เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ popumon สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
เพราะความงามทางธรรมชาติเป็นสิ่งที่สร้างสรรค์และตกแต่งขึ้นโดยธรรมชาติ ไร้การปรุงแต่งจากน้ำมือของมนุษย์ ภาพถ่ายจึงถือเป็นการบันทึกความทรงจำความงดงามของธรรมชาติได้ดีที่สุด และกับภาพถ่ายที่นอกจากการเดินทางที่ถือเป็นความสุข เป็นกำไรของชีวิตในการพักผ่อนแล้ว ภาพถ่ายเหล่านั้นเมื่อกลับมาเปิดดูอีกครั้งก็รู้สึกได้ถึงความงดงามเสมอ วันนี้กระปุกท่องเที่ยวก็ได้นำภาพความงามของธรรมชาติกับภาพ Landscape สวย ๆ จากมุมมองของ คุณ popumon สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ผ่านความงดงามทางธรรมชาติถึง 4 จังหวัด คือ สระบุรี, ชัยภูมิ, อุบลราชธานี และนครราชสีมา กับแหล่งท่องเที่ยวอย่างอุทยานแห่งชาติหินงาม, ทุ่งดอกกระเจียว, อุทยานแห่งชาติน้ำตกตาดโตน, มอหินขาว, สามพันโบก, ปราสาทหินพิมาย และอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นต้น เอาล่ะ...ถ้าพร้อมจะไปตะลุยเที่ยวกับภาพ Landscape กันเลย
ลุยเดี่ยวยาว Landscape สระบุรี ชัยภูมิ อุบลราชธานี นครราชสีมา by POPUMON
เป็นอีกทริปที่ตั้งใจไว้ว่าจะเป็นทริปในการฝึกฝนถ่าย Landscape โดยเฉพาะ เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยถ่ายแนวนี้มาก่อน เพราะว่าผมจะถ่ายแนวภาพ Macro แมลงเป็นหลัก ทริปนี้เลยตั้งใจไว้ว่าจะเป็นทริปที่เน้นถ่าย Landscape โดยเฉพาะครับ แล้วการเดินทางก็แบบว่าตามอารมณ์จริง ๆ ไม่ได้แพลนล่วงหน้าไว้ว่าจะแวะถ่ายจุดไหนบ้าง มีเป้าหมายอยู่ในหัวอย่างเดียวคือ "อยากไปสามพันโบก" แค่นั้นจริง ๆ อยู่ ๆ อยากถ่ายก็ออกลุยไปเลยครับ
ขอบคุณพี่พร๊อมป์ (Denki Seiko) ที่ให้คำแนะนำจุดถ่ายสวย ระหว่างทางมุ่งหน้าไปสามพันโบกครับ
ก่อนที่ผมจะออกลุยเดี่ยว Landscape นั้น !!! จุดเริ่มต้นของทริปนี้ เริ่มจากที่ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติฯ เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า ผมกับพี่โป้ (ปีโป้ รักเมืองไทย) ผู้ชื่นชอบและรักษ์ผีเสื้อเป็นชีวิตจิตใจ ได้นัดแนะและชวนกันมาถ่ายภาพผีเสื้อกันที่น้ำตกเจ็ดคด หินจากอ่างเก็บน้ำครับผม
ผมมาที่นี่หลายครั้งมาก แต่ก็ไม่เคยสังเกตเห็นหินก้อนนี้เลย แต่พอเรามีความคิดอยากจะถ่าย Landscape หินก้อนนี้ก็จะโผล่ออกมาให้เราเห็นทันที 555+ เลยจัดทุกช่วงเวลา กับหินก้อนนี้มาให้ดูกันเลยครับ
แอบติดค้างคาวมาด้วย
จุดกางเต็นท์ที่พักริมอ่างครับ
น้ำตกเจ็ดคดเหนือครับ
ภาพ Macro แสงธรรมชาติส่วนหนึ่งจากทริปนี้ครับ ส่วนมากจะเป็นผีเสื้อเป็นส่วนใหญ่ ถ่ายด้วยเลนส์ 50f1.8 กับ Extensuion tube 12mm
~ ถึงเวลา Mp-e 65mm 1-5x Super Macro เลนส์ ออกโรง ~
ถ่ายมาโครตอนกลางคืน นี่จะได้อีก feeling ครับ ได้เจออะไรที่ไม่เหมือนตอนกลางวันจะเห็นกิจกรรมแปลก ๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เช่น แมลงหลับ แมลงหากินตอนกลางคืน เป็นต้น ที่สำคัญคือต้องมีเพื่อนไปด้วย ช่วยกันหา ช่วยกันส่องไฟ เพราะไปคนเดียวจะค่อนข้างลำบาก เพราะจะไม่มีคนส่องไฟ เพื่อช่วยในการ Focus ได้ (จริง ๆ ทำได้แต่ไม่ค่อยสะดวก คือต้องเอาขาตั้งกับไฟฉายไว้ปรับส่องเอง เหนื่อย !!! ที่แน่ ๆ ไปคนเดียวจะกล้ารึเปล่าหนอ ถ่ายแมลงตอนกลางคืนเนี่ย 555+)
"ขาของหนอน จริง ๆ แล้วอวบ ๆ ป้อม ๆ น่ารักมาก ๆ" Night Macro จากเจ็ดคด
เจอตุ๊กแกข้าง ๆ เต็นท์ที่พัก เลยจัดมาสักรูป ขอบคุณพี่โป้ที่ส่องไฟฉายให้ครับ
Huntsman spider ตัวเมีย ขอบคุณพี่โป้ ปีโป้ รักเมืองไทย ที่ส่องไฟให้ครับ
Huntsman spider ตัวผู้ ขอบคุณพี่โป้ ปีโป้ รักเมืองไทย ที่ส่องไฟให้ครับ
และนี่คือจุดเริ่มต้นของทริปลุยเดี่ยวยาว Landscape ครับ คือตอนแยกย้ายกันกลับอารมณ์ยังค้างที่ตอนกลางคืนที่ผ่านมา มีทางช้างเผือกให้เห็นแต่พระจันทร์ก็สว่างเกินไป จนทำให้ทางช้างเผือกซีดไปเลย เลยมีความคิดที่ว่าอยากจะไปตามล่าช้างมาให้จงได้ก่อนจะกลับบ้าน แล้วตอนนั้นก็นึกถึงสามพันโบกขึ้นมา เพราะเห็นภาพที่พี่พร๊อมป์ (Denki Seiko) ถ่ายไว้และลงใน facebook เลยส่ง message ไปถามเส้นทาง แล้วพี่เขาก็แนะนำสถานที่ต่าง ๆ เช่น ป่าหินงาม และ มอหินขาว etc. ซึ่งเป็นทางผ่านที่น่าแวะก่อนไปสามพันโบก
วันนั้นเลยตัดสินใจเดินทางไปชัยภูมิต่อเลย ออกจากเจ็ดคดประมาณเย็น ๆ ระหว่างทางมุ่งหน้าไปชัยภูมิ ก็เหลือบเห็นท้องฟ้าสวย ๆ เลยลงจากรถมาเก็บภาพไว้
หลังจากนั้นก็เดินทางมาถึงชัยภูมิตอนค่ำ ๆ ขับรถมาเหนื่อยเลยพักที่รีสอร์ทหน้าอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อ.เทพสถิต วันต่อมาก็ออกจากรีสอร์ทประมาณเที่ยง ๆ มุ่งหน้าไปที่ลานป่าหินงาม เพื่อไป Survey สถานที่ ดูมุมพระอาทิตย์ขึ้นกับตกเพื่อจะมาเก็บภาพในตอนเช้าของอีกวันหนึ่ง
เดินไปเดินมาอยู่จนเกือบเย็น Survey มุมบ้าง เจอแมลงก็เปลี่ยนเลนส์ถ่ายมาโครบ้าง ทุกภาพใช้ Lee filter Big Stopper + 0.9 ND Grad Soft ภาพนี้เป็น File Jpeg M ที่เอามาย่อใส่ลายเซ็น ปรับคม USM (120, 0.2, 1)
หลังจากนั้นก็เดินจากลานป่าหินงาม ไปที่ทุ่งดอกกระเจียวครับ
ทริปนี้ผมซื้อตั๋วรถโดยสาร แต่ไม่ได้ใช้เลยสักเที่ยว เพราะคนต่อแถวกันเยอะมาก เลยเดินกันอย่างเดียวทั้งวันครับ
ทุ่งดอกกระเจียวครับ ดอกยังไม่บานมาก ถ่ายมามุมเดียว แล้วรีบเดินขึ้นไปต่อที่จุดชมวิว ผาสุดแผ่นดิน ไปรอพระอาทิตย์ตกดิน
ระหว่างทางที่เดินขึ้นไปผาสุดแผ่นดินก็เจอกับดอกนี้เข้าที่ริมทางเดิน เลยถ่ายมา
ถึงแล้วผาสุดแผ่นดิน สวยมาก ไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้มาก่อนในชีวิต
พระอาทิตย์ออกมาจากเมฆแล้ว
ตกแล้ว
มาลุยเดี่ยว เห็นภาพนี้แล้วอะนะ !! T^T 5555+
ถ่ายเสร็จเดินลงมาจากผาสุดแผ่นดินคนเดียวมืดตึ๊ดตื๋อเลย น่ากลัว กว่าจะถึงหน้าอุทยานฯ มันช่างนานมาก ๆ
เช้ามืดตอนตี 4 ออกจากที่พักเดินจากหน้าอุทยานฯ ไปถึงลานป่าหินงามไปนั่งเฝ้ารอพระอาทิตย์ขึ้นอยู่คนเดียว ทั้งหนาว ทั้งน่ากลัวในคราวเดียวกัน 555+ แต่ก็คุ้มค่าครับ ฟ้าเปิด แสงสีสวยงามมาก
ช้างครับ
FIFA WORLD CUP
หลังจากท้องฟ้าสว่างจ้าก็ได้เวลาเดินทางไป อช.น้ำตกตาดโตนต่อครับ ไปถึงก็จองที่พักแล้วลงไปยิงน้ำตกมาหนึ่งภาพ
พร้อม Survey มุมต่าง ๆ ที่พอเป็นไปได้ว่าทางช้างเผือกจะออกมา พร้อมกับไปบอกเจ้าหน้าที่ว่าตอนกลางคืนจะขอลงไปถ่ายน้ำตก คนเยอะดีนัก จัด Big Stopper ไปเลย คนหายหมด น้ำนิ่งเลย 555+
หลังจากทำธุระเสร็จก็มุ่งหน้าไปต่อที่ มอหินขาว
ที่มอหินขาว พอไปถึงก็เห็นพระครับ เลยเดินตามหลังพระไปทุกที่เลย 555+
ทุ่งรอบ ๆ มอหินขาวนี่สุดลูกหูลูกตาดีจริง
แบบเมฆไหลสักหน่อย !!!
หลังจากนั้นก็ขับขึ้นไปข้างบนอีก เพื่อไปเก็บแสงสุดท้ายที่จุดชมวิวผาหัวนาค
ได้ไปเจอเพื่อนใหม่บนนั้นด้วย ดีใจมากครับ
และทันใดนั้นช่วงตอน 2 ทุ่มของวันนั้นดาวเต็มฟ้าเลยครับ อลังมาาาาาาาาาก ๆ ผมสังเกตเห็นขณะขับรถกลับไป อช.น้ำตกตาดโตนใจหนึ่งก็อยากกลับไปมอหินขาว แต่ก็กลัวยาวจนเข้าอุทยานฯ ไม่ได้ เลยจำใจไปถ่ายดาวที่น้ำตกตาดโตนเลย
โทนเย็น ๆ
โทนอุ่น ๆ
ตื่นเต้นมาก ๆ ครับทางช้างเผือก วันนี้เราคล้องได้แล้ว
นั่งถ่ายคนเดียวกับความมืด พร้อมกับเสียงน้ำตก กะพริบแสงแฟลชก็แอบกลัวจะเห็นอะไรแวบ ๆ ตรงหน้า พูดแล้วขนลุกเลย นี่มัน 4 ทุ่มแล้วนะ !!!!!
กระพริบแฟลชแล้วมีแมลงบินผ่านมาก็แปลกตาดี นี่คือทางผีเสื้อกลางคืนเผือก 5555+
มาหลายตัวเลยภาพนี้
มุมนี้บ้าง Survey มาตอนเช้า แต่ก็คลาดเคลื่อนไปบ้าง เพราะมืดสนิท ใช้ไฟฉายส่องยังมึน ๆ เลย
สรุปว่าคืนนี้ถ่ายไป แอบหลอนไป บวกกับเหนื่อยมาก ๆ เลยเข้านอนตั้งแต่เที่ยงคืน แอบเสียดายที่ไม่ได้อยู่ถ่ายต่อ ช้างมาทั้งที !!! ตื่นขึ้นมาก่อนเดินทางไปสามพันโบกก็ลงไปที่น้ำตกอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเก็บภาพนี้มา
หลังจากนั้นก็ขับรถยาวเรื่อย ๆ จากชัยภูมิมุ่งหน้าสู่อุบลราชธานี ระหว่างทางดูแล้วท้องฟ้าแจ่มใส หวังไว้ในใจว่าวันนี้ Twilight จะสวยมาก
กว่าจะถึงก็เกือบเย็น เพราะมัวโอ้เอ้ chill ตามร้านกาแฟบ้างเล็กน้อย มาถึงที่สามพันโบกก็ดูเงียบ ๆ มาก น้ำเยอะกว่าที่คิดไว้ ไม่รีรอ รีบจ้างพลเรือพาไปที่สามพันโบกทันที เพราะอีกไม่กี่อึดใจเดียวพระอาทิตย์ก็จะตกแล้ว ต้องรีบไป Survey มุมก่อน เดี๋ยวไม่ทันพลเรือครับผม
รีบ ๆ
ไป ๆ มา ๆ มาได้มุมนี้ครับ เลือกไม่ถูกจริง ๆ มีมุมถ่ายเยอะมาก ๆ นี่ขนาดน้ำขึ้นนะเนี่ย ถ้าน้ำลดนี่ไม่ต้องพูดถึง ถ่ายกันได้ทั้งวันเลย
ลองแนว Big Stopper สักภาพ
พระอาทิตย์จะตกแล้ว รอลุ้นว่า Twilight จะสวยขนาดไหน
เป็นภาพที่น่าทึ่ง น้ำวนขนาดใหญ่ กระทบกับร่องหิน ทำให้เกิดริ้วคลื่นสวย ๆ
และแล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึง คุ้มค่าจริง Twilight งามสุด ๆ ระเบิดได้งามมาก ๆ
ทั่วท้องฟ้าและพื้นดินถูกสีชมพูกลืนกินหมด มองด้วยตาสวยกว่าในภาพถ่ายอีกเป็น 3,000 เท่า
มุมนี้ทิศตะวันออกครับ
ได้เวลากลับ เพราะถ้าฟ้ามืดจะเดินเรือลำบากครับ ยังแอบเสียดายอยากจะถ่ายต่ออีกนิด เพราะฟ้ายังสวยมากลงเรือเสร็จ ก็จัดอีกสักภาพ
หลังจากภารกิจสำเร็จลุล่วง Mission Completed แล้ว ก็ได้เวลากลับกรุงเทพฯ ครับ ออกจากสามพันโบกก็เที่ยง ๆ เย็น ๆ ก็ผ่านปราสาทหินพิมายเลยลองแวะถ่าย และหาข้าวทานแถวนั้น
อยู่ ๆ ก็เหนื่อยขึ้นมา ระหว่างทางกลับเลยแวะพักที่รีสอร์ท Khao Yai Garden Lodge ข้างปั๊ม PTT อช.เขาใหญ่ก่อน
ก่อนนอนก็ไปเจอกับแมงมุมปูขาวดอกไม้ (White Crab Spider) กับลูก ๆ ในสวนหย่อม เลยจัด Night Macro ก่อนนอน
ลองมาสังเกตรูปที่ถ่ายมาว่าตัวลูกบางตัวทำท่าเลียนแบบแม่ 555+
อีกวันหนึ่งก็ตั้งใจว่าไหน ๆ ก็มาแล้ว เขาใหญ่ก็มาหลายครั้งแต่ไม่เคยถ่ายน้ำตกเลย เพราะว่ามาถ่ายแต่แมลงอย่างเดียว
เลยไปจัดที่เหวสุวัตหน่อย !!! มุมมองจากด้านบนก่อนลงไปที่น้ำตก
ถึงแล้ว งดงามมาก ๆ
แบบตรง ๆ บ้าง
มุมมองจากในถ้ำบ้างครับ
ถัดจากน้ำตกเหวสุวัตจะมีทางเดินไปอีก (ด้านซ้าย) ไม่ใช่ด้านขวา ขวาจะไปผากล้วยไม้เส้นทางค่อนข้างโหด+กับทากจำนวนมาก เดินไปเดินมาโดนไป 20 ตัวได้ ทั้งอ้วน ผอม จิ๋ว ที่คอ ที่ข้อพับ ที่เท้า etc. 555+ และนี่คือน้ำตกที่ถูกลืม น้ำตกเหวไทร-ประทุน งดงามมาก ๆ ถือเป็นรางวัลที่สุดของทริปเขาใหญ่เลย
น้ำตกเหวไทร-เหวประทุน เวอร์ชั่นละอองน้ำ ไม่รู้จะถ่ายอย่างไรไม่ให้ติดละอองน้ำ เพราะบริเวณนั้นจะมีละอองน้ำฟุ้งตลอดเวลา นี่ขนาดเอาผ้าบังหน้ากล้องไว้ นิ้วรออยู่ที่ชัตเตอร์ดึงผ้าออกแล้วกดทันที ยังหนีละอองน้ำไม่ได้ ว่าง ๆ จะ stamp ละอองน้ำออก แต่ตอนนี้ขี้เกียจมาก 555+
มุมสงบ
คราวนี้มาดูน้ำตกกองแก้วบ้าง เป็นน้ำตกที่อยู่ใกล้กับที่ทำการ อช.เขาใหญ่ เดินจากที่ทำการเข้าไปก็ดูเหมือนไกลมาก เพราะแข่งกับเวลา ฝนทำท่าจะตก
จุดที่ถ่ายนี้ไม่ใช่จุดเด่นของน้ำตก พยายามหามุมถ่ายน้ำตกนี้แล้ว แต่ไม่ได้มุมที่ชอบเลย เลยมาเก็บมุมนี้แทน เป็นมุมปลายน้ำไกล ๆ เลย
น้ำตกกองแก้ว คือ น้ำตกบนหินภูเขาไฟลุยจนเหนื่อย จนต้องอยู่พักกันต่ออีก 5555+ ยาวจริง ตัดสินใจว่าจะกางเต็นท์ที่ ผากล้วยไม้หรือลำตะคองดี ? สุดท้ายก็มาลงเอยที่ลำตะคอง เพราะว่ามีเก้ง กวาง ให้ถ่าย !!!
จุดขายของที่นี่เลย ตอนไปอาบน้ำเจอเจ้าพวกนี้มารื้อเต็นท์ขโมย Lays ไปหนึ่งถุงด้วย 555+
เต็มสนามเลย
วันนี้ก่อนกลับกรุงเทพฯ ต้องไปลุย น้ำตกเหวนรก จุดเด่นของที่นี่ให้ได้ครับ ระหว่างทางจากจุดกางเต็นท์ลำตะคอง มุ่งหน้าไปเหวนรกก็เจอลิงครับ แวะจอดถ่ายสักภาพ
หน้าทางเข้าน้ำตกเหวนรกก็มีผีเสื้อน้อยมาคอยต้อนรับอยู่
ระหว่างเส้นทางเดินไปน้ำตกก็จะเห็นเสาปูนแบบนี้ มันคือเสารั้วไว้กั้นช้างป่าไม่ให้ตกลงไปในน้ำตกครับ เป็นอดีตที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง ๆ
ถึงแล้วเหวนรก มุมสูง สูงไปไหม !!!!!!!
ถ่ายที่นี่ลำบากสุด ๆ เพราะมีละอองน้ำตลอดเวลา
หลังจากนั้นก็มุ่งหน้ากลับกรุงเทพฯ ครับ แต่ว่าใจก็ยังไม่อยากกลับอีกครับ 555+ ผ่านสระบุรีเลยแวะไปกางเต็นท์นอนที่เจ็ดคดอีกสักวัน
เช้ามารอเต็นท์แห้งจากน้ำค้าง ออกจากที่นั่นประมาณเกือบเที่ยงมุ่งหน้ากลับกรุงเทพฯ จริง ๆ และแล้วก็แวะ อช.น้ำตกสามหลั่นอีก 5555+ แวะที่วัดพระพุทธฉายก่อนแป๊บนึง มีลิงเต็มเลย
และแล้วก็ถึง อช.น้ำตกสามหลั่น แต่ไม่ทันเดินเข้าไป ก็มาเจอกับเจ้างูเขียวหางไหม ที่หน้าอุทยานฯ ซะได้ เลยไม่ได้ถ่ายน้ำตกเลย (เจ้าหน้าที่บอกว่าน้ำน้อย) เลยมุ่งมาที่เจ้านี่ดีกว่า
ถ่ายด้วย 50F1.8 กับ Extension tube 12mm
หลังจากถ่ายงูเสร็จ ผมก็กลับกรุงเทพฯ เลย แต่ก่อนกลับบ้านจริง ๆ ผมได้ไปแวะที่ สวนหลวง ร.๙ ก่อนครับ
จบแล้วครับสำหรับทริปนี้ ได้ประสบการณ์อะไรหลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับการถ่าย Landscape ถ้ามีโอกาสได้เที่ยวแบบนี้อีก จะเอามาลงให้ดูอีกนะครับ ขอบคุณทุก ๆ คนที่เข้ามาเยี่ยมชมนะครับ