ที่เที่ยวทะเลหมอกหน้าฝน 2568 จุดชมวิวสุดชิล ชวนให้หลงใหลกับความงามของธรรมชาติและสายหมอกนุ่มละมุน
หน้าฝน 2568 ชวนคุณออกเดินทางไปสัมผัสทะเลหมอกสุดฟิน ท่ามกลางขุนเขาเขียวขจีและสายหมอกบาง ๆ ที่โอบล้อมธรรมชาติอย่างงดงาม เหมาะสำหรับสายชิล สายถ่ายรูป ที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายของเมือง มาสร้างประสบการณ์หน้าฝนสุดพิเศษด้วยทะเลหมอกที่สวยจนลืมเวลา ว่าแต่จะมีที่เที่ยวทะเลหมอกหน้าฝน 2568 ที่ไหนน่าสนใจ ตามมาเช็กลิสต์ก่อนหมดหน้าในนี้กัน
จุดชมวิวทะเลหมอกหน้าฝน 2568
1. ดอยสะโง้ จังหวัดเชียงราย
ที่เที่ยวขึ้นชื่อเรื่องการชมทะเลหมอกสุดอลังการ ท่ามกลางขุนเขาและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ยามเช้าอากาศเย็นสบาย หมอกขาวลอยคลอเคลียเหนือทิวเขา บรรยากาศเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์ นอกจากนี้ยังสามารถชมวิวพาโนรามาของสามประเทศ ไทย-ลาว-เมียนมา ได้ในมุมสูงแบบเต็มตา เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ดอยสะโง้งดงามเป็นพิเศษในฤดูฝนเลยทีเดียว

- ที่อยู่ : ตำบลศรีดอนมูล อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย
2. ห้วยกุ๊บกั๊บ จังหวัดเชียงใหม่
หนึ่งในจุดชมทะเลหมอกหน้าฝนน่าเช็กอิน ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาและป่าทึบ ทำให้มุมชมวิวเปิดกว้าง เห็นทะเลหมอกลอยฟุ้งปกคลุมยอดเขาในยามเช้าอย่างสวยงาม บรรยากาศสดชื่นเย็นสบายเหมาะกับการมาปักหลักพักผ่อน ชมวิวหรือถ่ายภาพ โดยเฉพาะช่วงฝนพรำที่หมอกหนานุ่มยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้กับวิวทิวทัศน์ นอกจากนี้ยังมีลานกางเต็นท์และเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติให้สายแคมป์และสายเดินป่าได้สัมผัสชีวิตกลางธรรมชาติอย่างเต็มอิ่ม ห้วยกุ๊บกั๊บจึงเป็นจุดหมายที่ตอบโจทย์ทั้งคนรักการผจญภัยและผู้ที่อยากดื่มด่ำกับทะเลหมอกหน้าฝนของเชียงใหม่อย่างแท้จริง

- ที่อยู่ : ตำบลกื้ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
ห้วยกุ๊บกั๊บ จ.เชียงใหม่ หมู่บ้านลับในยอดดอย กลางคืนมองดาว เช้าดูทะเลหมอก
3. จุดชมวิว 1715 ดอยภูคา จังหวัดน่าน
ในบรรยากาศของฤดูฝนที่ชุ่มฉ่ำ จุดชมวิว 1715 ดอยภูคา เผยเสน่ห์ของทะเลหมอกที่หนาแน่นและงดงามเป็นพิเศษ ที่นี่คือหนึ่งในจุดที่เหมาะที่สุดสำหรับการชมทะเลหมอกยามเช้าตรู่ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่ความชื้นในอากาศสูง ทำให้มีโอกาสเห็นหมอกปกคลุมผืนป่าและเทือกเขาได้อย่างเต็มตา การเดินทางขึ้นไปยังจุดชมวิวอาจต้องใช้ความระมัดระวังเนื่องจากถนนอาจลื่น แต่เมื่อไปถึงแล้วภาพความอลังการของทะเลหมอกที่ไหลเอื่อย ๆ เป็นคลื่นอยู่เบื้องล่างตัดกับทิวเขาเขียวขจีที่โผล่พ้นขึ้นมาอย่างสวยงามราวกับภาพวาด จะเป็นรางวัลที่คุ้มค่าแก่การเดินทางอย่างแน่นอน

ภาพจาก : amnat30 / Shutterstock.com
- ที่อยู่ : อำเภอย่อเกลือ จังหวัดน่าน
- เบอร์โทรศัพท์ : 08 2194 1349
- เฟซบุ๊ก : อุทยานเเห่งชาติดอยภูคา Doi Phu Kha National Park
4. บ้านอีต่อง จังหวัดกาญจนบุรี
หมู่บ้านเล็ก ๆ ริมขุนเขาที่กลายเป็นจุดชมทะเลหมอกหน้าฝนสุดโรแมนติก ยามเช้าเมื่อหมอกหนา ๆ ลอยปกคลุมยอดเขาและตัวหมู่บ้าน จะได้ภาพวิวที่สวยงามราวกับอยู่ในภาพวาด บรรยากาศเย็นสบาย เหมาะกับการมาพักผ่อน ชมวิว หรือเดินเล่นถ่ายรูปกับธรรมชาติรอบตัว รอบ ๆ หมู่บ้านยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติและลานกางเต็นท์ให้สายแคมป์ได้สัมผัสความสดชื่นของฝนและหมอกอย่างใกล้ชิด หน้าฝนนี้วางแผนทริปมาเที่ยวกันได้เลย

- ที่อยู่ : ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
5. ผาชนะนะได จังหวัดอุบลราชธานี
ผาชะนะได อุทยานแห่งชาติผาแต้ม เป็นจุดชมทะเลหมอกหน้าฝนที่ต้องมาเยือนสำหรับสายธรรมชาติและสายแคมป์ ลานกางเต็นท์กว้างขวางพร้อมห้องน้ำสะอาดให้บริการ เหมาะกับการมาปักหลักรอรับแสงแรกของวัน ท่ามกลางบรรยากาศลานหินกว้างและวิวสุดอลังการ เดินเพียง 700 เมตรจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก็ถึงจุดชมวิวแล้ว กลางคืนฟ้าเปิดยังสามารถชมดาวได้ด้วย เส้นทางขึ้นเป็นถนนลาดยาง แคบเล็กน้อยแต่รถสวนกันได้ ควรเช็คเวลาขึ้น-ลงของอุทยานก่อนออกเดินทาง ระยะทางจากจุดจอดรถจนถึงด้านบนประมาณ 12 กิโลเมตร ผาชะนะไดจึงเป็นจุดหมายที่ตอบโจทย์ทั้งสายแคมป์ สายเที่ยวธรรมชาติ และผู้ที่อยากสัมผัสทะเลหมอกหน้าฝนแบบเต็มอิ่ม

- ที่อยู่ : ตำบลนาโพธิ์กลาง อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
- เบอร์โทรศัพท์ : 0 4525 2581
- เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติผาแต้ม Phataem National Park
6. สกายวอล์กภูกิ่งฟ้า จังหวัดนครราชสีมา
หนึ่งในจุดชมวิวสวยของอำเภอครบุรี มองเห็นวิวธรรมชาติแบบพาโนรามา 180 องศาและอ่างเก็บน้ำลำแชะ พร้อมชมทิวเขาสลับซับซ้อนของอุทยานแห่งชาติทับลานฝั่งนครราชสีมาอย่างเต็มตา บนภูยังมีพระพุทธรูป เจดีย์ และพุทธสถานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้นักท่องเที่ยวสักการะขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล ไฮไลท์สำคัญคือสกายวอล์คที่ยื่นออกจากหน้าผา เป็นจุดชมวิวและถ่ายภาพเก๋ ๆ เหมาะกับการเที่ยวช่วงอากาศเย็น โดยเฉพาะหน้าฝนที่หมอกและความสดชื่นของธรรมชาติช่วยสร้างบรรยากาศให้ฟินกีนเต็มที่
- ที่อยู่ : ตำบลบ้านใหม่ อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา
7. ม่อนเงาะ จังหวัดเชียงใหม่
ยอดดอยที่ขึ้นชื่อเรื่องวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม สามารถมองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนและหมอกโอบล้อมรอบทิศทาง การเดินทางขึ้นต้องใช้บริการรถชาวบ้านหรือรถที่พักติดต่อไว้ เนื่องจากเส้นทางค่อนข้างสูงชันและแคบ แต่เมื่อไปถึงก็จะได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติบริสุทธิ์ เดินต่ออีกเล็กน้อยก็ถึงจุดชมวิวที่สามารถเก็บภาพพาโนรามาได้เต็มสายตา บรรยากาศเงียบสงบ คนไม่พลุกพล่านในตอนเช้า เหมาะกับการมาพักผ่อน สูดอากาศเย็นสดชื่น และดื่มด่ำความงดงามของทะเลหมอกและทิวเขาอย่างเต็มอิ่ม

- ที่อยู่ : ตำบลเมืองก๋าย อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
8. เขาไข่นุ้ย จังหวัดพังงา
หนึ่งในจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามที่สุดของภาคใต้ บรรยากาศคล้ายการขึ้นดอยภาคเหนื ช่วงหน้าฝนที่นี่จะมีหมอกลอยหนาแน่นโอบล้อมภูเขา สวยงามตัดกับแสงยามเช้าและพระอาทิตย์ขึ้นอย่างโรแมนติก ไฮไลต์คือการนั่งรถ 4WD ของชาวบ้านขึ้นไปยังยอดเขา ซึ่งทั้งตื่นเต้นและปลอดภัย อีกทั้งยังมีที่พักเล็ก ๆ บรรยากาศเป็นกันเอง พร้อมกาแฟและอาหารเช้าแบบง่าย ๆ ให้เติมเต็มความฟิน ใครอยากสัมผัสทะเลหมอกหน้าฝนแบบใกล้ชิด แนะนำว่าไม่ควรพลาดเขาไข่นุ้ยแห่งนี้เลย

- ที่อยู่ : ตำบลทุ่งมะพร้าว อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา
9. ดอยตาปัง เขาทะลุ จังหวัดชุมพร
จุดชมวิวที่กำลังมาแรง โดยเฉพาะในหน้าฝนที่สามารถสัมผัสทะเลหมอกยามเช้าได้อย่างสวยงามไม่แพ้ภาคเหนือ ไฮไลต์คือหมอกสีขาวที่ปกคลุมไปทั่วผืนป่าและทิวเขาสลับซับซ้อน พร้อมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่โผล่พ้นทะเลหมอกอย่างโรแมนติก ทำให้บรรยากาศยิ่งน่าหลงใหล ดอยตาปังจึงกลายเป็นที่เที่ยวพักผ่อนสุดฮิตในช่วงฤดูฝน เหมาะทั้งสำหรับสายถ่ายรูปและคนที่อยากชาร์จพลังใจท่ามกลางธรรมชาติ

- ที่อยู่ : ตำบลเขาทะลุ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร
หน้าฝน 2568 นี้ เตรียมเก็บกระเป๋าไปสัมผัสเสน่ห์ทะเลหมอกกันได้เลย แต่ละที่ต่างมีมุมสวยและบรรยากาศชวนหลงใหลไม่ซ้ำกัน ใครอยากพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ต้องไม่พลาดเช็กอิน ^ ^
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
บทความ ที่เที่ยวหน้าฝน 2568 ที่เที่ยวทะเลหมอกหน้าฝน อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : เฟซบุ๊ก อุทยานเเห่งชาติดอยภูคา Doi Phu Kha National Park, เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติผาแต้ม Phataem National Park