ปัจจุบันการเดินทางท่องเที่ยว ทั่วโลกด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด และยังเที่ยวคนเดียวได้แบบสบาย ๆ ไม่มีอะไรให้น่ากลัวเลยสักนิด ส่วนหนึ่งนั้นเป็นเพราะแต่ละประเทศ แต่ละเมืองก็จะมีผู้คนที่น่ารัก เปิดใจรับนักท่องเที่ยวมากขึ้น และสามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้ดีมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยังมีอุปนิสัยที่ชอบช่วยเหลือนักท่องเที่ยว รวมทั้งมีน้ำใจ จึงทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกอบอุ่น เที่ยวได้อย่างสบายใจ และในปี 2015 นิตยสารทราเวล แอนด์ เลเชอร์ ได้ทำการสอบถามผู้อ่านถึงเมืองที่มีผู้คนที่เป็นมิตรที่สุด ซึ่ง 1 ในรายชื่อของ 30 เมืองที่ผู้คนเป็นมิตรมากที่สุดในโลก ก็มีชื่อของ "กรุงเทพมหานคร" ติดเข้าไปด้วย และทั้ง 30 เมืองนี้นอกจากจะมีผู้คนที่เป็นมิตรแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกด้วย จะมีเมืองไหนบ้างนั้น และแต่ละเมืองมีอะไรให้เราได้เที่ยวบ้าง...ไปดูกันเลยค่ะ
30. เมืองคีย์เวส (Key West) รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา (84.983 คะแนน)
เมืองคีย์เวส ไม่ได้มีดีแค่ผู้คนที่ยิ้มแย้มแจ่มใสเท่านั้น แต่ที่นี่ยังถูกล้อมรอบไปด้วยน้ำทะเลสีฟ้าใส พร้อมกับแนวปะการังสวยงามมากมาย เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่สร้างความสุขให้กับชาวฟลอริดาได้อย่างดีเยี่ยม สัมผัสท้องทะเลสีฟ้า หาดทรายขาว และวิถีชีวิตแบบสบาย ๆ ของชาวเมือง ใส่เสื้อเชิ้ตลายขวางหรือบิกินี่เดินทอดน่องไปตามชายหาด สนุกสนานกับสถานบันเทิงมากมาย นอนพักในบ้านพักตากอากาศสุดหรู หรือจะไปดำน้ำดูปะการัง และสัตว์ใต้ทะเลก็มีความสุขเช่นกัน
29. เมืองแซนตาเฟ (Santa Fe) รัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา (85.000 คะแนน)
เมืองแซนตาเฟ เป็นเมืองเล็ก ๆ ในหุบเขา มีบ้านเมืองสีน้ำตาล เป็นสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ สนุกสนานไปกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนเผ่าพื้นเมืองอินเดียนและชาวเม็กซิกัน เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ อาทิ Palace of the Governors, Bosque Redondo Memorial, Sky City Cultural Center, Santa Fe Botanical Garden เป็นต้น หรือจะไปยลเมืองเก่าแก่ Puye Cliff Dwellings ก็ได้เช่นกัน ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่ที่ท่องเที่ยวเท่านั้น ยังโดดเด่นด้วยอาหารพื้นเมืองที่ผสมผสานกันระหว่างความเป็นเม็กซิกันและอินเดียนเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว
28. เมืองลิสบอน (Lisbon) ประเทศโปรตุเกส (85.023 คะแนน)
เมืองลิสบอน เป็นเมืองหลวงของประเทศโปรตุเกส เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยอารยธรรมดั้งเดิมของยุโรปมากมาย และเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดอันดับ 2 ของยุโรป เมืองริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกแห่งนี้มีสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Jeronimos Monastery, Belem Tower, Miradouro, Gulbenkian Museum, โบสถ์เซนต์วินเซนต์, น้ำพุ Luminous, มหาวิหารเซ เป็นต้น
27. เมืองเปอร์โต วัลลาร์ตา (Puerto Vallarta) ประเทศเม็กซิโก (85.248)
เมืองริมฝั่งทะเลสุดน่ารัก มีบรรยากาศผ่อนคลาย เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของประเทศเม็กซิโก นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่นอกจากจะได้เพลิดเพลินกับชายหาดที่สวยงามแล้ว ยังจะได้ดื่มด่ำกับวิถีชีวิตและสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ของเปอร์โต วัลลาร์ตาอีกด้วย ที่เที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ The Malecon, เกาะ Rio Cuale, ตลาด The Municipal, โบสถ์ Our Lady of Guadalupe, Plaza de Armas, The Vallarta Botanical Garden เป็นต้น
26. เมืองอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) ประเทศเนเธอร์แลนด์ (85.459)
แม้ว่าอัมสเตอร์ดัมจะเป็นเมืองเล็ก ๆ แต่ก็มีเสน่ห์ไม่แพ้เมืองไหน ๆ ในเนเธอร์แลนด์ อีกทั้งยังควบตำแหน่งเป็นเมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์อีกด้วย เมืองนี้ให้ความสำคัญกับการปั่นจักรยานยิ่งกว่าคนเดินเท้าเสียอีก เราจะเห็นจักรยานอยู่ทั่วทุกมุมถนน ชาวเมืองที่นี่ใช้จักรยานเป็นพาหนะหลักในการเดินทางกันเลยทีเดียว อากาศและบรรยากาศก็เหมาะมาก ๆ สำหรับการปั่นจักรยานชิล ๆ ไปทำงาน ไปเรียน หรือท่องเที่ยวรอบเมือง เมื่อไปถึงอัมสเตอร์ดัมต้องไม่พลาดการล่องเรือในคลองเล็ก ๆ เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ โบสถ์ Oude Kerk, ย่าน Dam, ย่านตึกเก่า Begijnhof, Royal Palace Amsterdam, สะพาน Magere Brug, ตลาด Albert Cuyp เป็นต้น
25. เมืองมินนีแอโพลิส (Minneapolis) และเมืองเซนต์พอล รัฐมินนิโซตา สหรัฐอเมริกา (85.932)
ทั้ง 2 เมืองนี้มีลักษณะของเมืองที่คล้ายกัน การเติบโตทางเศรษฐกิจ และการปกครองเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะตั้งอยู่ใกล้กัน แต่เมืองมินนีแอโพลิสจะโดดเด่นในเรื่องของที่เที่ยวธรรมชาติ มีสวนสาธารณะและทะเลสาบเต็มไปหมดทั่วทั้งเมือง มีบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การขี่จักรยานท่องเที่ยวรอบ ๆ เมือง สามารถดื่มด่ำกับความสวยงามยามค่ำคืนของทั้งสองเมืองได้จากฝั่งแม่น้ำมิสซิสซิปปี
24. เมืองโคเปนเฮเกน (Copenhagen) ประเทศเดนมาร์ก (85.960 คะแนน)
อีกหนึ่งเมืองหลวงสุดน่ารักของโลก เมืองนี้โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมดั้งเดิม เป็นเมืองเก่าแก่ของยุโรปเลยทีเดียว การจัดสรรบ้านเมืองอย่างเป็นระเบียบทำให้เมืองแห่งนี้เหมาะที่จะขี่จักรยานมาก ๆ ที่เที่ยวที่ต้องไปสัมผัสสักครั้งในเมืองโคเปนเฮเกน อาทิ ย่านนูฮาฟน์ (Nyhavn), พระราชวังอมาเลียนบอร์ก (Amalienborg Palace), ย่านถนนสตรอยก์ (Stroget Street) อควาเรียมแห่งชาติเดนมาร์ก (National Aquarium Denmark), หอคอยวงกลม (The Round Tower) เป็นต้น
23. เมืองกุสโก (Cuzco) ประเทศเปรู (86.111 คะแนน)
ภาพจาก juna_poison/depositphotos.com
เมืองกุสโก เป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอนดีส (Andes) ภายใต้อารยธรรมของชาวอินคาโบราณ ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 1983 ใครที่ชอบเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์จึงไม่ควรพลาดเมืองนี้เป็นอันขาด เพราะนอกจากบ้านเรือนที่มีสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว ที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์มากมาย อาทิ มาชู ปิกชู, Plaza de Armas del Cuzco, Jesuit church, Sacsayhuaman, Qurikancha เป็นต้น
22. เมืองพอร์ทแลนด์ (Portland) รัฐเมน สหรัฐอเมริกา (86.275 คะแนน) 
เมืองพอร์ทแลนด์ เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลทางด้านตะวันออกของสหรัฐอเมริกา จึงมีบรรยากาศของทะเลที่โดดเด่น นักท่องเที่ยวจึงนิยมที่จะมาพักผ่อน นั่งดื่มเครื่องดื่มริมทะเล หรือรับประทานอาหารทะเลในร้านอาหารต่าง ๆ ซึ่งที่นี่ก็จะคึกคักทั้งกลางวันและกลางคืน สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ พิพิธภัณฑ์ศิลปะพอร์ทแลนด์ (Portland Museum of Art), หอคอยพอร์ทแลนด์ (Portland Observatory), พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ทางสังคมที่สำคัญของเมน (Maine Historical Society) เป็นต้น
21. เมืองฟอร์ตเวิร์ธ (Fort Worth) รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา (86.296 คะแนน)
ภาพจาก T photography/shutterstock.com
เมืองฟอร์ตเวิร์ท เป็นเมืองศูนย์กลางศิลปวัฒนธรรมของอเมริกาฝั่งตะวันตก นักท่องเที่ยวจึงได้สัมผัสกับกลิ่นอายของคาวบอยที่มีอยู่ทั่วทั้งเมือง โดยถ่ายทอดออกมาผ่านสถาปัตยกรรม วิถีชีวิตของชาวเมือง ประเพณีวัฒนธรรม จึงเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร การนั่งจิบเบียร์ตามวิถีของคาวบอยจึงเป็นสิ่งคุ้นตาที่เราจะเห็นทั่วไปในเมืองฟอร์ตเวิร์ธ กิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือการเที่ยวชมเมืองในย่าน Stockyards นอกจากนี้ก็ยังมีที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ Will Rogers Memorial Center, Fort Worth Botanic Gardens, The Fort Worth Zoo, Botanical Research Institute of Texas, Sundance Square เป็นต้น 20. กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย (86.495 คะแนน)
สยามเมืองยิ้มแห่งนี้ก็ยังคงครองใจนักท่องเที่ยวทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ความมีน้ำใจและเป็นมิตรของคนไทย ได้มีการตีแผ่ไปทั่วโลก และไม่ว่าใครจะมาเยือนต่างก็ได้รับมิตรไมตรีที่ดีจากคนไทยทั้งนั้น เพียงแค่รอยยิ้มที่จริงใจก็ทำเอาหัวใจของนักท่องเที่ยวหลอมละลาย ยกใจให้กับเมืองไทยของเราไปแล้วมากกว่าครึ่ง ที่เที่ยวยอดฮิตในกรุงเทพฯ ก็คงหนีไม่พ้น วัดพระศรีรัตนศาสดาราม, วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร, ตลาดนัดจตุจักร, ย่านสีลม, ย่านสยามเซ็นเตอร์, ประตูน้ำ, เยาวราช เป็นต้น ใครมีโอกาสได้เจอชาวต่างชาติ ก็อย่าลืมส่งยิ้มหวาน ๆ ให้เขานะคะ
19. เมืองวิคตอเรีย (Victoria) รัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา (86.593 คะแนน)
เมืองวิคตอเรีย เป็นเมืองริมทะเลที่มีบรรยากาศเงียบสงบ ตั้งอยู่บนเกาะแวนคูเวอร์ งดงามไปด้วยสถาปัตยกรรมของเมืองเก่าและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังเป็นเมืองตากอากาศยอดนิยมของชาวแคนาดาและอเมริกา มีชื่อเสียงในเรื่องของสวนดอกไม้อย่างสวน Butchart ที่เที่ยวอื่น ๆ ที่สวยงามไม่แพ้กัน อาทิ สวนผีเสื้อ, ปราสาท Craigdarroch, อาคาร British Columbia Legislature, โรงแรม Empress, เมืองจำลองจิ๋ว (Miniature World) เป็นต้น
18. เมืองเรคยาวิก (Reykjavik) สาธารณรัฐไอซ์แลนด์ (86.870 คะแนน)
นอกจากเมืองนี้จะเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐไอซ์แลนด์แล้ว ยังเป็นเมืองที่หนาวจนสุดขั้วหัวใจอีกด้วย และแม้ว่าจะหนาวเหน็บเพียงไหน ที่นี่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางทางการค้าและเศรษฐกิจที่สำคัญของไอซ์แลนด์เลยทีเดียว ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวเมืองเรคยาวิกต้องไม่พลาด โบสถ์ Hallgrimskirkja, พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ไอซ์แลนด์, Ellioaardalur Valley, Nautholsvik Beach, ภูเขาไฟ Mount Keilir, เกาะ Videy, ภูเขา Mount Esja เป็นต้น
17. เมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา (86.991 คะแนน)
ภาพจาก Jorg Hackemann/shutterstock.com
เมืองนิวออร์ลีนส์ เป็นเมืองท่าที่สำคัญของสหรัฐอเมริกา เป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมอันหลากหลาย พร้อมทั้งอาหารและดนตรี ยามค่ำคืนยังคงมีชีวิตชีวา มีแสงสีให้ได้ยลโฉมมากมาย สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองที่น่าสนใจ อาทิ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์นิวออร์ลีนส์, พิพิธภัณฑ์ศิลปะ, สุสานนิวออร์ลีนส์, ย่าน French Quarter เป็นต้น
16. เมืองกรากุฟ (Krakow) ประเทศโปแลนด์ (87.467 คะแนน)
กรากุฟหรือคราคูฟ เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ในอดีตเป็นเมืองการค้าที่รุ่งเรืองมาก เพราะตั้งอยู่ริมแม่น้ำ บ้านเรือนยังคงรักษาเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1978 ปัจจุบันภายเมืองมีบรรยากาศเงียบสงบ การเดินชมเมืองและลิ้มรสอาหารพื้นเมืองจึงเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ที่เที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ Wawel Royal Castle, Wieliczka Salt Mine, St. Mary\'s Basilica, Rynek Glowny, Main Market Square เป็นต้น
15. เมืองแอชวิลล์ (Asheville) รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา (87.490 คะแนน)
เมืองแอชวิลล์ เป็นเมืองเล็ก ๆ แต่มีทุกอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ล้อมรอบไปด้วยหุบเขา หรือแม้กระทั่งวัฒนธรรมที่หลากหลาย มีความเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน ที่เที่ยวที่ห้ามพลาด อาทิ การแสดงที่ Flat Rock Playhouse, Biltmore Park Town Square, ถ้ำ Linville Caverns, อุทยาน Chimney Rock เป็นต้น
14. เมืองแนชวิลล์ (Nashville) รัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา (87.609 คะแนน)
เมืองแนชวิลล์ โดดเด่นในเรื่องดนตรีอย่างมาก โดยเฉพาะดนตรีแนวคันทรี ซึ่งก็ได้มีการสร้างภาพยนตร์เรื่องแนชวิลล์ออกมาให้ชาวโลกได้เห็นถึงเอกลักษณ์ทางดนตรีและบรรยากาศของเมืองนี้ด้วย ถ้าใครมีโอกาสได้ไปเมืองนี้ ต้องไม่พลาดไปเยือนตึก AT&T, หอประชุม Ryman, The Parthenon, Lake Watauga, Nashville Zoo at Grassmere, Lane Motor Museum, Radnor Lake State Park เป็นต้น
13. เมืองเกียวโต (Kyoto) ประเทศญี่ปุ่น (88.293 คะแนน)
ภาพจาก STANISLAV-SSS/depositphotos.com
กรุงเกียวโต เป็นเมืองเก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่น ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองหลวงที่ยิ่งใหญ่ จึงเป็นศูนย์รวมของเศรษฐกิจ การค้า การศึกษา รวมทั้งวัฒนธรรมดั้งเดิมยังคงได้รับการดูแลอย่างดีจากคนท้องถิ่น สถาปัตยกรรมต่าง ๆ สถานที่ท่องเที่ยวทั่วทั้งเมืองยังคงมีกลิ่นอายของญี่ปุ่นโบราณผสมผสานอยู่มาก ในปี 2015 เมืองเกียวโตจึงได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่ดีที่สุดในโลก ที่เที่ยวที่ห้ามพลาดเมื่อไปเกียวโต อาทิ วัดทองหรือวัดคิงกะกุจิ, ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ, อาราชิยาม่า, ปราสาทนิโจ, เกียวโต ทาวเวอร์, วัดเบียวโด, วัดคิโยมิสึ เป็นต้น
12. เมืองออสติน (Austin) รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา
11. เมืองเคปทาวน์ (Cape Town) สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ (89.023 คะแนน)
เมืองเคปทาวน์ เป็นเมืองหลวงของแอฟริกาใต้ ตั้งอยู่ที่แหลมกู๊ดโฮป ซึ่งยื่นลงไปในมหาสมุทรอินเดีย และมหาสมุทรแอตแลนติก เป็นเมืองที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว จึงกลายเป็นศูนย์กลางทางการค้าที่สำคัญของแอฟริกาใต้ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีบรรยากาศดีมาก ๆ ด้วยตั้งอยู่ริมทะเล จึงมีอากาศที่อบอุ่น ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด อาทิ City Hall and Grand Parade, Martin Melck House, Gordon’s Bay, Camps Bay, Chapman’s Peak and Noordhoek เป็นต้น
10. เมืองซาวานนาห์ (Savannah) รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา (89.167 คะแนน)
ภาพจาก miroslav_1 /depositphotos.com
ซาวานนาห์ เป็นเมืองที่เงียบสงบ บ้านเมืองมีการจัดผังเมืองอย่างเป็นระเบียบ มีต้นไม้มากมายอยู่ทั่วทุกมุมถนน มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองที่เก่าแก่ของสหรัฐอเมริกา สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ จึงเป็นอาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่และสวยงามที่หาดูได้ยาก อาทิ Cathedral of St. John the Baptist, Forsyth Park, Mickve Israel Temple, Olde Pink House, Old Fort Jackson, Colonial Park Cemetery ฯลฯ นอกจากนี้เมืองซาวานนาห์ยังตั้งอยู่ริมแม่น้ำ จึงมีบรรยากาศผ่อนคลาย และต้องไม่พลาดกับการไปนั่งจิบไวน์หรือดื่มเบียร์ที่ถนนริเวอร์ (River St.) หรือจะแค่ไปเดินเล่นริมน้ำยามเย็นก็ได้บรรยากาศโรแมนติกเช่นกัน
9. เมืองเอดินบะระ (Edinburgh) ราชอาณาจักรสกอตแลนด์ (89.422 คะแนน)
เมืองเอดินบะระ เป็นอีกเมืองที่มีความเก่าแก่ของราชอาณาจักรสกอตแลนด์ สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของที่นี่ก็คือสถาปัตยกรรมเก่าแก่และอลังการ ไม่ว่าจะเป็นปราสาทเอดินบะระ (Edinburgh Castle), ย่านเมืองเก่าเอดินบะระ (Edinburgh Old Town), พิพิธภัณฑ์แห่งชาติสกอตแลนด์ (National Museum of Scotland), ย่านถนน Royal Mile เป็นต้น นอกจากนี้เมืองนี้ก็ยังมีธรรมชาติที่สวยงาม มีวิวของขุนเขาให้ได้ชื่นชม และต้องไปชมเมืองนี้ในมุมสูงบน Calton Hill หรือ Holyrood Park ก็จะเห็นความสวยงามของเมืองนี้อย่างแท้จริง
8. เมืองซิดนีย์ (Sydney) ประเทศออสเตรเลีย (89.910 คะแนน)
ซิดนีย์ เป็นเมืองที่มีชีวิตชีวามากที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศออสเตรเลีย เศรษฐกิจมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เมืองนี้กลายเป็นศูนย์รวมของการค้า เศรษฐกิจ การศึกษา และการท่องเที่ยว และด้วยที่ตั้งของซิดนีย์ที่อยู่ริมชายฝั่งทางด้านตะวันออกของออสเตรเลีย จึงทำให้มีชายหาดที่สวยงาม มีอากาศอบอุ่นตลอดปี เหมาะแก่การไปเที่ยวพักผ่อน สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดของซิดนีย์ อาทิ Sydney Opera House, Sydney Harbour Bridge, Circular Quay, Queen Victoria Building, Sydney Tower, Royal Botanic Gardens, Hyde Park, St Mary\'s Cathedral, Bondi Beach เป็นต้น
7. เมืองเมลเบิร์น (Melbourne) ประเทศออสเตรเลีย (90.229 คะแนน)
ภาพจาก ymgerman/depositphotos.com
เมืองเมลเบิร์น เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศออสเตรเลีย แม้ว่าเมืองนี้จะมีประชากรมากกว่า 3 ล้านคน แต่ก็ยังเงียบสงบ ไม่วุ่นวายเท่ากับซิดนีย์ ที่นี่ผู้คนน่ารัก เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว อีกทั้งเมืองยังอบอวลไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมดั้งเดิม พร้อมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามมากมาย ทั้งหาดทรายขาวสะอาด ขุนเขาสีเขียวขจี ถนนริมชายฝั่งทะเลอันสวยงาม ไร่องุ่นและไวน์ยาร์ด ฯลฯ ที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด อาทิ The Great Ocean Road, Federation Square, Eureka Tower, Yarra River, Queen Victoria Market, Yarra Valley Wineries, Harbour Town, Melbourne Aquarium, Docklands, National Gallery of Victoria, Royal Botanic Gardens เป็นต้น
6. เมืองโอ๊คแลนด์ (Auckland) ประเทศนิวซีแลนด์
เมืองโอ๊คแลนด์หรือออกแลนด์ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและมีประชากรมากที่สุดของประเทศนิวซีแลนด์ ตั้งอยู่บนเกาะเหนือ ล้อมรอบไปด้วยภูเขา และท้องทะเล เป็นเมืองที่เงียบสงบ ผู้คนใช้ชีวิตกันแบบไม่เร่งรีบ ผสมผสานความทันสมัยและวัฒนธรรมดั้งเดิมของชนเผ่าเมารีเข้าด้วยกันได้อย่างดี นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมเมืองที่สวยงามที่ซ่อนตัวอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกแล้ว ยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชนเผ่าเมารีดั้งเดิมและชื่นชมกับธรรมชาติที่งดงามของนิวซีแลนด์อีกด้วย สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ พิพิธภัณฑ์โอ๊คแลนด์ (Auckland Museum ), พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอ๊คแลนด์ (Auckland Art Gallery), Cornwall Park, Mount Eden, Sky Tower, Viaduct Harbour, Bethells Beach เป็นต้น
5. เมืองเสียมราฐ (Siem Reap) ประเทศกัมพูชา (90.667 คะแนน)
ภาพจาก ekashustrova/depositphotos.com
การไปเที่ยวคนเดียวที่ประเทศกัมพูชา เป็นเรื่องที่ทำได้และง่ายมาก ๆ เพราะประชากรบางส่วนสามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างดี โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวอย่างเมืองเสียมราฐ ที่แม้แต่กระทั่งเด็กประถมยังสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษกับนักท่องเที่ยวได้อย่างคล่องแคล่ว นั่นจึงทำให้พวกเขาไม่เก้อเขินต่อนักท่องเที่ยว ให้ความช่วยเหลือต่อนักท่องเที่ยวอย่างดี พร้อมทั้งยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว ภายในเมืองค่อนข้างปลอดภัย สถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นที่สุดก็คือ นครวัด ปราสาทหินเก่าแก่ของอาณาจักรขอม ที่นี่ยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น นครธม, ปราสาทบายน, ปราสาทพระขรรค์, ปราสาทบันทายศรี, สระสรง, ทะเลสาบโตนเล เป็นต้น
4. เมืองคอร์ก (Cork) สาธารณรัฐไอร์แลนด์ (90.840 คะแนน)
เมืองคอร์ก เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศไอร์แลนด์ เป็นเมืองท่าที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง มีความเงียบสงบ ผู้คนใช้ชีวิตกันแบบเรียบง่าย มีแม่น้ำลีไหลผ่านเมือง ทำให้มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม ภายในเมืองมีที่เที่ยวที่โดดเด่นมากมาย อาทิ Fort Camden, Ballycotton Cliff Walk, St. Anne\'s Shandon Church, St Fin Barre\'s Cathedral, St. Patrick Street, The English Market, Blackrock Castle Observatory, Cobh เป็นต้น
3. เมืองดับลิน (Dublin) สาธารณรัฐไอร์แลนด์ (91.342 คะแนน)
ภาพจาก littleny/depositphotos.com
เมืองดับลิน เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในไอร์แลนด์ เป็นเมืองที่มีความสวยงาม มีอากาศหนาวเย็น ผู้คนใช้ชีวิตเรียบง่าย สถาปัตยกรรมในเมืองสะท้อนศิลปะตะวันตกได้อย่างดี สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด อาทิ St. Patrick’s Cathedral, Guinness Store House, National Museum of Ireland, Phoenix Park, Leinster House, National Botanic Gardens, National Aquatic Centre เป็นต้น
2. เมืองชาร์ลสตัน (Charleston) รัฐเซาท์แคโรไลนา สหรัฐอเมริกา (91.633 คะแนน)
เมืองชาร์ลสตัน เป็นเมืองริมฝั่งทะเลมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือที่มีบรรยากาศสบาย ๆ เป็นเมืองพักผ่อนและตากอากาศยอดนิยมอีกเมืองหนึ่งของสหรัฐอเมริกา มีแม่น้ำที่สำคัญ 3 สายไหลผ่านเมืองคือ แม่น้ำ Cooper, แม่น้ำ Ashley และแม่น้ำ Stono ชาวเมืองยังคงใช้ชีวิตเรียบง่าย เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ Charleston Waterfront Park, Arthur Ravenel Jr. Bridge, Cathedral of Saint John the Baptist, St. Michael\'s Church, Middleton Place, Middleton Place, The Aiken-Rhett House Museum, Magnolia Plantation & Gardens เป็นต้น
1. เมืองกัลเวย์ (Galway) สาธารณรัฐไอร์แลนด์ (92.025 คะแนน)
เมืองกัลเวย์ ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของเกาะไอร์แลนด์ เป็นเมืองที่มีชายฝั่งทะเลสวยงามเป็นเอกลักษณ์ เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามมากมาย และหมู่บ้านอันเก่าแก่ พร้อมทั้งวัฒนธรรมดั้งเดิม ชาวเมืองยังคงมีวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย จึงทำให้เมืองนี้เงียบสงบ สามารถเดินเที่ยวชมทั่วเมืองได้อย่างสบายใจ สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด อาทิ Connemara National Park, Quay Street, Galway Cathedral, St. Nicholas\' Collegiate Church, Aran Islands, Cliffs Of Moher, Coole Park, Dunguaire Castle, Portumna Castle, Kylemore Abbey & Gardens, Killary Fjord เป็นต้น
หากใครไม่กล้าที่จะเดินทางคนเดียว การลองเริ่มต้นเดินทางไปเมืองที่มีผู้คนเป็นมิตรก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย เพราะเรามั่นใจได้ระดับหนึ่งว่าอย่างน้อย ๆ ผู้คนก็พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือหากเรามีปัญหาเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง แต่เราเชื่อว่าหากคุณต้องการที่จะเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง ไม่ว่าเมืองไหน ๆ ก็จะพิชิตใจคุณให้ออกไปเที่ยวได้ ขอเพียงเตรียมตัว เตรียมข้อมูลให้พร้อม เท่านี้ก็สามารถเที่ยวได้ทั่วโลกเช่นกัน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
visitsantafe.com, asheville.com, nashville.com, kyoto.travel, austintexas.org, capetown.travel, visitsavannah.com, savannah.com, thisisedinburgh.com, sydney.com, visitmelbourne.com, aucklandtourism.co.nz, tourismcambodia.org, cork.ie, visitdublin.com, charlestoncvb.com, galwaytourism.ie, visitsantafe.com, golisbon.com, visitpuertovallarta.com, amsterdam.info, minneapolis.org, minneapolis.org, whc.unesco.org, visitportland.com, fortworth.com, tourismvictoria.com, visitreykjavik.is, neworleansonline.com, krakow.pl และ whc.unesco.org
