
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นทุกวัน ทำให้ปัจจุบันเด็ก ๆ หันมาเรียนรู้ผ่านอินเทอร์เน็ตกันมากขึ้น จนไม่ได้สัมผัสกับธรรมชาติบ้างเลย แถมยังรู้จักแต่ข้อมูลแต่ข้อความตามหน้าเว็บจนขาดประสบการณ์จริงอีกด้วย เพราะฉะนั้น พ่อแม่จึงควรเอาใจใส่พาลูกออกไปเปิดหูเปิดตากันให้มากขึ้น ด้วยการพาลูกออกไปเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ด้วยตัวเองดู โดยเฉพาะการพาเด็ก ๆ ไปที่พิพิธภัณฑ์สำหรับเด็ก เพราะช่วยให้เขาได้เรียนรู้มากเลยทีเดียว
ซึ่งในสหรัฐอเมริกาก็มีพิพิธภัณฑ์สำหรับเด็กดี ๆ เพียบเลยล่ะ ดังนั้น ใครที่กำลังวางแผนจะพาครอบครัวไปเที่ยวที่โน่น ก็ไม่ควรพลาดเด็ดขาดนะคะ และถ้าพ่อแม่คนไหนกลัวว่าสถานที่พวกนี้จะทำให้ลูกหลานของคุณเบื่อหน่ายล่ะก็ ไม่ต้องกังวลไปเลยค่ะ เพราะพิพิธภัณฑ์แต่ละแห่งช่วยให้เขาได้เรียนรู้พร้อมกับสนุกสนานด้วยในเวลาเดียวกัน ไม่เชื่อก็ลองมาดู 10 สุดยอดพิพิธภัณฑ์สำหรับเด็กในอเมริกา จากเว็บไซต์ Daily Top 10 ที่กระปุกท่องเที่ยวนำมาฝากกันวันนี้เลยค่ะ


พิพิธภัณฑ์ในเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนียแห่งนี้ เรียกได้ว่าเหมาะกับเด็กผู้หญิงเป็นพิเศษ เพราะมีสวนเทพนิยายพร้อมดอกไม้ยักษ์และของเล่นสไตล์เจ้าหญิงมากมายให้เด็ก ๆ ได้เล่นสนุกกันตามใจชอบ แถมยังมีชุดน้ำชาแบบในเรื่องอลิซในแดนมหัศจรรย์ของโปรดของสาวน้อยทั้งหลายอีกด้วย ส่วนถ้าใครพาเด็กผู้ชายหรือเด็กโตไปก็ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะเบื่อเลย เพราะที่นี่มีเครื่องดนตรีมากมายหลากหลายชนิดให้เด็กได้ลองฝึกกันตามใจชอบด้วยเหมือนกัน ไม่แน่นะ...อาจช่วยให้ลูกของคุณได้พบพรสวรรค์ของตัวเองตั้งแต่เด็กก็ได้ ใครจะไปรู้


ถ้าใครอยากให้ลูก ๆ ได้ลองเลือกอาชีพให้ตัวเองตั้งแต่เด็ก ก็ต้องมาที่พิพิธภัณฑ์ Kohl Children’s Museum ในเมืองเกลนวิว รัฐอิลลินอยส์ เพราะที่นี่เน้นของเล่นที่จำลองอาชีพในชีวิตจริง ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายมากมาย ตั้งแต่หมอ พยาบาล ไปจนถึงพนักงานร้านค้า นอกจากนี้ ยังมีกำแพงให้เด็ก ๆ ได้โชว์ฝีมือวาดรูปเก่ง ๆ ของตัวเองกันได้ตามใจชอบอีกด้วย จึงเหมาะกับเด็กเล็กวัยต่ำกว่า 6 ขวบมากเป็นพิเศษ


ส่วนใครที่อยากให้ลูก ๆ ได้ฝึกสมองกันตั้งแต่เด็ก ก็ต้องมาที่พิพิธภัณฑ์ในเมืองฮุสตัน รัฐเทกซัส เพราะเป็นที่ ๆ เน้นให้เด็ก ๆ ได้ฝึกระบบความคิดเป็นหลัก โดยให้เด็กรู้จักบริหารเงินด้วยตัวเองจากการจำลองอาชีพเสมือนจริง โดยต้องบริหารเงินที่ได้และรายจ่ายให้สมดุลกัน แถมยังมีโปรแกรมให้เด็กได้ฝึกออกแบบสะพานส่งน้ำ และเรือสำหรับแข่งขันด้วยตัวเองอีกด้วย แบบนี้แล้วคนที่อยากให้ลูกได้ฝึกทักษะความคิดคงถูกใจกันสุด ๆ เลยล่ะ


หัวใจหลักของพิพิธภัณฑ์ในเมืองเมดิสัน รัฐวิสคอนซิน คือการให้เด็ก ๆ มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น ในขณะที่โลกทุกวันนี้ทำให้เรายึดติดอยู่กับเทคโนโลยี จนห่างหายจากธรรมชาติสวย ๆ เข้าไปทุกที จึงได้สร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ให้เป็นแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แถมยังมีสวนบนดาดฟ้าให้เด็ก ๆ ได้ฝึกทักษะการเลี้ยงสัตว์ รวมทั้งปลูกต้นไม้และได้เพลิดเพลินกับดอกไม้สวย ๆ ไปในตัว ยิ่งไปกว่านั้นยังมีบ้านต้นไม้น่ารัก ๆ ให้เด็กได้เล่นกันตามใจชอบอีกด้วยนะ


เพื่อให้ลูกของคุณได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และสนุกสนานได้เต็มที่ด้วยในเวลาเดียวกัน ก็ต้องมาที่พิพิธภัณฑ์สำหรับเด็กในเมืองเซนต์พอล รัฐมินนิโซตา เพราะที่นี่มีป่าจำลองที่ช่วยให้เด็ก ๆ ได้ฝึกการสังเกตผ่านการเฝ้ามองชีวิตของสัตว์ต่าง ๆ และสนุกกับการเล่นกับเพื่อน ๆ ท่ามกลางบ่อน้ำและถ้ำจำลองด้วยในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ ยังมีโปรกรมเล่านิทานเพื่อเอาใจเด็ก ๆ อีกด้วย เรียกได้ว่าเหมาะกับเด็กเล็กที่อยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็นสุด ๆ เลยทีเดียว


สำหรับใครที่ไม่อยากให้ลูกกลัวจนร้องไห้งอแงในวันแรกของการไปโรงเรียน ก็สามารถมาฝึกความพร้อมให้ลูกที่พิพิธภัณฑ์ในเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ เพราะที่นี่จะช่วยให้ลูกของคุณได้ฝึกการเตรียมพร้อมเข้าโรงเรียน ตั้งแต่การจัดกระเป๋า เข้าเรียน ไปจนถึงการขึ้นรถโรงเรียนเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังมีโปรแกรมให้เด็ก ๆ ได้เล่นสนุกตามแบบภาพยนตร์ดังเรื่อง Wizard of Oz เช่นกัน โดยมีปราสาทแม่มดและเครื่องสร้างพายุทอร์นาโดให้เด็ก ๆ ได้เล่นสนุกกันอีกต่างหาก ทำให้พวกเขาเพลินจนคิดว่าการไปโรงเรียนกลายเป็นเรื่องสนุกและไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป


ใครที่เป็นแฟนของซีรีส์สุดคลาสสิคจากปี 1968 อย่างเรื่อง Mister Rogers’ Neighborhood ก็จะต้องถูกใจที่นี่กันเป็นพิเศษอย่างแน่นอน เพราะพิพิธภัณฑ์ในพิทส์เบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย ที่เรานำมาฝากนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากซีรีส์เรื่องดังกล่าว จึงได้จำลองหมู่บ้านสวย ๆ จากในเรื่องมาให้เด็ก ๆ ได้วิ่งเล่นกันตามใจชอบ อีกทั้งยังมีโซนข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่ถูกแกะออกให้เห็นโครงสร้างภายใน เพื่อเด็กช่างสงสัยทั้งหลายได้ศึกษากันตามใจชอบอีกด้วย จึงเหมาะกับเด็กเล็กในวัยซนช่วง 6 เดือน ถึง 6 ปีเป็นพิเศษ


แม้ว่าพิพิธภัณฑ์จากเมืองอินเดียนาโพลิส รัฐอินเดียนา จะมีสิ่งแปลกตามากมายหลากหลายอย่างให้เด็ก ๆ เล่น แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของที่นี่ก็คงหนีไม่พ้นเมืองอียิปต์จำลอง ซึ่งเป็นสถานที่โปรดของบรรดานักท่องเที่ยวแน่นอน เพราะที่นี่คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศเหมือนอยู่ในประเทศอียิปต์ยุคโบราณจริง ๆ จากการได้สัมผัสกับระบบการใช้เงินและอาหารการกินท้องถิ่นของที่โน่น แถมยังมีเกมล่าสมบัติให้เล่นอีกด้วย จึงช่วยให้เด็ก ๆ ที่มาสนุกกับการเรียนรู้วัฒนธรรมต่างชาติได้เป็นอย่างดี


แม้ภายนอกจะดูทันสมัยสไตล์โมเดิร์นสุด ๆ จนเราไม่คาดหวังว่าจะได้บรรยากาศแบบธรรมชาติจากที่นี่ แต่พิพิธภัณฑ์ในเมืองโรเชสต้า นครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นเมืองหลวงของสหรัฐอเมริกาแห่งนี้ ก็ช่วยให้ลูกของคุณได้ใกล้ชิดกับสิ่งแวดลอมมากขึ้นอย่างที่คุณคาดไม่ถึงเลยล่ะ โดยจะมีสัตว์มากมายให้ลูก ๆ ของคุณได้สังเกตวิถีการใช้ชีวิตของมันอย่างใกล้ชิด ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการแข่งขันทำอาหาร ให้เด็กที่โตหน่อยได้โชว์ฝีมือของตัวเองอีกด้วยนะ


และแล้วก็มาถึงที่สุดท้ายที่เรานำมาฝากกัน ก็คือ พิพิธภัณฑ์จากเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนานั่นเอง โดยที่นี่จะมีครัวให้กุ๊กตัวจิ๋วทั้งหลายได้ฝึกการทำอาหารอร่อย ๆ กันแบบละเอียดทุกขั้นตอน เพื่อเอาไปฝากให้พ่อแม่ได้ลองลิ้มชิมฝีมือของลูก ๆ ดู ซึ่งนอกจากจะได้ฝึกทำอาหารแล้ว เขายังมีหน้าที่ต้องฝึกความรับผิดชอบ ด้วยการเดินเลือกซื้อวัตถุดิบด้วยตัวเองอีกด้วย เรียกได้ว่าพ่อแม่อยากฝึกลูกให้เป็นเชฟคนเก่งไม่ควรพลาดเด็ดขาด หรือถ้าใครอยากให้ลูกเป็นจิตรกรตัวน้อย ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็มีห้องสำหรับงานศิลปะให้เขาได้ฝึกวาดรูป และโชว์ผลงานสวย ๆ ของตัวเองด้วยเหมือนกัน
อ่านจบแล้วก็ทำให้รู้เลยว่าพิพิธภัณฑ์สำหรับเด็ก ที่ช่วยให้พวกเขาได้สนุกสนานและเรียนรู้ในเวลาเดียวกันมีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะฉะนั้น ใครที่กำลังจะไปเที่ยวสหรัฐอเมริกาก็อย่าลืมพาลูกหลานไปเที่ยวเล่นในพิพิธพัณฑ์ดี ๆ เหล่านี้ดูนะคะ ส่วนถ้าใครไม่มีเวลาแต่อยากให้ลูกได้ประสบการณ์ดี ๆ แบบนี้บ้าง ก็สามารถพาเด็ก ๆ ไปเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์สำหรับเด็กในเมืองไทย ที่มีให้เลือกมากมายไม่แพ้เมืองนอกเลยค่ะ
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก pleasetouchmuseum, เฟซบุ๊ก kohlchildrensmuseum, เฟซบุ๊ก cmhouston, เฟซบุ๊ก madisonchildrensmuseum, เฟซบุ๊ก MinnesotaChildrensMuseum, เฟซบุ๊ก BostonChildrensMuseum, เฟซบุ๊ก pittsburghkids, เฟซบุ๊ก childrensmuseum, เฟซบุ๊ก
StrongNationalMuseumofPlay และ เฟซบุ๊ก childrensmuseumofphoenix