x close

พลาดไม่ได้ 15 สิ่งที่ต้องไป ต้องทำ เมื่อเยือนหลวงพระบาง

          เที่ยวหลวงพระบางให้คุ้ม ไปเที่ยว ไปดู ไปกิน ให้ครบทุกแบบกับ 15 สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือนเมืองหลวงพระบาง แต่ละสถานที่เที่ยว ที่กินจะกิ๊บเก๋โดนใจแค่ไหนนั้น ไปชมกัน

          หลวงพระบาง เมืองเล็กแต่มีเสน่ห์มากล้น ด้วยศิลปวัฒนธรรมและธรรมชาติที่งดงาม เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศลาว มีพื้นที่ประมาณ 19,714 ตารางกิโลเมตร เป็นเมืองที่รายล้อมไปด้วยวัดที่มีสถาปัตยกรรมอันงดงาม ส่องสว่างสีทองอร่ามไปทั่วเมือง มีแม่น้ำโขงและแม่น้ำคานไหลผ่านหล่อเลี้ยงชีวิตชาวเมืองมาตั้งแต่อดีต อีกทั้งยังโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ พร้อมกับกลิ่นอายแห่งประวัติศาสตร์อันน่าจดจำ

          บรรยากาศของหลวงพระบางเงียบสงบ ชาวเมืองใช้ชีวิตกันแบบเรียบง่าย ยังคงรักษาวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน นั่นจึงทำให้เมืองหลวงพระบางมีคุณค่าและควรแก่การอนุรักษ์ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1995 ที่สำคัญหลวงพระบางไม่ได้ไกลจากประเทศไทยเลยสักนิด ค่าครองชีพคล้าย ๆ กับในบ้านเรา การเดินทางสะดวกสบาย แล้วแบบนี้จะไม่ไปสัมผัสหลวงพระบางกันสักครั้งในชีวิตได้อย่างไร เราได้รวบรวม 15 สิ่งที่ไม่ควรพลาดในหลวงพระบางมาให้แล้ว ไปดูกันเลยว่าหลวงพระบางจะร่ายมนตร์ให้คุณหลงรักได้มากแค่ไหน

 1. พระบรมมหาราชวังหลวงพระบาง

พลาดไม่ได้ 15 สิ่งที่ต้องไป ต้องทำ เมื่อไปเยือนหลวงพระบาง

          เริ่มต้นการท่องเที่ยวหลวงพระบางด้วยการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้กันที่พระบรมมหาราชวังหลวงพระบาง ซึ่งได้รวบรวมทั้งเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ในสมัยการปกครองโดยกษัตริย์ของประเทศลาว เปิดให้ชมทั้งห้องบรรทม ห้องทรงงาน ห้องพระโรงใหญ่ ห้องพิธีการ ห้องรับแขก ฯลฯ รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้ ฉลองพระองค์ของกษัตริย์ พระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ ของลาวในสมัยเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ จนถึงสมัยเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา พระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้ายของประเทศลาว

          ตัวอาคารมีลักษณะเป็นตึกทรงเหลี่ยมธรรมดาตามแบบสถาปัตยกรรมยุโรป แต่หลังคางดงามด้วยศิลปะดั้งเดิมของลาว บริเวณโดยรอบร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ มีทางเดินเข้าไปมีต้นตาลสูงใหญ่ขนาบสองข้าง ทางด้านตะวันออกของพระราชวังเป็นหอหลวงพระบาง ซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่งดงาม เป็นแบบทรงสิมหลวงพระบาง อาคารมีฐานสูง สีทองอร่ามด้วยการตกแต่งประดับประดาจากกระจกสี เป็นที่ประดิษฐานของพระบาง พระพุทธรูปอันเก่าแก่และคู่บ้านคู่เมืองของเมืองหลวงพระบาง ต้องแต่งกายสุภาพ และไม่สามารถถ่ายภาพด้านในได้ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 08.00-11.30 น. และ 13.30-16.00 น. เปิดทุกวัน ยกเว้นวันอังคาร (เสียค่าเข้าชม)

2. วัดเชียงทอง

พลาดไม่ได้ 15 สิ่งที่ต้องไป ต้องทำ เมื่อไปเยือนหลวงพระบาง

          ภาพของต้นไม้ลวดลายอ่อนช้อยบนพื้นหลังสีแดงเข้ม ประดับประดาอย่างงดงามด้วยหินสีโทนสีดำ เป็นผลงานศิลปะบนฝาผนังพระวิหารของวัดเชียงทองที่เราคุ้นตามากที่สุด สถาปัตยกรรมแห่งวัดเชียงทองเป็นสิ่งที่เปรียบเสมือนอัญมณีล้ำค่าแห่งล้าน ช้าง ด้วยมีความงดงามและยังคงซึ่งไว้ซึ่งรูปแบบของศิลปะล้านช้างที่สมบูรณ์ ตัวของพระวิหารนั้น มีลักษณะเป็นอาคารทรงสิม คือตัวอาคารจะไม่สูงมากนัก มีหลังคาโค้งแหลม ซ้อนกัน 3 ชั้น และมีช่อฟ้าประดับอยู่ด้านบน สำหรับวัดเชียงทอง มีช่อฟ้า 17 ช่อ อันหมายถึงเป็นวัดของพระมหากษัตริย์ สร้างขึ้นในช่วงการปกครองของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ปี ค.ศ. 1560

พลาดไม่ได้ 15 สิ่งที่ต้องไป ต้องทำ เมื่อไปเยือนหลวงพระบาง

          ตกแต่งประดับประดาอย่างงดงามด้วยหินสี ด้านหลังพระวิหารเป็นงานศิลปะภาพต้นไม้อ่อนช้อยที่ตกแต่งขึ้นจากกระจกโทนสี ดำ โดดเด่นขึ้นมาจากพื้นหลังสีแดงเข้ม ผลงานแบบล้านช้างร่วมสมัย โดยช่างฝีมือชาวลาวในปี ค.ศ. 1960 ทางด้านหลังของพระวิหารเป็นที่ตั้งของหอพระม่านและหอพระพุทธไสยาสน์ ผนังด้านนอกทาพื้นเป็นสีชมพูกุหลาบ ตกแต่งดอกลวดลายสวยงามด้วยกระจกสีเช่นเดียวกัน และเยื้องตรงข้ามด้านหน้าพระวิหารเป็นโรงราชรถ เป็นสถานที่เก็บราชรถที่ใช้อัญเชิญพระโกศของพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์

          นักท่องเที่ยวควรไปวัดเชียงทองในช่วงเช้า เพราะแดดจะยังไม่ส่องตัววัดอย่างเต็มที่ ทำให้ถ่ายรูปได้อย่างสวยงาม และต้องแต่งกายสุภาพ เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-17.30 น. (เสียค่าเข้าชม)

3. พระธาตุพูสี (พูสี)

          พระธาตุภูสี (พูสี) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงพระบาง อยู่ตรงข้ามกับพระบรมมหาราชวังหลวงพระบาง ทางขึ้นร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย มีอากาศบริสุทธิ์ เรียกเหงื่อกันด้วยบันไดทางขึ้นที่คดเคี้ยวไปมาตามไหล่เขาทั้งหมด 328 ขั้น เพื่อขึ้นไปยังยอดสูงสุดอันเป็นที่ตั้งของพระธาตุภูสี ซึ่งมีสีทองสวยงามอร่าม โดดเด่นและสง่างามบนยอดภูผากลางเมืองหลวงพระบาง สร้างขึ้นในราวปี ค.ศ. 1781 แม้การเดินทางขึ้นไปบนยอดของพระธาตุภูสีนั้นจะลำบากสักหน่อย แต่เชื่อเถอะว่าเมื่อได้ขึ้นไปแล้วจะต้องหลงรักและหายเหน็ดเหนื่อย ด้วยจุดนี้สามารถมองเห็นเมืองหลวงพระบางได้แบบ 360 องศา ซึ่งโอบล้อมไปด้วยภูเขา เห็นสายหมอกคลอเคลียอยู่เหนือเมืองหลวงพระบางและยอดเขารอบ ๆ พร้อมทั้งแม่น้ำโขง ควรไปเที่ยวชมในช่วงเย็นเพราะอากาศไม่ร้อน และมีทัศนียภาพที่งดงามเกินกว่าคำบรรยาย เปิดให้เข้าชมตลอดทั้งวัน (เสียค่าเข้าชม)

4. ตลาดมืด หลวงพระบาง

พลาดไม่ได้ 15 สิ่งที่ต้องไป ต้องทำ เมื่อไปเยือนหลวงพระบาง

          ตลาดมืดเป็นคำที่ชาวบ้านในเมืองหลวงพระบางใช้เรียกถนนคนเดินตอนกลางคืน ซึ่งมิได้ขายของผิดกฎหมายแต่อย่างใด แต่เป็นถนนที่ขายงานฝีมือ ศิลปะ วัฒนธรรม แบบหลวงพระบาง ถ้าต้องการหาของฝากราคาถูก ต้องมาที่นี่ เพราะมีทุกอย่าง ทั้งกระเป๋าผ้าลวดลายสวยงาม รองเท้าผ้า งานแฮนด์เมด โคมไฟและข้าวของเครื่องใช้จากกระดาษสา ร่มกระดาษสา เครื่องประดับและเฟอร์นิเจอร์ไม้ เครื่องประดับทั้งเงิน ทอง อัญมณี ภาพวาดจากศิลปินท้องถิ่น ผ้าพื้นเมือง เสื้อผ้าแบบพื้นเมือง ฯลฯ ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าเป็นคนท้องถิ่น จึงสามารถต่อรองราคาได้ ภายในตลาดมืดยังมีร้านอาหารพื้นเมืองให้ได้นั่งชิมลิ้มลองเฝอและอาหารพื้น เมืองอื่น ๆ ด้วย สิ่งที่แนะนำก็คือเมี่ยงคำลาว ซึ่งนำใบผักต่าง ๆ มาสอดไส้ด้วยถั่วหวานที่ผัดกับมะเขือ ผสมกับเส้นขนมจีน ทานคู่กับพริกแห้งและถั่วลิสงคั่ว รสชาติกลมกล่อม อร่อยล้ำแบบไม่ซ้ำใคร

พลาดไม่ได้ 15 สิ่งที่ต้องไป ต้องทำ เมื่อไปเยือนหลวงพระบาง

          ตลาดมืดมีระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร อยู่บนถนนศรีสว่างวงศ์ ด้านหน้าพระบรมมหาราชวัง เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00-23.00 น. ด้วยช่องทางเดินของตลาดมืดแคบ จึงควรไปตั้งแต่หัวค่ำเพราะยังมีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก ทำให้สัมผัสกับเสน่ห์ของหลวงพระบางยามค่ำคืนได้อย่างเต็มอิ่ม
 
5. ตักบาตรข้าวเหนียว กินบาแก็ตในตอนเช้า



          เสน่ห์ที่ทำให้นักเดินทางทั่วโลกหลงรักเมืองหลวงพระบาง ก็คือ วิถีการดำเนินชีวิตของคนท้องถิ่น ที่ยังคงใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ในทุก ๆ เช้ามืด ภายใต้สายหมอกสีขาว อากาศเย็น ๆ และแสงไฟสีส้มบนถนนในเมืองหลวงพระบาง ชาวบ้านจะตื่นมารอใส่บาตรพระสงฆ์นับร้อยรูป ที่เดินบิณฑบาตเรียงแถวกันอย่างเป็นระเบียบ บริเวณหน้าไปรษณีย์หลวงพระบางจะมีชาวบ้านหาบข้าวปลาอาหาร จัดเป็นชุด ๆ เพื่อจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวที่ต้องการใส่บาตร ข้าวที่ใช้ใส่บาตรนั้นเป็นข้าวเหนียว เป็นการตักบาตรที่คล้ายกับทางภาคอีสานของไทย เวลาที่เหมาะสมที่สุดในการใส่บาตรก็คือช่วงตีห้าถึงหกโมงเช้า เพราะหลังจากนั้นพระสงฆ์จะกลับเข้าวัดเพื่อไปทำกิจของสงฆ์ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โรงแรมหรือที่พักที่ได้เข้าพัก บางโรงแรมรวมแพ็กเกจการตักบาตรข้าวเหนียวไว้แล้ว

          ที่บริเวณสี่แยกเยื้องกับไปรษณีย์หลวงพระบาง ในตอนเช้าจะมีร้านค้า 3-4 ร้านขายอาหารเช้า สิ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อมาถึงหลวงพระบางก็คือการทานบาแก็ต ขนมปังสไตล์ฝรั่งเศส สอดไส้ด้วยแฮม ทูน่า ผัก และชีส สามารถเลือกไส้ได้เอง ทานแค่ชิ้นเดียวรับรองว่าอิ่มแน่นอน เพราะมีขนาดใหญ่มากสามารถแบ่งทานได้ 2 คน

6. ร้านกาแฟโจมา เบเกอรี่ คาเฟ่ (Joma Bakery Cafe)


          ถ้าไปเที่ยวหลวงพระบางแล้วไม่ได้ไปนั่งทานกาแฟและบรรยากาศที่ร้านกาแฟโจมา เบเกอรี่ คาเฟ่ ถือได้ว่ายังเที่ยวหลวงพระบางไม่ครบรส ร้านกาแฟแห่งนี้ให้บริการกาแฟสด ชา เครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ ขนมปัง ขนมเค้ก อาหารว่าง ฯลฯ ตกแต่งเรียบง่าย มีทั้งพื้นที่ด้านนอกและในร้าน ภายในร้านมี 2 ชั้น ออกแบบให้ทันสมัย แต่เรียบง่ายด้วยผนังปูนเปลือยและเก้าอี้ไม้ สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นด้วยไฟโทนสีส้ม และภาพวาดที่สวยงาม เงียบสงบ มีมุมหนังสือไว้บริการ สามารถขอรหัสอินเทอร์เน็ตไร้สายได้ที่แคชเชียร์หลังการซื้อสินค้า เมนูที่แนะนำคือ เมนูกาแฟสด และเค้กมะพร้าวน้ำหอม เมื่อทานคู่กันจะให้รสชาติที่กลมกล่อม อร่อยจนต้องสั่งเพิ่มกันเลยทีเดียว เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-21.00 น.

          ที่อยู่ : Joma Hua Xieng ; Th. Chao Fa Ngum, On the main road, near the Post Office และ Joma Nam Khan ; Kingkitsarath Rd, Along the Nam Khan river, in Ban Wat Sene
          เว็บไซต์ : www.joma.biz
          เฟซบุ๊ก Joma Bakery Café  

7. น้ำตกกวางสี (ตาดกวางสี)

พลาดไม่ได้ 15 สิ่งที่ต้องไป ต้องทำ เมื่อไปเยือนหลวงพระบาง

          ห่างจากตัวเมืองหลวงพระบางไปทางทิศใต้ประมาณ 30 กิโลเมตร ผ่านป่าเขาและธรรมชาติที่สวยงามไปสู่น้ำตกกวางสี ซึ่งเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในหลวงพระบาง มีหลายชั้น ชั้นบนสุดซึ่งเป็นไฮไลท์ของน้ำตกแห่งนี้มีความสูงถึง 70 เมตร โดยจะไหลลดหลั่นลงมาตามสระน้ำไปสู่น้ำตกชั้นล่าง นอกจากความยิ่งใหญ่ของน้ำตกแห่งนี้แล้ว สีของน้ำตกยังสวยงามจนน่าทึ่งอีกด้วย เพราะมีสีฟ้าใส ซึ่งเกิดจากแร่ธาตุที่อยู่บริเวณน้ำตก เย็นชุ่มฉ่ำ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้เล็กใหญ่รอบด้าน พร้อมกับดอกไม้ป่าสีสันสดใส มีอากาศบริสุทธิ์ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมมาเล่นน้ำกันที่น้ำตกแห่งนี้ เพราะมีชั้นด้านล่างเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ สามารถกระโดดลงจากต้นไม้ใหญ่ลงสู่แอ่งน้ำได้อย่างสนุกสนาน บริเวณทางเข้าน้ำตกเป็นศูนย์อนุรักษ์และดูแลหมีดำ นักท่องเที่ยวสามารถชมหมีดำตัวใหญ่ได้อย่างใกล้ชิด เขตน้ำตกกวางสี เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.30 น. (เสียค่าเข้าชม)


8. วัดวิชุนราช หรือวัดหมากโม

          ความพิเศษของวัดวิชุนราช หรือวัดหมากโม ก็คือการที่มีเจดีย์รูปทรงคล้ายกับดอกบัว หรือบางคนกล่าวว่าคล้ายกับแตงโม ด้วยมีลักษณะเป็นโดมโค้งมน แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของอาณาจักรสิงหล สร้างขึ้นในระหว่าง ปี ค.ศ. 1514-1515 เป็นเจดีย์แห่งเดียวในประเทศลาวที่สร้างรูปทรงดังกล่าว มีพระวิหารเก่าแก่ทรงสิมตั้งอยูภายในวัด สร้างขึ้นในสมัยเจ้าวิชุนราช ในปี ค.ศ. 1513 เป็นวัดที่เก่าที่สุดในหลวงพระบาง ลักษณะอาคารเป็นทรงเตี้ย มีหลังคาโค้งหลดหลั่นกันลงมา 2 ชั้น ที่บนยอดประดับด้วยช่อฟ้า 17 ช่อ อันแสดงถึงเป็นวัดที่สร้างขึ้นโดยพระมหากษัตริย์ บรรยากาศโดยรอบร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ เงียบสงบ บริเวณลานวัดสามารถมองเห็นยอดของพระธาตุภูสีได้อย่างชัดเจน เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. (เสียค่าเข้าชม)

9. วัดใหม่สุวรรณภูมาราม

พลาดไม่ได้ 15 สิ่งที่ต้องไป ต้องทำ เมื่อไปเยือนหลวงพระบาง

          วัดใหม่สุวรรณภูมาราม สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1796 และได้รับการบูรณะอีกครั้งในปี 1821โดย King Manthathourat ความพิเศษของวัดแห่งนี้ก็คือผนังกำแพงทั้งในพระวิหารและด้านนอกจะปิดด้วย แผ่นทองเล่าเรื่องรามายณะ และพระเวสสันดรชาดก แกะลวดลายนูนสูงอย่างงดงาม ละเอียดและวิจิตรบรรจง ต้นเสาด้านหน้าพระวิหารลงแผ่นทองตัดกับพื้นสีดำ เป็นลายดอกแบบศิลปะลาวที่อ่อนช้อย ละเอียด สวยงาม ตั้งอยู่บนถนนศรีสว่างวงศ์ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. (เสียค่าเข้าชม)

10. ตลาดสดตอนเช้า

พลาดไม่ได้ 15 สิ่งที่ต้องไป ต้องทำ เมื่อไปเยือนหลวงพระบาง

          ถ้าหากต้องการที่จะสัมผัสวิถีชีวิตที่แท้จริงของคนหลวงพระบาง ต้องยอมตื่นเช้ากันสักนิด เพื่อไปเดินสำรวจตลาดเช้า ซึ่งอยู่ในซอยถนนที่ถัดลงไปจากถนนศรีสว่างวงศ์ ตลาดแห่งนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวได้อึ้ง ทึ่งกับข้าวของที่ชาวเมืองนำมาขาย เพราะแต่ละอย่างนั้นไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ทั้งงู อุ้งตีนหมี ปลาแม่น้ำโขงตัวใหญ่เบ้อเริ่ม เป็ดไก่ที่เชือดกันสด ๆ ค้างคาว หนูนา นกป่า ฯลฯ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีของทั่วไปให้ได้เลือกซื้อ เพราะที่นี่เป็นแหล่งรวมผัก ผลไม้สดจากชาวสวน มีพืชผักแบบพื้นเมืองมากมายให้ได้เลือกซื้อไปประกอบอาหาร รวมทั้งร้านขายอาหารพื้นเมืองและอาหารเช้าง่าย ๆ อย่างเช่น หมี่ผัด โจ๊ก ข้ามต้ม ข้าวผัด เป็นต้น เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 05.00-07.00 น.

11. น้ำตกตาดแส้



          น้ำตกตาดแส้เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของเมืองหลวงพระบางที่ไม่ควรพลาด ด้วยทัศนียภาพของน้ำตกตาดแส้ มีความงดงามไม่แพ้น้ำตกตาดกวางสีเลยแม้แต่น้อย ด้วยเป็นน้ำตกที่ไหลลดหลั่นกันลงมาจากสระน้ำหลายสิบชั้น น้ำใสมีสีฟ้าสวยงาม บางจุดเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ จึงสามารถว่ายน้ำเล่นในสระได้อย่างสะดวกสบาย  อยู่ห่างจากตัวเมืองหลวงพระบางไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 15 กิโลเมตร การเดินทางเข้าไปยังน้ำตกตาดแส้นั้น ต้องนั่งรถโดยสารหรือเหมารถจากในเมืองหลวงพระบางมายังหมู่บ้านแอน แล้วต่อเรือของชาวบ้านไปยังน้ำตก ตลอดสองฝั่งทางเต็มไปด้วยป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ ชมวิถีชีวิตริมแม่น้ำของชาวบ้าน แปลงการเกษตรแบบพอเพียง ภายใต้บรรยากาศที่เงียบสงบ จนกระทั่งไปถึงที่ทำการของน้ำตกตาดแส้

          ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการไปเที่ยวชมน้ำตกตาดแส้คือ ช่วงเดือนมิถุนายน-ตุลาคม เพราะเป็นช่วงหน้าฝนจะมีปริมาณน้ำมาก นักท่องเที่ยวจึงสามารถเห็นความอลังการของน้ำตกตาดแส้ได้อย่างเต็มที่ เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. (เสียค่าเข้าชม)

12. ร้าน Le Cafe Ban Vat Sene



          ถ้ากำลังมองหาร้านอาหารนั่งทานข้าวไปพร้อมกับบรรยากาศที่เงียบสงบของเมือง หลวงพระบาง ต้องไม่พลาดการนั่งทานอาหาร กาแฟ และเครื่องดื่มกันที่ร้านอาหารฝรั่งเศส \'เลอ คาเฟ่ บ้านวัดแสน\' มีชัยไปกว่าครึ่ง ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ริมถนน ตรงข้ามกับวัดบ้านแสน บริเวณนั้นไม่พลุกพล่าน จึงเหมาะมาก ๆ สำหรับการนั่งทานอาหาร หรือละเมียดกาแฟแก้วโปรดไปพร้อม ๆ กับการชมวิถีชีวิตของชาวบ้านในละแวกนั้น อาหารที่แนะนำคือพิซซ่า ไม่ว่าคุณจะสั่งหน้าอะไรก็ตาม มันจะมาพร้อมกับแป้งบางกรอบนุ่ม ทำแบบสดใหม่ ให้รสชาติแบบต้นตำรับฝรั่งเศส แล้วตามติดด้วยเค้กมะพร้าวเนื้อนุ่มหอมหวาน กับเครื่องดื่มเย็นหรือร้อนก็เข้ากันดี ที่สำคัญมี Wi-Fi ให้ใช้ฟรี พนักงานยิ้มแย้ม พูดจาสุภาพ ทั้งบรรยากาศดี อาหารอร่อย บริการเลิศแบบนี้แล้วจะไม่ไปเช็กอินร้านนี้กันได้อย่างไร 
 
         เว็บไซต์ : elephant-restau.com
  
13. หมู่บ้านผานม



          ห่างจากตัวเมืองหลวงพระบางไปทางทิศเหนือประมาณ 4 กิโลเมตร อันเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านผานม ซึ่งในอดีตนั้นเคยเป็นหมู่บ้านทอผ้าเพื่อถวายแด่พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ของลาว งานทอผ้าของหมู่บ้านแห่งนี้จึงมีความงดงาม มีลายที่เป็นเอกลักษณ์ งานทอจะประณีต ละเอียด ที่สำคัญราคาจะถูกกว่าตลาดในเมืองหลวงพระบาง นักท่องเที่ยวสามารถชมการทอผ้าของชาวบ้านได้อย่างใกล้ชิด พร้อมกับเดินเที่ยวรอบ ๆ หมู่บ้าน เลือกซื้อผ้าทอในแบบต่าง ๆ ราคาเป็นกันเอง 

14. บ้านซ่างฆ้อง

          ไม่ไกลจากหมู่บ้านผานม เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านซ่างฆ้อง หมู่บ้านดีเด่นด้านการทำผลิตภัณฑ์จากกระดาษสา เมื่อเข้าไปยังหมู่บ้านจะเห็นถึงความร่มรื่น เงียบสงบ ชาวบ้านต่างกำลังจัดเตรียมการทำกระดาษสาและนำกระดาษสามาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกระดาษห่อของขวัญ สมุดบันทึก อัลบั้มภาพ ถุงใส่ของที่ระลึก โคมไฟหลากสีสัน ที่ใส่ทิชชู เป็นต้น ซึ่งราคานั้นถือว่าถูกมาก สามารถต่อรองกับชาวบ้านได้

15. ถ้ำติ่ง หรือถ้ำปากอู



          อยู่ห่างจากตัวเมืองหลวงพระบางไปประมาณ 30 กิโลเมตร สามารถนั่งเรือจากท่าเรือวัดเชียงทองเพื่อไปเที่ยวชมได้ หรือนั่งรถไปยังหมู่บ้านปากอู แล้วนั่งเรือข้ามฝากมายังถ้ำแห่งนี้ได้เช่นกัน ถ้ำติ่ง หรือถ้ำปากอู แยกออกเป็น 2 ส่วน คือด้านบนและด้านล่าง ถ้ำติ่งด้านล่างนั้นเมื่อขึ้นจากเรือ เดินขึ้นบันไดไม่กี่ขั้นก็จะสามารถเข้าชมได้เลย ภายในถ้ำติ่งล่างนั้นประกอบไปด้วยพระแกะสลักไม้ ที่วางเรียงรายทั้งขนาดองค์เล็กและองค์ใหญ่สลับกันไป มีจุดให้ไหว้พระขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ส่วนถ้ำติ่งบนจะต้องเดินขึ้นบันไดอ้อมไปทางด้านหลัง ขนาดถ้ำจะมีขนาดใหญ่กว่า มีหินงอกหินย้อยและพระแกะสลักไม้วางไว้ให้ได้เคารพสักการะเช่นกัน (เสียค่าเข้าชม)


          หากใครกำลังวางแผนที่จะไปเที่ยวหลวงพระบาง ทั้งหมดนี้ก็เป็นเคล็ดลับและตัวช่วยที่ดีมาก ๆ ซึ่งนี่เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารส่วนหนึ่งของหลวงพระบางเท่านั้น อันที่จริงเมืองมรดกโลกแห่งนี้ยังมีที่ท่องเที่ยวอีกมากมายให้ได้ไปสัมผัส อย่ารอช้า ออกเดินทางกันได้แล้ว

ขอขอบคุณข้อมูลจาก 
luangprabang-tourism-laos.orgtourismluangprabang.orgseasite.niu.educorbisimages.com 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พลาดไม่ได้ 15 สิ่งที่ต้องไป ต้องทำ เมื่อเยือนหลวงพระบาง อัปเดตล่าสุด 7 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 17:49:56 164,017 อ่าน
TOP