x close

ชวนปั่นจักรยานรอบเกาะเทโพ ล่องเรือชมวิถีชาวแพสะแกกรัง


เกาะเทโพ

ชวนปั่นจักรยานรอบเกาะเทโพ ล่องเรือชมวิถีชาวแพสะแกกรัง (ไทยโพสต์)

          อุทัยธานีเป็นเมืองที่มีการรณรงค์และให้ความสำคัญกับการใช้จักรยานเป็นพาหนะ เพราะเป็นเมืองเล็ก มีเสน่ห์และยังคงความเป็นเมืองแห่งวิถีชีวิตที่งดงาม มีแม่น้ำสะแกกรังไหลผ่านคอยหล่อเลี้ยงชีวิตของชาวบ้าน

          การปั่นจักรยานชมเมืองจึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการเดินทางท่องเที่ยว สัมผัสชีวิตชุมชนริมฝั่งอย่างใกล้ชิด ด้วยความสะดวก มีความคล่องตัวสูง อีกทั้งเป็นการประหยัด ปลอดมลพิษ ลดภาวะโลกร้อน และได้ออกกำลังกายไปในตัว 

          สถานที่จะพาไปชาวกรุงเรียก "โอเอซิส" แต่ชาวบ้านที่นี่ เรียกขานกันว่า "เกาะเทโพ" เกาะน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อยู่ฝั่งตรงข้ามของตัวเมืองอุทัยธานี หรือด้านตะวันออกของแม่น้ำสะแกกรัง ลักษณะเป็นเกาะขนาดใหญ่ ที่ขนาบด้วยแม่น้ำสองสาย คือ เจ้าพระยาและสะแกกรัง

          บนเกาะเทโพแห่งนี้ มีการจัดทำเส้นทางจักรยานเพื่อการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เส้นทางจะเริ่มต้นที่สะพานเล็ก ๆ ตรงตลาดริมน้ำที่เรียกว่า "สะพานวัดโบสถ์" 

          จากนั้นแวะชมวัดอุโปสถาราม ซึ่งมีมณฑปแปดเหลี่ยมเป็นสัญลักษณ์โดดเด่นอยู่ริมแม่น้ำสะแกกรัง เป็นศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ผสมผสานระหว่างศิลปะยุโรปกับศิลปะจีน จากนั้นก็ขี่เลาะกำแพงวัด

          ไปตามเส้นทาง ก็ผ่านสวนส้มโอ เห็นผีเสื้อมากหลากหลายชนิดที่บินรายล้อมอยู่ตามพุ่มดอกไม้ริมรั้วแต่ละบ้าน รวมทั้งต้นไม้ใหญ่ร่มเย็นตลอดเส้นทาง เมื่อมาถึงฟาร์มจระเข้ ก็จะเห็นวิวแม่น้ำสะแกกรังค่อนข้างชัดเจน สามารถแวะลงไปชมได้

          ถ้าโชคดีก็จะเห็นเรือจับปลาลำเล็ก ๆ แล่นผ่านทักทายกัน เป็นภาพวิถีชีวิตแบบชาวบ้านที่ได้เห็นแล้วทำให้รู้สึกอบอุ่นใจดี

          เมื่อผ่านวัดขุมทรัพย์ ก็จะพ้นทางเลียบแม่น้ำสะแกกรัง ต้องขี่จักรยานตัดถนนเพื่อเข้าทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา จากตรงนี้ไปวิวสองข้างทางจะเป็นหมู่บ้านที่ค่อนข้างจะหนาแน่น มีการเลี้ยงปลาในกระชังเป็นระยะ ๆ

          มีโป๊ะข้ามฟาก มีกลุ่มจักสาน ถ้าสนใจก็ขอเจ้าของบ้านลงไปดูปลาในกระชังได้ ถัดจากตรงนี้ไปก็จะพบทัศนียภาพที่เป็นไร่อ้อย ไร่ข้าวโพด สัมผัสกลิ่นอายวิถีชีวิตแบบชาวบ้านอุทัย

          เกือบสุดทางลาดยาง ตรงหัวมุมกำแพงวัด แนะนำให้เลี้ยวขวาออกไปทางบ้านตาลเอน ไปถึงหมู่บ้านโรงน้ำแข็ง เส้นทางนี้มีทุ่งนาสีเขียวที่สวยงามมาก มีนกกระสา นกกระทุงตัวใหญ่ ๆ ส่งเสียงร้องอยู่เต็มท้องนา ดึงดูดให้หยุดพักลงไปเดินเล่นลัดเลาะตามคันนา 

          เมื่อถึงซุ้มบ้านโรงน้ำแข็ง ซึ่งเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวตัวอย่าง ขี่ผ่านเข้าไปจะเห็นท่าน้ำเล็กๆ ลงไปดูเรือที่ผ่านไปผ่านมา หรือชีวิตชาวแพชาวประมงก็เพลินดี บางจุดก็สามารถแวะชมการย่างปลาแห้ง การจักสาน ทำเครื่องหอม ฯลฯ ของชาวบ้านได้ สัมผัสกลิ่นอายวิถีชีวิตแบบชาวบ้านอุทัยอย่างใกล้ชิด

          ทั้งนี้ เส้นทางของการปั่นจักรยานบนเกาะเทโพ เป็นที่ราบและคอนกรีตเล็ก ๆ และถนนลูกรังตลอดสองข้างทาง รายล้อมด้วยแมกไม้ท้องทุ่งนา ป่าไผ่ และสายน้ำ โดยมีระยะทางไว้รองรับนักปั่นถึง 3 เส้นทาง คือ ระยะทาง 15 กม. จากลานสะแกกรัง - ลานสะแกกรัง เวลา 1 ชั่วโมง, ระยะทาง 40 กม. จากลานสะแกกรังถึงศูนย์โอท็อป เมืองพระชนกจักรี เวลา 2.30 ชม. และระยะทาง 50 กม. จากลานสะแกกรัง วัดพระปรางค์เหลือง ถึงศูนย์โอท็อป ใช้เวลาเวลา 3.30 ชม.

          สำหรับใครที่ขี่จักรยานรอบเกาะเทโพแล้วต้องการทำกิจกรรมท่องเที่ยวอย่างอื่น ก็สามารถทิ้งรถมาลงเรือ ชมวิถีชาวแพแม่น้ำสะแกกรังได้ ซึ่งหาพบได้ยากในโลกยุคปัจจุบันและถือเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวให้มาที่นี่   

          สมัยก่อนจะมีเรือนแพทั้งหมดกว่า 300 หลัง ทุกเรือนแพมีบ้านเลขที่และทะเบียนบ้านรับรองการอยู่อาศัย เป็นการถือกรรมสิทธิ์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย

          ปัจจุบันยังเหลือชาวแพที่อาศัยอยู่ในสายน้ำแห่งชีวิตสายนี้กว่า 200 หลัง แต่ภาครัฐไม่อนุญาตให้มีการออกทะเบียนบ้านให้แพที่สร้างใหม่อีกแล้ว

          สิ่งที่พบหากมาเยือน คือชาวบ้านที่นี่ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายของวิถีชีวิตแบบชาวแพที่มากไปด้วยบ้านเรือนแพ ทอด ยาวไปตามแนวโค้งของแม่น้ำ อาศัยความอุดมสมบูรณ์ของสายน้ำ ในการปลูกต้นเตยและประกอบอาชีพทำการประมงน้ำจืด โดยการเลี้ยงปลาในกระชัง 

          มีทั้งปลาสวาย ปลาแรด ปลาเทโพ โดยเฉพาะปลาแรด ที่เลี้ยงในกระชัง ของที่นี่ถือว่าขึ้นชื่อเรื่องเนื้อนุ่ม หวาน อร่อยกว่าที่อื่น ๆ ไม่มีกลิ่นโคลนเหมือนกับปลาแรดที่อื่น จนกรมประมงต้องยกให้เป็นปลาน้ำจืดประจำ จ.อุทัยธานี

          นอกจากนี้ ชาวเรือนแพก็ยังจับปลาจากในลำน้ำสะแกกรังมาทำเป็นปลาแห้ง ปลาเค็ม แล้วนำไปขายในตลาด เพื่อเป็นรายได้ให้กับครอบครัว 

          กลับมาที่บนเรือ เรายังสามารถมองเห็นภาพความงามที่ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรมากมาย ด้านตะวันออกจะเห็นเกาะเทโพ มีทุ่งนา สวนผัก สวนผลไม้ และป่าไผ่ตามธรรมชาติ ด้านตะวันตกมีอาคารบ้านเรือนอยู่หนาแน่น เป็นตลาดขนาดใหญ่ โดยทั้ง 2 ฟากฝั่งถูกกั้นกลางด้วยแม่น้ำสะแกกรัง

          การท่องเที่ยวเมืองอุทัยธานีครั้งนี้ ทำให้เรารู้สึกถึงความสนุก สุขใจ ที่ได้เรียนรู้วิถีชีวิตชาวเกาะและชาวแพ ที่สำคัญยังได้ออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานด้วย

          ถือเป็นการดำเนินกิจกรรมสอดคล้องกับแนวคิด "7 Greens" ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ที่ร่วมส่งเสริมการรักษาอัตลักษณ์ของชุมชนเอาไว้ พร้อมอนุรักษ์โลกใบนี้ โดยใช้พาหนะ 2 ล้อปั่น ในการท่องเที่ยวที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

          สำหรับใครต้องการปั่นจักรยานรอบเกาะเทโพ หากไม่มีรถก็สามารถติดต่อได้จากรีสอร์ตและที่พักในเมืองอุทัยธานี แต่ถ้าต้องการจักรยานสำหรับนักปั่นโดยเฉพาะ สามารถติดต่อได้ที่ ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพอุทัยธานี โทร. 0-56 51-1991 หรือ 08-6214-2505 หรือที่ร้านปุ๋มกาแฟสดโบราณ โทร. 08-1046-8880

          แต่สำหรับผู้ต้องการนั่งเรือชมวิถีชีวิตชาวแพด้วยตัวเอง หรือใช้บริการนำเที่ยวชมวิถีชีวิตริมน้ำ โดยจะขึ้นที่ท่าเรือเทศบาลอุทัยธานี โทร. 08-6790-9749

          นอกจากนี้ ยังมีเรือคายัคให้เช่าพายที่หน้าศาลากลางจังหวัด นั่งได้ 1-3 คน ราคา 10-30 บาท/ชั่วโมง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-5651-1444, 0-5651-3155




ขอขอบคุณข้อมูลจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ชวนปั่นจักรยานรอบเกาะเทโพ ล่องเรือชมวิถีชาวแพสะแกกรัง อัปเดตล่าสุด 21 สิงหาคม 2555 เวลา 17:49:41 3,932 อ่าน
TOP