130 ปีคลองประเวศบุรีรมย์



คลองประเวศบุรีรมย์


คลองประเวศบุรีรมย์



130 ปีคลองประเวศบุรีรมย์ (Momypedia)

เรื่องและภาพโดย: เรืองรวี บรรณพิภพ @momypedia

            หากในชีวิตประจำวัน เราเป็นคนที่เดินทางด้วยรถยนต์บนถนนหนทางตามปกติ วัน ๆ ได้แต่มองวิวข้างทางที่เป็นตึกรามบ้านช่องที่เรียงรายอยู่เต็มสองฝั่งถนน เราก็คงจะไม่คาดคิดว่า เบื้องหลังของหลังคาบ้านเรือนที่เรามองเห็นจากบนสะพานข้ามคลองที่เรานั่งรถผ่านอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั้น จะมีวิถีชีวิต และทัศนียภาพที่งดงามซุกซ่อนตัวอยู่ ....ถ้าเราไม่ลงเรือ ถ้าเราไม่ลงไปเดินเลาะตามทางเดินริมสองฝั่งคลอง....เราก็คงไม่มีวันได้รู้ว่า วิถีอันสงบงามยังมีอยู่จริง

            คลองประเวศบุรีรมย์ เป็นคลองขุดที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ ขุดขึ้นมา โดยขุดต่อเนื่องจากคลองพระโขนง ยาวไปเชื่อมกับคลองด่าน แล้วไหลออกสู่แม่น้ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา จากนั้นขุดคลองแยกออกจากคลองประเวศฯ อีก 4 คลอง คือ คลองหนึ่ง คลองสอง คลองสาม และคลองสี่ เริ่มขุดตั้งแต่ พ.ศ. 2421 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2423 มีความยาวทั้งสิ้น 1150 เส้น (46 กิโลเมตร)

            และตลอดสองฝั่งของคลองประเวศฯ คือที่อยู่อาศัยของชุมชนไทย – มุสลิม ที่อยู่รวมกันอย่างผสมกลมกลืน ไม่มีแบ่งแยก เราจะพบเห็นบ้านเรือนไทยเก่าแก่ ตั้งเคียงคู่ไปกับมัสยิดอันงดงาม ตลอดสองฝั่งคลอง บ่งบอกให้เรารู้ว่าวิถีชีวิตของกลุ่มคนสองวัฒนธรรมนั้น สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข และเคารพซึ่งกันและกัน

คลองประเวศบุรีรมย์

            และเมื่อเราลงจากเรือเพื่อเดินเลาะไปตามทางเดินเล็ก ๆ ริมฝั่งคลอง เราจะเจอแหล่งสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ช่วยสานต่องานด้านศิลปหัตกรรมจากคนรุ่นก่อนมาสู่คนรุ่นหลัง เช่น "บ้านสุนิสางานผ้าปัก" ที่มีคุณจินดา โตหัวป่า เป็นหัวหน้ากลุ่ม ของเหล่าแม่บ้านริมคลองประเวศฯ ที่รวมตัวกันฝึกฝนการปักผ้าด้วยมุก เลื่อม และด้ายสีสันต่าง ๆ แล้วนำไปตัดเย็บเป็นผ้าพันคอ เสื้อผ้าไหม กระเป๋า ผ้าฮิญาบ ปลอกหมอน ฯลฯ ซึ่งด้วยความปราณีตบรรจงของกลุ่มแม่บ้านแห่ง  "บ้านสุนิสางานผ้าปัก" ทำให้ผลงานของกลุ่มได้รับคัดเลือกให้เป็นสินค้า OTOP ประจำปี 2553 ระดับ 4 ดาว ที่จะช่วยทำให้คนรุ่นใหม่เห็นคุณค่าของงานหัตกรรมพื้นบ้านกันมากขึ้น

คลองประเวศบุรีรมย์



คลองประเวศบุรีรมย์

             หรืออย่างที่  "ชมรมบ้านเจียระไนพลอย" ที่มีครูสุรเดช หวังเจริญ "ครูภูมิปัญญาไทย" (ด้านอุตสาหกรรมและหัตถกรรม จากสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ประจำปี 2544) คอยถ่ายทอดองค์ความรู้ และภูมิปัญญาเก่าแก่ ในการเจียระไนพลอย และสร้างสรรค์เครื่องประดับที่ทำจากพลอยสีสันสวยงาม ให้กับชาวบ้าน และนักเรียน นักศึกษาในชุมชนจนสามารถนำไปประกอบอาชีพได้

             และเมื่อเราลงเดินลึกเข้าไปตรอกซอยซอยหลังพื้นดินริมคลองแห่งนี้ เราก็จะพบกับบ้านหลังเล็ก – ใหญ่ ที่ปลูกสร้างตามแบบบ้านเรือนในชนบท บ้างยกพื้นใต้ถุนสูง บ้างก็ตกแต่งบ้านเรือนด้วยฉลุไม้ลวดลายขนมปังขิง บ้างก็ปลูกเป็นเรือนไม้อย่างง่าย ๆ แต่ที่แน่ ๆ ไม่ว่า จะมองไปทางไหน ก็มีแต่เขียวชอุ่มของต้นหมากรากไม้ ทั้งล้มลุกและยืนต้น ที่ปลูกไว้เต็มพื้นที่ว่าง ทำให้เห็นว่า ชาวบ้านในชุมชนริมคลองประเวศฯ นั้นไม่มีการปล่อยให้พื้นดินกลายเป็นที่รกร้างว่างเปล่า และไร้ประโยชน์เลยสักตารางเมตรเดียว บวกกับสีเขียวสดของจอกแหนที่ขึ้นปกคลุมส่วนที่เป็นพื้นน้ำเกือบจะทั้งหมด ซึ่งสำหรับคนอื่น มันอาจจะเป็นแค่วัชพืชไร้ประโยชน์ แต่สำหรับที่ชุมชนแห่งนี้ มันกลายเป็นอาหารอันโอชะของเป็ดที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้นั่นเอง ประหยัดค่าอาหารไปได้เยอะ และช่วยควบคุมปริมาณวัชพืชไม่ให้เยอะเกินไปด้วย

คลองประเวศบุรีรมย์

คลองประเวศบุรีรมย์

            ส่วนใครที่สงสัยว่า แล้วน้ำในคลองประเวศฯ จะเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็นเป็นที่รบกวนต่อผู้อยู่อาศัยในละแวกนั้น หรือผู้ที่สัญจรผ่านไปผ่านมาทั้งทางน้ำและทางบก (ผ่านจากบนสะพาน) รึเปล่า จากการล่องเรือโดยสารไปตามคลอง โดยที่ใบหน้าและจมูกอยู่ห่างจากผิวน้ำไม่ถึง 10 เมตร ได้สัมผัสแล้วว่า ไม่มีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์มารบกวนจมูกแต่ประการใด จะมีบ้างก็เพียงกลิ่นคาว ๆ ของน้ำเท่านั้น เพราะจะว่าไปคนยุคเราก็คงไม่อาจหวังให้น้ำในคลองเส้นไหนในกรุงเทพฯ ยังคงใสสะอาดและใช้กิน ใช้ดื่มได้อย่างไม่ต้องกลัวเชื้อโรคแบบคนสมัยก่อน เพียงหวังให้มันไม่ส่งกลิ่นเน่าเหม็นจนแทบจะไม่อยากเดินผ่าน เหมือนคลองเส้นหนึ่งซึ่งเคยเป็นที่เลื่องลือถึงความเน่าเหม็นของน้ำในคลองก็พอ


คลองประเวศบุรีรมย์

คลองประเวศบุรีรมย์

            เปลี่ยนมุมมองจากตึกสูง ๆ มาสู่มุมมองที่อยู่ในระนาบเดียวกับระดับสายตาของเรา ให้เท้าได้สัมผัสพื้นดินกันบ้าง ด้วยการลงเดินลัดเลาะไปตรอกซอกซอยต่าง ๆ เอาแค่ในกรุงเทพฯ นี่ ก็มีหลายชุมชนให้เราลงเดินเยี่ยมชมแล้ว แต่ขอให้ไปกันแบบพร้อมลุยสักหน่อย และไปแบบเคารพในชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนนั้น ทำตัวให้กลมกลืน แล้วเราจะได้สัมผัสชีวิตของคนในพื้นที่อย่างที่พวกเขาเป็นกันจริง ๆ

            เส้นทางล่องเรือชมวิถีชีวิตริมคลองประเวศฯ เริ่มต้นได้ตั้งแต่ท่าเรือคลองตัน ไปบรรจบคลองพระโขนง บริเวณวัดมหาบุศย์ ไปท่าเรือใต้สะพานพระโขนง ถ.สุขุมวิท และกลับเรือใต้สะพานพระโขนงไปตามแนวคลองพระโขนง ไปสู่คลองประเวศบุรีรมย์ ผ่านวัดใต้ วัดมหาบุศย์ วัดยาง วัดต้นไทรย์ มัสยิดอัลกุ๊บรอ วัดปากบ่อ มัสยิดอัลเอี๊ยะติชอม วัดขจรศิริ ถึงตลาดเอี่ยมสมบัติ สิ้นสุดเส้นทางการล่องเรือที่ท่าเรือใต้สะพานข้ามคลองประเวศบุรีรมย์ ถ.ศรีนครินทร์ หรือใครจะตัดเส้นทางด้วยการขึ้นเรือที่ท่าเรือใต้สะพานพระโขนง ท่าเรือตลาดเอี่ยมสมบัติ ริมถนนศรนครินทร์ก็ได้

 
สอบถามรายละเอียดการล่องเรือชมวิถีชีวิตริมคลองประเวศฯ
ได้ที่สำนักงานเขตประเวศ
โทรศัพท์ 0-2328-7428











ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก


 
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
130 ปีคลองประเวศบุรีรมย์ อัปเดตล่าสุด 1 มิถุนายน 2554 เวลา 16:47:47 5,525 อ่าน
TOP
x close