
วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ตามบันทึกการเดินทางของ คุณสโลว์ไลฟ์ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ไปคลายร้อนชิล ๆ ณ อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ก่อนจะไปลั้ลลาสัมผัสความงดงามของท้องทะเลที่หมู่เกาะสิมิลัน พร้อมแวะพักกันที่เขาหลักเพลิน ๆ อ๊ะ ๆ ยังไม่หมดเท่านั้นนะ ยังพาไปชิมของอร่อยของขึ้นชื่อที่ห้ามพลาดด้วยค่ะ





โปรแกรมเที่ยว 18-21 เมษายน 2558 (สงกรานต์เราไม่เที่ยว แต่เราเที่ยวหลังสงกรานต์ค่ะ)




***ค่าใช้จ่ายตลอดทริป (ตะกั่วป่า สิมิลัน เขาหลัก เขาสก)
ถ้ามาหลายคน เช่ารถหารเฉลี่ยกันจะอยู่ที่ 5,500 บาท/คน (ไม่รวมตั๋วเครื่องบินไป-กลับ)
ป.ล. แต่บอกไว้ก่อนรอบนี้เราหมดไป 4,000 บาท ไม่รวมค่าเครื่องและการเดินทาง เพราะมีเพื่อนดีค่ะ ^^
**บทขอบคุณ**
หลังจากรีวิว "แบกเป้ลุยเวียดนามใต้ ตามรอยเราสองสามคน โฮจิมินห์ ดาลัด มุยเน่ฯ" เมื่อตอนกลางเดือนไป รู้สึกได้เลยค่ะว่าข้อมูลที่ตั้งใจทำมันเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ไม่น้อยเลย ขอบคุณทุกกำลังใจ โดยเฉพาะเพื่อน ๆ กลุ่มแบกเป้เที่ยว มันทำให้เราอยากถ่ายรูปสวย ๆ รวบรวมข้อมูลดี ๆ ในทุกครั้งที่ได้ออกเดินทาง
เข้าไปอ่านกระทู้อื่น ๆ ได้ที่




กระทู้นี้เราขออนุญาตพูดถึง ตะกั่วป่า สิมิลัน และเขาหลักก่อนนะคะ แล้วจะเปิดกระทู้ใหม่ จะพาไปเที่ยว เปรี้ยว เฟี้ยว ที่เชี่ยวหลานค่ะ ^^ รอแป๊บนะ
22.30 น. ในคืนวันที่ 17 เมษายน เราซื้อตั๋วรถทัวร์ไปลงที่ฟิวเจอร์ ใช้เวลา 05.30 ชั่วโมง นอนในรถแบบหลับ ๆ ตื่นๆ ตอนนั้น 03.30 น. อารมณ์บ้านนอกเข้ากรุงมาก ไม่เคยมากลางดึกขนาดนี้
แท็กซี่ : น้องๆ ไปไหน
เรา : สนามบินดอนเมืองค่ะ
แท็กซี่ : 200 บาท น้อง
เรา : คิดตามมิเตอร์หรือเปล่าคะ ?
แท็กซี่ : โหย...คิดตามมิเตอร์โบกไปเลยน้อง ไม่มีคันไหนจอดรับหรอก !!
คำพูดยั๊วะมาก เลือดขึ้นหน้าเลยค่ะ พี่จะไม่ทน รีบเดินไปโบกแท็กซี่ด้านหน้ารัว ๆ จนในที่สุดก็ได้พี่แท็กซี่ใจดีคิดตามมิเตอร์ 95 บาท สะใจ !! แต่ก็โบกนานอยู่นะ ถึงดอนเมืองก็ 04.00 น. ขึ้นเครื่อง 09.30 น. หึหึ พี่จะไม่ทน นอนสิคะ หาโลเคชั่นไม่ยากค่ะ ตามเก้าอี้ ตามพื้น กิกิ แล้วตื่นมาอีกทีก็ออกเดินทางไปเจอเพื่อน ๆ ที่สุราษฎร์ธานีเลย

ใช้เวลา 1 ชั่วโมงก็ถึงแล้วค่ะ แต่กว่าจะทยอยมาจนครบก็ 15.00 น. อีกนานนนนนนน ทริปนี้เราโชคดีมากที่เพื่อนในกลุ่มเป็นคนสุราษฎร์ธานีและพังงา เลยมีผู้อุปการะคุณในด้านการเดินทาง อาหาร และที่พักในบางวัน อีกอย่างทริปนี้มีเซอร์ไพรส์ !! เมื่อเพื่อนที่ไม่ได้มา โอนเงินมาให้จำนวนหนึ่ง บอกให้เอาไปกินข้าวกันนะ โอ๊ยยยยย น้ำตาจะไหล...ขอบพระคุณมาก
สำหรับใครที่ไม่มีรถส่วนตัว เดินมาตามทางออกจะเห็นป้ายไฟสีชมพูอยู่ด้านหน้า จะมีบริษัทพันทิพย์คอยให้บริการเรื่องรถอยู่ค่ะ มีหลายเส้นทาง ทั้งรถบัส รถตู้ แท็กซี่ รถเช่า ราคาตามนี้เลยค่ะ

ที่นี่มีบริการให้เช่ารถยนต์ด้วยนะคะ วันละ 1,000 บาท น้ำมันเต็มถัง คืนรถต้องเต็มถัง มาหลายคนจัดแบบนี้คุ้มค่ะ หรือจะเช่าของนกแอร์ก็ได้ เราเคยเห็นในเว็บ เห็นมีไวนิลติดอยู่ด้วย มีสองราคา 620 บาท กับ 840 บาท แอร์เอเชียก็มีค่ะ แต่แพงพันอัพ
ใครจะไปสิมิลัน ทริปจะเริ่มแต่เช้าต้องนอนค้างค่ะ บางคนก็เลือกลงสนามบินภูเก็ตนะคะ อาจจะง่ายกว่า แต่ถ้าจากสนามบินสุราษฎร์ธานี-สิมิลัน แนะนำให้หาที่พักแถวเข้าหลักค่ะ เพราะเกือบทุกทัวร์จะมีบริการรับส่งนักท่องเที่ยวในเขตเขาหลัก
วิธีเดินทาง : นั่งรถตู้มีจากสนามบิน-เขาสก 200 บาท และต่อรถจากเขาสกไปเขาหลักอีกทีค่ะ ลองหาข้อมูลดูนะคะ

สำหรับเราตอนนี้รวมเพื่อนได้ 3 คน จาก 6 อีกนานกว่าจะครบ เลยแวะเข้าตัวเมืองสุราษฎร์ฯ หาของกินค่ะ หิวมาก ขอเพื่อนร่วมทริปเจ้าถิ่นคนสุราษฎร์ฯ มารับ ใช้เวลาเดินทางเข้าตัวเมือง 30 นาที เพื่อนบอกร้านนี้เด็ดมาก ชื่อ "ร้านยกเข่ง" คงเด็ดจริง ๆ คนเยอะมาก ราคาอาหารอยู่ที่ 40-70 บาท คนขายเป็นคุณป้ามีอายุแล้ว อีกคนที่เป็นผู้ช่วยเสียงแจ๋ว คิดเงินเร็วมาก ไม่ต้องใช้เครื่องคิดเลขเลย รู้สึกตัวเองอ่อนคณิตขึ้นมาทันที

จัดไป มา 4 คน สั่งอย่างกะมาเป็น 10 เหอะ ๆ ก็คนมันหิวนี่เนอะ เมนูขึ้นชื่อของที่นี่คือ "โล่งโต้ง" และ "ผักบุ้งไต่ราว" ค่ะ เด็ดมากพูดเลย อร่อยแบบไม่ปรุง ชอบอะ อยากรู้ล่ะสิว่ามันคืออะไร เรามีข้อมูลมาให้อ่านค่ะ

มาดูเมนูที่เราสั่งกัน






มื้อนี้อยู่ที่ 450 บาท คุ้มค่าคุ้มราคาจริง ๆ ค่ะ (แต่ข้าวเหนียวมะม่วงแพงไปหน่อย)

หลังจากมื้อกลางวันเราแวะพักบ้านเพื่อนค่ะ แล้วให้แม่เพื่อนไปส่งพวกเราทั้งหมดที่สนามบินอีกครั้งตามเวลาที่เพื่อนอีกคนจะมา แล้วออกเดินทางสู่ตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ต่อไป ซึ่งเพื่อนเราอีกคนรออยู่ที่นั่นค่ะ แลดูรุงรังอะ วุ่นวายดี เราเดินทางโดยรถตู้คันขาวแถบเขียวจากสนามบิน-เขาสก 200 บาท/คน

รถจะจอดหน้าทางเข้าอุทยานแห่งชาติเขาสก ตรงนี้จะเป็นศูนย์รวมคิวรถตู้และรถบัสไปที่ต่าง ๆ เราเหมารถตู้อีกครั้งไปตะกั่วป่า 1,000 บาท ให้ไปส่งที่ที่พักเลย เพื่อนเราจองไว้ให้แล้ว

ระหว่างเขาสกมาตะกั่วป่า สองข้างทางจะเต็มไปด้วยต้นยาง ต้นปาล์ม มีฉากหลังเป็นภูเขารูปทรงแปลก สวยงาม ไม่เหมือนภูเขาภาคอื่น ๆ เหมือนถูกกัดเซาะจากฝน สวยดี บางช่วงก็จะมีอุโมงค์ต้นไม้ อีกอย่างที่เราชอบระหว่างทางคือเราเห็นหมอก เห็นเมฆลอยต่ำ ๆ ในตอนเย็นหน้าร้อนแบบนี้คืออะไร !! อะเมซิ่งอะ ฟินสิคะ แล้วก็ฟินคูณสองเมื่อถึง "บ้านต้นรัก" ที่พักของเราในคืนนี้ ดูแล้วเล็ก ๆ ธรรมดา ๆ แต่พอเดินเข้าไปด้านในสุดเท่านั้นแหละ เจอภาพนี้ค่ะ บ้านพักหลังเดียวกับวิวหนองน้ำสวย ๆ หลังนี้ 1,200 บาท ค่ะ นอนกัน 6 คน มีเรือให้พายด้วย



คือจริง ๆ อิ่มแล้ว แต่มาถึงตะกั่วป่าทั้งทีเพื่อนบอกว่าต้องมากินชาชักกับโรตีร้าน "ไอซ์แต" อยู่เยื้องเทศบาลเมืองตะกั่วป่า





มื้อนี้ 195 บาทค่ะ

ค่าใช้จ่ายวันที่ 1 (18 เมษายน)





และแล้ววันแรกก็ผ่านไปอย่างอิ่มหนำสำราญ คืนนี้พวกเราทั้ง 6 คน อยู่กันที่อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงาค่ะ รู้สึกวันนี้ทริปกิน ทริปชิม จริง ๆ กินกันจนหนังท้องตึงหนังตาหย่อน แต่ไม่ยอมหลับยอมนอนเพราะมัวแต่เมาส์มอย นานทีเจอกันอะนะ ขอนิดหนึ่งแล้วจะมาต่อวันพรุ่งนี้นะคะ ณ สิมิลัน ^^
เช้านี้เราตื่นกันตั้งแต่ 06.00 น. ถามว่าได้นอนกันกี่ชั่วโมง โคตรน้อยนิด ห้องน้ำมีห้องเดียวก็ผลัดกันค่ะ แต่ส่วนใหญ่เลือกที่จะไม่อาบน้ำเพราะเพิ่งอาบไปเมื่อหัวค่ำและวันนี้ยังไงก็ต้องลงน้ำอีก 555 ข้ออ้างชัด ๆ จากตะกั่วป่าถึงท่าเรือทับละมุ ใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที ทริปสิมิลันครั้งนี้เราเลือกทัวร์ของ Fantastic Similan Travel ค่ะ คือช่วงนั้นมีโปรฯ เลยให้เพื่อนจองให้ในราคา 1,900 บาท ซึ่งทัวร์ของบริษัทอื่นจะอยู่ที่ 2,500 บาท/คน ราคานี้รวมค่าธรรมเนียมเข้าชมอุทยานฯ อาหารเช้า กลางวัน เย็นช่วงกลับจากทริป ผลไม้ของว่างและเครื่องดื่ม ตลอดการเดินทางรถรับ-ส่งจากโรงแรมที่พักภูเก็ตและเขาหลัก อุปกรณ์ดำน้ำ (หน้ากาก/ชูชีพ/ตีนกบ) และประกันอุบัติเหตุค่ะ
มาถึงปุ๊บรีบเดินเลยจ้า เราเรทไป 15 นาที จ่ายตังค์แล้วรีบหาอะไรรองท้อง ไม่อย่างนั้นหิวตายแน่ พนังงานที่นี่น่ารักดีนะ เป็นเพศที่สามทั้งนั้น อันซีนมาก รู้สึกทริปนี้ต้องมีสีสันแน่ ๆ ก่อนขึ้นเรือทางทัวร์จะถ่ายรูปพวกเราไว้ค่ะ และไกด์ประจำกรุ๊ปเรา คือ คุณพรหล้า เอ๊ย พอลล่า ซึ่งจะเป็นคนดูแลพวกเราตลอดการเดินทางค่ะ พอลล่าแจกถุงพลาสติกให้ลูกทัวร์พร้อมสาธิตการอ้วกแบบฮา ๆ ฝรั่งนี่ขำไปตาม ๆ กัน อ้อเรือที่เราไปเป็นเรือสปีดโบ๊ท รองรับนักท่องเที่ยวได้เกือบ 45 คนเลย

เคยได้ยินล้มทั้งยืนมาแล้ว แต่พวกเรานี่นั่งทั้งหลับเลยค่ะ เพราะใช้เวลาในการเดินทาง 1.30 นาที นานเกิน แต่ก็นะอยากเห็นความสวยงามที่รออยู่ข้างหน้าก็ต้องอดทน และแล้วเรือก็ลดสปีทลงค่ะ พอลล่าบอกว่าเราได้มาถึงเกาะแรก เกาะ 8 หรือเกาะสิมิลัน ซึ่งเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและเป็นที่มาของชื่ออุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน มองไกล ๆ จะเห็นหินเรือใบซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเกาะนี้ด้วยค่ะ

เรามาถึงเกาะ 8 เป็นกรุ๊ปแรก ๆ คนยังน้อยอยู่ โชคดีจัง

พอลล่าให้เวลาเรา 1 ชั่วโมง กับการชื่นชมความสวยงามของเกาะ หาดทราย ชายทะเล เราไม่มีรีรอรีบเดินไปยังจุดชมวิวหินเรือใบ ตามเส้นทางจะต้องปีนป่ายขึ้นไปตามเนินหิน และบันไดธรรมชาติจากรากไม้ พร้อมมีราวเชือกให้จับให้เกาะเป็นระยะ ๆ มีช่อง ซอก ทางเดินเล็ก ๆ ไปตามซอกหิน ใช้เวลาเดินประมาณ 10-15 นาที ระมัดระวังกันด้วยนะคะ บางจุดจะลื่น

ขึ้นไปแล้วเราจะพบกับวิวทะเลสวย ๆ สุดลูกหูลูกตากับหินเรือใบตั้งตระหง่านค่ะ น้ำทะเลที่นี่สีใสมาก ใสจนเห็นแนวปะการัง น้ำจะไล่ระดับสีตั้งแต่ฟ้าอ่อน ฟ้าเข้ม จนสีน้ำเงินค่ะ และยังมีจุดชมวิวอีกจุดหนึ่งอยู่บนเนินเขาหลังเกาะ จะต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งเวลาไม่น่าพอค่ะ

มองลงมาทางทิศใต้จะเห็นอ่าวเกือกที่สวยงามค่ะ แต่นั่นคนหรือมด !!



เราเดินไปทางด้านหลังเพื่อไปดูหินเรือใบใกล้ ๆ ค่ะ มีสะพานไม้คอยเชื่อมระหว่างหลุมลึกของหิน เสียวคำเดียววววววว

เซลฟี่กันสักหน่อยนะ ^^

ด้านหลังหินเรือใบเราจะเห็นวิวสวย ๆ แบบนี้ค่ะ


วิวด้านหน้าหินเรือใบ


จะมองเห็นเกาะ 9 อยู่ไม่ไกล ซึ่งเดี๋ยวเราจะไปดำน้ำกันที่เกาะนี้ค่ะ

บนเกาะ 8 หรือเกาะสิมิลันนี้ เป็นที่ตั้งของศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีลานกางเต็นท์ ซึ่งอนุญาตให้นักท่องเที่ยวนำเต็นท์มากางเองได้ มีห้องน้ำ ร้านอาหาร เรือ ให้บริการดำน้ำ แต่ไม่มีบ้านพักนะคะ ห้องน้ำที่นี่ไม่สะอาดนะ อาจะเพราะนักท่องเที่ยวเยอะเกินไป ยิ่งใกล้ช่วงปิดเกาะด้วย คนมาล้นหลาม

เวลาผ่านไปเร็วจริง เราลงมาด้านล่างหาดค่ะ ทีมงานเตรียมน้ำเย็น ๆ มาให้กินแก้กระหาย อากาศร้อนมาก เป็นปกติของทะเล เราออกไปเดินเล่นนอกหาด คนมาจากไหนเยอะแยะ เราคิดว่าส่วนใหญ่คงเป็นฝรั่ง เปล่าเลย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น เพียบค่ะ ดีแล้วที่มาเป็นกรุ๊ปแรก ๆ ไม่อย่างนั้นวุ่นวายกว่านี้แน่

คนนี้ก็เท่เหลือเกิน....

ไม่นาน...เรือก็มารับค่ะ เตรียมตัวไปดำน้ำที่เกาะ 7 กัน ^O^

รักทะเลเวลามีเธอด้วย...สวยซะเกินกว่าบรรยายได้...โชคดีที่มากับเพื่อน เที่ยวคนเดียวคงเปลี่ยวน่าดู ปกติเราชอบภูเขามากกว่าทะเลนะ เที่ยวภูเขาสีเขียว เย็นตา อากาศดี มาทะเลแล้วร้อน ที่สำคัญเราแพ้แสงมาก จะไม่ค่อยลงเล่นน้ำด้วย ขอแค่ได้มอง มองทะเลสีนวล ๆ หาดทรายขาว ๆ วิวสวย ๆ แค่นี้ก็พอใจละ แต่รอบนี้เราจัดเต็ม เพราะมากับเพื่อน ๆ ^^ รีบมาเที่ยวก่อนปิดเกาะนะคะ
ปิดฤดูการท่องเที่ยว 1 พฤษภาคม-31 ตุลาคม ของทุกปี
เปิดฤดูการท่องเที่ยวอีกที่ 1 พฤศจิกายน-30 เมษายน ของทุกปี
พอลล่าพาเรามาเกาะ 7 หรือเกาะปาหยู เกาะนี้ไม่มีหาดนะคะ และต่อด้วยเกาะ 9 หรือเกาะบางู เราจะได้ดำน้ำแล้ว ห่างหายจากการดำน้ำมา 3 ปี ตื่นเต้นมาก ไปชมภาพบรรยากาศกันเลยค่ะ

น้ำทะเลใสปะล่ะ ชอบบบบบบบ ><

ถ่ายรูปกับเดอะแก๊งแป๊บ 1 2 3 เฮ้ !! การดำน้ำแต่ละที่พอลล่าจะให้เวลาเราประมาณ 40 นาทีค่ะ รู้สึกเร็วไป คือเกาะ 7 ยังดำไม่ค่อยได้เท่าไร มือใหม่ไง ต้องมาซ้ำที่เกาะ 9 คราวนี้ดำน้ำคล่องปร๋อ แทบไม่โผล่ขึ้นเหนือน้ำเลยค่ะ 5555 เกาะ 9 มีเต่ายักษ์ออกมาว่ายน้ำอวดนักท่องเที่ยวด้วยนะคะ ประมาณ 3 ตัว แต่เราเห็นตัวเดียว ถ่ายรูปไว้ไม่ทันด้วยค่ะ เอาจริง ๆ ทะเลที่นี่สวยมากนะ น้ำใส หาดทรายนุ่มละเอียด ขาว แต่ใต้น้ำเราไม่ประทับใจเท่าไร ปะการังดำ ๆ ขาว ๆ เหมือนเป็นเศษซาก ปลามีไม่เยอะ เจอไม่กี่ชนิดเอง ใครคิดจะหาภาพสวย ๆ ใต้น้ำที่นี่เราไม่แนะนำค่ะ

เสร็จจากดำน้ำที่เกาะ 7 และเกาะ 9 ขึ้นเรือค่ะ บนเรือมีเครื่องดื่มเพียบ ไม่ต้องกลัวอดน้ำ ถึงไม่มีก็กินน้ำทะเลได้ ไอโอดีนเพียบ !! เรือพาเรามาที่เกาะสุดท้าย เกาะ 4 หรือเกาะเมียง ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันค่ะ หาดทรายขาวละเอียดทั้งหาดใหญ่และหาดเล็ก สำหรับหาดเล็กต้องเดินผ่านป่าดิบประมาณ 15 นาที เป็นที่อาศัยของนกชาปีไหน ค้างคาวแม่ไก่ และปูไก่ที่มีเสียงร้องคล้ายลูกไก่ รวมทั้งสัตว์ป่าสารพัดชนิด บนเกาะมีแหล่งน้ำจืดด้วยค่ะ มีบ้านพัก ลานกางเต็นท์ และร้านค้าสวัสดิการ





กินมื้อกลางวันเสร็จก็ประมาณ 13.30 น. อิ่ม เหนื่อย ง่วง ลมก็พัดมาตลอด เสื่อก็มี นอนสิคะ Zzz. ส่วนเพื่อนเราอีกสองสามคนยังมีแรง เลยเดินไปหลังเกาะ ผ่านป่าดิบประมาณ 15 นาทีค่ะ เพื่อนเราไปเจอค้างคาวแม่ไก่ ตัวป้อม ๆ สีดำ ห้อยหัวเกาะอยู่บนต้นไม้หลายตัวเลย เสียดายมัวนอน ><

และหลังเกาะที่หาดเล็ก วิวสวยดีนะ มีโขดหินเรียงราย

15.00 น. พอลล่าเรียกขึ้นเรือค่ะ ใช้เวลาเดินทางขากลับอีก 1.30 ชั่วโมง หลับกันหมด...เพลีย บางทีเราก็สะดุ้งเป็นพัก ๆ เพราะเสียงหัวเราะฝรั่ง คือหัวเราะพวกเราหรือเปล่า !? นอนหัวตก สัปหงกบ้าง อ้าปากหวอบ้าง น้ำลายไหลบ้าง ก็เท่านั้นเอง แฮ่ ๆ ><
16.30 น. ถึงท่าเรือทับละมุอย่างปลอดภัยค่ะ ขึ้นฝั่งปุ๊บเขาจะเอารูปที่ถ่ายก่อนเที่ยวใส่กรอบไว้ 2 อัน (ขายให้เรา) เป็นที่ระทึกค่ะ อันละ 200 บาท ไปถึงสิมิลันทั้งทีไม่ซื้อค่ะ 555 ลำพังรูปที่ถ่ายกับเพื่อนในกล้องในมือถือก็เยอะพอแล้ว เขาคงจำหน้าเราได้แม่น กลับแล้วคงเผาทิ้ง สาปส่ง เอิ๊ก ๆ กลับมาที่เดิม เจ้ ๆ จะมีของว่าง เค้กโรลใบเตย คุกกี้คอนเฟลก บราวนี่ เครื่องดื่ม ไอศกรีมกะทิ ให้เราเลือกกินค่ะ รสชาติโอเคเลย
สรุปทริปสิมิลันเราและเพื่อน ๆ คิดว่าโอเคเลยค่ะ ให้ 8/10 คะแนนไปเลย เพราะเราได้ราคาทริปถูกมาก อาหารเครื่องดื่มมีไม่ขาด ไกด์โอเค สนุกสนาน ทะเลสวยมาก น้ำใส หาดทรายสวย 2 คะแนนที่โดนหัก คือ ตอนดำน้ำเลยค่ะ ปะการังไม่สวย ปลาน้อย ความรู้สึกเหมือนมาดำน้ำงมดูซากวัตถุโบราณ และคนเยอะมาก หามุมถ่ายรูปสวย ๆ แบ็คกราวนด์โล่ง ๆ ยากมาก (เป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้จริง ๆ ยิ่งจะเปิดประเทศด้วยนะ) หวังว่าแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติคงไม่เสื่อมถอยไปมากกว่านี้ เฮ้อ ! ไม่อยากจะคิด ใจหาย...

เดี๋ยวเราจะเดินทางไปที่พักคืนนี้กัน ณ อุทยานแห่งชาติเขาหลัก-ลำรู่ ต่อด้วยไปเที่ยวถนนคนเดิน หรือถนนสายวัฒนธรรม ณ ตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ค่ะ
ขับรถมา 30 นาที ก็ถึงอุทยานแห่งชาติเขาหลัก-ลำรู่ แล้วค่ะ คืนนี้เราจะนอนกันที่นี่ เป็นบ้านพักหลังใหญ่มาก คือใหญ่ไป 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องโถงทำเป็นห้องนอนอีก 4 เตียง รวมแล้วนอนได้ 10 คนค่ะ จริง ๆ พื้นห้องยังว่างนอนได้อีกเป็น 10 เลยนะ ด้านหน้ามีระเบียงยื่นออกมาด้านนอก มองไปด้านหน้าจะเห็นวิวทะเล ได้ยินเสียงลม เสียงคลื่น ฟังแล้วเพลินดีค่ะ สนนราคาอยู่ที่ 2,000 บาท/หลัง ค่ะ น้ำฝักบัว และที่ฉีดก้นรุนแรงสะใจมาก โปรดระมัดระวัง ไม่อย่างนั้นมีซี๊ด !!! ><

วิวด้านหน้าค่ะ

ลงไปสำรวจด้านล่างกันซะหน่อย เจอรูปูค่ะ ปูทะเล ปูลมมั้ง (ข้อมูลจากพี่อิสซี่) ไม่น่าเชื่อว่าธรรมชาติจะสรรค์สร้างความสวยงามได้ขนาดนี้ มันคือศิลปะ

ตอนเย็นน้ำทะเลจะลดลงจนเห็นก้อนหินเกลื่อนหาด มีซากเปลือกหอยที่ถูกน้ำพัดทับถมกันที่ก้อนหินด้วยค่ะ อีกไม่นานคงเป็นฟอสซิล คิคิ

ได้เวลาเข้าเมืองตะกั่วป่าค่ะ เพื่อนเราขับรถมาทางเรียบหาดบางสักมาดูพระอาทิตย์ตกดิน สวยจริง ๆ แสงสีส้ม อบอุ่น ละมุนตา

จุดหมายของเย็นนี้อยู่ที่ถนนคนเดินตะกั่วป่าหรือถนนสายวัฒนธรรม ตั้งอยู่ที่ถนนศรีตะกั่วป่า มีทุกวันอาทิตย์ เวลา 15.00-19.00 น. ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายนเท่านั้น ตึกรามบ้านช่องที่นี่จะเป็นตึกเก่าสไตล์ชิโนโปรตุกีสค่ะ บางตึกยังคงสภาพเดิม บางตึกทาสีใหม่ ให้อารมณ์ที่แตกต่างกันอย่างลงตัว มาเดินเล่นที่นี่แล้วคุณจะได้ซึมซับกับบรรยากาศค่ะ
ตะกั่วป่า เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดพังงาที่ไม่ควรพลาด เมืองคนน่ารัก สงบ น่าอยู่ มากด้วยวัฒนธรรม แต่เดิมจะเรียก "ตะโกลา" เพราะเป็นท่าจอดเรือ เป็นศูนย์กลางการค้าขาย และเป็นเส้นทางลัดขนสินค้าข้ามคาบสมุทรมลายูจากฝั่งทะเลอันดามันไปยังอ่าวไทย และมีการผลิตดีบุกมากที่สุดในไทยด้วยค่ะ

นอกจากนี้ยังมีบ้านตะกั่วป่า ซึ่งจะจัดแสดงของเก่า ของสะสม ของโบราณ ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายค่ะ

ในเรื่องอาหารการกิน มีหลายอย่างที่อยากลองค่ะ น่ากินไปหมดเลย ส่วนตัวชอบอาหารใต้ เพราะรสชาติจัดจ้าน มาดูของกินกันค่ะ








กินข้าวเสร็จเราแวะซื้อของที่เซเว่นฯ กันค่ะ พอจะไปต่อเท่านั้นแหละ รถสตาร์ทไม่ติด เพื่อนเราเปิดไฟหน้ารถทิ้งไว้แค่ 5 นาทีเอง เป็นไปได้ !! ต้องขอความช่วยเหลือคนแถวนั้นค่ะ โชคดีมากมีพี่คิวรถสองแถวอยู่ข้างๆ พี่เขาได้เอาสายต่อขั้วแบตเตอรี่มาต่อให้ แล้วลองสตาร์ทติดค่ะ เป็นพระคุณมาก น่ารักที่สุด พี่เขาใจดีจริง ๆ คืนนี้เราตั้งวงค่ะ ยกกันไปหลายแก้ว หลายขวด เป็นลัง กว่าจะได้นอนโน้นนนนนเกือบเช้า ดีนะทั้งอุทยานฯ มีแค่เราหลังเดียว 55 คืนนี้ราตรีสวัสดิ์ พรุ่งนี้มาต่อที่เขื่อนเชี่ยวหลานนะคะ ^^
ค่าใช้จ่ายวันที่ 2 (19 เมษายน)





อรุณสวัสดิ์เช้าวันที่ 20 เมษายน 2558 อาบน้ำ แต่งตัว แล้วลงไปดูทะเลกัน ตอนเย็นน้ำลด ตอนเช้าน้ำขึ้น คลื่นลมวันนี้แรงนิดหน่อย แต่เสียงคลื่นดังครึกครื้นตลอดชายหาด

น้ำทะเลที่นี่ใสไม่แพ้ที่อื่น ๆ ถือเป็นที่พักตากอากาศที่ดีที่หนึ่งเลย


เดินมาเรื่อย ๆ ตรงโขดหินเราเห็นอะไรเลื้อย ๆ มีหาง ตอนแรกตกใจนึกว่างู แต่ไม่ใช่ มันคือตัว "เฮ้" ค่ะ ลูกเฮ้ด้วย แหมเป็นสิริมงคลแต่เช้าเลย

เช้านี้ไม่รีบร้อนค่ะ สบาย ๆ เราเช็กเอาท์ออกประมาณ 10.30 น. และมุ่งสู่อุทยานแห่งชาติเขาสก ระหว่างทางแวะฝากท้องที่ร้าน "ไทยมุสลิม"

ขอนำเสนอ...ผ่านตะกั่วป่าอย่าลืมแวะร้านนี้






มื้อนี้หมดไป 575 บาท กินกัน 6 คนค่ะ

เมื่อกองทัพต้องเดินด้วยท้อง อิ่มหนำสำราญแล้ว Next Station go to เชี่ยวหลาน !! ติดตามกระทู้ต่อไป "จะพาไปเที่ยว เปรี้ยว เฟี้ยว ที่ เชี่ยวหลาน" ได้ที่ >> http://pantip.com/topic/33579165

ขอบคุณภาพสวยๆ จากเพื่อนเบ๋และเพื่อนชับบี้ ที่ทำให้ได้ภาพสวย ๆ เพิ่มในหลายมุมที่เราพลาด ^^ ขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณสโลว์ไลฟ์ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม