x close

อุทยานแห่งชาติทางทะเล เกิดมาต้องไปสักครั้ง

ทะเล

อุทยานแห่งชาติทางทะเล (อุทยานแห่งชาติ)

          อุทยานแห่งชาติทางทะเล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อีกแบบหนึ่งที่หลายคนควรหาโอกาสไปสัมผัสดูสักครั้ง เพราะเป็นทรัพยากรที่มีค่าซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่เกิดมาโดยธรรมชาติ มีความโดดเด่น และเป็นหนึ่งเดียวในโลก ซึ่งการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาตินั้น ก็เพื่อช่วยคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญไว้ เพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ทำให้เกิดธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ อีกทั้งยังช่วยรักษาสมดุลของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

          อย่างไรก็ตาม สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจซึ่งถูกประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลก็มีอยู่มากมาย แถมยังดึงดูดให้เราไปสัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติ ที่อุดมสมบูรณ์นั้นอย่างเหลือเกิน แต่จะเป้นที่ไหนบ้างนั้น...ไปดูกันดีกว่า...

อุทยานแห่งชาติสามร้อยยอด

อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ติดต่ออุทยานได้ที่ 0-3260-3751

          ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของอ่าวไทย ในท้องที่อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของไทย มีความหลากหลายของระบบนิเวศน์ ตั้งแต่ห้วงน้ำทะเล ชายหาด ป่าชายเลน หนองน้ำจืด ทุ่งหญ้า และป่าเขาหินปูนซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจคือ...

          เขาแดง มีจุดชมวิวบนยอดเขาแดง สูงประมาณ 160 เมตร จากระดับน้ำทะเล เวลาที่เหมาะในการชมวิวคือ ตอนเช้ามืด เพราะสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้น เหนือขอบทะเลบ้านเขาแดง และทัศนียภาพรอบๆได้ดี ตลอดจนชมนก ลิงแสม และค่างแว่น ที่ออกหากินในตอนเช้าตรู่

          คลองเขาแดง การล่องคลองเขาแดงไปตามลำคลองประมาณ 3- 4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง จะได้ชมทิวทัศน์ป่าชายเลน ได้เห็นนกนานาชนิด ในช่วงเวลาเย็นจะได้เห็นพระอาทิตย์ตก และถ่ายภาพได้สวยงาม

          หาดแหลมศาลา เป็นหาดสน ตั้งอยู่ใกล้บ้านบางปู มีภูเขาล้อมเป็นรูปตัวยู เปิดด้านหน้าเป็นชายทะเล มีเกาะสัดกูดบังคลื่นอยู่ด้านหน้า

          ถ้ำพระยานคร เป็นถ้ำขนาดใหญ่ อยู่ในบริเวณหาดแหลมศาลา มี 3 คูหา สองคูหามีปล่องด้านบน ส่วนด้านล่างในถ้ำเป็นป่า ต้นไม้ค่อนข้างสูงชะลูด ถ้ำพระยานครค้นพบโดยพระยานคร ผู้ครองเมืองนครศรีธรรมราช แต่ไม่ทราบนาม ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ ได้โปรดเกล้า ฯ ให้สร้างพลับพลา แบบจตุรมุขขนาดย่อม ตั้งอยู่บนเนินดินกลางน้ำ พระองค์ได้เสด็จประพาสถ้ำนี้ เมื่อปี พ.ศ. 2433 และได้พระราชทานนามพลับพลาว่า พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์



อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ติดต่ออุทยานได้ที่ 0-7728-6025 (บริเวณฝั่ง) 0-7742-0225 (บริเวณเกาะ)

          อุทยานแห่งนี้เป็นหมู่เกาะในอ่าวไทย อยู่ในท้องที่ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าสนใจมากมาย ได้แก่...

          เกาะวัวตาหลับ เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะอ่างทอง มีแหล่งน้ำจืดไหลซึมจากยอดเขามาตามอุโมงค์ ภายในถ้ำมีหาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใสจนออกสีมรกต และร่มรื่นด้วยแมกไม้ จุดชมวิวบนยอดเขา ที่ระดับความสูง 222 เมตร จากระดับน้ำทะเล จะมองเห็นทัศนียภาพของหมู่เกาะอ่างทอง ทอดตัวเป็นแนวยาว ด้วยรูปลักษณะต่างๆ มองเห็นเกาะสมุย เกาะพงัน เกาะเต่า และอำเภอมุมเรียง ด้านทิศใต้ของหาดทราย ด้านหน้าเกาะมีถ้ำบัวโบก มีหินงอกหินย้อยสวยงาม รูปร่างคล้ายดอกบัวบาน

          ทะเลใน ตั้งอยู่บนเกาะแม่เกาะ อยู่ห่างจากเกาะวัวตาหลับไปทางเหนือเล็กน้อย มีลักษณะเป็นทะเลสาบ ซึ่งอยู่ในแอ่งยุบขนาดใหญ่ ของภูเขาหินปูนที่สูงสลับซับซ้อน มีรูปเป็นวงรีล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงชัน พื้นที่ของทะเลในมีประมาณ 41 ไร่ กว้าง 250 เมตร ยาว 350 เมตร น้ำลึกประมาณ 7 เมตร มีอุโมงค์ใต้น้ำเชื่อมต่อกับทะเลเปิด ทำให้ระดับน้ำของทะเลในเท่ากับระดับน้ำของทะเลภายนอก แต่สีของน้ำทะเลในแตกต่างจากทะเลภายนอก เพราะท้องน้ำตื้นและมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทราย ณ จุดชมวิวจะสามารถมองเห็นทัศนียภาพของทะเลใน และหมู่เกาะโดยรอบ รวมทั้งทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเล เปิดได้อย่างชัดเจน

อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ติดต่ออุทยานได้ที่ 0-3865-3034

          เมื่อปี พ.ศ. 2519 ได้มีการเคลื่อนไหวให้เกาะเสม็ดหรือเกาะแก้วพิศดาร ในเรื่องพระอภัยมณี วรรณคดีไทยของสุนทรภู่ เป็นเกาะที่เสมือนเพชรเม็ดงาม เป็นเอกของทะเลฝั่งตะวันออกของอ่าวไทย ได้รับการอนุรักษ์ให้คงสภาพตามธรรมชาติไว้ ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2524 จึงได้ประกาศจัดตั้งอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ในท้องที่ตำบลบ้านเพ อำเภอเมือง และตำบลแกลง อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ซึ่งครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ดังนี้...

          หาดแม่รำพึง เป็นหาดทรายชายทะเลฝั่งแผ่นดินใหญ่ที่ขาวสะอาดและยาวที่สุดของฝั่งทะเลด้าน ตะวันออกของจังหวัดระยอง เป็นหาดทรายที่ลาดชันน้อย อยู่ในอุทยานแห่งชาติตั้งแต่เชิงเขาแหลมหญ้า ทอดตัวออกไปยาวถึง 12 กิโลเมตร บริเวณชายหาดร่มรื่นด้วยต้นไม้ เหมาะแก่การว่ายน้ำและเล่นน้ำทะเล

          เกาะเสม็ด เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของอุทยาน มีพื้นที่ประมาณ 9.6 ตารางกิโลเมตร อยู่ห่างจากฝั่งบ้านเพ ประมาณ 6 กิโลเมตร ฝั่งตะวันตกของเกาะเป็นหน้าผาสูงชันและลาดชันลงสู่ฝั่งตะวันออกที่มีชายหาดเว้าแหว่ง ทำให้เกิดหาดที่สวยงามหลายแห่ง ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ทางด้านเหนือและตะวันออกของเกาะ ประกอบด้วยอ่าวและหาดทรายสวยงามมากมายได้แก่

          หาดทรายแก้ว อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะ  เป็นหาดทรายที่สวยที่สุดของเกาะ หาดยาวประมาณ 800 เมตร เม็ดทรายละเอียดขาวสะอาด

          อ่าวดอก หรือ อ่าววงเดือน อยู่ทางด้านทิศตะวันออกตอนกลางของเกาะ เป็นอ่าวโค้งคล้ายพระจันทร์ครึ่งดวง หาดทรายยาวประมาณ 500 เมตร เป็นอ่าวที่มีความสงบและธรรมชาติบริสุทธิ์

          อ่าวหวาย อ่าวกิ่ว อ่าวเตย และอ่าวเทียน เป็นอ่าวเล็กๆ อยู่ติดต่อกันไปตามฝั่ง เป็นบริเวณที่เหมาะในการดำน้ำชมปะการัง เพราะมีแนวปะการังอยู่ใกล้กับฝั่ง ทุกอ่าวมีหาดทรายที่สวยงามอยู่ตลอด โดยเฉพาะที่อ่าวกิ่วจะสวยที่สุด อยู่ไกลจากหาดทรายแก้วประมาณ 6 กิโลเมตร ตามแนวชายฝั่ง มีลักษณะเป็นคอคอด เชื่อมต่อระหว่างอ่าวกิ่วนอกกับอ่าวกิ่วใน สามารถสัมผัสทะเลได้ทั้งฝั่งตะวันออก และฝั่งตะวันตกของเกาะเสม็ด

          อ่าวพร้าว เป็นอ่าวฝั่งด้านทิศตะวันตก มีชายหาดที่ค่อยๆ เทลาดเอียงลงไปในทะเล มีดงมะพร้าวขึ้นอยู่ทั่วไป เป็นอ่าวที่เงียบและสะอาด

          เกาะกุฎี เป็นเกาะหนึ่งในวรรณกรรมสุนทรภู่ เช่นเดียวกับเกาะแก้วพิศดาร อยู่ทางทิศตะวันออก ของเกาะเสม็ด ห่างจากฝั่งประมาณ 8 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 0.5 กิโลเมตร และมีเกาะเล็ก ๆ เป็นบริวารอยู่ 2 เกาะ คือเกาะท้ายค้างคาว และเกาะถ้ำฤาษี เกาะนี้มีธรรมชาติที่เงียบสงบ มีหาดทรายสวยงาม จากผานิลมังกรที่อยู่ทางด้านทิศใต้ของเกาะ สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกลและสวยงาม รอบ ๆ เกาะ มีแนวปะการังตลอดชายฝั่ง เหมาะแก่การดำน้ำชมปะการัง บนเกาะมีสัตว์ต่าง ๆ เหมาะแก่การไปพักแรม

          เกาะทะล อยู่ห่างจากเกาะกุฎีไปทางทิศตะวันออกประมาณ 6 กิโลเมตร บริเวณด้านทิศเหนือ  จะเป็นแหลมที่มีผาหินคล้ายกับสะพานธรรมชาติ ช่วงกลางจะเป็นช่องกว้างน้ำทะเลลอดทะลุ เป็นที่มาของชื่อเกาะ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าทึบ ด้านทิศตะวันออกและทิศใต้เป็นหาดทรายขาวบริเวณกว้าง เหมาะในการพักแรม ด้านทิศตะวันตกมีสภาพเป็นผาหินสูงชันและแหลมคมตลอดทั้งเกาะ ตามปกติจะมีนกนางนวลอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม นกนางนวลจะมาวางไข่บริเวณหน้าผา  นอกจากนี้เกาะทะลุยังเป็นที่วางไข่ของเต่าทะเลบางชนิด และเป็นที่อาศัยของค้างคาวแม่ไก่เป็นจำนวนมาก  ใต้ท้องทะเลรอบเกาะโดยเฉพาะหาดทรายด้านทิศตะวันออก จะมีดงปะการังขนาดใหญ่ กินพื้นที่ประมาณ 0.02 ตารางกิโลเมตร  นับเป็นแหล่งดำน้ำลึกอีกแห่งหนึ่ง
         
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ติดต่ออุทยานได้ที่ 0-3953-8100

          อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ของแหลมงอบ จังหวัดตราด มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ดังนี้...

          หาดคลองพร้าว-แหลมไชยเชษฐ์ เป็นหาดทรายที่มีความยาวมาก ติดต่อกับหาดไก่แบ้ หาดทรายบริเวณนี้มีความลาดมาก สามารถเล่นน้ำทะเลได้ ตอนเหนือสุดของอ่างคลองพร้าว ติดต่อกับอ่าวไชยเชษฐ์ และแหลมไชยเชษฐ์ ซึ่งมีแหลมหินที่มีทัศนียภาพสวยงาม

          หาดไก่แบ้ เป็นหาดที่มีความยาวติดต่อกับหาดคลองพร้าว เป็นหาดที่มีความลาดพอสมควร สามารถเล่นน้ำทะเลได้

          เกาะเหลายา อยู่ทางตอนใต้ของเกาะช้าง ประกอบด้วยเกาะเหลายาใน เกาะเหลายากลาง และเกาะเหลายานอก ใช้เวลาเดินทางจากแหลมงอบประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที เป็นเกาะที่มีหาดทรายยาว น้ำทะเลใส และมีแนวประการังสวยงาม

          เกาะหวาย เป็นเกาะใหญ่อีกเกาะหนึ่ง ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเกาะช้างถัดออกไปจากเกาะเหลายา ประกอบด้วยอ่าวใหญ่ที่มีชายหาดสวยงาม หาดส่วนใหญ่เป็นหาดหิน มีแนวประการังขนาดใหญ่และสมบูรณ์

          หมู่เกาะรัง เป็นเกาะขนาดเล็ก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะหมาก บนเกาะไม่มีที่ราบที่จะอาศัยอยู่ได้ แต่มีสัมปทานทำรังนกนางแอ่น และมูลค้างคาว มีโขดหินใต้ทะเลและประการังน้ำลึกที่สวยงาม

          นอกจากนี้ ยังมีเกาะที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น เกาะหยวก อยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะช้าง เกาะมันใน และเกาะมันนอก อยู่ใกล้กับเกาะหยวก เกาะพร้าว อยู่ทางทิศใต้ของเกาะช้าง ในอ่าวสลักเพชร แนวปะการังบริเวณรอบ ๆ เกาะ ส่วนใหญ่เป็นปะการังน้ำตื้น  มีความสวยงาม  และมีความสมบูรณ์อยู่มาก

อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ติดต่ออุทยานได้ที่ 0-7472-9202, 0-7472-9002-3

          อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ประกอบด้วยเกาะขนาดต่างๆ จำนวน 51 เกาะ แบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มคือ หมู่เกาะตะรุเตา และหมู่เกาะอาดัง-ราวี กระจายกันอยู่บริเวณช่องแคบมะละกา ฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งเป็นเกาะใต้สุดของประเทศไทย พรมแดนต่อเนื่องกับเกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย

          เกาะตะรุเตา บริเวณอ่าวพันเตมะละกา มีหาดทรายขาวสะอาด และสวยงาม  เหมาะแก่การเล่นน้ำทะเล และกางเต้นท์พักแรม จุดชมวิวบนผาโต๊ะบู

          เกาะกลางและเกาะไข่ อยู่ห่างจากเกาะตะรุเตาไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 25 กิโลเมตร เกาะทั้งสองนี้อยู่เคียงคู่กัน มีหาดทรายที่ขาวสะอาดสวยงาม มีซุ้มประตูหินอันเป็นประติมากรรมธรรมชาติ อันเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของอุทยานแห่งนี้ ที่เกาะไข่ยังเป็นที่วางไข่ของเต่าทะเลอีกด้วย

          เกาะอาดัง หาดทรายที่แหลมสนเหมาะแก่การพักแรม  ชมความงามของทัศนียภาพ  มีจุดชมวิว และน้ำตกหลายแห่ง

          เกาะหินงาม อยู่เลยเกาะอาดังไปทางทิศตะวันตกไม่ไกลนัก เกาะนี้จุดเด่นอยู่ที่หาดหิน ก้อนหินมีลักษณะกลมรี มีหลายขนาดด้วยกัน ผิวเกลี้ยงเกลาเป็นเงาวับ เมื่อคลื่นซัดเข้าฝั่งจะเห็นสีของหินสลับริ้วลายงามตา

          หมู่เกาะอาดัง-ราวี อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแนวประการัง  และทรัพยากรธรรมชาติใต้ทะเล เหมาะแก่การดำน้ำชมประการัง 

อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา  ติดต่ออุทยานได้ที่ 0-7641-2188, 0-7641-1136

          ครอบคลุมพื้นที่ป่าชายเลนผืนใหญ่ ที่อุดมสมบูรณ์คงสภาพดั้งเดิมอยู่มาก นับตั้งแต่เขตอำเภอเมืองพังงาเลียบตามชายฝั่งจนถึงเมืองตะกั่วทุ่ง และบริเวณพื้นน้ำในทะเลอันดามัน

          เกาะพนัก เป็นเกาะใหญ่อยู่กลางทะเล ระหว่างเส้นทางเดินเรือภูเก็ต-พังงา ประกอบด้วยทะเลใน ซึ่งมี ถ้ำมืดและถ้ำสว่าง การเข้าสู่ทะเลในต้องใช้เรือซีแคนูเพียงอย่างเดียวจึงเข้าไปได้ มีความลึกตั้งแต่ 50-150 เมตร มีอยู่ทั้งหมด 5 จุด

          เกาะห้อง เป็นเกาะเขาหินปูน มีหินงอกหินย้อยคล้ายห้องหลายๆ ห้อง ต่อเรียงกันเป็นแถว การเข้าชมต้องจอดเรือหน้าเกาะ แล้วใช้เรือซีแคนูเลาะชมรอบๆ เกาะ และทะเลใน 1 จุด

          เกาะทะลุนอก เป็นเขาหินปูน มีถ้ำทะเลคล้ายถ้ำลอดใหญ่แต่เล็กกว่า เรือสามารถแล่นลอดผ่านได้ เช่นเดียวกันกับถ้ำลอดใหญ่

          เขาตาปู-เขาพิงกัน เป็นสถานที่สวยงามแปลกตาจากการสร้างสรรของธรรมชาติ เขาพิงกันเป็นจุดที่เรือทุกลำ จอดให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพ ด้านหน้าเป็นเขาตาปู ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี

          เกาะปันหยี เป็นหมู่บ้านชาวประมง ซึ่งอยู่ในพื้นที่น้ำทะเลท่วมถึง บ้านจึงต้องสร้างยกระดับให้พ้นระดับน้ำทะเล บริเวณหมู่บ้านอยู่นอกเขตอุทยาน ชาวปันหยีเป็นชุมชนชาวประมงดั้งเดิม ปัจจุบันเป็นชุมชนรองรับนักท่องเที่ยว โดยปรับปรุงบ้านบางส่วนเป็นร้านอาหารและจำหน่ายของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยว

          นอกจากนี้ อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากแห่ง เช่น เกาะละวะใหญ่ เขาหมาจู เกาะไข่ ถ้ำลอด ถ้ำพ่อตาขุนทอง ถ้ำนาค ถ้ำแก้ว และยังมีภาพเขียนสีโบราณที่เขาเขียน เกาะปันหยี เขาระย้า ถ้ำนาค เกาะพระอาตเฒ่า ภาพเขียนโบราณเหล่านี้มีอายุมากกว่า 1,000 ปี

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ติดต่ออุทยานได้ที่ 0-7649-1378, 0-7741-9028-9

          อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน ในจังหวัดพังงา ประกอบด้วยเกาะต่างๆ รวม 5 เกาะคือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะรี เกาะกลาง และเกาะไข่

          เกาะสุรินทร์เหนือและเกาะสุรินทร์ใต้ เป็นเกาะขนาดใหญ่ วางตัวตามแนวทิศเหนือ-ใต้ ด้านเหนือของอุทยาน  เป็นเขตแดนติดต่อกับประเทศพม่า ส่วนทางด้านทิศใต้ในระยะไม่ห่างกันนัก เป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน

          เกาะสุรินทร์เหนือ ประกอบด้วย ชายหาดและอ่าวหลายแห่ง มีหาดด้านเหนือและหาดด้านใต้บริเวณตอนกลางของพื้นที่เป็นที่โล่ง ทางด้านตะวันตกจะมีเนินเขาสูง เป็นสถานที่เหมาะที่จะไปพักผ่อน

          อ่าวแม่ยาย เป็นอ่าวใหญ่ที่สุด มีความสมบูรณ์ของปะการังมาก

          อ่าวไม้งาม มีชายหาดสวยงาม มีปะการังให้ชม

          อ่าวช่องขาด มีที่เล่นน้ำทะเล ชมปะการัง เมื่อน้ำทะเลลดต่ำสุดสามารถเดินไปยังหมู่บ้านชาวเลได้

          อ่าวไทรเอน เป็นอ่าวขนาดใหญ่ มีปะการังและหญ้าทะเลขึ้นอยู่มาก

          เกาะสุรินทร์ใต้ เป็นเกาะที่มีชุมชนชาวเลตั้งอยู่ ชาวเลเป็นชนกลุ่มน้อยอาศัยอยู่ตามหมู่เกาะต่างๆ ในทะเลอันดามัน ตั้งแต่ประเทศอินเดียถึงประเทศอินโดนีเซีย ชาวเลมีวิถีการดำรงชีวิตแบบดั้งเดิม  หาเลี้ยงชีพด้วยการงมหอยแทงปลา

          อ่าวสุเทพ มีปะการังเป็นแนวยาวตลอดชายหาด เวลาน้ำทะเลลงต่ำสุด แนวหินและปะการัง จะโผล่เหนือน้ำ

          อ่าวบอนใหญ่ เป็นอ่าวใหญ่ที่ชาวเลเคยอาศัยอยู่ ด้านหน้าอ่าวมีปะการังที่สวยงาม

          อ่าวผักกาด เป็นอ่าวเล็ก ๆ อยู่ทางด้านใต้ของเกาะสุรินทร์ใต้ เป็นอ่าวที่มีปะการังสวยงาม เหมาะแก่การดำน้ำชมปะการัง

          หินแพ (หินกอง) เป็นแนวหินโสโครกที่โผล่พ้นน้ำ ตั้งอยู่หน้าอ่าวทางด้านทิศใต้ของเกาะสุรินทร์เหนือ เป็นแหล่งที่มีปลาชุกชุม และมีปะการังเขากวางเป็นผืนใหญ่

          เกาะปาจุมบา เป็นเกาะเล็กๆ มีหาดทรายอยู่ทางด้านตะวันออก เป็นแหล่งปะการังอ่อน

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ติดต่ออุทยานได้ที่ 0-7641-1913-4

          หมู่เกาะสิมิลัน ตั้งอยู่กลางทะเลอันดามัน มีความเป็นเลิศในความงามของปะการังเป็นเอกแห่งหนึ่งของโลก สิมิลัน เป็นคำในภาษายาวี แปลว่า "เก้า" ชาวประมงค์บางคนจึงเรียกว่า "เกาะเก้า" ประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อย รวม 9 เกาะด้วยกัน เรียงตัวตามแนวทิศเหนือไปทิศใต้ ได้แก่ เกาะบอน เกาะบางู เกาะสิมิลัน เกาะปายู เกาะห้า เกาะเมียง เกาะปาหยัน เกาะปายัง และเกาะหูยง หมู่เกาะสิมิลัน ครอบคลุมพื้นที่ ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา

          หมู่เกาะสิมิลันได้รับการยกย่องจาก นิตยสารสกินไดวิ่งของสหรัฐอเมริกาว่า มีความสวยงามทั้งบนบก และใต้น้ำติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวมากที่สุดคือ ห้วงเวลาปลายเดือน ธันวาคมถึงกลางเดือนเมษายน ในเดือนมีนาคมเป็นช่วงที่มีอากาศดีที่สุด น้ำใสและไม่มีมรสุม

          เกาะสิมิลัน เป็นเกาะใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะสิมิลัน ใต้ทะเลสมบูรณ์ไปด้วยปะการัง กัลปังหา พัดทะเล ปลาหลากสี และกุ้งมังกร เกาะสิมิลันมีอ่างเล็ก ๆ อยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะ มีรูปโค้งเหมือนเกือกม้า มีแนวปะการัง ปลาเล็ก ปลาน้อยมากมาย สภาพหาดสวยงาม เหมาะแก่การดำน้ำชมปลาและปะการัง  ด้านทิศเหนือของอ่าว เป็นเกาะแก่งเล็ก ๆ ใต้น้ำมีปะการังเขากวาง และปะการังดอกเห็ดขนาดใหญ่  ทางทิศใต้ของอ่างเป็นโขดหิน สลับกับแนวปะการัง เป็นระยะตลอดแนวอ่าว ด้านทิศเหนือของเกาะมีก้อนหินขนาดใหญ่ รูปร่างคล้ายรองเท้าบู๊ท ก้อนหินนี้เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของเกาะสิมิลัน
       
          หินปูซาร์ หรือเกาะกะโหลก เป็นเกาะอันดับ 7 ของหมู่เกาะสิมิลัน มีลักษณะเป็นก้อนหินขนาดใหญ่ มีลักษณะแปลก เมื่อมองทางด้านหนึ่งจะเห็นรูปหัวกระโหลก สภาพใต้น้ำของเกาะนี้มีความสวยงาม ไม่แพ้แห่งอื่นและมีระดับความลึก แตกต่างออกไปหลายระดับชั้น มีสภาพเหมือนหุบเขาใต้น้ำ เต็มไปด้วยปะการังและหุบเหวลึก มีปลาใหญ่น้อยเป็นจำนวนมาก พากันว่ายเวียนอยู่ตามก้อนหิน บางครั้งจะมีปลาโลมามาปรากฏให้เห็น

          เกาะหูยง เป็นเกาะที่มีชายหาดขาวสะอาด และยาวมากที่สุดของหมู่เกาะนี้ เป็นที่วางไข่ของเต่าทะเล

          เกาะเมียงหรือเกาะสี่ เป็นที่ตั้งที่ทำการอุทยาน มีแหล่งน้ำจืด และหาดทรายสวยงาม เป็นแหล่งที่สามารถดูปูขน และนกชาปีไหนได้ดีกว่าพื้นที่อื่น

          จุดดำน้ำหลักๆ ของอุทยานแบ่งออกได้เป็นจุดดำน้ำลึก และจุดดำน้ำตื้น

          จุดดำน้ำตื้น สามารถดำได้รอบๆ เกาะทุกเกาะ แต่ที่น่าสนใจได้แก่ อ่าวหินเรือใบ อ่าวกวางเอน หินดอกไม้ และหลังเกาะเมียง

          จุดดำน้ำลึก บริเวณที่น่าสนใจได้แก่ เกาะบอน กองหินคริสต์มาส กองหินแฟนตาซี อ่าวกวางเอน แหลมประภาคาร หินปูซาร์ หินสามก้อน หินดอกไม้ หัวเกาะเมียง สวนปลาไหล สันฉลาม และกำแพงเมืองจีน

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะพีพี ติดต่ออุทยานได้ที่ 0-7563-7436

          อยู่ในท้องที่ตำบลหนองทะเล ตำบลอ่าวนาง ตำบลไสไทย และตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ครอบคลุมพื้นที่หาดนพรัตน์ธารา สุสานหอย 75 ล้านปี หมู่เกาะปอดะ เกาะหินแดง และหมู่เกาะพีพี แหล่งท่องเที่ยวในเขตอุทยานประกอบด้วย หาดทรายชายทะเล อ่าว ปะการัง จุดชมวิว ถ้ำที่มีหินงอกหินย้อย มีภาพเขียนสีโบราณในถ้ำ และความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอีกมาก

          สุสานหอย เป็นซากดึกดำบรรพ์ของหอยน้ำจืดชนิดต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นหอยขม ซากหอยเหล่านี้ได้ทับถมกัน โดยมีน้ำทะเลเป็นน้ำประสานธาตุปูนจับตัวให้กลายเป็นหินแข็ง ทับอยู่บนชั้นหินลิกไนท์ และหินดินดานเดิม ประมาณว่ามีอายุ  75 ล้านปีมาแล้ว จึงเรียกว่าสุสานหอย 75 ล้านปี อยู่บริเวณชายทะเลบ้าน แหลมโพธิ์ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอุทยาน สุสานหอยลักษณะนี้มีเพียงแห่งเดียวในโลก

          หาดนพรัตน์ธารา เดิมชาวบ้านเรียกว่า หาดคลองแห้ง เนื่องจากเมื่อน้ำลงน้ำคลองที่ไหลลงมาจากภูเขา ทางด้านเหนือจะแห้งขอด กลายเป็นหาดทรายยาวทอดลงไปในทะเลบรรจบกับเขาปากคลอง เป็นหาดที่เป็นแหล่งอาศัยของหอยชักตีนแหล่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง

          หมู่เกาะปอดะ อยู่ทางทิศใต้ของอ่าวพระนาง เมื่อมองจากฝั่งจะเห็นหาดทรายขาวแต่ไกล บริเวณชายฝั่งมีปะการังหลายชนิด น้ำทะเลใสสะอาดทำให้สามารถชมปะการังได้ตลอดปี

          หมู่เกาะพีพี หมู่เกาะนี้มีอยู่ 6 เกาะด้วยกัน คือ เกาะพีพีดอน  เกาะพีพีเล  เกาะปิด๊ะนอก  เกาะปิด๊ะใน เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ อยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลจังหวัดกระบี่ประมาณ  42  กิโลเมตร  ลักษณะทั่วไปเป็นเวิ้งอ่าวครึ่งวงกลม  อยู่ในวงล้อมของภูเขาหินปูนที่สูงชัน จนเกือบเป็นทะเลใน

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ติดต่ออุทยานได้ที่ 0-7478-1572

          หมู่เกาะเภตรา เป็นหมู่เกาะน้อยใหญ่กลางทะเลอันดามันเรียงรายกระจัดกระจายตั้งแต่ตำบลเกาะสุกร อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง จนถึงตำบลขอนคลาน อำเภอทุ่งหว้า และตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล ครอบคลุมพื้นที่ชายฝั่งทะเล และเกาะน้อยใหญ่ จำนวน 22 เกาะ สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตลอดปี

          เกาะลิดี มีหน้าผาและถ้ำเป็นที่อาศัยของนกนางแอ่น  มีพื้นที่ประมาณ  10 ตารางกิโลเมตร หาดทรายขาวสะอาด มีเวิ้งอ่าวยื่นเข้าไปในตัวเกาะ เหมาะสำหรับเล่นน้ำทะเล เป็นมุมสงบสำหรับการพักผ่อน

          เกาะเขาใหญ่ อยู่ทางเหนือของเกาะลิดี เป็นประติมากรรมธรรมชาติที่คล้ายปราสาทหิน มีสะพานธรรมชาติยื่นโค้งลงไปในทะเล ในช่วงน้ำลดจะสามารถพายเรือลอดข้ามได้

          อ่าวก้ามปู เป็นส่วนหนึ่งของเกาะเขาใหญ่ ภายในอ่าวมีน้ำตกที่ไหลเป็นลำธารเล็กๆ ลักษณะเป็นแหล่งน้ำซับอยู่  4 แห่ง เป็นอ่าวที่สงบปราศจากคลื่นลมตลอดปี ตัวอ่าวเวิ้งเข้าไปคล้ายเกือกม้า กว้างประมาณ 700 เมตร ช่วงเวลาน้ำลงปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล จะปรากฏให้เห็นตลอดแนวฝั่ง บริเวณอ่าวนี้จะมีเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่ ทิวทัศน์หน้าอ่าวมีความงดงาม มองเห็นตัวเกาะคล้ายเรือกลไฟสมัยโบราณจอดทอดสมออยู่ ตามตำนานกล่าวว่าเป็นเรือของเจ้าหญิงต่างแดน มาจอดรอรับชายคนรักที่เป็นชาวเล บนเกาะเขาใหญ่

          เกาะบุโหลน เป็นเกาะที่มีหาดทรายขาว น้ำใส  มองเห็นปะการังใต้น้ำ เมื่อเวลาน้ำลดจะสามารถสัมผัสกับ ปะการังเขากวางที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก

          เกาะเภตรา และ เกาะเหลาเหลียง อยู่ในอำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง เป็นที่อาศัยของนกนางแอ่น  เป็นเขตสัมปทานเก็บรังนก หาดทรายของเกาะทั้งสองหันหน้าสู่ตะวันออก ตามหน้าหาดจะมีปะการังน้ำตื้น บางส่วนโผล่พ้นน้ำขึ้นมาเมื่อเวลาน้ำลง

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ติดต่ออุทยานได้ที่ 0-7562-9018

          อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ตั้งอยู่ในอำเภอลันตา จังหวัดกระบี่ ประกอบด้วยเกาะรอกนอก และ เกาะรอกใน  มีหาดทรายที่สวยงามตลอดแนวด้านตะวันออก ของเกาะรอกใน และด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะรอกนอก มีจุดเด่นที่น่าสนใจได้แก่

          ปะการัง จะพบเป็นกลุ่มตามโขดหินในระหว่างร่องน้ำชายฝั่ง  ด้านทิศตะวันออกของเกาะรอกนอกด้านทิศใต้  และทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะรอกนอก เป็นปะการังน้ำตื้น  พวกปะการังเขากวาง  ปะการังจาบ ปะการังผักกาด และปะการังสมอง

          แหลมธง อยู่ทางด้านเหนือหรือหัวเกาะรอกใน ด้านที่เป็นโขดผามองคล้ายเป็นเกาะเล็กๆ หากยืนมองที่หาดด้านตรงข้าม จะเห็นพระอาทิตย์ตกระหว่างช่องนั้น
         
          เกาะไหง มีชายหาดที่เงียบสงบ เป็นแหล่งดูปะการังน้ำตื้นที่สมบูรณ์

          เกาะตะละเป็ง เป็นเกาะที่มีรูปลักษณะเป็นหินปูน มีชายหาดเล็กๆ เมื่อน้ำทะเลขึ้นจะท่วมชายหาดหมด มีลักษณะของโพรงถ้ำอยู่ริมน้ำ เป็นที่อาศัยของนกนางแอ่น

          เกาะลันตาใหญ่ มีหาดทรายสวยงามอยู่ด้านหลังเกาะ มีเกาะเล็กเกาะน้อยอยู่ใกล้เคียง เป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานฯ ซึ่งอยู่ที่บริเวณแหลมโตนด ที่อยู่ปลายสุดของเกาะลันตาใหญ่

          นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่น่าสนใจและแนะนำให้หลายๆ ท่านที่ต้องการพักผ่อนหย่อนใจแบบสัมผัสความงดงามและสมบูรณ์ของธรรมชาติไปพร้อมๆ กัน ได้เที่ยวแบบอนุรักษ์ กับวันพักผ่อนของคนทำงาน ช่วยเติมพลังงานให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งได้อย่างแน่นอนค่ะ




ขอขอบคุณข้อมูลจาก
 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อุทยานแห่งชาติทางทะเล เกิดมาต้องไปสักครั้ง อัปเดตล่าสุด 15 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 14:46:30 2,841 อ่าน
TOP