ต้องมนต์เสน่ห์ เมืองปราก นครแห่งพันยอดแหลม











เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

            ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองสุดโรแมนติกอีกเมืองหนึ่งของโลก อาจเพราะมีสถาปัตยกรรมอันหลากหลายที่เก่าแก่และงดงาม ไม่ว่าจะเป็น ปราสาท อาคาร บ้านเรือน สะพาน หรือโบสถ์ รวมถึงมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม จนได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลกด้านวัฒนธรรม เมื่อ ค.ศ.1992 จึงไม่แปลกใจที่นักเดินทางจากทั่วโลก มักแวะเวียนไปท่องเที่ยว "เมืองปราก" (Prague) เมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดใน "สาธารณรัฐเช็ก" เพราะฉะนั้น วันนี้กระปุกดอทคอมเลยขออาสาพาเพื่อน ๆ ไปเดินทอดน่อง สัมผัสความงามของ "เมืองปราก" กัน อะ ๆ แต่ก่อนที่จะไปชิลล์เมืองปราก เรามาทำความรู้จักกับประวัติความเป็นมาของเมืองนี้กันก่อนดีกว่า ...

ประวัติ

            บริเวณ เมืองปราก มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เนื่องจากมีคนอาศัยอยู่มาตั้งแต่ 200 ปีก่อนคริสตกาล โดยช่วงแรกเป็นเผ่าเคลต์ (Celt) ก่อนจะถูกรุกรานโดยเผ่าเยอรมนิก (Germanic) และถูกครอบครองโดยเผ่าสลาฟในคริสต์ศตวรรษที่ 4 แต่ต่อมาในศตวรรษที่ 7 วัฒนธรรมของทั้งสองเผ่าพันธ์ ได้ผสมผสานกันเป็นหนึ่งเดียว

            ส่วนตัวเมืองปรากนั้น มีหลักฐานว่าสร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 9 และเป็นเมืองหลวงของแคว้นโบฮีเมีย ซึ่งอยู่ใต้การปกครองของจักรวรรดิโรมัน จากนั้นปลายคริสต์ศตวรรษที่ 9 กษัตริย์บอริวอจ พรีมิสโลเวก (Borivoj Premyslovec) ทรงสร้างปราสาทขนาดใหญ่บนเขาสูงสง่าเหนือแม่น้ำวัลตาวา (Vltava) แต่ชาวเยอรมันเรียกแม่น้ำนี่ว่า Moldau เขา Hradchin และมีการขนานนามปราสาทแห่งนี้ว่า ปราฮา (Praha) ซึ่งเป็นชื่อเรียกกรุงปรากในภาษาเช็ก

            กรุงปราก มีประชากรทั้งสิ้นประมาณ 1.2 ล้านคน มีแม่น้ำ Vltava ไหลผ่านกรุงเก่าแก่แห่งนี้ ด้วยเหตุนี้กรุงปรากจึงมีสะพานที่ทอดข้ามแม่น้ำ Vltava อยู่หลายแห่ง และถึงแม้ว่าเมืองปรากจะตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของคอมมิวนิสต์ เป็นเวลานานกว่า 40 ปี แต่ปัจจุบันกลายเป็นจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยว ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในยุโรป

            อาจเพราะหลังรอดพ้นจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองปรากได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมที่งดงาม สิ่งก่อสร้างเก่าแก่ที่โดดเด่น ถนนสายคดเคี้ยว รวมทั้งพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ และความอบอุ่นเป็นกันเองของชาวเมือง จึงไม่ยากเลยที่จะเป็นเสน่ห์ชักชวนให้นักเดินทางหลงใหลในเสน่ห์ของเมืองนี้

 สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือน ได้แก่...



            ปราสาทปราก (Prague Castle) สร้างขึ้นในปี ค.ศ.885 เคยเป็นปราสาทของกษัตริย์แห่งเช็กในอดีต อีกทั้งเคยได้รับการรับรองจากกินเนสส์บุ๊ก ว่าเป็นปราสาทโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีความยาวประมาณ 570 เมตร และความกว้างประมาณ 130 เมตร แต่ปัจจุบันรัฐบาลทำเป็นทำเนียบประธานาธิบดี, มหาวิหารเซนต์วิตุส (St. Vitus Cathedral) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1344 ด้วยศิลปะแบบโกธิค แต่แล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1929 เป็นที่เก็บมงกุฎเพชรซึ่งทำขึ้นในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 กษัตริย์ผู้สร้างความเจริญสูงสุดจนทำให้เมืองปราก


 
            สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1357 เพื่อแทนที่สะพานจูดิธซึ่งสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12  ในปัจจุบันสะพานชาร์ลส์เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่ง สวยโดดเด่นไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน ทัศนียภาพของสะพานนี้จะสวยงามยิ่งขึ้นในช่วงเช้าตรู่และยามตะวันตกดิน



            จัตุรัสเมืองเก่า (Old Town Square) และ หอนาฬิกาดาราศาสตร์ (Town Hall Clock) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่า แวดล้อมด้วยสถาปัตยกรรมบารอค กอธิค และรอโคโคที่อลังการ จัตุรัสเมืองเก่าเป็นอีกย่านที่น่านั่ง มีคาเฟ่หลายร้านให้เลือก คุณอาจจะเช่าม้าหรือรถม้านั่ง เดินสำรวจตลาด หรือแม้แต่ชมหอนาฬิกาดาราศาสตร์




            จัตุรัสเวนเซสลัส (Wenceslas Square) สัญลักษณ์ของกรุงปรากยุคใหม่ มีแหล่งช้อปปิ้ง คาเฟ่เอฟรอปาซึ่งเป็นศิลปะแบบอาร์ต นูโว และอนุสาวรีย์เซนต์เวนเซสลัส, โบสถ์พระแม่ (Church of Our Lady Before Týn) เป็นสถานที่สำคัญในเขตเมืองเก่าของเมือง และเป็นโบสถ์หลักของเขตเมืองเก่ามาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 หอคอยของโบสถ์สูง 80 เมตร และมียอดเล็ก ๆ 4 แห่งอยู่โดยรอบ ภายในโบสถ์มี pipe organ ที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงปราก สร้างขึ้นโดย Heinrich Mundt และเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุดของออร์แกน ในศตวรรษที่ 17 ในยุโรป, พระราชวังกินสกีซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบรอโคโค บ้านระฆังหินที่สร้างตั้งแต่ยุคกลาง และโบสถ์เซนต์นิโคลัสแบบบารอค

            ชุมชนชาวยิวยอเซฟอฟ (พิพิธภัณฑ์และโบสถ์เก่า-ใหม่) เป็นชุมชนชาวยิวที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป ตั้งชื่อตามจักรพรรดิยอเซฟที่สอง ประกอบด้วยโบสถ์ยิว 6 หลัง เรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่แสนเศร้าของชาวยิวได้ที่พิพิธภัณฑ์ชาวยิว



           พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จัดแสดงงานนิทรรศการประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติ ที่ยิ่งใหญ่มาตั้งแต่ปี 1891 ภายในอาคารประดับตกแต่งอย่างสวยงาม อย่าพลาดชมวิวสุดอลังการของจัตุรัสเวนเซสลาสจากชั้นบน



            วิเชฮราด อดีตป้อมปราการที่ไม่มีใครอยากย่างกรายมา แต่ปัจจุบันเป็นสถานที่พักผ่อนช่วงสุดสัปดาห์ยอดนิยมของชาวกรุงปราก แวะชมโบสถ์เซนต์มาร์ตินซึ่งอาคารหลังคาทรงกลมแบบโรมาเนสก์ที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง และโบสถ์เซนต์ปีเตอร์และเซนต์ปอล  เพลิดเพลินกับการเดินเล่นในบรรยากาศอันแสนสงบภายในสวน นอกจากนี้ หากคุณอยากดื่มด่ำกับความโรแมนติกของเมืองปราก เราแนะนำให้ไปล่องเรือในแม่น้ำ Vltava เพื่อสัมผัสความทัศนียภาพสองข้างทางที่สวยงามของเมือง

            และนี่เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ เพียงไม่กี่แห่งที่เราหยิบมานำเสนอ เพราะ เมืองปราก ยังมีอะไรให้ได้ชื่นชมอีกเพียบ! ถ้ามีโอกาสอย่าลืมแวะไปสัมผัสด้วยตัวคุณเองนะ

 การเข้าเมือง

            กรุงปราก ประเทศสาธารณรัฐเช็กเ ป็นสมาชิกในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2004 จึงมีข้อบังคับการเข้าเมืองสำหรับนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป ที่แตกต่างกับนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่น ๆ โดยพลเมืองจากประเทศในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปใช้เพียงหนังสือเดินทาง หรือบัตรประจำตัวในการเดินทางเข้าประเทศ ข้อกำหนดนี้ยังรวมถึงพลเมืองจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเคนสไตน์ ซึ่งสามารถเดินทางได้อิสระในเขตเศรษฐกิจยุโรป

            ส่วนพลเมืองจากประเทศที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (รวมทั้งประเทศไทย) จะต้องใช้หนังสือเดินทางที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน รวมทั้งต้องใช้วีซ่าด้วยในบางกรณี สำหรับคนไทย จะต้องใช้วีซ่ากลุ่มเช็งเกนซึ่ งสามารถขอได้จากสถานทูตสาธารณรัฐเช็กในกรุงเทพ ถ้าคุณถือสิทธิผู้อาศัยหรือวีซ่าของประเทศในกลุ่มเช็งเกนอื่น ๆ คุณก็ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตเข้าเมือง

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่...

สถานทูตเชค ประจำประเทศไทย (สาธารณรัฐ)

ที่อยู่ 71/6 ซอยร่วมฤดี 2 ถนนเพลินจิต กรุงเทพฯ 10330
โทรศัพท์ 0-2255-5060, 0-2255-3027
โทรสาร 0-2255-4978
E-mail : bangkok@embassy.mzv.cz








ขอขอบคุณข้อมูล
prague.fm, วิกิพีเดีย






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ต้องมนต์เสน่ห์ เมืองปราก นครแห่งพันยอดแหลม อัปเดตล่าสุด 19 กันยายน 2554 เวลา 10:22:05 48,822 อ่าน
TOP
x close