ขอเชิญชวนปวงชนชาวไทยและนักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าร่วมชมหอเฉลิมพระเกียรติพระบิดาแห่งฝนหลวง ณ ศูนย์ฝนหลวงหัวหิน ภายในท่าอากาศยานหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชมพระอัจฉริยภาพของในหลวง ร.9 ผู้ที่เปรียบเสมือนเทวดาของชาวไทย สั่งฟ้าให้เทฝนได้ในพริบตา
"ฝนหลวง"
โครงการพระราชดำริที่แสดงถึงพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชอย่างแท้จริง
ใครจะไปคิดว่าจะสามารถสั่งธรรมชาติให้เป็นไปอย่างที่เราต้องการได้
โดยเฉพาะสายฝนจากบนฟากฟ้า ที่จะตกลงมาก็ต่อเมื่อถึงฤดูกาล
แต่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้ทรงค้นคว้าวิจัยร่วมกับคณะ
จนสามารถที่จะสั่งฟ้าให้โปรยฝนลงสู่ผืนแผ่นดินไทยได้
และกลายเป็นที่มาของฝนหลวง
สายฝนแห่งน้ำพระราชหฤทัยที่พระองค์ทรงห่วงใยความเป็นอยู่ของราษฎร
อยากให้พ้นจากภัยแล้งและสามารถดำรงชีพได้อย่างมีความสุข
เพื่อให้ปวงชนชาวไทยรู้จักกับฝนหลวงมากยิ่งขึ้น
จึงอยากเชิญชวนให้ไปเที่ยวชมหอเฉลิมพระเกียรติพระบิดาแห่งฝนหลวง ณ
ศูนย์ฝนหลวงหัวหิน ภายในท่าอากาศยานหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
กันสักครั้ง
ภาพจาก huahin.royalrain.go.th
หอเฉลิมพระเกียรติพระบิดาแห่งฝนหลวง ตั้งอยู่ที่ศูนย์ฝนหลวงหัวหิน ภายในท่าอากาศยานหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นอาคารจัดแสดงเรื่องราวความเป็นมาของฝนหลวง ขั้นตอนการทำฝนหลวง รวมทั้งห้องทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล รองอธิบดีรักษาราชการแทนอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า เมื่อปี พ.ศ. 2545 รัฐบาลมีมติคณะรัฐมนตรีให้เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในฐานะเป็นพระบิดาแห่งฝนหลวง และมีมติให้ทุกวันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปีเป็น "วันพระบิดาแห่งฝนหลวง" คณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิฝนหลวงและปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในขณะนั้น (นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา) เห็นพ้องและมีมติให้ศูนย์ฝนหลวงหัวหินเป็นศูนย์เฉลิมพระเกียรติและเป็นศูนย์ต้นแบบ
โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ทำการพัฒนาปรับปรุงอาคารศาลาที่ประทับ ซึ่งเป็นอาคารท่าอากาศยานเดิมที่กรมการขนส่งทางอากาศมอบให้เป็นอาคารที่ทำการทั้งหลัง ประกอบด้วยห้องทรงงานและที่ทำการของศูนย์ฝนหลวงทั้งระบบ ประกอบกับมีเอกชนบริจาคคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ครบชุด ทำให้สามารถพัฒนายกระดับเครือข่ายคอมพิวเตอร์และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้มีศักยภาพและประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สามารถเชื่อมโยงกับเครือข่ายของพระราชวังไกลกังวล ถวายรายงานต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้โดยตรง ซึ่ง ฯพณฯ องคมนตรีอำพล เสนาณรงค์ ได้นำคณะเข้าเฝ้า ณ ตำหนักเปี่ยมสุข พระราชวังไกลกังวล ทูลเกล้าฯ ถวายกุญแจห้องทรงงาน ณ ศูนย์ฝนหลวงหัวหิน เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2545
ภาพจาก Kosin Sukhum / Shutterstock.com
เมื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คณะปฏิบัติการฝนหลวงมาปฏิบัติการในพื้นที่นี้ ทั้งปฏิบัติการฝนหลวงของกระทรวงเกษตรฯ ตามปกติ และปฏิบัติการฝนหลวงพิเศษเคลื่อนที่เร็วติดตามพระองค์ เพื่อทรงบรรยายและสาธิตการทำฝนหลวงแก่นักเรียนไกลกังวลในรายการศึกษาทัศน์ของมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2544 และยังได้รับการบำรุงรักษาให้คงสภาพพร้อมที่จะใช้เป็นศาลาที่ประทับได้ทุกขณะตลอดมาจนถึงปัจจุบัน จึงนับได้ว่าสถานที่นี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของโครงการฝนหลวง
ภาพจาก huahin.royalrain.go.th
ในห้องทรงงาน ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงคิดค้นปรากฏเป็นแผนภาพประมวลขั้นตอนกรรมวิธีการทำฝนหลวง 6 ขั้นตอน ภายในยังมีภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ที่พระองค์ทรงฉายขณะพบมวลเมฆจับตัวกันจนเกิดฝนที่ทะเลหัวหิน วังไกลกังวล พระราชทานให้กับศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง
ภาพจาก huahin.royalrain.go.th
ภาพจาก huahin.royalrain.go.th
ภาพจาก huahin.royalrain.go.th
นอกจากตำราฝนหลวงพระราชทาน และภาพถ่ายฝีพระหัตถ์จากวังไกลกังวลแล้ว ในห้องทรงงานยังมีดินสอ เข็มทิศ สารฝนหลวง ที่เป็นสูตรทรงคิดค้น และมีแผนที่ประเทศไทยขนาด 1 ต่อ 250,000 อยู่ด้านหลังของโต๊ะทรงงานในห้องทรงงานฝนหลวง
ภาพจาก huahin.royalrain.go.th
สิ่งสำคัญประการหนึ่งที่ต้องกล่าวถึง นั่นคือเครื่องบินที่เกษตรกรชาวไร่อ้อย เขต 7 ได้รวบรวมเงินบริจาคซื้อถวายเพื่อเป็นเครื่องบินที่ใช้ปฏิบัติการฝนหลวง และยังเป็นเครื่องบินที่พระองค์ท่านทรงเจิมด้วยพระองค์เองที่จังหวัดกาญจนบุรี ตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์อันสง่างามอยู่หน้าหอเฉลิมพระเกียรติพระบิดาแห่งฝนหลวง
นักท่องเที่ยวสามารถที่จะติดต่อขอเข้าชมหอเฉลิมพระเกียรติพระบิดาแห่งฝนหลวง ณ ศูนย์ฝนหลวงหัวหิน ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 3252 0062 หรือดูรายละเอียดได้ที่ huahin.royalrain.go.th ทั้งนี้ควรแต่งกายสุภาพ เนื่องจากเป็นสถานที่ราชการ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
huahin.royalrain.go.th, royalrain.go.th, chaipat.or.th