9 จุดชมพระอาทิตย์ตกในไทย มนตร์เสน่ห์อาทิตย์อัสดง

          เคยได้ยินคนพูดกันมานักต่อนักว่า "ไม่มีพระอาทิตย์ตกที่ไหนเหมือนกันบนโลกใบนี้" เพราะแต่ละที่ล้วนแล้วแต่มีความงามและเอกลักษณ์ที่ต่างกัน ทั้งแสง สี เมฆ และทิวทัศน์ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นองค์ประกอบของต้นกำเนิดความงามของพระอาทิตย์ยามอัสดง เตรียมตัวให้พร้อม...วันนี้เราได้รวบรวม 9 จุดพระอาทิตย์ตกในเมืองไทย จะมีที่ไหนให้ไปท่องเที่ยวบ้าง ตามไปดูกันเลย

1. แหลมพรหมเทพ จังหวัดภูเก็ต

          จุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของภูเก็ต ซึ่งการได้นั่งชมพระอาทิตย์ที่ค่อย ๆ ลาลับขอบฟ้าไปพร้อมกับวิวน้ำทะเลเบื้องล่าง ลมทะเลเย็น ๆ และแสงสีทองของพระอาทิตย์ นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนรู้สึกประทับใจกับภาพความสวยงามเบื้องหน้า เราจึงได้ยินเสียงชัตเตอร์กล้องถ่ายรูปจากนักท่องเที่ยวคนอื่นดังเป็นระยะ ยิ่งในช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงมีนาคม จะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนกันมาอย่างหนาแน่นเป็นพิเศษ เหล่านี้ทำให้แหลมพรหมเทพเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สุดแสนจะคลาสสิกแห่งหนึ่งของเมืองไทย


2. ถ้ำผาหงษ์ จังหวัดเพชรบูรณ์
 
          ถ้ำผาหงษ์ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกที่ได้รับความนิยมแห่งหนึ่งในเมืองไทย เป็นถ้ำเล็ก ๆ ที่อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานออกไปประมาณ 10 กิโลเมตร เมื่อไปถึงนักท่องเที่ยวต้องเดินเท้าผ่านป่าไผ่ บรรยากาศของช่วงที่พระอาทิตย์กำลังใกล้ตกดินของที่นี่ นักท่องเที่ยวจะได้เห็นฝูงค้างคาวที่กรูกันบินออกจากถ้ำเพื่อหากิน เหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนให้นักท่องเที่ยวต้องเร่งฝีเท้าเพื่อให้ทันโบกมือลาพระอาทิตย์ดวงกลมโต ลัดเลาะขึ้นบันไดจากเหนือถ้ำไม่เท่าไร จุดที่นักท่องเที่ยวยืนบนเหนือถ้ำแห่งนี้ ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าคือทิวทัศน์ที่กว้างไกลของป่าที่ทอดตัวยาว โดยมีฉากหลังเป็นทิวเขาสูงต่ำสลับกันไป ยามเมื่อแสงพระอาทิตย์อัสดงเข้ากระทบ บังเกิดเป็นภาพความสวยงามที่เข้ากระทบใจอย่างแนบแน่น


3. หาดไก่แบ้ (เกาะช้าง) จังหวัดตราด

          หนึ่งในหาดยอดนิยมของเกาะช้างที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาตินิยมแวะเวียนมาชมภาพความสวยงามของพระอาทิตย์ตก ในขณะที่ดวงตะวันกำลังลาลับขอบฟ้า เมื่อนั้นที่แสงสีทองประกายแสดเข้าตกกระทบกับท้องทะเล สะท้อนพร่างพรายระยิบระยับ อดทำให้ใครหลายคนนั่งจับเจ่าทอดอารมณ์ ปล่อยความคิดให้ล่องลอยอย่างฟุ้งซ่าน และตามมาด้วยห้วงของความเงียบสงบ หากผู้คนบนฝั่งที่ส่งเสียงเป็นสัญญาณบอกให้เราตื่นจากภวังค์ ยิ่งในช่วงเวลาน้ำทะเลลง ทะเลที่หาดไก่แบ้จะมีลักษณะเป็นทะเลแหวก ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินข้ามไปยังชายหาดของเกาะมันได้ด้วยระยะทางเพียง 500 เมตร


4. หาดตลิ่งงาม (เกาะสมุย) จังหวัดสุราษฎร์ธานี

         หาดที่มีชื่อเสียงในเรื่องพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดบนเกาะสมุย ทำให้ทุกช่วงเย็นของที่นี่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มารอดูพระอาทิตย์ตก และถือเป็นกิจกรรมภาคบังคับของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนหาดตลิ่งงาม ช่วงเวลาที่แสงแดดโพล้เพล้ยิ่งทำให้บรรยากาศที่นี่แสนจะโรแมนติก เงียบสงบ และเป็นส่วนตัว ในเวลาพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน นักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็นภาพของดวงอาทิตย์ตั้งตระหง่านราวกับเป็นเจ้าของท้องทะเล บรรยากาศเหล่านี้เหมือนกับธรรมชาติได้จัดฉากเอาไว้อย่างสวยงาม เพราะแสงสีแดงของดวงอาทิตย์ก่อนลับขอบฟ้าที่ "หาดตลิ่งงาม" จะเป็นสีที่มองได้แบบไม่แสบตา ถือว่าเป็นทัศนียภาพที่สวยงามจนยากจะลืมเลือน


5. เสาเฉลียงคู่ ในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม 
         
          เสาเฉลียงคู่ อยู่ภายในบริเวณป่าดงนาทาม ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี ประมาณ 36 กิโลเมตร เป็นแท่งหินรูปร่างแปลก ๆ ที่เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจากลม น้ำ และแสงแดด กัดเซาะเป็นเวลานานนับร้อยนับพันปี ซึ่งบริเวณเสาเฉลียงคู่นับเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในจังหวัดอุบลราชธานี ถ้าใครมาช่วงหน้าหนาว สายลมเย็น ๆ พัดมาเป็นระลอก ๆ เหล่านี้จะยิ่งทำให้บรรยากาศดูโรแมนติกเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว และถ้าท้องฟ้ายามเย็นวันนั้นเป็นใจ เมื่อคุณมองไปยังเบื้องหน้าจะเห็นเงามืดของเสาเฉลียงคู่ ตั้งตระหง่านย้อนแสงตัดกับท้องฟ้าสีเหลืองอร่าม จนทำให้เราหยิบกล้องขึ้นมาเก็บภาพความงามเหล่านั้นแทบไม่ทัน และถ้าคุณไม่รีบไปไหน ไม่นานหลังจากพระอาทิตย์ตกดิน คุณจะมองเห็นหมู่ดาวที่ส่องแสงทอประกายวิบวับ ขอเตือนว่าความสวยงามตรงหน้าอาจทำให้คุณแทบลืมหายใจ



 6. ผาหล่มสัก ภูกระดึง จังหวัดเลย
          ใครที่ไม่ได้มาชมพระอาทิตย์ตกที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึงภูกระดึง ภาพเบื้องหน้าของผาหล่มสักคือทิวทัศน์ของเทือกเขาสลับซับซ้อน สัญลักษณ์หนึ่งของผาหล่มสักคือลานหินกว้าง และมีต้นสนต้นหนึ่งขึ้นชิดริมผาเป็นฉากประกอบ เราจึงเห็นใครต่อใครต่างมานั่งที่หินก้อนนี้เพื่อรอชมพระอาทิตย์ตกดิน ขอแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสักในช่วงหน้าหนาวที่จะถึงนี้ ควรเตรียมเสื้อกันหนาวและไฟฉายสำหรับใช้ส่องทางเวลาเดินกลับที่พักไปด้วย เพราะคุณต้องใช้เวลาเดินเฉลี่ยประมาณ 2-3 ชั่วโมง เหล่านี้ล้วนเป็นเสน่ห์ของภูกระดึง ที่คุณจะต้องไปลองสัมผัสให้เห็นกับตาตัวเอง


7. ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน

          ดอยเสมอดาว เป็นจุดชมวิวอีกหนึ่งจุดของอุทยานแห่งชาติศรีน่าน มีพื้นที่เป็นลานกว้าง นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาจับจองพื้นที่กางเต็นท์เพื่อรอชมพระอาทิตย์ตกได้ที่บริเวณนี้ และสามารถมองเห็น "ผาหัวสิงห์" ซึ่งเป็นผาหินขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างคล้ายหัวของสิงโต ในช่วงเวลาเย็นของดอยเสมอดาว ดวงอาทิตย์จะมีขนาดใหญ่และมีสีแดงเข้ม บางคนใช้ช่วงเวลานี้ในการปลดปล่อยสมองให้ว่างเปล่าไร้ซึ่งความคิดและจินตนาการใด ๆ เพียงเพื่อให้สายตาได้ซึมซับภาพความงามที่อยู่ตรงหน้าให้มากที่สุด จะมีก็แต่เพียงรอยยิ้มแห่งความสุข ความอิ่มเอิบในหัวใจ ที่ทำให้คุณสามารถนั่งหรือยืนชมได้เป็นเวลาเนิ่นนานตราบจนแสงอาทิตย์ยามอัสดงลาลับขอบฟ้าจนมิด

8. จุดชมวิวเนินนางพญา จังหวัดจันทบุรี

          จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในภาคตะวันออก จุดชมวิวแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินริมทะเลใกล้กับหาดคุ้งวิมานและปากอ่าวคุ้งกระเบน นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นบันไดเพื่อไปยังจุดชมวิว เป็นที่น่าสังเกตว่าตามรั้วกั้นจะมีแม่กุญแจแขวนคล้องเป็นคู่ ๆ ตลอดแนวความยาวของรั้ว ด้วยเพราะความเชื่อว่าจะทำให้ความรักยืนยาว แต่ถ้าใครไปเดี่ยว ๆ ไม่มีคู่ เราแนะนำว่าให้ผ่านจุดนี้ไป แล้วโฟกัสกับภาพวิวข้างหน้าจะดีกว่า (เพราะคนมีคู่ไม่รู้หรอก) ภาพเบื้องหน้าจากจุดชมวิว คุณจะเห็นถนนชล-จันท์โค้งเลาะเลียบริมทะเล ส่วนอีกด้านเป็นภูเขาสูง มองเห็นความงามของทั้งทะเล ภูเขาและถนนต่างคดโค้งกันได้อย่างลงตัว ยิ่งในเวลาเย็นย่ำช่วงพระอาทิตย์กำลังตกดิน ถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ที่งดงามอีกแห่งหนึ่งเลยทีเดียว


9. หาดถ้ำพระนาง จังหวัดกระบี่

          มุมมหัศจรรย์ไฮไลต์แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของกระบี่ ถ้าใครอยากเห็นมุมมหัศจรรย์นี้ต้องเดินลึกเข้าไปจนสุดหาด ซึ่งเป็นที่ตั้งของ "ถ้ำพระนาง" ด้วยเป็นที่สถิตของพระนางอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งชาวเรือแถบนี้เคารพบูชา ยิ่งใครได้ไปในช่วงเย็นที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน รับรองว่าคุณจะได้เห็นมุมมองความสวยงามที่ไม่ซ้ำแบบใคร เพราะเมื่อเข้าไปอยู่ในถ้ำและมองออกมา คุณจะเห็นปากโพรงถ้ำซึ่งมีหินย้อยลงมาสวยงาม ถัดไปเป็นท้องทะเลกว้างและเกาะน้อยใหญ่ที่เรียงตัวกันเป็นหย่อม ๆ นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรอชมพระอาทิตย์ตก รับรองว่าคุณจะได้เห็นมุมมองที่สวยงามแปลกตาและน่าทึ่งที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย


          เหล่านี้เป็น 9 จุดชมพระอาทิตย์ตกในเมืองไทย หลายคนชอบใช้ช่วงเวลาสั้น ๆ ขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังตกดิน นั่งปลดปล่อยอารมณ์ซึมซับกับภาพความงามของธรรมชาติ เพราะช่วงเวลานี้บอกให้เรารู้ว่ารัตติกาลกำลังเข้าคืบคลาน และโคจรผ่านไปอีกคืนหนึ่ง ว่าแต่เพื่อน ๆ ชื่นชอบจุดไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า ? อย่าลืมแบ่งปันเรื่องราวให้เราฟังบ้าง

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก
ททท., tatcontactcenter.com, i-san.tourismthailand.org และ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช