x close

เพลินแพไพร...ในเชี่ยวหลาน


เชี่ยวหลาน

เชี่ยวหลาน


เพลินแพไพรในเชี่ยวหลาน (อ.ส.ท.)

ปิยะฤทัย ปิโยพีระพงศ์...เรื่อง
ธีระพงษ์ พลรักษ์...ภาพ

          1. เผลอทีไรเป็นต้องนึกว่ากำลังเพลินใจอยู่ในกลางทะเล ซึ่งรายล้อมด้วยกลุ่มเกาะยึกยักทุกที เป็นเพราะผืนน้ำกว้างใหญ่ที่รายรอบเราอยู่นั้นมีสีเขียวมรกตใส บางคราวมีระลอกคลื่นน้อย ๆ จากการเคลื่อนของเรือหางยาว ที่แล่นนำนักท่องเที่ยวมายังแพพักเอกชนซึ่งอยู่ไกลจากท่าเทียบเรือ เขื่อนรัชชประภา หรือ เขื่อนเชี่ยวหลาน ที่สุด

          ที่นี่คือแพ 500 ไร่ ซึ่งเป็นแพเอกชนที่สะดวกสบายและได้มาตรฐาน เรือนพักแต่ละหลังล้วนแข็งแรง มั่นคง ตามหลักวิศวกรรมโครงสร้าง เบื้องหน้าคือเทือกเขาสูงใหญ่ เขียวครึ้ม ทว่าก็มีบางหย่อมเขาที่เผยความแข็งแกร่งของผาหินปูนให้เห็นเด่นชัด ส่วนเบื้องหลังคือเกาะเล็ก ๆ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเขาสูงชัน

          ภาพงามตรึงตราปรากฏให้เห็นในยามเช้า เมื่อม่านหมอกขาวบางแผ่พาดผ่านแนวเขาเรี่ยไล่กับผิวน้ำ ส่วนยามเย็นแสงสีทองอบอุ่นที่สาดจับขุนเขาและทาบทาผิวน้ำจนเกิดประกายระยิบ ก็เป็นอีกความงามที่ผู้เข้าพักได้รับเป็นของขวัญประจำวัน … "สวย สงบ สดสะอาด" คือสิ่งที่สัมผัสได้จริงในพื้นที่แห่งนี้

เชี่ยวหลาน

          ห่างจากท่าเทียบเรือมาด้วยระยะเวลานั่งเรือหางยาวราว 50 นาที โลกรอบตัวก็แปรเปลี่ยนเป็นอีกบรรยากาศ เราถูกล้อมไว้ด้วยขุนเขาสูงใหญ่ ซึ่งเมื่อลองจินตนาการถึงวันที่มวลน้ำมหาศาลยังไม่หลากรวมมาขังเป็นทะเลสาบกว้างใหญ่กินพื้นที่ 185 ตารางกิโลเมตร ด้วยความลึกยาว ๆ 80 – 100 เมตร เทือกเขาเหล่านี้คงสูงลิบลิ่วจนต้องแหวนสุดคอเพื่อมองยอดชัน

          ผืนป่ารอบตัวเราขณะนี้ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสก ส่วนป่ารกชัฏผืนใหญ่ทอดยาวต่อเนื่องอยู่ลึกเข้าไปด้านใน คือ พื้นที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง ซึ่งป่าเขาสก-คลองแสงนี้นับเป็นป่าดงดิบที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของเทือกเขาตะนาวศรี บนรอยต่อเชื่อมโยงของจังหวัดสุราษฎร์ธานี พังงา และระนอง นึกไปก็สะดวกดีที่เราเข้ามาสู่วงล้อมของป่าดงดิบโดยทางเรืออย่างง่ายดาย เพราะปกติแล้วการเข้าสู่ใจกลางป่าอนุรักษ์มักต้องเดินฝ่าความรกเรื้อเป็นวัน ๆ แต่ก็นั่นแหละ...แม้ไม่ลำบากยากเย็นกับการเดินทาง แต่ก็ต้องแลกด้วยการทิ้งความเคยชินของคนเมืองหลวงอยู่พอควร ทั้งสัญญาณโทรศัพท์มือถือทุกค่ายที่พร้อมใจกันหายไปหมดเกลี้ยงเมื่อเดินทางมาถึงแพ รวมถึงสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ไร้ร่องรอย ดับความหวังในการถ่ายทอดสดบรรยากาศรื่นรมย์ผ่านเฟซบุ๊กไปจนสิ้น


เชี่ยวหลาน


          "เราใช้ ว. ติดต่อกันครับ ถ้ามีเหตุฉุกเฉิน เหตุจำเป็น เราก็ติดต่อทางฝั่งได้ทันที" เบิ้ล อติรัตน์ ด่านภัทรวรวัฒน์ เจ้าของแพ 500 ไร่ บอกกล่าว แถมท้ายด้วยข้อมูลว่ามีเรือประจำการพร้อมออกเดินทางในยามฉุกเฉิน เป็นการสร้างความอุ่นใจอีกชั้น นอกเหนือจากความปลอดภัย เรื่องที่น่าชื่นชมที่สุดคือแนวคิดด้านการอนุรักษ์และการจัดการสิ่งแวดล้อม ที่นี่มีระบบบำบัดน้ำเสียเป็นเรื่องเป็นราว ส่วนห้องสุขาที่มีประจำแพพักทุกหลังใช้ระบบถังเก็บ มีท่อปล่อยก๊าซไม่ให้ขังแน่นจนอาจระเบิด (ไม่อยากนึกภาพนั้นเลย!) และจะมีเรือมาสูบของเสียออกเป็นระยะ

          "เราสร้างห้องน้ำบนบกไม่ได้ เพราะผิดกฎอุทยานฯ แพ 500 ไร่ ได้รับใบอนุญาตให้ทำกิจการจากอุทยานฯ เขาสก เราต้องรักษากฎอย่างเคร่งครัดครับ" เจ้าของหนุ่มซึ่งมีใจอนุรักษ์ตอบคำถามเกี่ยวกับห้องสุขาที่หลายคนสงสัยว่า ทำไมไม่สร้างบนบกเสียเลย ส่วนขยะทั้งหมดจะถูกขนลงเรือไปกำจัดที่ฝั่ง รวมทั้งผ้าใช้งานแล้วทั้งหลายก็ถูกนำไปซัก-ตากบนฝั่ง

          "ผมจบวิศวะสิ่งแวดล้อม เรื่องแบบนี้ผมใส่ใจแน่นอนครับ" ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของแพยืนยันหนักแน่น หมดข้อสงสัยในเรื่องราคาที่พักและแพ็กเกจที่สูงกว่าแพอื่นทันที เมื่อได้รับรู้ว่าระบบการจัดการของที่นี่มากมายขั้นตอนเพียงใด ยิ่งเมื่อนึกถึงความกระตือรือร้นและใบหน้ายิ้มแย้มของพนักงานทุกคน รวมกับห้องพักสวย สะอาด สะดวก อาหารอร่อยแบบจัดเต็มทั้งคุณภาพและปริมาณเงินทุกบาทที่จ่ายไป ก็นับว่าคุ้มค่านักกับความสุขและความยั่งยืนของธรรมชาติที่เรามีส่วนร่วมรักษาไว้

เชี่ยวหลาน

          2. เสียงชะนีกู่ก้องราวป่าแว่วมาจากตรงโน้นบ้างตรงนี้บ้าง ขณะเราเดินไปบนทางลำลองสายเล็กที่แวดล้อมด้วยพรรณไม้ป่าดิบ แทรกด้วยเสียงร้องของนกกก นกแก๊ก ซึ่งบางตัวบินพั่บ ๆ โผจากเรือนยอดหนึ่งไปอีกเรือนยอดหนึ่งเพื่อหาลูกไม้เป็นอาหารเช้า พื้นดินแผ่ไอเย็นชื้นขึ้นมาอาบอวลทั่วบริเวณ ช่วงเวลา 7 โมงกว่า แสงแดดยังไม่ส่องสาด นับเป็นเวลาที่เดินสบาย จะว่าไปแล้ว...แม้แดดจัดจ้า อย่างไรก็ไม่อาจทะลุทะลวงแสงผ่านเรือนยอดไม้แผ่นกว้างลงมาได้เต็มที่

          ป้าย "จุดชมวิวไกรสร 1.5 กม." ที่ปักไว้ตรงปากทางเดินขึ้นเขา หลังจากเรือหางยาวแล่นเข้าเทียบฝั่ง บอกให้รู้ว่าจุดชมวิวสวยนั้นอยู่ไม่ไกลนัก

เชี่ยวหลาน

          "เดินสบาย ๆ ครับ เหนื่อยตรงช่วง 200 เมตรสุดท้ายนั่นละ" กั้ง กัณฐกะ ก้อนทรัพย์ ไกด์หนุ่มผู้มีเสียงกึกก้องให้ข้อมูลก่อนลงเรือมาถึงจุดเริ่มเดิน แล้วฉันก็เข้าใจว่าเหนื่อยอย่างไรเมื่อเดินมากว่าครึ่งชั่วโมง ทางข้ามหน้านั้นสูงเชิดชันลิ่ว ไม่มีใครว่าอะไร ถ้าเราจะเดินในจังหวะเนิบ แต่ไม่เนือย ค่อย ๆ ส่งแรงขาพาตัวเองขึ้นไปเรื่อย ๆ โดยมีเหงื่อหยดหยาดเป็นทางยาวไล่ลามตามผิว หยุดพักเป็นช่วง ดูดอกไม้สีสวยบนผาหิน ชื่นชมดงเห็ดตรงขอนไม้ผุ แม้ว่าเราอาจใช้เวลาเกินกว่า 3 ชั่วโมง ในการไป-กลับตามที่กั้งบอกไว้ แต่จะเป็นไรไป ในเมื่อเราไม่เร่งรัดเรื่องเวลาอยู่แล้ว

          ทางโหดแท้จริงอยู่ตรง 10 เมตรสุดท้าย ซึ่งระเกะระกะไปด้วยหินปูนแหลมคมแทบทั้งนั้น ถ้าพลาดล้มก็มีสิทธิ์เสียเลือดแน่ เหงื่อไหลพรู ทั้งร้อนและทั้งลุ้นในคราวเดียวกัน แล้วรางวัลก็ปรากฏตรงหน้าเมื่อขึ้นมาถึงยอดเขา ซึ่งเมื่อมองจากในเรือจะเห็นเป็นสามเหลี่ยมเล็ก ๆ แต่แหลมเฟี้ยวและสูงนัก กลับกัน...เมื่อขึ้นมาอยู่บนยอดแล้วมองลงไป เราเห็นผืนน้ำเว้าแหว่งเป็นรูปร่างของแนวเขาชัดตา ผืนน้ำนิ่งเรียบราวกระจก สายลมพัดเย็นชื่นไล่ความเปียกชื้นจากเหงื่อไปจนหมด

เชี่ยวหลาน

          หลังจากเลือกก้อนหินรูปร่างพอเหมาะ ไร้รอยแหลมคม เรานั่งลงมองผืนป่าและสายน้ำเบื้องล่างด้วยความชื่นใจ นี่เป็นเพียงส่วนเสี้ยวของป่าดงดิบพื้นที่กว่าแสนไร่อันเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่า และเป็นแหล่งออกซิเจน สร้างอากาศสดสะอาดให้สูดหายใจได้อย่างเต็มปอด ณ เวลานี้ มีพรรณไม้มากมายซุกแน่นอยู่บนเกาะเล็ก ๆ และดกดื่นตามเขาสูงที่เราเห็นลิบ ๆ เบื้องล่าง

          นอกจากพรรณไม้ป่าดงดิบ ยังมีต้นไม้หายาก ที่มีชีวิตอยู่บนเขาหินปูน เช่น กกเขาสก (Khoasokia caricoides) พืชเฉพาะถิ่นที่พบในบริเวณเขื่อนเชี่ยวหลาน อุทยานแห่งชาติเขาสก และบางพื้นที่ในอำเภอศีรีรัฐนิคม จังหวะสุราษฎร์ธานี มองเผิน ๆ มันคล้ายกอหญ้าแห้งที่ค้างคาเป็นกระจกบนหน้าผา ถ้าไม่มีผู้รู้บอกกล่าว เราคงมองผ่านเลยมันไปแน่นอน

          นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของพรรณไม้ที่ฉันเพิ่งรู้จักจากการเดินทางครั้งนี้ ยังมีสิ่งมีชีวิตในป่าที่รู้ฤทธิ์มานาน และพบเจอแทบทุกครั้งเมื่อพาตัวเองเข้าสู่ป่าดิบ คือ ทากดูดเลือด ซึ่งบางครั้งก็เหมือนกับว่ามันหายตัวเข้ามาเกาะกินเลือดเราอย่างไรอย่างนั้น จะรู้ตัวก็ต่อเมื่อมันอิ่มหลุดไป ฝากรอยดูดชุ่มเลือดให้ดูต่างหน้าเท่านั้น

          ขากลับเดินสบาย ฉันทิ้งห่างพรรคพวกพอควร เดินเงียบ ๆ เพียงลำพัง จู่ ๆ ก็มีตัวอะไรสักอย่างกระโจนแผล็วตัดหน้าไปอย่างเร็วรี่ แล้วไปเคลื่อนกุกกักในพุ่มรก มองตามสักพักจึงเห็นว่ามัน คือ กระจงตัวน้อยหน้าตาเหมือนหนู แต่ขายาวเรียวเล็ก แปลกใจที่ได้เจอ เพราะเท่าที่รู้มากระจงจะออกหากินตอนกลางคืน ไม่ใช่ยามสายอย่างนี้

          กลับลงมาถึงตลิ่งที่เรือจอด ฉันพบว่าระยะทางเพียง 1.5 กิโลเมตรนั้น สร้างความประทับใจมากมายเหลือเกิน

เชี่ยวหลาน

          3. แพ 500 ไร่ ใช้ไฟปั่น ถ้าอยากเปิดพัดลม ชาร์จแบตเตอรี่ ต้มน้ำดริปกาแฟ ฯลฯ เราต้องทำในช่วงเวลา 5 โมงเย็นถึง 9 โมงเช้าเท่านั้น เมื่อเครื่องปั่นไฟพักการทำงานก็เป็นเวลาที่แดดจัดจ้าส่งผ่านความร้อนมาพอดี แล้วจะมีอะไรดีไปกว่าการกระโดดน้ำตูม ๆ อยู่ตรงหน้าห้องนอน หรือไม่ก็พายคายักเลาะเลียบขอบเขาไปดูนกลอยลำนิ่ง ๆ อาบไอเย็นจากผืนป่า แต่ถ้าอยากส่องสัตว์จริงจัง ซื้อทัวร์ลงเรือหางยาวตระเวนรับลมไปเรื่อย ๆ จะดีกว่า ให้พนักงานช่วยจัดอาหารเที่ยงไปกินในเรือเป็นการปิกนิกหนีร้อนก็เข้าท่ายิ่งนัก

          เราลงเรือออกตระเวนเมื่อเครื่องปั่นไฟหยุดทำงาน ไม่ได้หวังว่าจะเห็นสัตว์ป่านอกจากนก เพราะสัตว์คงไม่อยากออกมาหากินริมน้ำในช่วงกลางวันแดดจ้าสักเท่าไหร่ สิ่งมีชีวิตที่เราเห็นได้ไม่ยาก คือ นกออก ที่เกาะตอไม้ตายโดยสายตาคมกริบจ้องจับปลาที่ขึ้นมาใกล้ผิวน้ำ อีกทั้งยังมีนกกระเต็นปากแดงแจ๊ดซึ่งอาจมองปลาตัวเดียวกับนกออกอยู่ก็เป็นได้ เมื่อลอยเรือเข้าใกล้ตลิ่ง มองเห็นสาหร่ายหางกระรอกดกดื่นอยู่ใต้น้ำ ได้ยินเสียงจ๋อมดังใกล้ ๆ พงษ์ ณัฐพงษ์ สถิตย์ คนขับเรือมาดติสต์บอกว่าเป็นปลาชะโด ก่อนเหวี่ยงเบ็ดลงไปยังจุดที่เห็นน้ำกระเพื่อมไหว

          "แต่ก่อนคนล่าสัตว์เยอะครับ กระทิง เก้ง กวาง เลียงผา โดนทั้งนั้น แต่พอกรมประมงปล่อยพันธุ์ปลา และอนุญาตให้ชาวบ้านทำประมงขนาดเล็กได้ คนล่าสัตว์ก็น้อยลงมาก จะไปเสียเวลาทำผิดกับการล่าสัตว์ทำไม กว่าจะได้สักตัวไม่ใช่ง่าย ทำประมงพื้นบ้านดีกว่า ได้ปลาทุกวัน มีเงินพอเลี้ยงตัว ยิ่งพอการท่องเที่ยวบูมขึ้น คนล่าสัตว์ยิ่งน้อยลง มีคนมาเที่ยวเยอะก็เหมือนมีคนมาช่วยจับตามองครับ"

เชี่ยวหลาน

          นับเป็นข้อดีของการท่องเที่ยว ถ้าจัดที่ทางและวางระเบียบเป็นระบบ การมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนพื้นที่อนุรักษ์ ก็ใช่ว่าจะนำมาซึ่งความเสื่อมโทรมสถานเดียวอย่างที่หลายคนคิด

          เป็นอย่างที่คาด การล่องเรือยามสายจนเที่ยงไม่ได้เปิดโอกาสให้เราพบสัตว์ป่าเท่าเทียมยามเช้า เมื่อเช้านี้กั้งรับหน้าที่ขับเรือพาเราตระเวนหาต้นไทรที่มีลูกสุก เพราะนั่นคือแหล่งรวมของสัตว์ป่าสารพัน แต่เรามาถึงในช่วงที่ต้นไทรในบริเวณรัศมี 5 กิโลเมตร จากแพ 500 ไร่ เพิ่งหมดผลไปเมื่อไม่กี่วันนี้เอง จึงไม่เหลือแหล่งปาร์ตี้ให้ส่ำสัตว์ออกมารวมตัวกันคึกคักอย่างที่ต้องการ ถึงอย่างนั้นก็ยังพอมีโชคอยู่บ้าง เมื่อเจ้าสัตว์ตัวน้อยออกมาผึ่งปีกผึ่งขนให้เห็น ทั้งนกแก๊กที่อยู่ในช่วงจับคู่ บินเข้าจิกกินลูกค้อพลางกางปีกไปพลาง ชะนีมือขาวและชะนีดำห้อยโหนพร้อมส่งเสียงอั๋ว ๆ เป็นระยะ มีลิงหางยาวนั่งรับแสงส่องขนเป็นประกาย อีกทั้งยังมีหมีขอหน้าตาน่ารักปีนป่ายเก็บกินลูกไทรที่เพิ่งสุกในบางต้น

เชี่ยวหลาน

          กั้งบอกว่า อย่ามัวเพลินมองบนต้นไม้ ลองมองลงมาแถวตลิ่งบ้าง เผื่อหมูป่าจะออกมารับแดดกับเขา ได้ยินชื่อหมูป่า ฉันกลับนึกเลยเถิดถึง สมเสร็จ ว่ากันตามตรงแล้ว เหตุหนึ่งที่ทำให้เดินทางมายังพื้นที่อุดมสมบูรณ์แห่งนี้ ก็เพราะได้ยินคำบอกกล่าวว่า "เคยเห็นสมเสร็จว่ายน้ำไหมครับ ที่เชี่ยวหลานนี่เขาเห็นกันหลายครั้งนะ" ... อย่าว่าแต่สมเสร็จว่ายน้ำเลย สมเสร็จออกมานวยนาดและเล็มกินยอดไม้พุ่ม ซึ่งเป็นภาพที่เห็นง่ายกว่า...ฉันก็ยังไม่เคยเห็นกับตาตัวเอง

          เช่นเคย ครั้งนี้พลาดสมเสร็จ แต่ยังดีที่ได้เจอกระทิงตัวเขื่องลงมากินน้ำริมตลิ่งยามเย็นย่ำ หลังจากล่องเรือนตระเวนลึกเข้าไปตามผืนน้ำในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง ไกด์หนุ่มและคนขับเรือ \'ติสต์ก็ถกกันว่า ไอ้ที่เห็นดำ ๆ ไหว ๆ อยู่ไกล ๆ นั้นคือกระทิงหรือเปล่า แล้วเมื่อเบาเครื่องเรือเคลื่อนเข้าไป ก็ได้คำตอบว่ากระทิงจริง ๆ เป็นระยะห่างไม่น้อยกว่า 10 เมตร แต่ก็พอเห็นราง ๆ ว่าร่างดำมะเมื่อมนั้นยืนนิ่งอยู่ริมตลิ่ง หันหน้าเขม็งมองเราอยู่อึดใจหนึ่ง ก่อนวิ่งผลุบหายเข้าป่าไป ไม่ต้องสงสัยเลย เป็นเพราะเราอยู่เหนือลมซึ่งพัดพากลิ่นลอยไปเตะจมูกกระทิงโทนอย่างจังนั่นเอง

          ความมืดเริ่มโรยตัวปกคลุม เรือลำน้อยจึงเคลื่อนกลับสู่แพพักซึ่งห่างไปอีกราว 5 -6  กิโลเมตร ความเงียบโอบล้อมรอบตัวพร้อม ๆ กับความมืดที่มากขึ้นตามลำดับ ลึกเข้าไปในป่าทึบแน่นที่รายรอบเราอยู่ขณะนี้ ฉันคิดว่าอาจมีสัตว์ใหญ่ที่มองมายังเราก็เป็นได้

เชี่ยวหลาน

          4. แสงทองส่องทอกลุ่มเมฆขาวฟูฟ่องย้อมขอบให้เป็นสีอุ่นน่ามอง ดาวประกายพรึกยังส่องแสงวอมแวม ปุยหมอกขาวสะอาดลอยเหนือน้ำประดับหน้าขุนเขา เป็นภาพสวยที่เห็นทุกเช้าหน้าห้องนอนของเรา ประตูกระจกใสบานกว้างนั้นถูกเปิดรับลมตั้งแต่เมื่อคืน ครั้นถึงรุ่งเช้าภาพงามจึงปรากฏให้เห็นทันทีที่ลืมตา เวลาทำหน้าที่ของมันสม่ำเสมอ ไม่เคยยืดเยื้อเพิ่มพิเศษให้ใคร ราว 9 โมงเช้า เราลงเรือเดินทางกลับสู่ฝั่ง ทว่ายังมีแหล่งท่องเที่ยวระหว่างทางที่จะได้แวะเที่ยวชม

          พ้นจากแพ 500 ไร่ ไม่ไกล มีแนวหน้าผาใหญ่อยู่ในเวิ้งอ่าวละแวกคลองหวาง น่าจับตาตรงด้านริมสุดของผาหินปูน ซึ่งมีร่องลายคล้ายใบหน้าสาวญี่ปุ่นเกล้าผมตึง เผยใบหน้ารูปไข่ แก้มกลม ครั้นเลยไปอีกสักพักพงษ์ชี้ให้ดูบนยอดเขาสูงลิบด้านขวา เขาบอกว่านี่คือ เขาพ่อตา

          "ลองดูบนยอดเขาสิครับ มีหินรูปร่างเหมือนคนสวมหมวกจีนอยู่นั่นไง เขาลูกนี้มีตำนานเล่าต่อกันมาว่า เฒ่าคนหนึ่งมีอาคมแก่กล้า ต่อมาแกกลายเป็นเสือสมิง อยู่บนเขานี้แหละครับ"

          เรือแล่นพ้นโค้ง ผ่านแพพักเรียบง่ายซึ่งตั้งอยู่เบื้องหน้าขุนเขาสูงทะมึน เป็นแพนางไพร ดำเนินการและดูแลโดยอุทยานแห่งชาติเขาสก

          เขาสามเกลอ ตั้งอยู่เยื้องกับแพนางไพร ผืนน้ำช่วงนี้กว้างใหญ่จนคนละฝั่งนั้นห่างกันไกลนัก เรือแล่นวกอ้อมภูเขาฝั่งตรงข้ามกับแพนางไพรเข้ามายังด้านใน ซึ่งดูเหมือนทะเลในไม่น้อยหน้าบริเวณแพ 500 ไร่

          เขาหินปูนสามก้อนสวยงามเห็นเด่นชัด เป็นประติมากรรมธรรมชาติที่นักท่องเที่ยว ซึ่งมาถึงเขื่อนแล้วมักลงเรือมาเยือน เขาหินอีกก้อนใกล้เขาสามเกลอมีสมญาว่า เขาอินเดียนแดง ตามรูปลักษณ์ของมัน

เชี่ยวหลาน

          ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีก 2 จุด ที่เรือแวะเวียนพาเราผ่านไปชม คือ กุ้ยหลินเมืองไทย และ กุ้ยหลินน้อย อีกความงามของเขาหินปูนที่ถูกกัดเซาะโดยน้ำและลมจนเกิดรูปร่างแปลกตา ไม่ได้ดูแต่หิน เพราะเจ้าถิ่นในเรือชี้ชวนให้ดูพรรณไม้บนเขาหินปูน เช่น ปาล์มเจ้าเมืองถลาง กกเขาสก รองเท้านารี ฯลฯ เพลินกันไป

          ใกล้ถึงท่าเทียบเรือ เราสวนทางกับเรือนำเที่ยวหลายลำ บรรยากาศการเที่ยวแสนคึกคัก แตกต่างจากความสงบงามในบริเวณตอนในของทะเลสาบเป็นอย่างยิ่ง เรือนักท่องเที่ยวเหล่านั้นทำให้ฉันเห็นสิ่งที่น่าชมอีกอย่าง คือ ทุกคนสวมเสื้อชูชีพดูดี ไม่เป็นชูชีพเน่า ๆ เกรอะกรังด้วยราดำ นับเป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่สะอาดถูกใจจริง

เชี่ยวหลาน

          5. กลางธันวาคม 2555 ณ เมืองหลวงของประเทศไทย อากาศยังคงร้อนอบอ้าว บางวันฝนตก ไม่มีเค้าของฤดูกาลที่ชัดเจนอีกต่อไป

          "เชี่ยวหลานน่าเที่ยวที่สุดช่วงกลางเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคมครับ อากาศหนาวเลยล่ะ ไม่ใช่แค่เย็นสาย" คำบอกเล่าของชายหนุ่มผู้ผ่านวันเวลาในเขตบ้านตาขุนและเขื่อนเชี่ยวหลานมานานกว่า 20 ปี ยังติดอยู่ในความทรงจำ ทำให้นึกถึงเรือคายักที่เคลื่อนไหวเหนือผิวน้ำอย่างนุ่มนวล เข้าถึงต้นไทรสุกได้โดยไม่โฉ่งฉ่าง นึกถึงภาพนกกก นกแก๊ก ฝูงชะนี ค่าง ลิง ที่ห้อยโหนเก็บกินลูกไทรสุกอย่างสุขใจ บางคราวก็ร้องโหวกเหวก กวัดแกว่งมือไล่นกที่จ้องจะมากินลูกไทรในบริเวณเดียวกัน

          นึกถึงวันเวลาดี ๆ ที่ได้อิ่มเอมกับขุนเขา ผืนป่า ผืนน้ำ สายหมอก และอากาศลดสะอาด นึกถึงแพสงบงามแห่งนั้น...ที่ซึ่งรอยยิ้มเกิดขึ้นได้แสนง่ายดาย


เชี่ยวหลาน

คู่มือนักเดินทาง

การเดินทาง


          จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 เข้าทางหลวงหมายเลข 4 แล้วต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 41 ไปจนถึงแยกกิโลเมตรที่ 18 (จุดสังเกตคือโรงพยาบาลท่าโรงช้างจะอยู่ฝั่งขวา) จากนั้นให้เลี้ยวขวาใต้สะพานยกระดับเพื่อเข้าทางหลวงหมายเลข 401 จนกระทั่งเข้าเขตอำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี สังเกตโรงเรียนบ้านตาชุนวิทยาซึ่งอยู่ทางฝั่งซ้าย ฝั่งตรงข้ามคือสำนักงานของบริษัทสุราษฎร์อินเตอร์ทัวร์ จำกัด ขับเลยไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงทางเข้าเขื่อนรัชชประกา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ซึ่งอยู่ทางด้านขวามือ

          หากเดินทางด้วยรถประจำทาง จากกรุงเทพฯ นั่งรถสายกรุงเทพฯ-บ้านเขาต่อ-พังงา หรือกรุงเทพฯ-ภูเก็ต แจ้งพนักงานขายตั๋วว่าลงที่บ้านตาขุน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่บริษัทขนส่ง จำกัด โทรศัพท์ 1490 เว็บไซต์ www.transport.co.th

          หากไม่ได้ซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยวกับแพพัก จากท่าเทียบเรือเขื่อนเชี่ยวหลานไปยังแพต่าง ๆ ราคาเหมาลำประมาณ 2,000 – 2,500 บาท ต่อเที่ยว (นั่งได้ 10 คน)

ที่พักและอาหาร

          แพ 500 ไร่ เป็นแพพักเอกชนที่สะดวกสบายที่สุดในเขื่อนเชี่ยวหลานและเป็นแพเอกชนที่ได้รับใบอนุญาตประกอบการจากอุทยานแห่งชาติเขาสก ซึ่งดูแลพื้นที่ส่วนหนึ่งของเขื่อนเชี่ยวหลาน บรรยากาศสงบ เป็นส่วนตัว เพราะอยู่ในพื้นที่ด้านในสุดของแพที่พัก ไม่มีเรือนักท่องเที่ยวแล่นผ่านไปมา แพห้องพักมีทั้งหมด 11 หลัง ทุกหลังมีห้องใต้หลังคา แต่ละหลังพักได้ 5 คน มีห้องอาบน้ำและห้องสุขาแยกส่วนกันทุกห้อง เฉพาะห้องแบบ Deluxe Villa จะมีเครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่ แต่ปกติอากาศยามเช้าและค่ำนั้นเย็นสบายอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ สำหรับอาหาร บนแพ 500 ไร่ มีส่วนของร้านอาหารให้บริการตามแพ็กเกจ และมีเมนูสั่งแยกต่างหาก รสชาติอร่อย เต็มรสทุกจาน

          นอกจากแพ 500 ไร่แล้ว ยังมีแพพักของเอกชนอีกหลายราย สำหรับแพพักราคาย่อมเยา คือ แพของอุทยานแห่งชาติเขาสก สามารถสำรองที่พักได้ที่เว็บไซต์ www.dnp.go.th

เชี่ยวหลาน

แพ็กเกจทัวร์ 500 ไร่

          มีตั้งแต่ช่วงเวลา 2 วัน 1 คืน ไปจนถึง 4 วัน 3 คืน แพ็กเกจที่ขอแนะนำ คือ โปรแกรม 3 วัน 2 คืน (เที่ยวสันเขื่อน ไปเขาสามเกลอ กุ้ยหลินน้อย เดินป่าสู่จุดชมวิว ชมวิถีสัตว์ป่าคลองแสง และนั่งเรือดูนกชมหมอก) ราคาสำหรับ 2 - 3 คน คนละ 6,4000 บาท ราคาสำหรับ 4 คน รวม 17,500 บาท สำหรับวันศุกร์-เสาร์ (รวมค่าเรือโดยสารไป-กลับ ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติเขาสก ค่ากิจกรรม ค่าอาหาร 6 มื้อ ค่าห้องพักแบบ Duluxe ค่ามัคคุเทศก์ และค่าประกันอุบัติเหตุ)

แหล่งท่องเที่ยวใกล้ ๆ

          จุดชมวิวไกรสร มีเส้นทางเดินชัดเจน ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร ขึ้นเขาสูงชัน โดยเฉพาะช่วง 200 เมตร สุดท้ายเต็มไปด้วยหินปูนแหลมคม เส้นทางนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง

          น้ำตกแปดเซียน เป็นน้ำตกขนาดย่อม มีน้ำมากในช่วงฤดูฝน หรือหลังช่วงเวลาที่ฝนตกต่อเนื่องมา 2 - 3 วัน เป็นน้ำตกสวยงามหนึ่งเดียวในบริเวณทะเลสาบเหนือเขื่อนเชี่ยวหลาน

          ทะเลใน 500 ไร่ เป็นที่ตั้งเดิมของแพ 500 ไร่ ต้องล่องเรือแล้วต่อด้วยการเดินเท้าข้ามเขาลูกเล็ก ๆ ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร ในบริเวณทะเลในร่มรื่นด้วยพรรณไม้และผืนน้ำ และยังเป็นที่ตั้งของถ้ำปะการัง ซึ่งด้านในมีหินงอกหินย้อยงดงาม

          ถ้ำน้ำทะลุ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงผจญภัย ต้องเดินไปประมาณ 3 กิโลเมตร แล้วเดินเข้าถ้ำ ลุยน้ำลึกตั้งแต่ระดับเข่าไปจนถึงสูงท่วมหัวระยะทาง 700 เมตร ในถ้ำมีหินงอกหินย้อยและน้ำตกขนาดเล็กที่มีน้ำตลอดทั้งปี

          ป่าคลองแสง ตั้งอยู่ด้านใน ลึกจากที่ตั้งแพ 500 ไร่ไป วิธีเที่ยวคือการนั่งเรือหางยาวชมสองฟากป่าที่ยังอุดมสมบูรณ์ ในช่วงเย็นมีโอกาสพบเห็นกระทิง กวาง วัวแดง ช้าง ฯลฯ

เชี่ยวหลาน

รู้ก่อนไป

          อย่าลืมเตรียมกล้องส่องทางไกลสำหรับดูนกและสัตว์ป่า เพื่อให้ภาพชัดเจนยิ่งขึ้น

          รองเท้าเดินป่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้ที่ต้องการขึ้นจุดชมวิวไกรสร รองเท้าหุ้มข้อที่คุ้นเท้าจะทำให้เดินไต่ความสูงได้ง่ายขึ้น

          เตรียมเสื้อผ้าที่แห้งง่ายไปกระโดดน้ำเล่นเย็นกายเย็นใจ

          แพ 500 ไร่ ใช้เครื่องปั่นไฟ มีไฟฟ้าใช้เฉพาะเวลา 5 โมงเย็นถึง 9 โมงเช้า ถ้าเป็นคนขี้ร้อน และไม่ได้ลงเรือเที่ยวในช่วงกลางวัน ควรเตรียมพัด พัดลมใส่ถ่าน หรืออุปกรณ์คลายร้อนไปด้วย

          ในบริเวณแพ 500 ไร่ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือของค่ายใด หากต้องการติดต่อธุระสำคัญ ควรจัดการให้เรียบร้อยตั้งแต่ที่ท่าเทียบเรือ

          สำหรับผู้หลงรักรสชาติและบรรยากาศของการดื่มชา กาแฟ ไวน์ แนะนำว่าควรเตรียมไปให้พรั่งพร้อม เพราะบรรยากาศยามเช้าตรู่และเย็นย่ำค่ำมืดนั้นแสนรื่นรมย์ เหมาะกับการจิบเครื่องดื่มดี ๆ เป็นอย่างยิ่ง

          ติดต่อสอบถามและสำรองแพ็กเกจหรือห้องพัก บริษัทสุราษฎร์อินเตอร์ทัวร์ จำกัด โทรศัพท์ 08 1747 7474, 08 5747 7474 หรือเว็บไซต์ www.500rai.com


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

ปีที่ 53 ฉบับที่ 6 มกราคม 2556


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เพลินแพไพร...ในเชี่ยวหลาน อัปเดตล่าสุด 9 มิถุนายน 2565 เวลา 11:44:23 7,884 อ่าน
TOP