1. I love flower Farm จังหวัดเชียงใหม่
เอาใจคนรักดอกไม้ ชวนไปเที่ยวฟาร์มดอกไม้เมืองหนาวกันที่ I love flower Farm ตำบลเหมืองแก้ว อำเภอแม่ริม มีแปลงปลูกดอกคัตเตอร์สีขาว และดอกมาร์กาเร็ตสีม่วง กำลังบานสวยสะพรั่งเต็มพื้นที่กว่า 8 ไร่ ดอกไม้สีขาว-ม่วงดอกเต็มสมบูรณ์ดูฟุ้ง ๆ หวานละมุน รับแดดสีส้มอ่อนตอนเช้าและบ่ายแก่ ๆ สวยงามน่าถ่ายรูป ทั้งนี้ทางไร่จะเปิดให้เข้าชมเฉพาะผู้ที่จองไปเท่านั้น
เฟซบุ๊ก : love flower Farm
2. ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย จังหวัดเชียงใหม่
แปลงปลูกดอกไฮเดรนเยียท่ามกลางขุนเขาและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ แปลงเล็ก-ใหญ่แตกต่างกันออกไป จะออกดอกเกือบตลอดทั้งปี ชาวบ้านจะสลับกันปลูก แต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไปบรรยากาศจะสวยงามมาก ดอกไม้จะดอกใหญ่สะพรั่ง สีสด เพราะอากาศเย็น ผู้ที่สนใจเข้าเที่ยวชมทุ่งดอกไฮเดรนเยียสามารถติดต่อรถรับ-ส่งได้ที่โครงการหลวงขุนแปะ ไม่แนะนำให้ขับรถเข้าไปเอง เพราะทางเล็กแคบ เป็นดินลูกรัง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย เชียงใหม่ ใกล้โครงการหลวงขุนแปะ ทยอยบานแล้ว
ที่ตั้ง : ใกล้กับโครงการหลวงขุนแปะ ตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
3. ทุ่งดอกเก๊กฮวย จังหวัดเชียงใหม่
ไร่ดอกเก๊กฮวยของชาวบ้านที่มักจะปลูกกันในช่วงปลายฝนต้นหนาว ซึ่งจะอยู่ราว ๆ ปลายเดือนตุลาคมไปจนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน ดอกเก๊กฮวยสีขาวจะบานสวยสะพรั่งดูหวานละมุน กลิ่นดอกหอม ช่วงเช้าและบ่ายแก่ ๆ อากาศจะเย็นสบาย แสงแดดอ่อน ๆ กระทบดอกเก๊กฮวย ถ่ายรูปสวยมาก
ที่ตั้ง : พื้นที่ตำบลแม่สาบ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่
4. ทุ่งดอกบัวตอง จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดลำปาง และจังหวัดเชียงราย
ราชินีดอกไม้แห่งช่วงต้นฤดหนาว สำหรับดอกบัวตอง ดอกไม้ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเม็กซิโก สีเหลืองสวยสดใส ยิ่งพออยู่รวมกันเยอะ ๆ ยิ่งสวยงามน่าหลงใหล ในเมืองไทยมีทุ่งดอกบัวตองเด่น ๆ อยู่ 3 แห่ง คือ
- ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จะเริ่มบานในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ติดตามการบานได้ที่ เฟซบุ๊ก องค์การบริหารส่วนตำบลแม่อูคอ
- ทุ่งดอกบัวตอง แม่เมาะ จังหวัดลำปาง จะบานราว ๆ วันที่ 20 พฤศจิกายนเป็นต้นไป พร้อมกับการจัดงานเทศกาลท่องเที่ยวแม่เมาะ 2562 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก เทศกาลท่องเที่ยวแม่เมาะ
- ทุ่งดอกบัวตอง ดอยหัวแม่คำ จังหวัดเชียงราย จะบานราว ๆ กลางเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป และจะมีงานวัฒนธรรมชาวดอก ดอกบัวตองบานที่บ้านหัวแม่คำ ระหว่างวันที่ 15-17 พฤศจิกายน 2562 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลแม่สลองใน โทรศัพท์ 0 5373 0360
5. วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร จังหวัดลำพูน
ปูชนียสถานสำคัญในภาคเหนือ มีอายุมากกว่าพันปี งดงามด้วยพระธาตุหริภุญชัยสีเหลืองทองอร่าม พร้อมด้วยวิหาร และอาคารรูปแบบสถาปัตยกรรมล้านนา นอกจากนี้ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนก็จะมีการจัดงานเทศกาลโคมแสนดวง โดยจะมีโคมพื้นเมืองหลากสีสันแขวนห้อยระย้าทั่ววัด บรรยากาศแบบงานวัดของชาวล้านนาสมัยโบราณ ในวันลอยกระทงก็จะมีงานประเพณีลอยกระทงด้วย
ภาพจาก lamphunpao.go.th
ที่ตั้ง : ถนนรอบเมืองใน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน
เว็บไซต์ : lamphunpao.go.th
6. ดอยพุ่ยโค จังหวัดแม่ฮ่องสอน
แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่ยังงดงามสวยสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวจะต้องเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติขึ้นไปประมาณ 840 เมตร เพื่อชมความสวยงามของทุ่งหญ้าสีทอง ถ้าใครไปช่วงเช้าก็จะได้ชมทะเลหมอกกว้างใหญ่ อากาศสดชื่นหนาวเย็นจัดตลอดฤดูกาล ไฮไลต์ของที่นี่ก็คือ สะพานไม้ที่ทอดยาวขนานริมหน้าผา พร้อมกับต้นเดียวดายตั้งตระหง่าน วันไหนมีหมอกลงเยอะ จะเหมือนกับยืนอยู่บนสวรรค์เลยทีเดียว
ที่ตั้ง : บ้านอุมดาเหนือ ตำบลแม่คะตวน อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
7. ภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย
สถานที่ชมทะเลหมอกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ตั้งอยู่ติดชายแดนไทย-ลาว ในเขตตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงที่มีชะง่อนผายื่นออกไปกลางอากาศ ซึ่งส่วนที่สูงที่สุดอยู่ที่ 1,628 เมตร จากระดับน้ำทะเล ไฮไลต์ของภูชี้ฟ้า ก็คือ ทะเลหมอกสีขาวแน่น ๆ ที่จะโผล่มาทักทายกันทุกเช้าในช่วงตั้งแต่ปลายฝนต้นหนาวเป็นต้นไป อากาศหนาวเย็นจับใจ ถ่ายรูปสวยทุกองศา นอกจากนี้ในแนวชายแดนใกล้เคียงยังมียอดดอยอื่น ๆ ให้ไปเที่ยวชมกันด้วย ทั้งดอยผาตั้ง, ภูชี้ดาว และภูชี้เดือน
8. ดอยกาดผี จังหวัดเชียงราย
จุดชมวิว 360 องศาที่ซ่อนตัวอยู่ในตำบลห้วยชมภู อำเภอเมืองเชียงราย สูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 1,100 เมตร ด้านบนเป็นพื้นที่โล่งกว้าง เจ้าหน้าที่ได้ปรับปรุงภูมิทัศน์จัดตกแต่งสวนอย่างสวยงาม มองเห็นวิวขุนเขาโดยรอบได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไปจะสามารถชมทะเลหมอกได้อย่างสวยงาม กว้างใหญ่ อากาศหนาวจับใจ เหมาะแก่การมานอนกางเต็นท์ชมดาว
ภาพจาก MANOCHAI STUDIO / Shutterstock.com
ที่ตั้ง : ตำบลห้วยชมภู อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
9. อุทยานแห่งชาตินันทบุรี จังหวัดน่าน
ที่เที่ยวธรรมชาติสวย ๆ อีกแห่งของจังหวัดน่าน ครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าวังผา อำเภอเมือง และอำเภอบ้านหลวง รอบ ๆ ผืนป่าอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณนานาชนิด รวมทั้งสัตว์ป่ามากมาย จุดที่น่าสนใจก็คือ บริเวณจุดชมทิวทัศน์บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ มีลักษณะเป็นลานหญ้ากว้าง มองเห็นวิวได้ไกลสุดลูกหูลูกตา และยังสามารถมองเห็นทะเลหมอกกว้างใหญ่ได้ในช่วงฤดูหนาว มีพื้นที่กางเต็นท์ไว้รองรับ ส่วนถ้าใครอยากผจญภัญนิด ๆ ก็สามารถที่จะไปเที่ยวชมดอยวาว อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานราว ๆ 1 กิโลเมตร แล้วเดินขึ้นยอดดอย ตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยพืชพรรณนานาชนิด อากาศเย็นสบายมาก
เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาตินันทบุรี-Nanthaburi National park
10. ภูผักหวาน จังหวัดเลย
จุดชมวิวทะเลหมอกลึกลับของบ้านห้วยเดื่อ ต้องขับรถขึ้นไปบนเขา เส้นทางขรุขระ แต่ก็คุ้มค่ากับวิวสวย ๆ จากจุดชมวิวจะเห็นยอดเขาน้อยใหญ่เรียงรายสลับซับซ้อนกันไปมา มีหมู่บ้านเล็ก ๆ หลายแห่งซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา วันไหนอากาศเป็นใจ ก็จะได้เห็นทะเลหมอกสวย ๆ ลอยฟุ้งละมุน สดชื่นทุกมุมมอง
ที่ตั้ง : บ้านห้วยเดื่อ ตำบลน้ำทูน อำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย
11. หินสามวาฬ จังหวัดบึงกาฬ
สถานที่ท่องเที่ยวอันซีนไทยแลนด์กับภูเขาหินขนาดใหญ่ ที่เรียงตัวกัน 3 ก้อน รูปร่างและสีสันคล้ายกับวาฬ จุดเด่นก็คือ เป็นภูเขาหินหัวโล้น ไม่มีต้นไม้หรือก้อนหินอื่น ๆ บดบัง เมื่อเดินไปชมวิวจากหินก้อนกลางจะเห็นความแตกต่างของคนที่ยืนอยู่ที่จุดชมวิวกับหินอย่างชัดเจน เป็นมุมภาพที่สวยงามแปลกตา มีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยเท่านั้น อีกทั้งบนก้อนหินยังสามารถมองเห็นวิวป่าและภูเขาโดยรอบ รวมทั้งแม่น้ำโขงบริเวณอำเภอบุ่งคล้า และทิวยอดเขาบริเวณเมืองปากกระดิง ประเทศลาว ถ้ามาตอนเช้า ก็จะได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นด้วย
ภาพจาก Sakcared / Shutterstock.com
ที่ตั้ง : เขตพื้นที่อนุรักษ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู ตำบลโคกก่อง อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ
โทรศัพท์ : 08 8536 2717 (ฝ่ายบริหารทั่วไป ภูสิงห์)
12. อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย
ที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของไทย มีอายุเก่าแก่หลายร้อยปี ครอบคลุมพื้นที่กว่า 70 ตารางกิโลเมตร มีแหล่งโบราณสถานที่สวยงามมากมาย เช่น วัดมหาธาตุ, เนินปราสาทพระร่วง, วัดช้างล้อม, วัดตระพังเงิน, วัดสระศรี, วัดศรีสวาย, เตาทุเรียง เป็นต้น ยิ่งในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ทางอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยจะมีการจัดตกแต่งสถานที่อย่างสวยงาม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับงานลอยกระทง มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ หลากหลายมุม พร้อมกับมีตลาดย้อนยุคให้เดินเที่ยวชมด้วย
เฟซบุ๊ก : อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
13. เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล
ที่เที่ยวทะเลอันดามันสวย ๆ ที่ควรไปสัมผัสกันสักครั้ง เป็นเกาะขนาดเล็กใจกลางท้องทะเลกว้างใหญ่ น้ำทะเลเป็นสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ใส ถึงขนาดว่ามองเห็นแนวปะการังที่อยู่ใต้น้ำรอบ ๆ เกาะ หาดทรายก็ขาวสะอาดตา ตัดกับสีท้องทะเลอย่างชัดเจน เม็ดทรายเล็กละเอียดเนียนนุ่ม สามารถนอนเล่นอาบแดดริมทะเลได้สบาย ๆ บรรยากาศเงียบสงบ มีที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน นอกจากนี้ยังมีเกาะอื่น ๆ ที่อยู่โดยรอบที่น่าสนใจมากมาย เช่น เกาะจาบัง, เกาะหินงาม, เกาะอาดัง, เกาะราวี, เกาะยาง, เกาะหินซ้อน, เกาะรอกลอย และเกาะไข่ เป็นต้น
เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติตะรุเตา
14. เสม็ดนางชี จังหวัดพังงา
เสม็ดนางชี เป็นจุดชมวิวที่สวยมากที่สุดของภาคใต้ ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาเขตพื้นที่ตำบลคลองเคียน อำเภอตะกั่วทุ่ง เป็นมุมที่สามารถมองเห็นอ่าวพังงาได้แบบ 180 องศา เห็นภูเขาหินปูนน้อยใหญ่ตั้งตระหง่านเรียงรายสลับซับซ้อนขึ้นมากลางทะเล ไม่ว่าจะวิวพระอาทิตย์ตกดิน หรือวิวพระอาทิตย์ขึ้น ก็สวยงามน่าประทับใจ ทั้งนี้ปัจจุบันมีทั้งที่พักและจุดกางเต็นท์ให้นักท่องเที่ยวเลือกพักผ่อน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
lamphun.go.th, park.dnp.go.th, sukhothai.go.th, อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย