อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระนอง
ด้วยการมองการณ์ไกลและชาญฉลาดของ พระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซู้เจียง) ที่ได้ให้ ป๋าโฮ้ย ซึ่งเป็นชาวไทยมุสลิม ไปก่อตั้งหมู่บ้านที่ เกาะพยาม เพื่อป้องกันการบุกรุกของอังกฤษซึ่งครอบครองพม่าอยู่ในสมัยนั้น (ปัจจุบันมีหลักฐานปรากฏอยู่ที่แหลมฝรั่งบริเวณอ่าวใหญ่ที่เกาะพยาม) ทำให้ หมู่เกาะระนอง ปรากฎว่าเป็นกรรมสิทธิ์อยู่ในแผ่นที่ประเทศไทย
และด้วยทรัพยากรทั้งทางบนบก ชายฝั่งทะเล และในท้องทะเล ซึ่งมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่แตกต่างกันออกไป จึงทำให้มีกิจกรรมการท่องเที่ยวหลายรูปแบบ เช่น การพายเรือดูนก ล่องเรือชมป่าชายเลน ว่ายน้ำ อาบแดด ดำน้ำชมปะการัง การถ่ายภาพทางธรรมชาติและการพักผ่อนในบรรยากาศที่สงบ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ชื่อของ หมู่เกาะระนอง จะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวติดอันดับที่ใคร ๆ ก็อยากลองไปสัมผัส และวันนี้เราก็จะพาเพื่อน ๆ ไปสำรวจความงดงามของ หมู่เกาะระนอง กัน...
หมู่เกาะระนอง หรือ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระนอง ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอเมือง จังหวัดระนอง เป็นกลุ่มเกาะที่ประกอบด้วยเกาะใหญ่ น้อยเรียงรายทอดยาวตลอดแนวชายฝั่งเหนือ -ใต้ ของทะเลอันดามัน ติดต่อกับชายแดนสาธารณรัฐสังคมนิยมสหภาพพม่า เปลี่ยนชื่อมาจาก 2553 อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะพยาม ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 119 ของประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระนอง สามารถแบ่งลักษณะภูมิประเทศออกได้เป็น 3 กลุ่มพื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ชายฝั่งทะเล เป็นพื้นที่ลาดลงมาจากทิศตะวันออกของจังหวัดระนอง มีหาดยื่นออกไปในทะเล และปกคลุมไปด้วยป่าชายเลน ซึ่งเป็นป่าชายเลนผืนใหญ่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง รัฐบาลไทยจึงได้จัดทำโครงการร่วมกับประเทศสมาชิกยูเนสโก้ประกาศพื้นที่ชาย ฝั่งบริเวณนี้เป็น เขตสงวนชีวมลฑลโลก (International Coastal and Marine Biosphere Reserve) ซึ่งเป็นแห่งที่ 4 ของประเทศไทย โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อเป็นที่สงวนความหลากหลายทางธรรมชาติ
พื้นที่ใกล้ชายฝั่ง ได้แก่ บริเวณเกาะบางจาก เกาะยิว เกาะทรายดำ เกาะสน ประกอบด้วยป่าชายเลนทางทิศตะวันออก และหาดทรายทางฝั่งตะวันตก ส่วนพื้นที่บนเกาะปกคลุมไปด้วยป่าดงดิบ และพื้นที่ห่างจากชายฝั่ง ได้แก่ บริเวณเกาะช้าง เกาะพยาม เกาะทะลุ เกาะตาครุฑ เกาะหม้อ เกาะปริง เกาะไร่ และเกาะไฟไหม้ ฯลฯ โดยกลุ่มเกาะดังกล่าวขนานกับชายฝั่ง พื้นที่บนเกาะปกคลุมไปด้วยป่าดงดิบและรอบเกาะมีปะการังกระจายอยู่โดยรอบ
สภาพภูมิอากาศของ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระนอง อยู่ในเขตลมมรสุม ฝนจะเริ่มตกตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม ซึ่งในช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน เป็นช่วงฝนชุกมาก ฤดูหนาวเริ่มตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ แต่อากาศไม่หนาวจัดเพราะอยู่ไกลจากอิทธิพลของอากาศหนาวพอสมควร
แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่...







นอกจากนี้ เกาะทรายดำยังเป็นเกาะที่มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม เหมาะแก่การประกอบกิจกรรมการท่องเที่ยวหลายด้าน เช่น การเดินป่า ชมวิถีชีวิตของชาวประมงในการทำกะปิของชาวบ้าน ซึ่งทำจากกุ้งเคย (Krill) เดินป่าศึกษาธรรมชาติของป่าดิบชื้น ระยะทาง 4 กิโลเมตร


สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวก คือ มีบริการท่าเทียบเรือขององค์การสะพานปลา ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง และบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ มีบังกะโลให้บริการที่อ่าวเขาควายและอ่าวใหญ่ ทางด้านตะวันตกของเกาะพยาม และที่เกาะช้าง ส่วนลานกางเต็นท์อยู่ที่บริเวณ อ่าวไข่เต่า บนเกาะช้าง มีสถานที่กางเต็นท์และเต็นท์ไว้ให้บริการ สามารถรองรับได้ประมาณ 100 คน สามารถทำกิจกรรมเดินป่า ดำน้ำตื้นดูปะการรัง การขอใช้บริการต้องติดต่อกับอุทยานแห่งชาติก่อนล่วงหน้า เพื่อจะได้จัดเตรียมอาหารให้เพียงพอ
ทั้งนี้ ฤดูกาลท่องเที่ยวที่เหมาะสมได้แก่ ช่วงเดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคม ของทุกปี และการดำน้ำดูปะการังที่เหมาะสมคือ ขึ้น 8 ค่ำ - 15 ค่ำ แรม 8 ค่ำ - 15 ค่ำ และการล่องเรือชมป่าชายเลนสามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระนอง 192 หมู่ที่ 4 ตำบลหงาว อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง 85000 โทรศัพท์ 0 7781 3840 โทรสาร 0 7781 3841 อีเมล reserve@dnp.go.th
การเดินทาง
รถยนต์ : จากจังหวัดระนองไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (ระนอง-ตะกั่วป่า) ไปประมาณ 14 กิโลเมตร ถึงตำบลหงาว เลี้ยวขวาเข้าเทศบาลหงาว เดินทางต่อไปตามทางสายบ้านล่าง-หัวถนน อีกประมาณ 4 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ
เรือ : การเดินทางสู่จุดท่องเที่ยวในปัจจุบันมี 2 เส้นทาง ได้แก่...
• เดินทางจากท่าเทียบเรือองค์การสะพานปลา ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง ระยะทางประมาณ 33 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-3.5 ชั่วโมง จะมีเรือเมล์ไว้บริการ
• ท่าเทียบเรืออุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระนอง ระยะทางประมาณ 19 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง มีเรือเช่าเหมาลำให้บริการ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
