ยิ่งไปกว่านั้นหากไปเที่ยวช่วงฤดูฝนนี้ก็จะได้ชมนาข้าวขั้นบันได และไร่กะหล่ำปลีสีเขียวกว้างใหญ่ไกลสุดลูกหูลูกตากันด้วยนะ ซึ่งจะอยู่ระหว่างทางเข้าไปเยี่ยมชมทุ่งดอกไฮเดรนเยียนี้นั่นเอง
การเข้าไปเยี่ยมชมทุ่งดอกไฮเดรนเยียโดยรอบของโครงการหลวงขุนแปะ นักท่องเที่ยวจะต้องขับรถไปจอดไว้บริเวณที่ทำการโครงการหลวงขุนแปะ และจะมีบริการรถนำเที่ยวชมของชาวบ้านพาเข้าไปยังทุ่งดอกไฮเดรนเยียอีกทอดหนึ่ง เพราะเส้นทางจากโครงการหลวง ไปยังทุ่งดอกไฮเดรนเยียต่าง ๆ นั้นค่อนข้างเล็กแคบ บางช่วงชัน ไม่เหมาะกับรถยนต์ทั่วไป
ค่าบริการรถนำเที่ยวคันละ 500-600 บาท นั่งได้ 6-8 ท่าน มีค่าบำรุงแต่ละสวนอีกประมาณ 20-30 บาท/ท่าน (ไร่ไฮเดรนเยีย ภูตะวัน มีค่าบำรุงสถานที่ 20 บาท) เที่ยวชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น.
ทั้งนี้ ใครอยากได้ภาพงาม ๆ อยากมีพร็อพเพิ่มเป็นช่อดอกไฮเดรนเยียงาม ๆ ช่อโต ก็สามารถซื้อสด ๆ กันได้ที่หน้าไร่ เริ่มต้นที่ช่อละ 40 บาท เท่านั้น แต่ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวในการเข้าเยี่ยมชมทุ่งดอกไฮเดรนเยียแปลงต่าง ๆ ให้ระมัดระวัง ไม่เหยียบย่ำต้นไม้ หรือไม่เดินในเส้นทางที่นอกเหนือจากที่ทางไร่จัดทำไว้ให้ ไม่โน้มกิ่ง หรือเด็ดดอกไม้โดยพลการ หรือทำการใดที่สร้างความเสียหายต่อแปลงปลูกดอกไม้
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ที่เหมือนเป็นน้ำหวานให้กับการท่องเที่ยวในฤดูฝนนี้เลยนะคะ สำหรับทุ่งดอกไฮเดรนเยีย โครงการหลวงขุนแปะ ถ่ายรูปก็สวย เที่ยวก็ดี ใคร ๆ ก็เที่ยวได้ ถ้ามีแผนไปเที่ยวเชียงใหม่อยู่แล้ว ก็แวะกันไปเที่ยวชมนะคะ :)
บ้านไร่ไฮเดรนเยีย ภูตะวัน, คุณ AreTy Srichomjang, วิถีคนขี้เที่ยว, คุณ Jeerawan Jarukaisri, ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ