x close

ราชบุรี ดินแดนวัฒนธรรมลุ่มน้ำแม่กลอง

ราชบุรี


เรียบเรียงข้อมูลและภาพประกอบโดยกระปุกดอทคอม

          "คนสวยโพธาราม คนงามบ้านโป่ง เมืองโอ่งมังกร วัดขนอนหนังใหญ่ ตื่นใจถ้ำงาม ตลาดน้ำดำเนิน เพลินค้างคาวร้อยล้าน ย่านยี่สกปลาดี"... ฮั่นแน่!! ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านี่คือคำขวัญประจำจังหวัดอะไร (555)ก็เล่นบอกเอกลักษณ์โดดเด่นของจังหวัดซะขนาดนั้นขาเที่ยวอย่างพวกเราไม่รู้ไม่ได้แล้ว...แต่สำหรับน้องใหม่ที่มีใจรักการท่องเที่ยวและกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ล่ะก็ วันนี้เราขอแนะนำที่นี่แหละ "จังหวัดราชบุรี" 

         ว่าแต่... ก่อนไปเที่ยว เรามาทำความรู้จักกับ "จังหวัดราชบุรี"ดินแดนวัฒนธรรมลุ่มน้ำแม่กลอง และสายหมอกแห่งขุนเขาตะนาวศรีให้มากขึ้นกันก่อนดีกว่า...  

          ราชบุรีเป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลางด้านตะวันตกที่มีภูมิประเทศหลากหลายจากพื้นที่ที่ราบต่ำ ลุ่มแม่น้ำแม่กลองอันอุดมสมบูรณ์แหล่งเพาะปลูกพืชผักผลไม้เศรษฐกิจนานาชนิดสู่พื้นที่สูงทิวเทือกเขาตะนาวศรี ทอดตัวยาวทางทิศตะวันตกจรดชายแดนไทย -พม่า มีเนื้อที่ทั้งสิ้นประมาณ 5,196 ตารางกิโลเมตร  

         จากตำนานและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ทำให้สันนิษฐานได้ว่าราชบุรีเป็นหัวเมืองที่เจริญรุ่งเรืองมากแห่งหนึ่ง ของแคว้นสุวรรณภูมิมาตั้งแต่สมัยที่พระเจ้าอโศกมหาราชแห่งอินเดียได้เผยแพร่พุทธศาสนาเข้ามาในดินแดนแถบนี้ เมื่อราวปี พ.ศ. 218 โดยแคว้นสุวรรณภูมินี้มีศูนย์กลางการปกครองอยู่ที่นครปฐม หรือที่สมัยนั้นเรียกกันว่า "ทวารวดี"นอกจากนี้ ราชบุรียังเป็นแหล่งพบปะของพ่อค้าวาณิชแต่ครั้งโบราณทั้งยังเป็นเมืองหน้าด่านที่ติดต่อกับพม่าราชบุรีจึงเป็นดินแดนที่หลากหลายชาติพันธุ์และกลุ่มชนที่สุดแห่งหนึ่ง


ราชบุรี


          ราชบุรี ในวันนี้... จึงเต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจมากมายทั้งประวัติศาสตร์ โบราณสถาน วิถีชีวิต วัฒนธรรม งานหัตถกรรมเครื่องปั้นเครื่องหล่อ ทอถักจักสาน ถ้ำธารป่าเขา และธรรมชาติที่งดงาม...ท้าทายการมาเยือนของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก

          เอาล่ะ!! ทีนี้เราไปดูสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจกันบ้าง... 

          เริ่มกันที่ "อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม"หรือ Siam Cultural Park ตั้งอยู่บริเวณถนนเพชรเกษม ตำบลวังเย็นอำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 45 ไร่ เริ่มก่อตั้งเมื่อปี2540 เป้าหมายเพื่อเป็นสถานที่พักใจแก่คนทั่วไป โดยนำเสนอแง่มุมด้านศิลปะวัฒนธรรม และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่งดงามในสังคมพุทธของไทยภายในบริเวณมีอาคารจัดแสดงรูปปั้นหุ่นขี้ผิ้งไฟเบอร์กลาสบุคคลสำคัญ อาทิครูมนตรี ตราโมทย์, สืบ นาคะเสถียร, ม.ล.ปิ่น มาลากุล และ ฯพณฯสัญญาธรรรมศักดิ์ เป็นต้น และยังมีบุคคลสำคัญชาวต่างชาติอีกหลากหลายท่าน อาทิแม่ชีเทเรซ่า, ประธานาธิบดีโฮจิมินห์, เติ้ง เสี่ยว ผิง และเหมา เจ๋อ ตุงโดยได้บรรยายประวัติเอาไว้ครบครัน    

          นอกจากนี้ยังมีสิ่งก่อสร้างที่จัดแสดงหุ่นขึ้ผึ้งและประติมากรรมที่น่าสนใจอีกมากมายสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม โทร.0-3238-1401, 0-3238-1404 

          "ธารน้ำร้อนบ่อคลึง"เดินทางจากตัวอำเภอสวนผึ้งไปประมาณ 5 กิโลเมตรจะพบแยกเข้าสู่ธารน้ำร้อนบ่อคลึงตรงไปอีก 10 กิโลเมตรบ่อคลึงเป็นธารน้ำร้อนธรรมชาติที่มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาตะนาวศรีจะมีน้ำไหลอยู่ตลอดปี เป็นน้ำร้อนบริสุทธิ์ อุณหภูมิของน้ำประมาณ 120 -136 องศาฟาเรนไฮต์ ในช่วงฤดูหนาวยามเช้าไอน้ำร้อนจะลอยกรุ่นเป็นหมอกสวยงามมีบ่อน้ำร้อนและสระน้ำสำหรับอาบน้ำร้อนธรรมชาติ เปิดทุกวันจันทร์ - ศุกร์ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. วันเสาร์ - อาทิตย์เปิดเวลา 08.00 – 18.00น. ค่าผ่านประตู 5 บาท ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร.0-3271-1086    

          "น้ำตกเก้าชั้น"หรือ "เก้าโจน" (เก้ากระโจน) ตั้งอยู่ที่บ้านห้วยผาก หมู่ 7 ตำบลผาผึ้งเลยจากธารน้ำร้อนบ่อคลึงไปประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดกลาง มีความสูง9 ชั้น ตกจากหน้าผาสูงกลางหุบเขา มีน้ำตลอดปี ปริมาณน้ำจะมากในชั้นบนๆหินบริเวณน้ำตกเป็นหินแกรนิตแต่เดิมน้ำตกนี้รู้จักกันเฉพาะในกลุ่มชาวกะเหรี่ยงต่อมาบริษัทต่างชาติเข้ามารับสัมปทานเหมืองแร่เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2484ต่อมาเมื่อหมดสัมปทานทางอำเภอและกลุ่มองค์กรท้องถิ่นจึงได้เข้ามาดูแลพื้นที่ 

         การเดินไปชมน้ำตก จากลานจอดรถเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 500 เมตรจะถึงบริเวณน้ำตกชั้นล่างซึ่งสามารถเดินเท้าขึ้นไปถึงชั้นสุดท้ายได้ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตรใช้เวลาประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง ค่าเข้าชม รถยนต์ รถตู้ รถปิกอั๊พ คันละ 30บาท รถบัส 100 บาท  

          "อำเภอสวนผึ้ง"เป็นอำเภอบนพื้นที่สูง โอบล้อมด้วยขุนเขาชิดชายแดนไทย - พม่าจึงมีสภาพอากาศที่เย็นสบายคล้ายกับภาคเหนือ และอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก ใช้เวลาในการขับรถประมาณ 2 ชั่วโมง 

          "ถ้ำจอมพล" ตั้งอยู่ที่ตำบลจอมบึง อยู่ห่างจากถ้ำเขาบินไป 11 กิโลเมตรในบริเวณสวนรุกขชาติทางเข้าถ้ำจอมบึงอยู่ในมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงมีฝูงลิงอาศัยอยู่จำนวนมาก เดิมมีชื่อว่า “ถ้ำมุจลินทร์” เมื่อปี พ.ศ.2483พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถได้เสด็จประพาสถ้ำนี้ทรงพอพระทัยความงามของหินงอกหินย้อย โดยเฉพาะหินย้อยผาวิจิตรที่เหมือนริ้วไหมอินทรธนูบนบ่าของจอมพล จึงทรงพระราชทานนามถ้ำใหม่ว่า“ถ้ำจอมพล” นอกจากหินงอกหินย้อยที่สวยงามแล้วยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ ซึ่งมีงานฉลองเป็นประจำทุกปีในหน้าแล้งถ้ำเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.30 - 16.30 น. อัตราค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 10 บาท เด็ก 5 บาท 

          "ถ้ำเขาบิน"ตั้งอยู่ที่ตำบลหินกอง ในเทือกเขาบิน มีเนื้อที่ประมาณ 5ไร่เศษอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีความลึกจากปากถ้ำถึงบริเวณลึกสุดประมาณ300 เมตร แบ่งออกเป็นคูหาตามลักษณะหินงอกหินย้อยวิจิตรตระการตาภายในถ้ำแบ่งออกเป็น 8 คูหา คือ ศิวสถาน โถงอาคันตุกะ ธารอโนดาตสกุณชาติคูหา เทวสภาสโมสร กินนรทัศนา พฤกษาหิมพานต์ และอุทยานทวยเทพทั้งนี้ ภายในถ้ำมีการจัดระเบียบทางเดินอย่างดีและจัดแสงไฟตามกลุ่มหินย้อยต่างๆ เพื่อเสริมจินตนาการให้แก่ผู้มาเที่ยวชมจัดเป็นถ้ำแรกที่มีการจัดแสงสีภายในถ้ำเป็นแห่งแรกในประเทศไทย (ว้าว...)อย่างไรก็ตาม ชื่อ “ถ้ำเขาบิน”เชื่อว่ามาจากหินงอกหินย้อยรูปพญาอินทรีย์กางปีกดูสง่างาม และภายในถ้ำยังมีบ่อน้ำแร่เล็กๆ ที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เปิดให้เข้าชมทุกวันจันทร์ - ศุกร์ ตั้งแต่เวลา09.00 - 17.00 น. สำหรับวันเสาร์ - อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.30 - 17.00 น.อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 10 บาท เด็ก 5 บาทสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-3232-9226   

          "อำเภอบ้านโป่ง"ในอดีตสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 บ้านโป่งเคยเป็นค่ายทหารญี่ปุ่นเป็นจุดเริ่มต้นทางรถไฟสายมรณะ ณ สถานีรถไฟหนองปลาดุกก่อนผ่านเข้าสู่กาญจนบุรี เพื่อขยายกำลังไปสู่พม่าปัจจุบันเป็นแหล่งอุตสาหรรมประกอบรถบัสที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งจนได้รับขนานนามว่า "ดีทรอยต์เมืองไทย" 

          "ค้างคาวเขาช่องพราน"อยู่ที่ตำบลเตาปูน ห่างจากตัวอำเภอโพธารามไปทางทิศตะวันตกประมาณ 9กิโลเมตร ถ้ามาจากตัวเมืองราชบุรี ใช้เส้นทางเขางู - เบิกไพร ไปประมาณ 17กิโลเมตร บริเวณเขาช่องพรานมีถ้ำที่สวยงาม คือ “ถ้ำพระนอน”มีพระพุทธรูปภายในถ้ำมากกว่าร้อยองค์และมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์องค์ใหญ่ความยาว 9 เมตรแต่สิ่งที่สร้างชื่อให้เขาช่องพราน คือ ฝูงค้างคาวนับล้านตัวที่กรูกันบินออกจากถ้ำพวยพุ่งเป็นสายสีดำนานนับชั่วโมงทุกเย็นในช่วงใกล้พลบค่ำ เวลาประมาณ 17.30 น.ในช่วงฤดูร้อนฝูงค้างคาวจะบินไปทางทิศตะวันออกในช่วงฤดูหนาวฝูงค้างคาวจะบินไปทางทิศตะวันตก 

          "วัดเขาวัง" ตั้งอยู่บนเขาสัตตนาถ ซึ่งเป็นภูเขาลูกย่อมๆ สูงประมาณ 44 เมตรอยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันตกประมาณ 2 กิโลเมตรมีทางรถยนต์ขึ้นถึงยอดเขาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯให้สร้างพระราชวังบนเขานี้เมื่อ พ.ศ. 2416เช่นเดียวกับที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงรับสั่งให้สร้างนารายณ์ราชนิเวศน์ ที่เมืองลพบุรีแต่พระองค์ได้เคยเสด็จไปประทับเพียงครั้งเดียวเมื่อ พ.ศ. 2420เพื่อออกรับราชทูตโปรตุเกสหลังจากนั้นไม่ได้เสด็จไปประทับอีกเลยจนตลอดรัชกาล ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 7โปรดเกล้าฯ อุทิศให้เป็นธรณีสงฆ์ซึ่งมีผู้มีศรัทธาได้ซ่อมแซมบางส่วนดัดแปลงตำหนักต่างๆ เป็นโบสถ์ กุฎิสงฆ์และต่อมาได้ยกขึ้นเป็นวัดด้านบนสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ตัวเมืองราชบุรีโดยรอบ  

          ปิดท้ายกันที่สถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวรู้จักกันเป็นอย่างดี "ตลาดน้ำดำเนินสะดวก"หรือที่รู้จักกันทั่วไปในนามตลาดน้ำคลองต้นเข็มเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากของราชบุรี อยู่ห่างจากกรุงเทพฯราว80 กิโลเมตร ตลาดน้ำดำเนินสะดวกเปิดตัวสู่สายตาชาวโลกในฐานะแหล่งท่องเที่ยวครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2510ในภาพของตลาดลอยน้ำที่คราคร่ำไปด้วยเรือพายลำย่อมบรรทุกสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพพ่อค้าแม่ค้าสวมเสื้อผ้าโทนสีเข้มแบบชาวสวน ใส่หมวกงอบใบลานพายเรือเร่ขายแลกเปลี่ยนสินค้าในยามที่เส้นทางคมนาคมทางน้ำเป็นหัวใจหลักตลาดน้ำดำเนินสะดวกเริ่มค้าขายตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนถึงช่วงประมาณ 12.00 น.ส่วนตลาดน้ำวัดปราสาทสิทธิ์ซึ่งเป็นตลาดน้ำที่ยังคงวิถีชีวิตเดิมๆ อยู่มากจะเริ่มตั้งแต่เช้าตรู่ และจะวายตั้งแต่ก่อน 08.00 น. ทั้งนี้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอำเภอดำเนินสะดวก โทร. 0-3224-1023,0-3234-6161 

          ฮั่นแน่!! เป็นอย่างไรกันบ้างคะชักอยากจะมาเที่ยวกันที่จังหวัดราชบุรีแล้วใช่ไหมล่าอันที่จริงที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกเพียบถ้าอยากรู้ว่าสวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจขนาดไหนต้องลองมาสัมผัสด้วยตารับรู้ด้วยใจคุณเองค่า... อย่าลืมว่า "เที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้" นะคะ (อิอิ)

          ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ชมรมธุรกิจท่องเที่ยวราชบุรี โทร.0-3238-1401, 0-3238-1404และสำนักงานจังหวัดราชบุรี โทร.0-3232-7659-60, 0-3233-7890


การเดินทาง
     

          รถยนต์ 

          - เส้นทางสายเก่า สายเพชรเกษม ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านบางแค – อ้อมน้อย – อ้อมใหญ่ – นครชัยศรี – นครปฐม - ราชบุรี

         - เส้นทางสายใหม่ เส้นทางหลวงหมายเลข 338 จากกรุงเทพฯ – พุทธมณฑล -นครชัยศรีเข้าถนนเพชรเกษมบริเวณอำเภอนครชัยศรีก่อนถึงตัวเมืองนครปฐมประมาณ 16กิโลเมตร จากนั้นใช้ถนนเพชรเกษมตรงไปตัวเมืองราชบุรี

          หรือใช้ทางพิเศษเฉลิมมหานคร สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร.1543 

          รถไฟ 
 
         การรถไฟแห่งประเทศไทย มีบริการรถไฟออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพงและสถานีรถไฟธนบุรี (บางกอกน้อย) ทุกวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ หน่วยบริการเดินทางสถานีรถไฟกรุงเทพฯ โทร. 1690หรือ 0-2220-4334, 0-2220-4444 สถานีรถไฟธนบุรี โทร.0-2411-3102และสถานีรถไฟราชบุรี โทร.0-3233-7002 

          รถโดยสารประจำทาง 
 
         บริษัท ขนส่ง จำกัดมีบริการเดินรถจากสถานีขนส่งสายใต้ไปจังหวัดราชบุรีทุกวัน ทั้งรถธรรมดารถปรับอากาศชั้น 1 และรถปรับอากาศชั้น 2 วันละหลายเที่ยวใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ห้องจำหน่ายตั๋วโทร.0-2434-7192, 0-2435-5605


 


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ราชบุรี ดินแดนวัฒนธรรมลุ่มน้ำแม่กลอง อัปเดตล่าสุด 15 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 17:34:37 1,596 อ่าน
TOP