รีวิว ที่เที่ยวชิซูโอกะ (Shizuoka) ญี่ปุ่น เมืองแห่งภูเขาไฟฟูจิ แลนด์มาร์กที่เที่ยวญี่ปุ่นที่แนะนำให้ไปเยือน พร้อมสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ การเดินทางง่าย ๆ เพราะใกล้โตเกียว มีใครแถวนี้วางแผนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นกันบ้างไหม ? หรือถ้าใครมีแผนที่จะไปอยู่แล้ว แนะนำว่าให้ลองมาเที่ยว เมืองชิซูโอกะ (Shizuoka) หนึ่งในเมืองที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นอีกจุดที่สามารถชมความงดงามของภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจน หลายคนชักอยากจะรู้จักเสียแล้วสิ ว่าแต่ชิซูโอกะจะมีอะไรน่าสนใจ มีที่เที่ยวอะไรบ้าง เดินทางจากโตเกียวยังไง และอื่น ๆ อีกมากมาย เรามีคำตอบมาให้แล้ว ชิซูโอกะ เป็นจังหวัดที่อยู่ในภูมิภาคชูบุ ตั้งอยู่ในภาคกลางของเกาะฮอนชู ทั้งยังเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะของสถานที่อันเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟฟูจิ สัญลักษณ์ของประเทศที่ไม่ว่าใครต่างก็รู้จัก จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมในแต่ละปีถึงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนเมืองนี้เป็นจำนวนไม่น้อย ใครที่ชอบกินมัทฉะ รู้หรือเปล่าว่า…มีต้นกำเนิดจากญี่ปุ่น ซึ่งผลิตขึ้นจากชาเขียวหรือที่เรียกว่า “เรียวคุฉะ (Ryokucha)” โดยสถานที่ซึ่งเป็นแหล่งผลิตชาเขียวเลื่องชื่อนั่นก็คือ จังหวัดชิซูโอกะ (Shizuoka) ตลอดจนมีการเก็บเกี่ยวใบชาในแต่ละปีมากที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย นั่นเป็นเพราะเมืองชิซูโอกะดินดี อุดมด้วยแร่ธาตุสำคัญ มีน้ำที่ดี มาจากแหล่งต้นน้ำภูเขาไฟฟูจิ และอากาศดี ที่ช่วยทำให้ต้นชาเติบโตแข็งแรง เหล่านี้กลายเป็นมัทฉะคุณภาพเยี่ยมที่ใครต่อใครต่างการันตี เสน่ห์อีกหนึ่งสิ่งของการมาเที่ยวเมืองชิซูโอกะนั่นคือ การได้มาชมความสวยของใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนธันวาคม ซึ่งในชิซูโอกะก็มีสถานที่สำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสีอยู่หลายจุด เช่น บริเวณริมทะเลสาบทานุกิ (Tanuki Lake) เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดยอดนิยมที่มองเห็นวิวภูเขาฟูจิชัดที่สุดจุดหนึ่ง ภาพของใบไม้เปลี่ยนสีเบื้องหน้าทำเอาคุณต้องมนตร์สะกด เป็นความสวยงามที่ผสานกันลงตัวแทบจะสมบูรณ์แบบ บริเวณสวนบ๊วย Atami Baien เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ช้าที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกบ๊วยเริ่มบานด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากเราบังเอิญวางแผนไปเที่ยวช่วงนั้นพอดีก็จะได้เจอกับความสวยงามสองเด้ง ได้ชมทั้งใบไม้เปลี่ยนสีและดอกบ๊วยไปพร้อม ๆ กัน (สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีอื่น ๆ ในชิซูโอกะ เช่น Asagiri Food Park, Fujisan Hongu Sengen Taisha และ น้ำตกชิระอิโตะ บอกเลยว่าแต่ละที่สวยงามไม่แพ้กัน) นอกจากใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว ชิซูโอกะ ยังเป็นอีกหนึ่งจุดชมซากุระที่สวยงามอีกด้วย โดยปกติซากุระที่ญี่ปุ่นจะผลิบานในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนพฤษภาคม แต่ก็มีซากุระบางสายพันธุ์ที่บานในฤดูหนาว ที่มีชื่อเสียง คือ “คาวาซุซากุระ (Kawazu Sakura)” โดยจะมีการจัดงานเทศกาลคาวาซุซากุระ (Kawazu Cherry Blossoms Festival) เป็นประจำทุกปี บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก ไฮไลต์อยู่ที่บริเวณทางเดินเลียบแม่น้ำคาวาซุ ซึ่งเรียงรายเป็นทางยาวประดับด้วยต้นซากุระเป็นร้อย ๆ ต้น อีกหนึ่งโมเมนต์ดี ๆ ที่จะทำให้คุณประทับใจกับชิซูโอกะแน่นอน ชิซูโอกะ เป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวของญี่ปุ่นที่มีสถานที่น่าสนใจมากมาย ใครที่เป็นสายถ่ายรูปอยู่แล้วเห็นทีว่าน่าจะถูกใจไม่ยากเลย ACAO Forest สวนดอกกุหลาบและสวนสมุนไพร มองเห็นทะเลซากามิ ละลานตาด้วยสวนดอกไม้นานาชนิดที่คอยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนออกดอกบาน ทั้งยังมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ และที่ได้รับความนิยมเห็นจะเป็นม้านั่งกับโต๊ะที่ออกแบบมาเป็นทรงบ้าน ตั้งอยู่ในจุดที่เห็นวิวทะเลสวย ๆ สุดประทับใจ MOA Museum of Art พิพิธภัณฑ์ศิลปะในเมืองอาตามิ ภายในจัดแสดงผลงานศิลปะต่าง ๆ ทั้งยังมีสมบัติประจำชาติ สมบัติทางวัฒนธรรม และชิ้นงานศิลปะ ซึ่งล้วนทรงคุณค่าเป็นอย่างยิ่ง เหมาะกับเป็นสถานที่เดินเล่น ถ่ายรูปเพลิน ๆ เสพงานศิลป์ชิล ๆ (ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ moaart.or.jp) Atami Trick Art Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ภาพวาด 3 มิติ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ช่วยสร้างสีสันความสนุก เพราะภายในมีจุดให้ถ่ายรูปหลอกตามากมาย งานนี้แล้วแต่ใครจะครีเอตท่าทางกันได้เลย ลองถ่ายแล้วเอาลงโซเซียลก็เก๋ไม่หยอก (ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ atami-trickart.com) สวนสนุกที่มีเทศกาลไฟประดับกับงาน GRANILLUMI โดยจัดขึ้นระหว่างเดือนพฤศจิกายน-สิงหาคมของทุกปี เป็นหนึ่งในงานประดับไฟสุดยิ่งใหญ่ แบ่งเป็นโซนต่าง ๆ หลากหลายธีม จัดแสดงแสง สี และเสียง แบบจัดเต็ม ไฮไลต์คือการที่นักท่องเที่ยวสามารถเอาตัวไปอยู่ท่ามกลางดวงไฟระยิบระยับ (ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ granillumi.com) Nakatajima Sand Dunes เป็น 1 ใน 3 เนินทรายที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ความสวยงามอยู่ที่ลวดลายบนพื้นทราย ซึ่งเกิดตามแรงลมทะเล นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ยอดนิยมในการชมพระอาทิตย์ขึ้นวันแรกของปี วันที่ 1 มกราคม ถ้าใครมีโอากาสลองแวะมาชมทะเลประกายสีทองแวววาว ถือเป็นสิ่งดี ๆ เริ่มต้นปีใหม่กัน สะพานไม้สำหรับคนเดินข้ามที่ยาวที่สุดในโลก โดย สะพานไม้ Horai Bridge มีความยาวทั้งหมดประมาณ 897.4 เมตร ความน่าสนใจอยู่ที่เมื่อเราเดินเล่นบนสะพานจะมองเห็นวิวทิวทัศน์สวย ๆ และถ้าวันไหนอากาศดี ท้องฟ้าปลอดโปร่งเป็นใจ จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิและไร่ชาเขียวอีกด้วย เอาจริง ๆ ที่เที่ยวชิซูโอกะยังมีอีกมากมาย ทั้งภูเขาไฟ ทะเลสาบ น้ำตก ชายหาด พิพิธภัณฑ์ แหล่งท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นทีว่าวันเดียวคงเที่ยวไม่พอ อีกหนึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวนอกจากการเช็กอินถ่ายรูปตามสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่าง ๆ แล้ว นั่นคือการนั่งชมวิวภูเขาไฟฟูจิ ณ ทะเลสาบทานุกิ ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติอันเงียบสงบ รอบทะเลสาบมีเส้นทางทางเดิน สามารถเดินเล่นชมธรรมชาติ หามุมพักผ่อน และหามุมถ่ายรูปกับภูเขาไฟฟูจิสวย ๆ กันอย่างดื่มด่ำ แถมการเดินทางก็มาง่าย ๆ ด้วยรสบัส (แต่เที่ยวรถอาจจะค่อนข้างน้อย) นักท่องเที่ยวอาจจะต้องวางแผนไป-กลับให้ดี ยิ่งถ้าวันไหนอากาศเคลียร์ ๆ เจอน้องฟูจิโผล่มาทักทายแน่นอน ชิซูโอกะ เป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยทรัพยากรต่าง ๆ ทำให้วัฒนธรรมการกินมีความอุดมสมบูรณ์ มีหลากหลายเมนูอาหารท้องถิ่นที่สร้างอรรถรสและเสน่ห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กุ้งซากุระ สัตว์ทะเลที่แพร่พันธุ์อยู่บริเวณอ่าวซุรุงะ จังหวัดชิซูโอกะ เพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่น นิยมนำมากินดิบ ๆ เป็นซาชิมิ หรือไม่ก็นำไปทอดกรอบทั้งตัวกินกับข้าวสวย ที่สำคัญ…มีให้กินในช่วงฤดูใบไม้ผลิเท่านั้นด้วย ตลอดจนการได้ลิ้มลองอาหารทะเลที่สดใหม่จากคาบสมุทรอิซุ ซึ่งรังสรรค์ออกมาเป็นเมนูต่าง ๆ เราจึงเห็นร้านอาหารหน้าตาน่ากินอยู่ทั่วชิซูโอกะ จริง ๆ แล้วจากโตเกียวไปชิซูโอกะสามารถเดินทางแบบไปเช้า-เย็นกลับได้ เพราะใช้เวลานั่งรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นประมาณ 40-46 นาทีเท่านั้นเอง (ส่วนระยะเวลานั้นอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าจะแวะเที่ยวเมืองไหนก่อน) สำหรับการมาเที่ยวชิซูโอกะนั้นสามารถใช้พาส (Pass) อะไร ? ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวอาจเข้าใจว่า JR TOKYO Wide Pass ซึ่งเป็นพาสเที่ยวโตเกียวยอดฮิต ก็นั่งรถไฟ JR East Line มาถึงสถานี Atami ของเมืองชิซูโอกะได้ แต่ไม่สามารถใช้พาสนี้ไปยังเมืองอื่น ๆ ของชิซูโอกะได้ค่ะ ดังนั้นถ้าใครมีแผนเที่ยวชิซูโอกะมากกว่า 1 วัน แนะนำว่าให้ซื้อ Mt. Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass Mini เพิ่ม โดยจะครอบคลุมการเดินทางทั้งรถไฟ รถบัส รอบจังหวัด และเรือเฟอร์รี่ เที่ยวที่ Shimizu Port Bay Cruise และ Suruga Bay ได้ รวมถึงใช้นั่ง Fujikyuko Bus เที่ยวรอบทะเลสาบที่คาวากุจิโกะได้ด้วย (สามารถดูรายละเอียดพาสเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ touristpass.jp) สำหรับใครที่ไม่อยากใช้พาส การเดินทางในชิซูโอกะก็ไม่ได้ลำบากจนเกินไป เมื่อนั่งรถไฟมาถึงสถานี Shizuoka จากนั้นก็ค่อยนั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองอื่น ๆ หรือใครสะดวกเช่ารถก็สามารถทำได้ หรือบางสถานที่ที่รถไฟเข้าไม่ถึงก็สามารถใช้บริการรสบัสหรือแท็กซี่ได้เช่นกัน แต่ยังไงก็อย่าลืมวางแผนเที่ยวดี ๆ กันนะ สำหรับใครที่สนใจอยากมาเที่ยวชิซูโอกะ จัดว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นเสมือนบ้านของฟูจิซังอีกด้วย ยังไงหาโอกาสมาเช็กอินกันนะ ^ ^ หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง พยากรณ์ซากุระญี่ปุ่น 2024 วางแผนเที่ยวญี่ปุ่นในฤดูใบไม้ผลิ พลาดไม่ได้ 30 สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น น่าไปเช็กอิน Kamikochi ดินแดนแห่งสายน้ำกลางหุบเขา หรือสวิตเซอร์แลนด์แห่งญี่ปุ่น ชิราคาวาโกะ หมู่บ้านโบราณญี่ปุ่น กับความงดงามในวันหิมะขาวโพลน เที่ยวภูมิภาคคันโต ญี่ปุ่น กับสถานที่ท่องเที่ยวเด่น น่าไปเช็กอิน ไม่ไกลโตเกียว ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : atami-trickart.com, moaart.or.jp, touristpass.jp
แสดงความคิดเห็น