x close

บ้านปง-ห้วยลาน เชียงใหม่ พอเพียง สโลว์ไลฟ์ มาเติมแรงบันดาลใจที่นี่กัน



          เที่ยวบ้านปง-ห้วยลาน เชียงใหม่ ที่เที่ยวเชียงใหม่ ที่จะทำให้การเที่ยวเชียงใหม่ไม่เหมือนเดิม ได้ทั้งเติมความสุขและแรงบันดาลใจ จะไปเที่ยวเมื่อไรก็มีแต่รอยยิ้ม
 
          หากเราเดินทางไปเที่ยวเชียงใหม่ สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ที่เรามักจะนึกถึงกัน ก็จะเป็นแลนด์มาร์กเด่น ๆ ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว แน่นอนว่าสถานที่เหล่านั้นก็จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว ทำให้บางคนได้ไปเที่ยวแค่เพียงฉาบฉวย ไม่ได้สัมผัสถึงแก่นแท้ทางวัฒนธรรมของสถานที่ท่องเที่ยวสักเท่าไร แต่วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับอีกหนึ่งชุมชนสุดน่ารักในจังหวัดเชียงใหม่ ที่จะทำให้การเที่ยวเชียงใหม่ของคุณเปลี่ยนไป แต่มีความสุขมากยิ่งขึ้น บอกเลยว่าใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวแบบ 2 วัน 1 คืน ต้องไม่พลาด โดยเฉพาะผู้หญิง เที่ยวได้ง่าย ๆ ไร้ปัญหา :)















          บ้านปง-ห้วยลาน ตั้งอยู่ที่ตำบลออนใต้ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 30 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45-60 นาที เพราะฉะนั้นถ้าใครจะเดินทางด้วยเครื่องบินจากกรุงเทพฯ เพื่อมาเที่ยวที่นี่ การวางแผนมาเที่ยวแบบ 2 วัน 1 คืน ก็สามารถทำได้ค่ะ 







          สำหรับทริปนี้เราแอบไปเที่ยวที่จังหวัดลำพูนกันมาก่อนเล็กน้อย จึงมาถึงบ้านปง-ห้วยลานในช่วงเย็น ๆ เรามุ่งหน้าไปที่ที่ทำการโครงการพัฒนาพื้นที่ห้วยลาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ กันก่อนค่ะ นั่งรถกันมาเหนื่อย ๆ พอได้กินขนมไทยพื้นบ้านและน้ำสมุนไพรที่ชาวบ้านเตรียมไว้ให้ ก็หายง่วงเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ :)












         
          ก่อนเที่ยวชมหมู่บ้าน คุณลักษวรรณ พวงไม้มิ่ง นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ แห่งโครงการพัฒนาพื้นที่ห้วยลาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ก็ได้เล่าให้เราฟังว่าแต่เดิมนั้นหมู่บ้านแห่งนี้มีความแห้งแล้ง ไม่สามารถที่จะปลูกพืชผักได้ จนในปี พ.ศ. 2530 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมราษฎรที่นี่ และทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้สำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยลาน เพื่อให้ชาวบ้านได้มีน้ำไว้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและอุปโภคบริโภค และพระองค์ยังได้เสด็จฯ มาเยี่ยมเยือนที่นี่อีกหลายครั้ง ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้ต่อพสกนิกรในพื้นที่นี้และใกล้เคียง




          หลังจากฟังเรื่องราวสุดแสนประทับใจไปแล้ว คุณลักษวรรณก็ได้พาเดินเที่ยวชมป่าต้นรัก มีลักษณะสูงชะลูด น้ำยางของต้นรักสามารถเอาไปทำเป็นกาวในการผลิตเครื่องเถิน ประกอบโครงไม้ไผ่และเครื่องจักสาน พร้อมทั้งยังเอาไปเคลือบผิวภาชนะป้องกันการรั่วซึมได้อีกด้วย

















          ไฮไลท์เด็ดที่ห้ามพลาดอย่างหนึ่งของหมู่บ้านปง-ห้วยลาน ก็คือ "อ่างเก็บน้ำห้วยลาน" ซึ่งจะมีถนนทอดยาวอยู่บนสันเขื่อนให้เราได้ไปเดินเล่นชมวิว อยากจะบอกว่าที่นี่บรรยากาศดีมากทั้งตอนเช้าและตอนเย็น ถ้าเรายืนอยู่บนสันเขื่อน มองออกไปจะเห็นแนวภูเขาที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ออนและยอดดอยง้ม ตอนที่เราไปถึงอ่างเก็บน้ำเป็นช่วงพระอาทิตย์กำลังจะตกดินพอดี ก็จะเห็นแสงอ่อน ๆ ของพระอาทิตย์ฉาบทาไปทั่วผืนป่าและแนวภูเขา โดยเฉพาะบริเวณดอยง้ม ที่มีลักษณะคล้ายกับภูเขาในต่างประเทศเลยทีเดียว อากาศยิ่งไม่ต้องพูดถึง ลมเย็นฉ่ำใจและสดชื่นมาก งานนี้เลยได้สูดอากาศลึก ๆ แบบเต็มปอดจนจุใจไปเลยค่ะ



          เริ่มหิวแล้วกันค่ะ เราขยับขยายไปเรื่องกินกันต่อดีกว่า ชาวบ้านก็น่ารักอีกตามเคย เตรียมอาหารพื้นเมืองไว้ให้เราเรียบร้อย ดูจากหน้าตาอาหารอาจจะดูจืด ๆ แต่ ! อย่าตัดสินกันแค่ที่หน้าตาค่ะ เพราะเราพิสูจน์มาแล้วว่ารสชาติอาหารที่นี่อร่อยล้ำ "ลำแต้ ๆ" ตักข้าวกิน 2 จาน ยังรู้สึกว่าไม่พอเลย ^_^ ไม่เพียงเท่านั้น แต่ละเมนูยังเป็นอาหารสุขภาพ เต็มไปด้วยผักปลอดสารพิษที่ชาวบ้านปลูกกันเอง และวัตถุดิบที่หาได้ในชุมชน อร่อยด้วย และสุขภาพก็ดีด้วย ฟินจนไม่รู้จะฟินยังไงแล้วค่ะ











          ถึงจะเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์แล้ว แต่อากาศที่บ้านปง-ห้วยลาน ยังคงหนาวเย็น อย่างเช้านี้ตื่นมาแอบตกใจเบา ๆ อุณหภูมิอยู่ที่ 15 องศาเซลเซียส พอดิบพอดี พูดทีควันออกปากเลยทีเดียว และถือเป็นความโชคดีที่รีสอร์ทที่เราพักมีจักรยานให้ยืมไปปั่นเล่นชิล ๆ ได้ด้วย แล้วจะรออะไรล่ะคะ หยิบกล้องได้ก็คว้าจักรยานออกไปสัมผัสลมหนาวกันเลย

















          จากที่เมื่อวานตอนเย็นเราแอบจ้องต้นสุพรรณิการ์หรือฝ้ายคำในภาษาเหนือ ซึ่งอยู่ริมถนนในหมู่บ้านกันเอาไว้ เช้านี้ก็เลยจะขี่จักรยานย้อนเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อไปถ่ายรูปเล่นกันค่ะ













          จากบ้านปงลอดจ์ รีสอร์ทที่เราพักกัน ขี่ออกมาเรื่อย ๆ ก็จะเจอกับวิวสวย ๆ ของป่าเขา ทุ่งนา และสายหมอก ความสวยงามไม่รู้จะอธิบายยังไงให้หมดดี เอาเป็นว่าชมรูปกันไปเลยเต็ม ๆ นะคะ ^^



















          ดอกฝ้ายคำที่พวกเราตามหา กำลังชูช่อดอกสีเหลืองสะพรั่ง อวดโฉมยามเช้าต้อนรับอากาศหนาว ๆ อย่างสวยงามกันเลยทีเดียว











          พอสายหน่อยเราก็เริ่มเดินเที่ยวชมหมู่บ้านกันค่ะ โดยมีแม่ ๆ (ชาวบ้านในท้องถิ่น) มาพาเดินเที่ยวชมค่ะ แต่ก่อนจะไปเที่ยวกันก็มีการแจกอุปกรณ์กันแดดสักหน่อย เป็นร่มพื้นเมืองของชาวเชียงใหม่ สีสันสดใส ใช้เป็นพร็อพถ่ายภาพได้อีกต่างหาก





          บ้านแรกเป็นบ้านของยายสมค่ะ ซึ่งรอบ ๆ บ้านจะเต็มไปด้วยแปลงผักปลอดสารพิษ มีผักหลากหลายชนิดให้ได้ชมกัน ยายสมบอกว่าเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะทำให้ผักงอกงามดี มีเพียงข้อเดียวง่าย ๆ นั่นก็คือ ต้องปลูกด้วย "ใจ" แล้วผลผลิตที่ดีมันก็จะตามมาเอง :)




          แต่ที่ต้องมาลองชิมกันให้ได้ก็คือต้นมหัศจรรย์ โดยจะมีผลเป็นสีแดง ๆ ให้ลองกินลูกนี้ก่อนนะคะ ตามด้วยมะนาว แล้วคุณจะต้องมหัศจรรย์ใจที่รสชาติมะนาวเปลี่ยนไป ! มันไม่เปรี้ยวแต่มันหวาน กลายเป็นมะนาวหวานไปเสียอย่างนั้น เสียดายที่ลืมถ่ายรูปมาฝากกัน ขออภัย T^T เอาเป็นว่าถ้าได้ไปเที่ยวที่นี่ก็ห้ามพลาดลองชิมกันนะคะ








          จากบ้านยายสม เดินชมหมู่บ้านไปเรื่อย ๆ จะเห็นว่าแต่ละบ้านจะมีการปลูกพืชผักและผลไม้ไว้กินกันเอง โดยใช้พื้นที่เล็ก ๆ รอบ ๆ บ้านเป็นแปลงปลูก ไม่ต้องมีที่ดินกว้างใหญ่ไพศาลก็สามารถอยู่กินได้แบบพอเพียง สมแล้วที่หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นหมู่บ้านตัวอย่างแห่งการใช้ชีวิตแบบพอเพียง 

















          จุดต่อไปเราไปยังศูนย์ผ้าทอมือบ้านปง-ห้วยลาน ซึ่งก็มีผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการทอผ้ามาคอยให้ความรู้ถึงกระบวนการทอผ้า ตั้งแต่การปั่นด้าย สู่เครื่องกี่ และการทอ กว่าที่จะมาเป็นผ้าทอหนึ่งผืนบอกเลยว่ามันไม่ง่าย งานแต่ละชิ้นต้องใช้ใจรักในการทอจริง ๆ จึงจะสำเร็จ 



          ในจุดสุดท้ายของการเที่ยวบ้านปงในวันนี้ เป็นเวิร์กช็อปเล็ก ๆ มีการสอนสานปลาตะเพียน นก และการทำกระติบข้าวเหนียวสุดน่ารัก เราขอจากมุมแรกที่คิดว่าง่ายกันก่อนค่ะ ไปที่การสานนกเลย คุณยายสอนอย่างตั้งใจ แต่เอ๊ะ...ผ่านไปกว่า 10 นาทีแล้ว ทำไมยังไม่มีใครได้นกสักตัว ฮ่า ๆๆ นี่จึงเป็นการสอนให้รู้ว่าอะไรที่เรามองว่าง่าย มันไม่ได้ง่ายเสมอไปนะคะ 555 ยอมแพ้ค่ะ หนูขอยอมแพ้





          จากที่ยอมแพ้การสานนกไปแล้ว มาลองขอสานปลาดูบ้าง ดูท่าว่าจะเป็นรูปเป็นร่างมากกว่า ผ่านไป 5 นาที เอิ่ม...ไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่ายนะคะ Y^Y สรุปว่ากว่าจะได้ปลา ก็แก้ ก็ดึงออกมาสานใหม่ไปกว่า 10 รอบ





          มาดูทางด้านการทำกระติบบ้างดีกว่า แม่ ๆ คงเห็นว่าถ้าสอนเราสานกระติบทั้งใบคงไม่รอด เพราะฉะนั้นเอาแค่การทำเชือกห้อยกระติบและการตกแต่งกระติบน่าจะดีกว่า แต่ที่ดูเหมือนง่ายก็ไม่ง่ายอีกเหมือนกันค่ะ ต้องคอยให้แม่ ๆ ช่วยเย็บตรงนั้นตรงนี้ นี่ก็ยังงง ๆ อยู่ว่ากระติบของฉัน สรุปว่าฉันได้ทำเองไหม ? ฮ่า ๆๆ



          เดินเที่ยวเล่นมาตั้งแต่เช้าเริ่มหิวข้าวแล้วค่ะ กลางวันนี้ก็ยังจะได้กินอาหารพื้นเมืองสุดอร่อยอีกหนึ่งมื้อ ไม่มีใครรอใคร คว้าชามคว้าช้อนได้ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงแล้วค่ะ ลุยเลย !











          ผ่านไปอีกหนึ่งทริปดี ๆ ที่มีแต่ความสุขและความประทับใจ การมาเที่ยวที่บ้านปง-ห้วยลาน เหมือนเป็นการพาร่างกายมารีเฟรชใหม่อีกครั้ง ได้มาสูดอากาศดี ๆ กินอาหารพื้นเมืองสุดอร่อยและไร้สารพิษ ได้เที่ยวชมธรรมชาติที่ไม่ได้ปรุงแต่ง ที่สำคัญที่สุดคือการที่ได้มีเวลาให้กับตัวเอง ได้คิดทบทวนถึงอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เพราะเราได้รับแรงบันดาลใจดี ๆ จากชุมชนเล็ก ๆ แห่งนี้ สมกับจุดมุ่งหมายการเดินทางของเราในครั้งนี้ "เหนือฝันล้านแรงบันดาลใจ แอ่วเหนือครั้งใหม่ไม่เหมือนเดิม" :)
 
          ขอแอบกระซิบนิดหนึ่งสำหรับใครที่ชอบเดินป่า ที่นี่ก็มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้เดินขึ้นเขาดอยง้ม ไปชมวิวสวย ๆ ของทะเลหมอกกันด้วย หรือถ้าใครชอบขี่จักรยานก็มีเส้นทางขี่จักรยานรอบ ๆ อ่างเก็บน้ำห้วยลานและรอบหมู่บ้านให้ได้ไปปั่นชมธรรมชาติกัน
 
          ส่วนถ้าใครอยากนอนโฮมสเตย์ ในชุมชนแห่งนี้ก็มีโฮมสเตย์รองรับอยู่ทั้งหมดประมาณ 7 หลังค่ะ ราคาเริ่มต้นคนละ 200 บาทเท่านั้น (*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง)

          การเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ก็ไม่ยากค่ะ ให้นั่งรถโดยสารประจำทางเชียงใหม่-สันกำแพง (รถสองแถวสีขาว) ไปลงที่ตัวเมืองสันกำแพง แล้วต่อรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างมายังบ้านปง-ห้วยลาน

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Local Alike หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ โทรศัพท์ 0 5324 8604-5

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคเหนือ
Local Alike, แอร์เอเชีย


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
บ้านปง-ห้วยลาน เชียงใหม่ พอเพียง สโลว์ไลฟ์ มาเติมแรงบันดาลใจที่นี่กัน อัปเดตล่าสุด 9 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 18:06:06 35,023 อ่าน
TOP