

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ ชานมชงเอง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก chanomworld
"เขาค้อ" ตั้งอยู่ในตำบลแคมป์สน จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง โดยที่มาของชื่อ "เขาค้อ" มาจากพื้นที่บริเวณนี้มีต้นไม้ตระกูลปาล์ม ที่เรียกว่า "ต้นค้อ" อยู่เป็นจำนวนมาก และด้วยพื้นที่ที่เต็มไปด้วยทิวเขาน้อยใหญ่มากมาย ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ อากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี รวมทั้งทัศนียภาพที่สวยงาม ทำให้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาสัมผัสอยู่เสมอ ดังนั้น กระปุกท่องเที่ยวเลยขอแนะนำบันทึกการเดินทางพร้อมภาพถ่ายในมุมมองสวย ๆ ของ คุณ ชานมชงเอง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้เดินทางไปสัมผัสอากาศเย็น ๆ ณ เขาค้อ อย่างใกล้ชิดมาให้ชมจ้า ^___^






จากวันนั้นถึงวันนี้ มันคงเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมได้ทำอะไรในแบบที่ผมรัก ในแบบที่ผมรู้สึกสนุก และอยู่ในมุมมองที่ผมรู้สึกดี ^^ มันคงเป็นความรัก ความรักที่ทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้นและได้ทำอะไรแบบนั้น ความรักที่ไม่ได้เติบโตตามเวลาที่เพิ่มขึ้น แต่ความรักที่ผมได้เจอ มันเติบโตตามความรู้สึกดี ๆ ที่เพิ่มขึ้นต่างหาก และหนึ่งปลายทางสำคัญที่ทำให้ความรักของผมค่อย ๆ เติบโต นั่นคือ จังหวัดเพชรบูรณ์ และแน่นอนเขาค้อคือปลายทางที่สำคัญ โดยในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ผมไปที่นี่ถึง 14 ครั้ง
ผมชอบที่จะไปใช้เวลาพักผ่อนที่นี่ และรอลุ้นการได้เห็นทะเลหมอกในตอนเช้าจากระเบียงบ้านเสมอและทางผ่านที่ผมมักใช้ในการเดินทางไปเขาค้อ นั่นคือ ทางหลวงหมายเลข 12 ที่ผ่านแคมป์สนเข้าอำเภอเขาค้อ
ผมชอบที่นี่มาก ^^ แวะทุกครั้งที่ได้ไปเที่ยวเขาค้อ มันคือทางผ่านที่จะไม่ใช่ทางผ่านอีกต่อไป เพราะในวันนี้มันจะเป็นปลายทางหลัก ปลายทางที่ทำให้ผมและใครที่ได้เห็นหลงรักที่นี่อย่างแน่นอน กับเส้นทางการท่องเที่ยว วิวทางหลวงหมายเลข 12 แคมป์สน-เขาค้อ ที่จะสวยที่สุดในความทรงจำของผมในตอนนี้ !!!!
.jpg)
เส้นทางของผมเริ่มต้นจากตัวเมืองเพชรบูรณ์มุ่งหน้าขึ้นสู่หล่มสัก เจอ 4 แยกใหญ่ เรียกว่าสี่แยกพ่อขุนผาเมือง เลี้ยวซ้ายตามถนน 12 (ถ้าเลี้ยวขวาจะไป อช.น้ำหนาว/ขอนแก่น) ขับมาเรื่อย ๆ (ผ่านแยกขวาที่มุ่งหน้าสู่ภูทับเบิก/ภูหินร่องกล้า) ก็ไม่ต้องเลี้ยวไปไหน ให้ตรงมาเรื่อย ๆ ตามรอยจุดสีดำกลม ๆ เลยเราจะเรียกจุดดำกลม ๆ ที่เรียงกันว่าเส้นทางการท่องเที่ยวแคมป์สน-เขาค้อ ทางหลวงหมายเลข 12
.jpg)
ทางหลวงที่ผมขับรถผ่านนับสิบครั้งในรอบ 3 ปี ทำให้นึกถึงตอนนั้นครั้งแรกที่มาเขาค้อ ^^ ผมบอกเพื่อนว่ามันเป็นถนนที่สวยที่สุดที่เคยได้เห็น ทำไมมันสวยขนาดนี้ สองข้างทางที่ผมได้เห็นมันเต็มไปด้วยสิ่งที่ผมรักและรู้สึกดีเสมอ
.jpg)
.jpg)
และถ้าวันไหนที่เราขับรถผ่านมาบนถนนเส้นนี้ตอนเช้า ๆ อาจจะเห็นสายหมอกสีขาวตลอดสองข้างทาง มันเป็นสัญญาณที่บอกว่าวันนี้คุณจะเป็นคนที่โชคดีมาก
.jpg)
ขับรถขึ้นเขามาเรื่อย ๆ ประมาณคร่าว ๆ 10 กิโลเมตร (หลักกิโลเมตรที่ 338-339 อยู่ด้านขวามือ) จะเจอจุดชมวิวเป็นที่ตั้งของร้านกาแฟและของว่างที่ผมรักมาก "ร้านคืนชีวิตให้แผ่นดิน"
.jpg)
.jpg)
ผมมักใช้เวลาที่นี่ประมาณ 1-2 ชั่วโมง นั่งชมวิวพร้อม ๆ กับทานชานมปั่นอยู่กับบรรยากาศดี ๆ มันเป็นวิวข้างทางที่ทำให้เรารู้สึกเราโชคดีเสมอ
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
ได้ใช้เวลากับทุกสิ่งทุกอย่างที่เรารัก อยู่ในบรรยากาศที่ทำให้เรามีความสุขแม้จะเป็นแค่วิวข้างทางก็ตาม ^^
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
เดินเล่นไปเรื่อย ๆ ไปเจอเจ้านี้สองตัว เลยป้อนหญ้าให้กินกันซะหน่อยกับไอ้สี่ขาที่เป็นมิตรกับผมเสมอ ไม่เคยเห่า ไม่เคยทำให้ผมรู้สึกกลัวมันเลยมันคงอยากจะบอกผมว่ารออีกหน่อย อย่าเพิ่งไปเพราะฝนกำลังจะมา
.jpg)
.jpg)
แล้วฝนก็มา แล้วพาบางอย่างที่เคยหายไปให้กลับมาอีกครั้ง แม้จะเป็นสายหมอกแบบเบา ๆ แต่ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะไม่รักมัน
.jpg)
มันเป็นสายหมอกแห่งชีวิต เจ้าของที่นี่เลยตั้งชื่อร้านว่าคืนชีวิตให้แผ่นดิน ใครก็ตามที่มาเจอบรรยากาศแบบนี้จะต้องรู้สึกแบบนั้นแน่นอน อย่างน้อยมันก็ทำให้ใครที่มาด้วยกันรักกันมากขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล
.jpg)
.jpg)
มันเป็นบรรยากาศที่ทำให้ความรักทำงานจริง ๆ อย่างน้อยก็เป็นความรักที่บริสุทธิ์ต่อธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น และทำให้รู้สึกเย็นขึ้นโดยไม่ต้องนั่งอยู่ในห้องแอร์หรือเปิดพัดลม
.jpg)
.jpg)
ตอนนี้ลมแรงขึ้นเรื่อย ๆ สายหมอกเริ่มเปลี่ยนไปตามกระแสลม แต่มันก็ไม่ทำให้ผมละสายตาไปไหน เพราะสิ่งนี้คือสิ่งที่ผมชอบ "การได้เฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของมัน"
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
เหตุผลที่ไม่อยากให้พลาด ก็เพราะวิวแบบนี้ บรรยากาศแบบนี้ถ้าผ่านแล้วไม่ได้แวะมันจะต้องรู้สึกเสียใจอย่างแน่นอน
.jpg)
.jpg)
อีกหนึ่งจุดชมวิวที่มีของว่างและชานมปั่นให้ผมได้ทานอยู่เสมอ วิวแบบนี้มันทำให้กินชานมปั่นจนเลี่ยน พาลอ้วกได้เลย ฮ่า ๆๆๆๆๆๆ
.jpg)
.jpg)

ก็เพราะเพิ่งกินมาจากร้านตะกี้ไง เคยมีครั้งหนึ่งท้องอืดข้ามวันไปเลย เพราะแวะร้านไหนก็ซื้อแต่ชานมปั่น จริง ๆ มาตรงนี้ ไม่ต้องซื้ออะไรทานก็ได้ แต่ก็อยากบำรุงสถานที่นะครับ ถ้าเราไม่ซื้อต่อไปเขาคงไม่มีไว้บริการแน่ ^^
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
ให้อยู่ทั้งวันก็ยอมนะ มันเป็นบรรยากาศที่พิเศษจริง ๆ เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่เรากับภูเขาจะได้อยู่ด้วยกันแบบใกล้ชิดมาก
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
นึกถึงวันนั้นยังเจ็บใจไม่หาย ทำไมผมไม่ขับรถขึ้นไปตรงวิวจุดสูงของวัดผาซ่อนแก้วผมคงได้เห็นวิวที่สวยชนิดที่ไม่ทำให้ค้างคาใจ เพราะหลังจากนั้นก็ไม่เคยเห็นแบบนี้อีกเลย ฮ่า ๆ คงเพราะยังมาเขาค้อไม่มากพอ ถ้าได้ไปอีกครั้งตอนฝนเยอะ ฝนหนักแบบตอนนั้นยังไงมันก็ต้องเห็นแน่ ๆ ผมภาวนาให้มันเป็นแบบนั้น ^^
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)

.jpg)
แต่พอขับรถมาใกล้ ผาซ่อนแก้วกลับยิ่งใหญ่มากกกกกกกกก ตัวคนเล็กนิดเดียว นี่แหละครับความยิ่งใหญ่ของแรงศรัทธาที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติของขุนเขา
.jpg)
.jpg)
.jpg)
ที่นี่มีกิจกรรมค่อนข้างเยอะ ร้านก็เยอะ คนก็เยอะ เยอะมากกกกกกก ที่นี่เหมาะกับคนที่ชอบถ่ายรูปนะครับ มีอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ได้เก็บภาพกลับบ้านไป คงไม่ค่อยเหมาะกับผมนัก แต่วิวภูเขาด้านหลังก็ทำให้ผมต้องมาที่นี่ให้ได้
.jpg)
.jpg)
ถัดกับรูท 12 หรือติดกันเลยจะเจอจุดชมวิวที่นี่เข็กน้อย เป็นร้านค้าริมทางที่ขายของน่ารักของชาวเขา แต่ผมสนใจวิวบรรยากาศด้านหลังมากกว่า มันสวยมาก บรรยากาศตอนกลางวันนี่เริ่มร้อนอบอ้าวแหละ
.jpg)
แอบเข้าไปดูเพราะอยากรู้ว่าตรงนี้มีบ้านพักหรือเปล่า แต่ไม่มีซะงั้นถ้าได้ตื่นนอนแล้วเห็นวิวด้านหลังเต็มไปด้วยทะเลหมอกสีขาวจาง ๆ คงดีไม่น้อย
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
วิวข้างทางที่วันนั้นผมพาแม่มาเที่ยวเขาค้อ แล้วผ่านจุดนี้ชมวิวตรงนี้ในเช้าวันนั้น ไม่น่าเชื่อที่เราสองคนจะได้เห็นจุดชมวิวข้างทางที่มีทะเลหมอกสีขาวปรากฏให้ได้เห็น
.jpg)
.jpg)
มันเป็นจุดชมวิวที่ทำให้ผมต้องหยุดรถ แล้วรู้สึกต้องกลั้นหายใจเลย เพราะรู้สึกมันบางเบา ถ้าลมพัดมาทีเดียวมันคงหายไป และหลังจากนั้นผมก็กลับมาที่นี่ 2-3 ครั้ง แต่ก็ไม่ได้เห็นทะเลหมอกแบบนี้เลย
.jpg)
.jpg)
พูดถึงเพชรบูรณ์ทีไรก็นึกถึงแต่เขาค้อ แล้วก็นึกถึงทะเลหมอกริมอ่างเก็บน้ำรัตนัย ที่ตำบลเขาค้อ มันคือแรงบันดาลใจให้ผมรู้จักที่นี่ และเป็นความทรงจำดี ๆ ที่ทำให้ผมได้เฝ้ารอ รอคอยบางอย่างที่ผมรักอยู่เสมอ มีลานชมวิวทะเลหมอกริมทางที่ตำบลเขาค้อ หรือจะไปดูตรงไปรษณีย์เขาค้อก็ได้
.jpg)
.jpg)
ความรู้สึกพอได้เห็นทะเลหมอก มันรู้สึกหัวใจพองโต รู้สึกสัมผัสได้ถึงความสุขแม้จะเป็นช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมงก็ตาม มันเลยทำให้ทุกครั้งที่มาเที่ยวที่เพชรบูรณ์ ผมมักไปที่ตำบลเขาค้อ แหล่งชมวิวทะเลหมอกตลอดปีของที่นี่เสมอ มีทะเลหมอกให้ดูจากหน้าบ้าน และมีบ้านพักให้เลือกมากมาย แค่ตื่นขึ้นมาทะเลหมอกก็มารออยู่หน้าบ้านแล้ว
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
ไม่ว่าจะเป็นที่เขาค้อทะเลหมอกรีสอร์ท หมอกสวยฟ้าใสรีสอร์ท หรือจะเป็นที่นี่ "เขาค้อสวิส" ที่มาตั้งสองรอบสองครั้งก็ยังไม่ได้เจอทะเลหมอก แต่ที่ แทนรักทะเลหมอก แค่แวะมาทานกาแฟแต่ทะเลหมอกจัดเต็มมาก ๆ คล้ายกับที่ ภูอาบหมอกรีสอร์ท ที่ทำให้ผมรู้สึกโชคดีจังที่ได้เห็นสิ่งที่ผมรักอีกครั้ง แล้วผมก็มาย้ำอีกรอบปลายปีที่ บายเมือง ณ เขาค้อ ^^ เป็นเช้าที่ทำให้รู้สึกดีจริง ๆ
.jpg)
.jpg)
แล้วก็ที่ก็ทำให้เขาค้อฤดูฝนสวยงามอีกครั้ง ที่ ภูชิดหมอกรีสอร์ท สองครั้งกับการมาที่นี่ ^^ และมีครั้งหนึ่งที่ผิดหวัง และครั้งหนึ่งที่รู้สึกโชคดี !!!

แต่วันนี้ปลายทางของผมคงไม่ใช่การรอดูทะเลหมอกรอบริมอ่างเก็บน้ำรัตนัยแบบที่เคยทำ เพราะสิ่งที่ผมค้นหาในวันนี้มันคือ น้ำตกหมอก พิกัดมันคือแคมป์สน-ริมถนนทางหลวง 12- เขาค้อ ปล. ภาพนี้ถ่ายมาจากร้านกาแฟคืนชีวิตให้แผ่นดิน
.jpg)
.jpg)

ดังนั้น เราขับรถออกจากเขาค้อมุ่งหน้าเดินทางไปยังแคมป์สน-วิวถนน 12 กัน คงมีอะไรให้เราได้ท้าทายและได้เฝ้าดูกับสิ่งที่เรายังไม่เคยได้เห็น และเย็นนี้เราคงต้องหาบ้านพักนอนที่โซนนี้กัน เพื่อรอดูน้ำตกหมอกว่าจะสวยแค่ไหน ? แต่ลุ้นให้ฝนตกก่อนดีไหม ? นอนไหนดีนะ ? จะเป็นค้อคีรินที่มองเห็นวิวผาซ่อนแก้วแบบเต็ม ๆ หรือจะนอนที่ภูฟ้าใสรีสอร์ท แต่ต้องเป็นบ้านริมสุดที่มองเห็นวิวผาซ่อนแก้วได้ชัดสุดเท่านั้น หรือจะไปนอนที่ร้านคืนชีวิตให้แผ่นดิน แต่ตอนนั้นยังไม่มีบ้านพักเลย แต่ตอนนี้นาทีนี้มีบ้านพักเรียบร้อยแล้ว
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
จริงๆ ผมมีเป้าหมายที่พักในใจแล้ว แต่ตอนนั้นมันยังไม่ได้สร้างแต่ตอนนี้มันพร้อมมากแค่รอวันไปแค่นั้นเองแต่ที่นี่มันก็เหมาะที่จะได้เห็นบรรยากาศดีดีของขุนเขา และใกล้จุดชมวิวน้ำตกหมอก (ถ้ามันมานะ) อย่างน้อยฝนก็มาช่วงหัวค่ำใกล้ ๆ มืด แต่ก็ตกได้แค่นิดหน่อยพอเปียก !!! ไม่เป็นไรไว้ลุ้นกันพรุ่งนี้ไปเลยดีกว่า ^^

.jpg)
แล้วเช้าวันนั้นก็มาถึง ผมตื่นแต่เช้ามองจากระเบียงบ้านแล้วไม่เห็นอะไร ใจคอไม่ดี ^^ (เว่อร์ไปนิดแต่ก็ประมาณนี้) คิดว่าไม่ใช่วันที่ดีแน่ ๆ แต่ผมก็รอ คิดว่าคงมาช้าแล้วมันก็มาช้าจริง ๆ
.jpg)
.jpg)
.jpg)
แม้จะไม่ได้เห็นทะเลหมอกแบบที่คาดไว้ แต่มันก็ทำให้รู้สึกหัวใจพองโตทุกครั้งนี่ละมั้ง ความรักที่เติบโตด้วยความรู้สึกดี ๆ ที่เพิ่มขึ้น และมันก็ยังเป็นความรักที่เติบโตด้วยความรู้สึกดี ๆ ที่เพิ่มขึ้นที่ทำให้ใครหลายคนได้รู้สึกดีต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นความรักที่เคยเกิดขึ้น หรือความรู้สึกดี ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ผมอยากจะให้เป็นความรู้สึกแบบนี้ไปอีกนานแสนนาน ก่อนที่ทุกอย่างจะผ่านไป เราขับรถไปยังปลายทางหลักของการเดินทางในวันนี้ นั่นก็คือ ร้านคืนชีวิตให้แผ่นดิน ที่เมื่อวานตอนเช้าเราได้แวะไปแล้วครั้งหนึ่ง

.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
มันเป็นคำถามที่ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงชอบสีเขียวและทำไมถึงรักภูเขาได้ขนาดนี้ และคงมีคำตอบบางอย่างที่ทำให้มวลไอน้ำได้เริ่มก่อตัวทีละนิด แม้มันจะดูน้อยนิด แต่ผมก็มั่นใจว่าอีกไม่กี่อึดใจมันจะสวยงามที่สุด และทำให้ผมลืมคำว่าทางผ่านบนถนนสายนี้ไปจากความทรงจำเก่า ๆ ของผมหรือใครหลายคนได้เลย

.jpg)
ความทรงจำเก่า ๆ ของทางผ่าน คงเหมือนแค่ทางที่เราได้บังเอิญรู้จัก และแค่ได้บังเอิญผ่านมามันอาจจะเหมือนกับศาลารอรถประจำทางที่มีไว้ตอนหลบฝน รอรถ หลบแดด และใช้เวลาให้น้อยที่สุด แล้วก็เดินทางจากไป ^^ หรือบางทีมันเหมือนกับตอนที่เราหิวในตอนเดินทาง แล้วก็แวะร้านอาหารข้างทางอาจจะเป็นเส้นเล็กต้มยำ น้ำเย็นสักแก้ว กินพออิ่มแล้วสักพักก็เดินจากกันไป แต่สำหรับผมตอนนี้ วินาทีนี้ที่นี่มันคือปลายทางหลักสำหรับทริปนี้ ปลายทางที่เฝ้ารอเป็นปลายทางที่รอคอยบางอย่างให้มันเกิดขึ้น และสุดท้ายมันก็เกิดขึ้น ^^


.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
แม้มันจะเคยเกิดขึ้น แต่มันคงไม่ได้สำคัญเท่ากับการโฟกัสมันดีใจที่เลือกแคมป์สน แม้จะเป็นวิวริมถนนแต่มันอิ่มเต็มร้อยมาก ๆ

และถ้ามันเป็นความทรงจำในตอนนั้น มันคงทำให้ความทรงจำในตอนนี้สวยที่สุดเท่าที่ผมจำได้เรื่องหนึ่ง กับทางผ่านที่สวยที่สุดในใจผม



ทั้งที่ตอนแรกสายหมอกแทบไม่มี แต่สุดท้ายมันก็เยอะมาก ฟูฟ่องเต็มไปหมดวิวที่พิเศษที่คู่ควรกับใครหลาย ๆ คนที่รู้สึกรักขุนเขา และรู้สึกดีกับสายหมอกสีขาว


ใครจะไปคิดว่าชานมปั่นแก้วละ 45 บาท กับวิวแบบนี้ทำให้คุณลืมไปเลยว่าตอนนี้หิวแล้วผมถ่ายภาพเก็บบรรยากาศไปเรื่อย ๆ แม้จะเป็นวิวมุมเดิม ๆ องศาเดิม ๆ แต่นั้นแหละที่บอกว่าความสุขมันก็แค่นี้เอง

และถ้าความสุขมันอยู่แค่นี้ บรรยากาศของภาพนี้คงเป็นตัวแทนความรู้สึกดี ๆ ที่จะทำให้ใครหลายคนรักเขาค้อมากขึ้น และไม่คิดว่าแคมป์สนคือทางผ่านอีกต่อไป !!!




ทางผ่านกับวิวข้างทางที่สวยชนิดที่ว่าลืมทะเลหมอกที่ตำบลเขาค้อไปเลย กลับมาหลงรักทะเลหมอกที่แคมป์สนแทนก็คราวนี้


แม้จะไม่มีอะไรที่แน่นอน แต่อย่างน้อยเช้าวันนั้นกับข้าวต้มร้อน ๆ มันก็ทำให้ความทรงจำของวันนี้ส่งต่อไปได้อีกหลายปีอย่างแน่นอน

อย่างน้อยครั้งหนึ่งผมเคยผ่านมา ผ่านไปเลยไป แต่สุดท้ายผมก็กลับมาอีกครั้ง แล้วก็ไม่เคยให้มันผ่านเลยไป

ผมใช้เวลาเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของสายหมอกที่นี่อย่างมีความสุข อิ่ม และประทับใจกับบรรยากาศราวกับความฝัน ที่ครั้งหนึ่งมันเคยเกิดขึ้นและยังคงเกิดขึ้น ความฝันที่ครั้งหนึ่งมันเป็นเพียงแค่ทางผ่านและทำให้เราทำอะไรบางอย่างหายไปทุกครั้งที่ผ่านทางหลวงสายนี้ อาจจะเป็นช่วงเวลาที่เราเคยหลบฝนที่ใดที่หนึ่งตอนที่ฝนเทลงมา หรือจะเป็นตอนที่เราทำอะไรเรื่อยเปื่อยเพื่อฆ่าเวลาให้หมดไป เพื่อรอคอยใครสักคนที่ไม่เคยรู้จักกัน แล้วอยู่ดี ๆ ฝนที่ทำท่าจะตกราวกับพายุเข้าก็ได้หยุดไปเหมือนสั่งได้ พร้อมกับการปรากฏตัวของใครคนหนึ่งที่เราคุ้นเคยแต่ไม่เคยรู้จัก แต่กลับทำให้รู้สึกอิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูก ^^




เหมือนกับครั้งหนึ่งที่ทางผ่านเป็นได้แค่เพียงทางผ่าน แต่ตอนนี้มันคือปลายทางหลักของความทรงจำที่ผมที่ความคิดถึง และยังคงทำงานอยู่เสมอ

เมื่อสายหมอกโอบกอดขุนเขา:::ทางผ่านที่ไม่เคยผ่านไป @ ทางหลวง 12 แคมป์สน-เขาค้อ

อีกหนึ่งพื้นที่ของความทรงจำที่สวยที่สุดในวันนี้ ทางหลวงหมายเลข 12 แคมป์สน-เขาค้อ @ ประเทศไทย

ของฝาก ^^ ชานมไกด์ไลน์หน้าฝนเที่ยวไหนดี !!! 40 วิวเขาทั่วไทย ^^


สำหรับเพื่อนที่ชอบภูเขา และหลงรักสายหมอกแวะมาทักทายกันได้นะครับ แล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ ^^
เฟซบุ๊ก chanomworld
