีจุดชมวิวอยู่ด้านบน ซึ่งสามารถมองเห็นมาเก๊ามุมสูงได้ไกลสุดลูกหูลูกตาในมุมมอง 360 องศา พอตกเย็นแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ก็จะมีการแสดงไฟให้ได้ชมตลอดค่ำคืน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ parisianmacao.com

  • เซนาโด สแควร์ (Senado Square) และซากอาสนวิหารนักบุญเปาโล (Ruins of St. Paul's)

    แลนด์มาร์กสำคัญของมาเก๊า ตั้งอยู่ในโซนกลางของคาบสมุทรมาเก๊า โดยเซนาโด สแควร์ เป็นย่านการช้อปปิ้งที่สวยหรูไปด้วยอาคารสไตล์ยุโรป ปูทางเดินด้วยกระเบื้องลวดลายสวยงาม มีน้ำพุอยู่ตรงกลาง บรรยากาศราวกับจัตุรัสยอดนิยมในยุโรป ทั้งสองฟากฝั่งเป็นร้านค้าแบรนด์เนมระดับโลก สลับคั่นด้วยร้านค้าท้องถิ่นชื่อดังและร้านอาหารอร่อย ๆ มากมาย

          หากเดินลึกเข้าไปยังด้านในก็จะเชื่อมต่อไปถึงซากอาสนวิหารนักบุญเปาโล ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ปัจจุบันเหลือเพียงซากกำแพงด้านหน้าที่ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงความงดงามและยิ่งใหญ่ของอาสนวิหารแห่งนี้ในอดีตได้อย่างดี ควรค่าแก่การเป็นหนึ่งในมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก

  • มาเก๊า ทาวเวอร์ (Macau Tower)

    หอคอยชมวิวสูงกว่า 338 เมตร ตั้งอยู่ริมทะเล Outer Harbour โดยจุดชมวิวจะอยู่ที่ชั้น 58 สามารถมองเห็นวิวได้ 360 องศา แต่ไฮไลต์เด็ดที่ถูกพูดถึงไปทั่วโลก จะอยู่ที่ชั้น 61 ซึ่งเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวที่ชอบความท้าทายสามารถเดินไต่เวหานอกอาคาร รวมทั้งเล่นบันจี้จั๊มพ์ได้ด้วย

          มาเก๊า ทาวเวอร์ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 165 ปาตากามาเก๊า เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์เปิดตั้งแต่เวลา 09.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ macautower.com.mo
  • หมู่บ้านโคโลอาน (Coloane)

    หมู่บ้านเล็ก ๆ ริมชายฝั่งทะเลจีนใต้ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของย่านโคโลอาน โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียล สีสันสวยงามเย็นสบายตา บรรยากาศเงียบสงบ มีจุดเช็กอินให้เดินเที่ยวถ่ายรูปไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์คาทอลิกสีเหลืองสดใสสะดุดตา ห้องสมุดเล็ก ๆ เสน่ห์ล้นเหลือ หรือแม้กระทั่งร้านทาร์ตไข่ชื่อดังอย่าง Lord Stow's Cafe สาขาแรกของมาเก๊า

  • ศูนย์วิทยาศาสตร์มาเก๊า (Macao Science Center)

    พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แนวหน้าของเอเชีย น่าสนใจตั้งแต่สถาปัตยกรรมทรงกรวยสีเงิน อันสะท้อนให้นึกถึงโลกแห่งอนาคต ด้านในประกอบด้วยการจัดแสดงงานวิทยาศาสตร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ มีอุปกรณ์จอภาพที่มีความละเอียดสูงอันดับ 3 ของโลก พร้อมด้วยยานอวกาศเสินโจว 7 จำลอง และหุ่นยนต์อัตโนมัติ
          ศูนย์วิทยาศาสตร์มาเก๊า เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวันศุกร์-พุธ (ปิดวันพฤหัสบดี) ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. ราคาเริ่มต้น 25 ปาตากามาเก๊า ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ msc.org.mo
+ ระยะเวลาพำนักในมาเก๊าโดยไม่ต้องใช้วีซ่า : ไม่เกิน 30 วัน
+ การเดินทางไปมาเก๊ากับสายการบินสกู๊ต : เส้นทางบินกรุงเทพฯ - มาเก๊า ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ flyscoot.com

3. เกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย

          จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวสายชิล ปีนัง (Penang) เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อยู่ห่างจากอำเภอเบตง จังหวัดยะลา เพียงแค่ 100 กว่ากิโลเมตร และอยู่ห่างจากอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ประมาณ 200 กิโลเมตรเท่านั้น เป็นแหล่งท่องเที่ยวต่างประเทศที่นอกจากจะไม่ไกลจากไทยแล้ว ก็ยังมีบรรยากาศอบอุ่น ผู้คนเป็นมิตรเสมือนพี่น้องกับคนไทย มีที่เที่ยวปีนังครบรส ทั้งที่เที่ยวธรรมชาติและวัฒนธรรม พร้อมด้วยจุดถ่ายภาพสตรีตอาร์ต ร้านอาหาร ร้านกาแฟเก๋ ๆ และจุดชมวิวสวย ๆ เดินทางเที่ยวง่าย มีสนามบินรองรับ มีเวลาน้อยก็เที่ยวได้ ไม่ต้องใช้วีซ่า เหมาะกับการเที่ยวแบบครอบครัว สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลต์ มีดังนี้
  • จอร์จทาวน์ (George Town)

    เขตเมืองเก่าอันล้ำค่าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก แปลกแตกต่างไม่เหมือนใครด้วยอาคารบ้านเรือนสไตล์โคโรเนียลที่ตั้งเรียงรายทอดยาวไปทั่วทั้งเมืองเก่า ซึ่งมีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 มีรูปแบบการดีไซน์และตกแต่งที่สวยงาม สีสันสดใส กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งด้วยการเปิดประตูบ้านและเนรมิตพื้นที่ด้านในให้กลายเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และที่พักสุดอบอุ่น เพิ่มความสนุกด้วยผลงานสตรีตอาร์ต ปีนัง ของคนรุ่นใหม่ เดินเที่ยวก็เพลิน ถ่ายรูปก็ฟิน

ภาพจาก Joey Santini / Shutterstock.com

  • ปีนัง ฮิลล์ (Penang Hill)

    ยอดเขาสูงบนเกาะปีนัง อันมีจุดชมวิวที่สวยตระการตาที่ความสูงราว ๆ 833 เมตร จากระดับน้ำทะเล มองเห็นได้ทั้งวิวบนเกาะปีนังและฝั่งแผ่นดินใหญ่ อีกทั้งยังมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจกระจายตัวอยู่รอบ ๆ ไม่ว่าจะเป็น Sky Walk, Sky Deck, The Habitat, Heritage Post Box, EL Walk และ Penang Hill Mosque เป็นต้น นอกจากนี้ก็ไม่ควรพลาดกับการนั่งรถรางไฟฟ้า ที่จะพานักท่องเที่ยวค่อย ๆ ไต่ระดับความลาดชันของเนินเขาขึ้นไปยังจุดชมวิวด้านบนสุด ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ penanghill.gov.my

  • ชิว เจตตี (Chew Jetty)

    หมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ริมฝั่งทะเลทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะปีนัง อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวบรรยากาศสบาย ๆ ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวได้มาลองสัมผัสกับวิถีชีวิตของคนปีนังในอีกมุมมอง ภายในชุมชนมีร้านอาหารท้องถิ่นให้ได้เดินทอดน่องลิ้มลองชิมของกินอร่อย ๆ ที่ด้านในสุดก็จะเป็นวิวของท้องทะเลกว้าง ดูสบายตา ลมพัดเย็นตลอดทั้งวัน

  • เก็กลกสี่ (Kek Lok Si)

    วัดจีนที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย ตั้งอยู่บนเนินเขาในเขตอีร์ อิตัม (Air Itam) สร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 19 มีสถาปัตยกรรมสไตล์จีนที่สวยงามอลังการ ที่เห็นโดดเด่นคือ “เจดีย์ 7 ชั้น” หรือเจดีย์พระพุทธเจ้า 10,000 พระองค์ โดยด้านในจะมีพระพุทธรูปสง่างามทั้งหมด 10,000 องค์ พร้อมด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ และภายในวัดยังมีรูปหล่อเจ้าแม่กวนอิมสำริดสูงกว่า 30 เมตร ให้ได้ไปกราบไหว้ขอพรด้วย ที่นี่เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-17.30 น. เข้าชมฟรี

  • เอสเคป ธีมปาร์ก (ESCAPE Theme Park)

    ตั้งอยู่ใกล้กับ Teluk Bahang Dam เป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ที่มีสิ่งที่น่าสนใจรออยู่เพียบ และยังตอบโจทย์กับการท่องเที่ยวแบบครอบครัว เพราะครบถ้วนไปด้วยเครื่องเล่นและกิจกรรมที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นสวนน้ำที่มีเครื่องเล่นสนุก ๆ และกำลังจะมีสไลเดอร์ที่ยาวที่สุดในโลก ซิปไลน์กับการห้อยโหนปีนป่ายบนต้นไม้ยักษ์ ซึ่งมีฐานรองรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ความปลอดภัยมาตรฐานสากล และกิจกรรมแบบแอดเวนเจอร์อีกนับไม่ถ้วน
          เอสเคป ธีมปาร์ก เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. ค่าบัตรเข้าชมเริ่มต้นที่ 147 ริงกิตมาเลเซีย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ escape.my
+ ระยะเวลาพำนักในปีนังโดยไม่ต้องใช้วีซ่า : ไม่เกิน 30 วัน
+ การเดินทางไปปีนังกับสายการบินสกู๊ต : เส้นทางบินกรุงเทพฯ - ปีนัง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ flyscoot.com

4. เมืองไทเป ไต้หวัน

          เมืองที่ได้ชื่อว่าศิวิไลซ์ที่สุดของไต้หวัน ซึ่งเป็นทั้งเมืองหลวง ศูนย์รวมเศรษฐกิจ การศึกษา การเดินทาง และการท่องเที่ยวที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมและสมัยใหม่ให้เข้ากันได้อย่างลงตัว และยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารนานาชนิด รสชาติอร่อยถูกปากคนไทย คุณภาพอัดแน่น แต่ราคาเบา ๆ เป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวสายกินอย่างแท้จริง

          อีกทั้งไทเปยังมีค่าครองชีพเทียบเท่ากับไทย การเดินทางสะดวกสบายด้วยระบบขนส่งสาธารณะสุดทันสมัย เข้าถึงทุกแหล่งท่องเที่ยวแลนด์มาร์ก รองรับผู้โดยสารทุกรูปแบบ การเดินทางไป-มาระหว่างสนามบินก็ง่ายดาย มีเที่ยวบินทุกวัน อยู่ในระหว่างการยกเว้นการตรวจลงตราวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ใจพร้อมเมื่อไรก็จับมือสมาชิกในครอบครัวไปเที่ยวได้เลย ที่เที่ยวไทเปที่อยากจะแนะนำ ดังนี้

  • ไทเป 101 (Taipei 101)

    ตึกสูงระฟ้าที่สูงที่สุดในไต้หวัน มีความสูงมากกว่า 500 เมตร มีทั้งหมด 101 ชั้นที่อยู่เหนือพื้นดิน และ 5 ชั้นที่อยู่ใต้ดิน เป็นอาคารที่มีลิฟต์เร็วที่สุดในโลก ด้วยความเร็ว 1,010 เมตร/นาที โดยด้านในมีทั้งสำนักงาน ร้านค้า ร้านอาหาร แกลลอรี่ และจุดชมวิวบนความสูงมากกว่า 400 เมตร ซึ่งสามารถมองเห็นวิวไทเปได้ไกลสุดลูกหูลูกตาในมุมมอง 360 องศา ทั้งนี้ในช่วงเทศกาลสำคัญก็มีการจัดแสดงดอกไม้ไฟสุดตระการตา ที่ยิงออกมาจากตัวตึกให้ได้ชมกันด้วย

          ไทเป 101 เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-22.00 น. ค่าเข้าชมจุดชมวิว เริ่มต้น 600 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ taipei-101.com.tw
  • จิ่วเฟิ่น (Jiufen)

    แลนด์มาร์กโดดเด่นแห่งไต้หวัน ห่างจากเมืองไทเปราว ๆ 40 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นหมู่บ้านเก่าแก่บนยอดเขาของเมืองนิวไทเป งดงามไปด้วยอาคารบ้านเรือนสไตล์จีนโบราณที่ตั้งลดหลั่นกันลงมาตามเนินเขา ภายในหมู่บ้านมีร้านอาหาร ร้านค้า ร้านขายของที่ระลึกมากมาย พร้อมทั้งมีจุดชมวิวมองเห็นท้องทะเลและภูเขากว้างใหญ่ บรรยากาศดี อากาศเย็นสบาย เที่ยวได้ทุกวัน

  • อนุสรณ์สถานเจียง ไคเช็ก (Chiang Kai Shek Memorial Hall)

    สถานที่ท่องเที่ยวที่มีการพูดถึงไม่น้อยหน้าไปกว่าที่เที่ยวอื่น ๆ ของไทเป ด้วยมีสถาปัตยกรรมที่ใหญ่โตโอ่โถง อยู่ในพื้นที่เดียวกับ Liberty Square Arch ซึ่งมีพื้นที่กว่า 240,000 ตารางเมตร โดยอาคารอนุสาวรีย์เจียง ไคเช็ก จะมีลักษณะเป็นอาคารสีขาว หลังคาแปดเหลี่ยมแบบจีนสีน้ำเงิน มีบันไดทางขึ้น 89 ขั้น ด้านบนเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์เจียง ไคเช็ก ส่วนด้านล่างจะเป็นพิพิธภัณฑ์และห้องสมุด นอกจากนี้ในบริเวณเดียวกันยังประกอบไปด้วยสวนสวยกว้างขวางและโรงละครแห่งชาติ มีสถาปัตยกรรมแบบจีนที่สวยงามไม่แพ้กัน

          อนุสรณ์สถานเจียง ไคเช็ก เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. ไม่มีค่าเข้าชม
  • สวนสัตว์ไทเป (Taipei Zoo)

    สวนสัตว์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาทางตอนใต้ของไทเป มีพื้นที่มากกว่า 165 เฮกตาร์ มีบรรยากาศแบบป่าทรอปิคอล พร้อมด้วยส่วนจัดแสดงสัตว์นานาชนิด อีกทั้งยังมีการแสดงโชว์และกิจกรรมสนุกสนานให้ได้ร่วมสนุกเพียบ สิ่งที่ห้ามพลาดของที่นี่ เช่น ส่วนจัดแสดงสัตว์ท้องถิ่นฟอร์โมซาน, ส่วนจัดแสดงแพนด้า และโดมนก

          สวนสัตว์ไทเป เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. ค่าเข้าชมเริ่มต้น 60 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ zoo.gov.taipei
  • กระเช้าไฟฟ้าเมากง (Maokong Gondola)

    กระเช้าไฟฟ้าที่จะพาขึ้นไปยังพื้นที่บนเขาเมากง อันเป็นเขตที่มีการปลูกชามากที่สุดของไต้หวัน โดยมีระยะทางทั้งหมดราว ๆ 4.03 กิโลเมตร จุดที่สูงที่สุดอยู่ที่ 299.3 เมตร จากระดับน้ำทะเล โดยความน่าสนใจของที่นี่อยู่ตรงที่วิวทิวทัศน์ระหว่างทาง ที่สามารถมองเห็นเมืองไทเปมุมสูงและป่าเขาโดยรอบได้อย่างกว้างไกล สวยงาม และน่าตื่นตาตื่นใจ เมื่อขึ้นมาถึงด้านบนแล้ว ก็ยังมีร้านอาหารวิวสวยไว้บริการอีกด้วย
          กระเช้าไฟฟ้าเมากง เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวันอังคาร-อาทิตย์ และวันจันทร์ต้นเดือน วันอังคาร-พฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-22.00 น. วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-22.00 น. และวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.30-21.00 น. เริ่มต้นที่ 70 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ gondola.taipei
  • Huashan 1914 Creative Park

    ศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ ที่จัดแสดงผลงานศิลปะในรูปแบบต่าง ๆ โดยได้เนรมิตโรงผลิตไวน์เก่าแก่ให้กลายเป็นจุดศูนย์รวมของคนรุ่นใหม่ที่มีแนวความคิดไอเดียแปลกใหม่ มีทั้งแกลลอรี่ ร้านขายของที่ระลึก ร้านจำหน่ายสินค้าคราฟต์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ สวนหย่อม ผลงานศิลปะแบบจัดวาง และที่ไม่ควรพลาดคือ การถ่ายรูปชิค ๆ กับอาคารเก่าที่ถูกปกคลุมไปด้วยไม้เลื้อยสีเขียวขจีดูสดชื่น

+ ระยะเวลาพำนักในไต้หวันโดยไม่ต้องใช้วีซ่า : ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2562 - 31 กรกฎาคม 2563 สามารถพำนักอยู่ได้ 14 วัน
+ การเดินทางไปไต้หวันกับสายการบินสกู๊ต : เส้นทางบินกรุงเทพฯ - ไทเป ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ flyscoot.com

5. ฮานอย ประเทศเวียดนาม

          เมืองสำคัญทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจากนครโฮจิมินห์ เสน่ห์ของฮานอยอยู่ตรงที่เป็นเมืองที่มีบรรยากาศกำลังพอดี ไม่วุ่นวาย แต่ก็ไม่เงียบจนเกินไป อีกทั้งแหล่งท่องเที่ยวฮานอยยังมีหลากหลายสไตล์ ไม่ถึงกับหวือหวาแต่ก็น่าสนใจไม่น้อย และยังอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของประเทศเวียดนามหลายแห่ง มีค่าครองชีพไม่แพงมากนัก อาหารอร่อย เดินทางไม่ยาก ใช้เวลาบินไปเพียงราว ๆ 2 ชั่วโมง มีเวลาหยุดสั้น ๆ ก็ไปได้ ไม่ต้องเสียเวลาขอวีซ่า โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวฮานอยและพื้นที่ใกล้เคียงที่น่าสนใจที่อยากจะแนะนำ ดังนี้
  • สุสานโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Mausoleum)

    อนุสรณ์สถานที่ใหญ่ที่สุดในฮานอย เป็นสุสานของท่านโฮจิมินห์ ผู้นำคณะปฏิวัติเวียดนามคนสำคัญ ซึ่งเป็นผู้ประกาศอิสรภาพในการจัดตั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม ตัวอาคารสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1973-1975 มีสถาปัตยกรรมแบบเวียดนามสมัยใหม่ ตกแต่งด้วยหินแกรนิตสีเทา สูง 21.6 เมตร และกว้าง 41.2 เมตร รายล้อมไปด้วยสวนที่มีต้นไม้น้อยใหญ่มากกว่า 250 ชนิด เปิดให้เข้าเที่ยวชมด้านในได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. (วันจันทร์จะปิดตั้งแต่ 11.00 น.) แต่งดการถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอ

  • ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม (Hoan Kiem Lake)

    เรียกอีกชื่อว่า “ทะเลสาบคืนดาบ” (Lake of the Returned Sword) เป็นทะเลสาบใจกลางเมืองฮานอย รายล้อมไปด้วยสวนสาธารณะขนาดกว้างใหญ่ และยังมีจุดที่น่าสนใจอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นวัดหง็อกเซิน ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะเล็ก ๆ ในทะเลสาบตอนเหนือ โดยมีสะพานเทฮุกสีแดงสดเป็นตัวเชื่อม, สถูปพู่กัน (Thap But) ประติมากรรมจีนที่มีรูปทรงคล้ายพู่กันโบราณ, Hoa Phong Tower ซากโบราณสถานเก่าแก่ สถาปัตยกรรมสวยงาม และหอคอยเต่า หอคอยโบราณที่ตั้งอยู่โดดเด่นกลางทะเลสาบ

  • อ่าวฮาลอง เบย์ (Halong Bay)

    อยู่ห่างจากฮานอยเพียงแค่ราว ๆ 170 กิโลเมตรเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง เป็นแหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกทางธรรมชาติที่มีวิวทิวทัศน์งดงามจับตา ด้วยภูเขาหินปูนน้อยใหญ่ที่ตั้งเรียงรายสลับซับซ้อนเป็นพื้นที่กว้างขวางในอ่าวฮาลอง ภูเขาแต่ละลูกถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้นานาพรรณสีเขียวสบายตา บางเกาะก็มีหาดทราย บางเกาะก็เป็นหน้าผาสูงชัน และบางเกาะยังเป็นที่ตั้งของถ้ำขนาดใหญ่ นอกจากการล่องเรือชมวิวรอบ ๆ อ่าวแล้ว นักท่องเที่ยวยังนิยมที่จะมานอนค้างคืนบนเรือ เพื่อสัมผัสกับธรรมชาติอย่างแท้จริงด้วย

  • ตามก๊ก (Tam Coc)

    ตั้งอยู่ในจังหวัดนินห์บินห์ ห่างจากฮานอยเพียงแค่ 100 กิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามแปลกตา โดยเฉพาะวิวของทุ่งนาสีเขียวขจีกว้าง ราวกับพรมผืนใหญ่ โอบล้อมไปด้วยเขาหินปูนมากมาย มีแม่น้ำไหลตัดผ่านกลางท้องนา นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือไปตามแม่น้ำ เพื่อสัมผัสกับความงดงามเหล่านี้ได้อย่างเต็มตา นอกจากนี้ก็ยังมีจุดชมวิวและแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง

  • ซาปา (Sa Pa)

    เมืองเล็ก ๆ บนภูเขา ห่างจากฮานอยไปทางตอนเหนือราว ๆ 300 กิโลเมตร โดดเด่นด้วยสถานที่ท่องเที่ยวภูเขาสวย ๆ มีทั้งจุดชมทะเลหมอก น้ำตก ป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ และยังเป็นจุดชมนาข้าวขั้นบันไดที่งดงามมากที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลก อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับยอดเขาฟานซีปัง ยอดเขาที่สูงที่สุดในอินโดจีน ไม่เพียงเท่านั้นที่นี่ยังมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะฤดูหนาว ที่บางปีก็หนาวถึงขั้นมีหิมะโปรยปรายลงมาเลยทีเดียว เหมาะมาก ๆ สำหรับครอบครัวที่ต้องการชาร์จพลังงานจากธรรมชาติ

+ ระยะเวลาพำนักในเวียดนามโดยไม่ต้องใช้วีซ่า : ไม่เกิน 30 วัน
+ การเดินทางไปเวียดนามกับสายการบินสกู๊ต : เส้นทางบินกรุงเทพฯ - ฮานอย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ flyscoot.com
          ทั้งหมดนี้ก็เป็นที่เที่ยวต่างประเทศใกล้ไทย ที่ตอบโจทย์สำหรับครอบครัวนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายสไตล์ไว้รองรับ ไม่ต้องยุ่งยากกับการขอวีซ่า ใช้เวลาเดินทางแป๊บเดียวเดี๋ยวก็ถึงที่หมาย สะดวกสบายด้วยเส้นทางที่มีเที่ยวบินให้บริการทุกวันจากสกู๊ต พร้อมด้วยการบริการที่อบอุ่นใจตลอดการเดินทางทั้งขาไปและขากลับ ราคาดีต่อใจเมื่อเทียบกับคุณภาพระดับพรีเมียม

          สกู๊ตได้นำทั้งเครื่องบิน Airbus 320 และเครื่องบิน 787 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินที่มีลำตัวกว้าง จึงทำให้ที่นั่งแต่ละที่กว้างตามไปด้วยมาให้บริการ แถมเครื่องบิน 787 ดรีมไลเนอร์ สามารถปรับพนักพิงศีรษะได้มากกว่าเดิม มีพื้นที่เก็บกระเป๋าที่ใหญ่ขึ้น มี Wi-Fi ออนบอร์ดทุกที่นั่ง ซึ่งความพิเศษต่าง ๆ นานานี้เราจะจ่ายในราคาเบา ๆ เท่านั้น เทียบเท่ากับการนั่งอีโคโนมีคลาสของสายการบินที่ให้บริการแบบฟูลเซอร์วิสเลย ถ้ามีใจก็ตามมาได้เลยที่ flyscoot.com

หมายเหตุ : ข้อมูลและราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2562

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
gardensbythebay.com.sg, rwsentosa.com, jewelchangiairport.com, visitsingapore.com, marinabaysands.com, ArtScience Museum, venetianmacao.com, wh.gov.mo, macautower.com.mo, msc.org.mo, macaotourism.gov.mo, malaysia.travel, escape.my, taipei-101.com.tw และ gondola.taipei
 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แนะนำ 5 ที่เที่ยวต่างประเทศใกล้ไทย เหมาะกับครอบครัวคนรุ่นใหม่ ไม่ใช้วีซ่า อัปเดตล่าสุด 27 สิงหาคม 2562 เวลา 11:44:29 49,091 อ่าน
TOP