สายท่องเที่ยวผู้หลงใหลในขบวนโบกี้เตรียมจัดกระเป๋ารอได้เลย เพราะเส้นทางรถไฟความเร็วสูงจีน-สปป.ลาว ได้เปิดอย่างเป็นทางการไปแล้วในวันชาติลาว (วันที่ 2 ธันวาคม) ที่ผ่านมา สร้างความคึกคักและตื่นเต้นอย่างมาก เพราะถือเป็นโครงการระดับยักษ์ใหญ่ของ สปป.ลาว ที่ใช้งบประมาณในการก่อสร้างคิดเป็นเงินไทยประมาณเกือบ 2 แสนล้านบาทเลยทีเดียว และนับเป็นสัญลักษณ์ของสายสัมพันธ์มิตรภาพที่ดีระหว่างจีน-สปป.ลาว
ภาพจาก Xinhua Thai
โดยเส้นทางรถไฟสายจีน-สปป.ลาว เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเชื่อมต่อสำคัญภายใต้แผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative : BRI) นำเสนอโดยจีน ที่มุ่งเชื่อมโยงกับกว่า 70 ประเทศทั่วเอเชีย แอฟริกา และยุโรป ผ่านการก่อสร้างถนน ทางรถไฟ ท่าเรือ และสนามบิน ผนวกกับยุทธศาสตร์ของลาวที่ต้องการเปลี่ยนตนเองจากประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ให้กลายเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อทางบก ซึ่งเริ่มต้นก่อสร้างเดือนธันวาคม 2015 ใช้เวลาในการก่อสร้างนานกว่า 5 ปี เชื่อมต่อระหว่างกรุงเวียงจันทน์ ประเทศลาว กับนครคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลยูนนาน ประเทศจีน และแล้วเสร็จพร้อมใช้งานเป็นครั้งแรกในวันที่ 3 ธันวาคม 2021
ภาพจาก Xinhua Thai
แม้ว่าในช่วงแรกเส้นทางรถไฟสายนี้จะถูกใช้เพื่อขนส่งสินค้าเป็นหลัก แต่ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2022 เป็นต้นไป เมื่อความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP) มีผลบังคับใช้ การเดินทางและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีนกับประเทศในกลุ่มอาเซียนจะมีเพิ่มขึ้น และขบวนรถไฟลาว-จีน ก็จะเป็นเส้นทางที่ช่วยเสริมบทบาทของนครเซินเจิ้น ในการเป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่เชื่อมจีนกับอาเซียน และระหว่างจีนกับทวีปยุโรป ประกอบกับแนวโน้มมาตรการความปลอดภัยและการควบคุมการระบาดของโควิด 19 ที่เข้มแข็งขึ้น เส้นทางนี้ก็จะเปิดเป็นเส้นทางรถไฟโดยสารเพื่อให้ผู้คนได้ใช้เดินทางท่องเที่ยวอย่างแน่นอน
สถานีโพนโฮง ภาพจาก Xinhua Thai
1. เวียงจันทน์
เมืองหลวงของ สปป.ลาว อยู่ใกล้กับชายแดนจังหวัดหนองคายของไทย ใช้รถมาตรฐาน 2 เดินรถผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 หนองคาย-เวียงจันทน์ ด้วยระยะทาง 27 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น นักท่องเที่ยวคนไหนอยากจะไปเที่ยวกับรถไฟเส้นทางลาว-จีน ก็สามารถเดินทางมาที่จังหวัดหนองคาย แล้วมาต่อรถไฟที่เวียงจันทน์ได้เลย
พระธาตุหลวง หรือพระเจดีย์โลกะจุฬามณี
ประตูชัย หรือปะตูไซ
2. วังเวียง
อยู่ห่างจากตัวเมืองเวียงจันทน์ไปทางเหนือประมาณ 150 กิโลเมตร แต่ต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง เนื่องจากถนนในประเทศลาวค่อนข้างเล็ก ส่วนมากเป็นเลนสวนกัน บางช่วงเป็นทางโค้งและเป็นถนนลูกรัง ทำให้ไม่สามารถขับด้วยความเร็วได้ วังเวียงมีสภาพภูมิประเทศที่โดดเด่นด้วยภูเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่านเรียงรายเป็นแนวยาวด้วยจังหวะสูง-ต่ำล้อมรอบเมือง มีแม่น้ำไหลผ่าน สวยงามน่าประทับใจจนได้รับฉายาว่า “กุ้ยหลินเมืองลาว” ธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์เงียบสงบ อีกทั้งวิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่ยังคงเรียบง่าย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงทำให้เมืองวังเวียงกลายเป็นเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยวแบบแบ็กแพ็กเกอร์จากทั่วโลก
ริมแม่น้ำซอง
เล่นน้ำที่บลู ลากูน
3. หลวงพระบาง
เมืองมรดกโลกที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศลาว ห่างจากตัวเมืองเวียงจันทน์ประมาณ 310 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์มากล้น กับศิลปวัฒนธรรมและธรรมชาติที่งดงาม รายล้อมไปด้วยวัดที่มีสถาปัตยกรรมอันงดงาม มีแม่น้ำโขงและแม่น้ำคานไหลผ่านหล่อเลี้ยงชีวิตชาวเมืองมาตั้งแต่อดีต อีกทั้งยังโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ พร้อมกับกลิ่นอายแห่งประวัติศาสตร์อันน่าจดจำ
วัดเชียงทอง
น้ำตกตาดกวางสี
4. สิบสองปันนา
สิบสองปันนา (สิบสองพันนา) หรือชื่อเต็มว่า เขตปกครองตนเองชนชาติไท เป็นเขตปกครองตนเองระดับจังหวัดของชาวไทลื้อ ตั้งอยู่ทางใต้สุดของมณฑลยูนนาน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน มีเนื้อที่ประมาณ 19,700 ตารางกิโลเมตร อาณาเขตติดกับแขวงหลวงน้ำทา แขวงพงสาลี ของประเทศลาว และรัฐฉาน ของประเทศเมียนมา โดยมีแม่น้ำโขงไหลผ่านตอนกลาง พื้นที่แห่งนี้มีวัฒนธรรมที่แตกต่างไปจากชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ทั้งประชากรชาวไทลื้อ สถาปัตยกรรมบ้านเรือน ภาษา และวัฒนธรรม ที่มีความคล้ายคลึงกับของชาวไทใหญ่ ชาวไทเขิน และชาวไทยวน รวมไปถึงชาวไทยและชาวลาวด้วย จึงเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบความหลากหลายทางวัฒนธรรม
วัดมหาราชฐานสุทธาวาส หรือวัดสวนม่อน
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปเยือน ได้แก่ วัดหลวงเมืองลื้อ วัดป่าเจย์ วัดมหาราชฐานสุทธาวาส สวนป่าดงดิบ หมู่บ้านกาหลั่นป้า และตลาดเช้าไทลื้อ เป็นต้น
ตลาดกลางคืน Gaozhuang ในเมืองจิ่งหง ภาพจาก Fabio Nodari / Shutterstock.com
5. คุนหมิง
เมืองจุดหมายปลายทางของเส้นทางรถไฟจีน-สปป.ลาว เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของมณฑลยูนนาน ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน สภาพภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง มีภูมิอากาศเย็นสบาย ฤดูหนาวอากาศไม่หนาวจัด และฤดูร้อนอากาศไม่ร้อนจัด อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีอยู่ระหว่าง 15-18 องศาเซลเซียส ด้วยสภาพอากาศแสนสบายแบบนี้จึงถูกขนานนามว่า “นครแห่งฤดูใบไม้ผลิ”
ทะเลสาบเตียนฉือ หรือทะเลสาบคุนหมิง
ตำหนักทองจินเตี้ยน ภาพจาก Almazoff / Shutterstock.com
- โครงการรถไฟสายลาว-จีนนี้ มีมูลค่า 5,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.99 แสนล้านบาท)
- เส้นทางรถไฟความเร็วสูงนี้ มีความยาว 1,035 กิโลเมตร (เป็นระยะทางในส่วนของ สปป.ลาว 414 กิโลเมตร) เชื่อมระหว่างนครคุนหมิง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน และนครเวียงจันทน์ ของ สปป.ลาว
- เส้นทางที่อยู่ในประเทศลาวนั้นต้องผ่านอุโมงค์ 75 แห่ง คิดเป็นระยะทาง 198 กิโลเมตร และสะพาน 167 แห่ง คิดเป็นระยะทาง 61 กิโลเมตร
- เส้นทางสายนี้ผ่านเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยวหลายแห่ง โดยในช่วงแรกสถานีรถไฟของฝั่ง สปป.ลาว จะมีทั้งหมด 11 สถานี เป็นสถานีขนส่งผู้โดยสาร 10 สถานี ได้แก่ กรุงเวียงจันทน์ โพนโฮง วังเวียง กาสี หลวงพระบาง เมืองงา เมืองไซ นาหม้อ นาเตย และบ่อเต็น และเป็นสถานีขนส่งสินค้า 1 สถานี คือ สถานีเวียงจันทน์ใต้ ส่วนสถานีรถไฟฝั่งจีน มี 14 สถานี ได้แก่ โม่ฮาน เหมิ่งล่า ก๋านหล่านป้า สิบสองปันนา เหมืองหย่าง ผูเอ่อร์ หนิงเอ่อร์ โม่เจียง หยวนเจียง หลัวหลี่เอ๋อซาน เหยียนเหอ อวี้ซีตะวันตก และนครคุนหมิง
แผนที่ลาว
- อัตราความเร็วสูงสุดของรถไฟความเร็วสูงในการวิ่งบริการผู้โดยสารใน สปป.ลาว จะอยู่ที่ประมาณ 160-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และในส่วนของทางรถไฟที่อยู่ในจีน ซึ่งให้บริการระหว่างนครคุนหมิงและเมืองโม่หาน ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ทางรถไฟคุนหมิง-อวี้ซี ระยะทาง 88 กิโลเมตร วิ่งด้วยอัตราเร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และทางรถไฟอวี้ซี-โม่หาน ระยะทาง 507 กิโลเมตร มีแผนจำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- อัตราค่าโดยสารรถไฟลาว-จีน อ้างอิงจากหนังสือของกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สปป.ลาว ซึ่งประกาศใช้ค่าโดยสารนี้เป็นการชั่วคราวในระยะแรกที่เริ่มให้บริการ มีรายละเอียดดังนี้
นครหลวงเวียงจันทน์-บ่อเต็น (สถานีปลายทางใน สปป.ลาว)
ตู้โดยสารชั้น 1 คนละ 294 หยวน หรือ 529,000 กีบ หรือ 1,510 บาท
ตู้โดยสารชั้น 2 คนละ 185 หยวน หรือ 333,000 กีบ หรือ 950 บาท
ค่าโดยสารรถไฟความเร็วธรรมดา คนละ 132 หยวน หรือ 238,000 กีบ หรือ 680 บาท
นครหลวงเวียงจันทน์-หลวงพระบาง
ตู้โดยสารชั้น 1 คนละ 174 หยวน หรือ 313,000 กีบ หรือ 895 บาท
ตู้โดยสารชั้น 2 คนละ 110 หยวน หรือ 198,000 กีบ หรือ 565 บาท
ค่าโดยสารรถไฟความเร็วธรรมดา คนละ 78 หยวน หรือ 140,000 กีบ หรือ 400 บาท
นครหลวงเวียงจันทน์-วังเวียง
ตู้โดยสารชั้น 1 คนละ 91 หยวน หรือ 164,000 กีบ หรือ 465 บาท
ตู้โดยสารชั้น 2 คนละ 57 หยวน หรือ 103,000 กีบ หรือ 295 บาท
ค่าโดยสารรถไฟความเร็วธรรมดา คนละ 41 หยวน หรือ 74,000 กีบ หรือ 210 บาท
ภาพจาก Xinhua Thai
- ในส่วนของประเทศจีน ยังไม่มีการอัปเดตเกี่ยวกับอัตราค่าโดยสารของรถไฟลาว-จีน ถ้ามีรายละเอียดเพิ่มเติม จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
- เบื้องต้นขบวนรถไฟความเร็วสูงลาว-จีน จะให้บริการเฉพาะเส้นทางในประเทศเป็นหลัก เนื่องจากเป็นช่วงระบาดของโควิด 19 โดยมีขบวนรถให้บริการวันละ 2 เที่ยว
- ผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางด้วยขบวนรถไฟสายนี้ จะต้องพกบัตรประจำตัวที่มีรูปถ่าย และมีใบรับรองการฉีดวัคซีนที่ออกภายในเวลา 72 ชั่วโมง ก่อนเวลาขึ้นรถไฟ และควรจะเดินทางไปถึงสถานีก่อนออกเดินทาง 1 ชั่วโมง หลังจากเช็กอินแล้วผู้โดยสารต้องนั่งรอที่บริเวณรอขึ้นรถไฟ และจะมีการตรวจตั๋วโดยสารก่อนเวลารถไฟออก 20 นาที สามารถซื้อตั๋วรถไฟได้ 3 วัน ก่อนวันออกเดินทาง
แม้ว่าในขณะนี้การเดินทางข้ามไปยังประเทศลาวจะยังทำไม่ได้ เนื่องจากสถานการณ์โควิด แต่ถ้าอดใจรอกันไปอีกไม่นาน เมื่อมีการเปิดให้เดินทางระหว่างประเทศแล้ว เชื่อว่านักท่องเที่ยวทั้งหลายคงจะได้ไปเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบใหม่ ด้วยการเดินทางไปกับขบวนรถไฟโดยสารความเร็วสูง มุ่งสู่เมืองสำคัญของ สปป.ลาว และจีน ที่แสนสะดวกสบายและร่นระยะเวลาในการเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างมากแน่นอน
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
Xinhua Thai, globaltimes.cn, news.cgtn.com, thediplomat.com, news.cn, laotiantimes.com