ที่เที่ยวอยุธยาที่เปิดให้บริการรับมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์ หลากหลายสถานที่ท่องเที่ยวทั้งวัด ตลาด และพิพิธภัณฑ์ ต่างทยอยเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเช็กอินแล้ว
หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในประเทศเริ่มเป็นไปในทิศทางที่ดีมากขึ้น รวมถึงในส่วนของภาครัฐเองก็เริ่มที่จะคลายล็อกดาวน์ทั้งในภาคส่วนการเดินทาง การขนส่ง รวมถึงการท่องเที่ยว ซึ่งบางจังหวัดก็เริ่มส่งสัญญาณบ้างแล้ว ดังเช่นจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลายสถานที่ท่องเที่ยวอย่างวัด ตลาด และพิพิธภัณฑ์ ได้เช็กความพร้อม เตรียมเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าใช้บริการ ทั้งนี้ ยังคงมีความจำเป็นคงไว้ซึ่งมาตรการและระเบียบอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 ต่อไป
ที่เที่ยวอยุธยาเปิดให้บริการวันที่ 22 พฤษภาคม 2563
- วัดไชยวัฒนาราม
ส่วนหนึ่งของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เช่น พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ แต่ละมุมของฐานมีปรางค์ประจำทิศตั้งอยู่ด้วย ซึ่งเป็นลักษณะสถาปัตยกรรมแบบสมัยอยุธยาตอนต้น นอกจากนี้ก็ยังมีจุดอื่น ๆ ที่ห้ามพลาด เช่น ระเบียงคด, พระอุโบสถ, เมรุ, ภาพปูนปั้น, พระประธาน เป็นต้น
ภาพจาก icosha / shutterstock.com
- วัดมหาธาตุ
วัดในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ภายในประดิษฐานพระบรมธาตุใจกลางพระนคร ความน่าสนใจของวัดมหาธาตุ ได้แก่ เศียรพระพุทธรูปหินทราย ตั้งอยู่ในรากโพธิ์ และเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของวัด, เจดีย์แปดเหลี่ยม, วิหารเล็ก, พระปรางค์ประธาน, จิตรกรรมฝาผนัง, วิหารหลวง และพระอุโบสถ เป็นต้น
- วัดราชบูรณะ
อีกหนึ่งวัดสำคัญของอยุธยา สิ่งที่สำคัญของวัดแห่งนี้ก็คือ องค์ปรางค์ประธาน เพราะเป็นสถานที่เก็บของมีค่าจำนวนมากในอดีต พร้อมทั้งมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสมัยอยุธยาตอนต้นผสมผสานศิลปะจีนอยู่ด้วย ปัจจุบันของมีค่าต่าง ๆ ได้ถูกนำไปเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา
- วัดพระราม
ตั้งอยู่ใจกลางเกาะเมืองเก่าอยุธยา ใกล้กับสวนสาธารณะพระราม เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีความสวยงามมาก ๆ ของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่กว้างขวางใหญ่โตโอ่อ่า โดดเด่นด้วยพระปรางค์ตามแบบสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาตอนต้น ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากเขมร และมีบึงน้ำกว้างใหญ่อยู่หน้าวัด หรือที่เรียกกันว่าบึงพระรามนั่นเอง
- วัดกุฎีดาว
ไม่ปรากฏประวัติการสร้างชัดเจน แต่สันนิษฐานว่าสร้างช่วงเวลาเดียวกับวัดมเหยงคณ์ เนื่องจากลักษณะศิลปกรรมและสถาปัตยกรรม เป็นแบบอยุธยาตอนปลายในช่วงเวลาเดียวกัน ครั้งหนึ่งวัดแห่งนี้เคยเป็นวัดที่พระราชวงศ์กรุงศรีอยุธยาเคารพเป็นอย่างมาก เพราะที่นี่เคยเป็นที่ประทับของพระเทพมุนี พระราชาคณะในสมัยกรุงศรีอยุธยา อีกทั้งยังเคยเป็นสถานที่เจรจา ประนีประนอม เหตุการณ์ในครั้งสมัยสมเด็จพระเจ้าอุทุมพรอีกด้วย
- วัดมเหยงคณ์
เดิมเป็นพระอารามหลวงฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่เคยสำคัญยิ่งในสมัยอยุธยา โดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (เจ้าสามพระยา) ทรงสร้างขึ้น และได้รับการปฏิสังขรณ์หลายครั้งในหลายสมัย ปัจจุบันเป็นวัดร้างที่สภาพโบราณสถานและโบราณวัตถุที่ยังเหลืออยู่ได้ปรักหักพังไปมาก แต่ก็พอมีเค้าเป็นหลักฐานบ่งบอกถึงศิลปะการก่อสร้างอันประณีตงดงามและระดับความสำคัญของพระอารามแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี
- วัดพระศรีสรรเพชญ์
อดีตเคยเป็นวัดประจำพระราชวังเช่นเดียวกันกับวัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพฯ ภายในวัดพระศรีสรรเพชญ์จะมีเจดีย์สำคัญ 3 องค์ มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงลังกา ตั้งเรียงรายเป็นสัญลักษณ์อย่างสวยงาม และยังมีซากปรักหักพังของสิ่งก่อสร้างที่สำคัญอื่น ๆ เช่น พระวิหาร หอระฆัง และพระอุโบสถ เป็นต้น
- วิหารพระมงคลบพิตร
พระมงคลบพิตรเป็นพระพุทธรูปบุทองสัมฤทธิ์องค์ใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งในประเทศไทย สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยาตอนต้น เมื่อ พ.ศ. 2499 จอมพล ป. พิบูลสงครามได้บูรณะวิหารพระมงคลบพิตรใหม่ทั้งหมดดังที่ปรากฏในปัจจุบัน
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก ปรากฏหลักฐานว่าสร้างในสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช เพื่อให้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และเคยใช้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระยุพราชและพระมหากษัตริย์หลายพระองค์ ภายในมีโบราณสถานและโบราณวัตถุต่าง ๆ น่าสนใจ ได้แก่ กำแพงและประตูวัง, พลับพลาจตุรมุข, พระที่นั่งพิมานรัตยา, พระที่นั่งพิสัยศัลลักษณ์ และตึกที่ทำการภาค
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา
ภายในจัดแสดงเรื่องราวประวัติความเป็นมาของกรุงศรีอยุธยา และของมีค่าต่าง ๆ มีทั้งหมด 3 อาคาร ได้แก่ 1. หมู่อาคารเรือนไทย สร้างอยู่ในสระน้ำ มีลักษณะเป็นเรือนไทยภาคกลาง ภายในจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ของผู้คนในอดีต 2. อาคารศิลปะในประเทศไทย มี 2 ชั้น จัดแสดงศิลปวัตถุสมัยต่าง ๆ ที่รวบรวมได้จากจังหวัดอยุธยา และ 3. อาคารเจ้าสามพระยา จัดแสดงศิลปวัตถุสำคัญ ๆ จากสมัยอยุธยา
ที่เที่ยวอยุธยาเปิดให้บริการวันที่ 23 พฤษภาคม 2563
- วัดพนัญเชิงวรวิหาร
หนึ่งในวัดสำคัญของอยุธยา ที่ผู้คนนิยมมากราบไหว้พระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อโต พระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทอง ปางมารวิชัยขัดสมาธิราบ ศิลปะสมัยอู่ทองตอนปลาย นอกจากนี้ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ พระพุทธรูปปูนปั้น 3 องค์ภายในพระอุโบสถ, พระวิหารเขียน, พระวิหารหลวง, ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก เป็นต้น
- วัดใหญ่ชัยมงคล
สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น สิ่งที่โดดเด่นของวัดนี้ ก็คือ พระเจดีย์ชัยมงคล หรือพระเจดีย์ใหญ่ สันนิษฐานว่าสร้างโดยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในปี พ.ศ. 2135 เมื่อครั้งที่พระองค์ทรงทำศึกยุทธหัตถีชนะพระมหาอุปราชแห่งพม่า ที่ตำบลหนองสาหร่าย เมืองสุพรรณบุรี จึงได้สร้างพระเจดีย์ใหญ่ขึ้นที่วัดนี้เป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะ ต่อมาชาวบ้านก็เรียกวัดนี้ว่า วัดใหญ่ชัยมงคล
- วัดสุวรรณดาราราม
ตั้งอยู่ริมป้อมเพชร มากมายด้วยสิ่งที่น่าสนใจ ล้ำค่าด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นพระอุโบสถ ที่ยังคงไว้ซึ่งสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาตอนปลาย มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเทพชุมนุมที่ผนังอุโบสถ, พระทอง (ในพระวิหาร), เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุหลังพระวิหาร และเจดีย์บรรจุพระบรมอัฐิของพระชนกนาถในรัชกาลที่ 1
- วัดท่าการ้อง
วัดเก่าแก่สมัยอยุธยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นวัดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาสักการะพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ นามว่า “พระพุทธรัตนมงคล” หรือที่เรียกกันว่า “หลวงพ่อยิ้ม เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต รวมถึงบริเวณโดยรอบยังได้รับการตกแต่งสวยงามและร่มรื่นน่าเที่ยวชมอีกด้วย
- วัดหน้าพระเมรุ
พลาดไม่ได้กับการนมัสการ "หลวงพ่อพระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ" พระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ และมีพระลักษณะสวยงามที่สุดองค์หนึ่ง ตลอดจนความสวยงามของ "พระวิหารน้อย" ภายในมีพระคันธารราฐ พระพุทธรูปศิลาเขียวสมัยทวารวดี และภาพจิตรกรรมฝาผนังงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของไทย
ภาพจาก PixHound / shutterstock.com
- วัดธรรมาราม
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจคือ พระอุโบสถศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย ก่อผนังหุ้มกลองหน้า-หลังเชื่อมผนังเป็นหน้าบันยันอกไก่ และปั้นปูนเป็นรูปลายเครือเถา ประดับถ้วยชาม และปั้นปูนลวดลายตรงที่เป็นช่อฟ้าใบระกา
- วัดพุทไธศวรรย์
ความโดดเด่นของวัดพุทไธศวรรย์ คือ "พระมหาธาตุ" หรือปรางค์ประธานสีขาวสะอาดตา มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบปราสาทขอม รวมถึงวิหารพระพุทไธศวรรย์, พระอุโบสถ, ตำหนักพระพุทธโฆษาจารย์, พระอนุสาวรีย์กษัตริย์ 3 พระองค์และจิตรกรรมฝาผนัง เป็นต้น
- วัดกษัตราธิราชวรวิหาร
วัดโบราณในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีพระปรางค์ใหญ่เป็นประธานหลักของวัด และยังมีพระอุโบสถสมัยอยุธยาซึ่งมีลายดาวเพดานจำหลักไม้งดงามมาก ภายในวัดมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสมัยรัตนโกสินทร์ เป็นวัดที่มีความสวยงามมากวัดหนึ่ง
ภาพจาก Anirut Thailand / shutterstock.com
- วัดสะตือ
ภายในประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2413 ซึ่งเป็นที่นับถือของคนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง ต่างนิยมเดินทางมากราบไหว้เพื่อเสริมสิริมงคล รวมถึงขอพรและโชคลาภต่าง ๆ แก่ตัวเองและครอบครัว ซึ่งมักจะสัมฤทธิผลตามที่ใจหวัง
- วัดตะโก
วัดชื่อดังอันเนื่องจากเป็นที่จำพรรษาของหลวงพ่อรวย เกจิอาจารย์ชื่อดัง ทั้งยังเป็นพระเกจิที่มีจริยวัตรงดงามปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดตะโก จนอายุครบอุปสมบท ก็อุปสมบทที่วัดตะโก เป็นพระนักพัฒนานำเอาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่วัดตะโกมาตลอดหลายสิบปี
- วัดเชิงท่า
สิ่งสำคัญภายในวัดก็คือ "ปรางค์ห้ายอดสมัยอยุธยา" มีการก่อฐานพระปรางค์เป็นทรงแท่งสี่เหลี่ยมจัตุรัสและสร้างวิหารยื่นออกไปเป็นรูปกากบาทหรือไม้กางเขน ทางทิศใต้สร้างเป็นวิหารขนาดใหญ่เป็นมหาปราสาทยอดปรางค์ หาชมได้ยากยิ่ง นอกจากนี้ยังมีธรรมาสน์ปิดทองคำเปลวงดงามตั้งอยู่ภายในศาลาการเปรียญ โดยเชื่อกันว่าลายจำหลักไม้หน้าบันนั้นเป็นของดั้งเดิมที่เหลือรอดมาจากครั้งกรุงแตก
ที่เที่ยวอยุธยาที่เปิดให้บริการแล้ว
- ตลาดโก้งโค้ง
ตลาดโบราณย้อนยุค ที่จะพาทุกคนไปสัมผัสบรรยากาศเก่า ๆ แบบสมัยอยุธยา เพลิดเพลินด้วยการเลือกซื้อข้าวของต่าง ๆ ทั้งอาหารคาว อาหารหวาน ขนมโบราณ ผลไม้ต่าง ๆ รับชมการรำวงกลองยาว และการทำบุญตักบาตรเหรียญ
- ตลาดน้ำอโยธยา
ตลาดท่องเที่ยวชื่อดังของอยุธยา สัมผัสบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยสายน้ำเย็นฉ่ำ มีระเบียงริมน้ำให้นักท่องเที่ยวไว้นั่งหย่อนขาสัมผัสสายน้ำเย็นชื่นใจ หลากหลายด้วยเมนูอาหารอร่อย ๆ ทั้งของคาว-ของหวาน เช่น ผัดไทย, ทอดมัน, ก๋วยเตี๋ยว, น้ำพริกปลาทู, ส้มตำรสเด็ด, ขนมครกไข่นกกระทา, ถุงทอง, หมูระเบิด, ไก่ระเบิด, หอยครกกระทะร้อน และยำต่าง ๆ เป็นต้น
- วัดพระงาม
หนึ่งในไฮไลต์ของวัดพระงาม นั่นคือ ซุ้มประตู ที่ปกคลุมด้วยรากต้นโพธิ์มาเป็นเวลานานกว่าร้อยปี จนได้รับการขนานนามว่า “ประตูแห่งกาลเวลา” ซึ่งไม่ว่าใครไปที่นี่ ต่างก็ต้องไปดูให้เห็นด้วยตาตัวเอง แล้วจะรู้สึกได้ถึงความสวยงามและมนตร์เสน่ห์อย่างยากที่จะหาคำมาบรรยาย
- วัดภูเขาทอง
วัดภูเขาทองสถาปนาขึ้นในสมัยสมเด็จพระราเมศวร เมื่อปี พ.ศ. 1930 ภายในมีเจดีย์ภูเขาทองเป็นมหาเจดีย์สำคัญ มีความสูงถึง 90 เมตร นอกจากนี้ยังสามารถเยี่ยมชมบริเวณด้านบนรอบเจดีย์ดูวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม, สักการะพระพุทธรูป, ชมรอยพญานาค และวิหารแกลบ เป็นต้น
- พุทธอุทยานมหาราช หลวงปู่ทวด
ชมความงดงามของรูปเหมือน “หลวงปู่พ่อทวด” เหยียบน้ำทะเลจืด สร้างจากปูนหุ้มสัมฤทธิ์เคลือบสีทองทั้งองค์ นับได้ว่าเป็นรูปเหมือนพระสงฆ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งบริเวณใกล้เคียงกันยังมี “ตลาดหลวงปู่ทวด” ให้ได้เดินเลือกซื้อของกิน ของฝาก และของที่ระลึกมากมาย
ทั้งนี้ ยังคงมีสถานที่ท่องเที่ยวอยุธยาที่ยังคงปิดให้บริการอยู่ (ณ วันที่ 20 พฤษภาคม 2563) ได้แก่ โฮมสเตย์ ไทรน้อย, เกาะเกิดและรางจระเข้, ป้อมเพชร, ศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด, หมู่บ้านโปรตุเกส, พระราชวังบางปะอิน, หมู่บ้านญี่ปุ่น และหมู่บ้านฮอลันดา
หากแต่นักท่องเที่ยวจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรการดังต่อไปนี้
1. เข้า-ออก ผ่านจุดเข้า-ออกที่กำหนด โดยสแกน QR code "ไทยชนะ" หรือลงทะเบียนเข้าชม
ทั้งนี้ ยังคงมีสถานที่ท่องเที่ยวอยุธยาที่ยังคงปิดให้บริการอยู่ (ณ วันที่ 20 พฤษภาคม 2563) ได้แก่ โฮมสเตย์ ไทรน้อย, เกาะเกิดและรางจระเข้, ป้อมเพชร, ศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด, หมู่บ้านโปรตุเกส, พระราชวังบางปะอิน, หมู่บ้านญี่ปุ่น และหมู่บ้านฮอลันดา
หากแต่นักท่องเที่ยวจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรการดังต่อไปนี้
1. เข้า-ออก ผ่านจุดเข้า-ออกที่กำหนด โดยสแกน QR code "ไทยชนะ" หรือลงทะเบียนเข้าชม
2. ตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าชม
3. ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์
4. สวมใส่หน้ากากอนามัย
5. รักษาระยะห่างในที่ที่มีผู้เข้าชมจำนวนมาก
ในส่วนของร้านอาหาร ร้านขายของอื่น ๆ นั้น ส่วนใหญ่เปิดให้บริการเกือบทั้งหมดแล้ว โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการของจังหวัดอย่างเคร่งครัด เช่น การเว้นระยะห่าง การทำความสะอาด และการใส่หน้ากากอนามัย เป็นต้น
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก Ayutthaya Tourism and Sports หรือโทรศัพท์ 035 902 719
ขอบคุณข้อมูลจาก
เฟซบุ๊ก Ayutthaya Tourism and Sports, thai.tourismthailand.org