
ข้อมูลและภาพประกอบโดยกระปุกดอทคอม
วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ นักเดินทางที่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอันแสนสงบ ไม่วุ่นวาย และไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก อีกทั้งยังมีกิจกรรมให้เลือกทำหลากหลาย วันนี้กระปุกท่องเที่ยวขอแนะนำทริปท่องเที่ยวสั้น ๆ ที่สามารถไปในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้ นั่นคือ จันทบุรี แต่ที่จังหวัดนี้จะมีอะไรให้ท่องเที่ยว ลิ้มลอง และค้นหากันบ้าง ก็ตามเราไปเที่ยวจันทบุรีเลยจ้า



เฮ้อ! อิ่มท้องแล้วก็ได้เวลาไปเที่ยวแล้วจ้า โดยสถานที่แรกที่เราจะพาไป ก็คือ ศาลหลักเมือง ตั้งอยู่บนถนนท่าหลวง บริเวณหน้าค่ายตากสิน เพื่อไปไหว้ขอพรเพื่อเป็นสิริมงคล ก่อนจะข้ามไปไว้สักการะ ศาลสมเด็จพระเจ้าตกสินมหาราช ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่พระองค์ทรงกอบกู้เอกราชให้แก่แผ่นดินไทย


ต่อด้วยเข้าไปชมประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ณ ค่ายตากสิน ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 1 กองพลนาวิกโยธิน เหตุเพราะกองทหารฝรั่งเศสได้ตั้งค่ายทหารขึ้นภายในบริเวณนี้ รวมทั้งได้สร้างสิ่งก่อสร้างอีกหลายหลัง โดยปัจจุบันหลักฐานร่องรอยต่าง ๆ ทางประวัติศาสตร์ยังคงปรากฏให้เห็นอยู่ภายในบริเวณค่ายตากสินเท่านั้น เช่น อาคารกองบัญชาการของทหารฝรั่งเศส แนวคันดินและคูเมืองสมัยพระเจ้าตากสิน อาคารคลังพัสดุของทหารฝรั่งเศส ฯลฯ ซึ่งเราได้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์เหล่านี้จาก พันจ่าเอกองอาจ มาศแสวง ไกด์กิตติมศักดิ์ที่มาบรรยายให้ฟังเพลิน ๆ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.taksincamp.org)



จากนั้นก็ไปชม อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล หรือที่เรียกกันว่า วัดคาทอลิกจันทบุรี ตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียนสตรีพิทักษ์ ตำบลจันทนิมิตร อำเภอเมือง นับเป็นศูนย์รวมของชุมชนคาทอลิกที่มีประวัติมายาวนาน สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2254 บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจันทบุรี โดยคุณพ่อเฮิ้ต โตแลนติโน และบรรดาคาทอลิกชาวญวน จนถึงปี พ.ศ. 2377 ได้มีการย้ายมาสร้างบนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจันทบุรีอันเป็นสถานที่ตั้งในปัจจุบัน อีกทั้งยังมีความงามของสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบโกธิค และภายในตกแต่งด้วยลวดลายฉลุ กระจกสเตนกลาสหรือกระจกสี และภาพนักบุญต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นที่ประดิษฐานองค์พระนางมารีอาประดับพลอย 200,000 เม็ด หนึ่งเดียวในโลกอีกด้วย ซึ่งเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. ทั้งนี้ กรุณาแต่งกายให้สุภาพ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.cathedralchan.or.th)





ซึ่งนอกจากจะได้ชมความงดงามของอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมลแล้ว บริเวณใกล้ ๆ ยังมีชุมชนริมน้ำจันทบุรี ซึ่งมีทั้งไทย ญวน จีน ให้ได้ไปสัมผัสกับวิถีชีวิตริมน้ำ ที่ยังคงเรียบง่ายและดำเนินไปตามกาลเวลาได้อย่างลงตัว ซึ่งการเดินชมบ้านเรือน ร้านรวง หรือสถาปัตยกรรมของอาคารต่าง ๆ อาจจะทำให้เหนื่อยหอบ เพราะชุมชนมีพื้นที่กว้างพอสมควร การเช่าจักรยานปั่นกินลมเพลิน ๆ จึงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจ โดยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ร้านอาหารเวียดนาม ชุนชนวัดญวน โรมันคาทอลิก จ้า




เที่ยวกันทั้งวันแล้ว ก็ถึงเวลาไปพักกายกันซะที โดยเราเลือกพักที่ บ้านอิ่มสุข รีสอร์ท บริเวณหาดเจ้าหลาว ซึ่งมีบ้านพักให้เลือกทั้งแบบในสวนสุดร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อนภายใต้บรรยากาศที่เงียบสงบ และห้องพักริมทะเลในบรรยากาศบ้านสวนสวย ไม่ว่าจะเป็นบ้านอิ่มสุขริมรั้ว, บ้านอิ่มสุขบนฟ้า, บ้านอิ่มสุขกระจิดริด, บ้านอิ่มสุขริมสวน, บ้านอิ่มสุขเคียงคู่, บ้านอิ่มสุขรวมมิตร, บ้านอิ่มสุขริมคลอง, ห้องอิ่มสุขเคียงทะเล-คู่ และห้องอิ่มสุขเคียงทะเล-ครอบครัว รองรับได้ตั้งได้ 2-6 คน





ซึ่งทริปนี้เราเลือกใช้บริการ บ้านอิ่มชมทะเล ซึ่งรองรับได้ 4 คน โดยได้นำบ้านไม้หลังเก่ามาทำเป็นห้องพัก แถมยังตกแต่งสไตล์คลาสสิก เน้นเฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นหลัก ให้ความหวานด้วยการเพ้นท์ดอกไม้ลงบนผนัง จนกลายเป็นวอลเปเปอร์สุดแจ่มที่เข้ากันดีกับบรรยากาศของห้องพัก จึงทำให้มีกลิ่นอายวินเทจนิด ๆ นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่สีเขียวริมทะเลหาดเจ้าหลาว ให้ได้ผ่อนคลาย เล่นน้ำทะเล รับอากาศบริสุทธิ์อีกด้วย (ดูรายละเอียดของรีสอร์ทได้ที่นี่ www.baanimmsook.com)










เช้าวันใหม่ตื่นมาพร้อมกับสายฝนที่โปรยลงมาตลอดทั้งคืน แต่ก็ไม่ได้ทำให้เราหวั่นเกรงในการเดินทางออกไปเที่ยวเลย โดยเราเริ่มสตาร์ทกันที่ โอเอซีส ซีเวิลด์ ตั้งอยู่อำเภอแหลมสิงห์ ไปชมการแสดงโลมา 2 สายพันธุ์ไทย คือ โลมาปากขวดหรือโลมาสีชมพู และโลมาหัวบาตรหรือโลมาอิระวดี กับการแสดงที่มีเอกลักษณ์ในความเป็นไทย รับรองว่าดูไปอมยิ้มไปกับความน่ารักของเจ้าโลมาแน่นอน นอกจากนี้ ยังมีบริการให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำกับโลมาแบบเนื้อแนบเนื้อกันเลยทีเดียว หรือจะแค่ลงไปถ่ายภาพคู่กับโลมาเก๋ ๆ ก็ได้ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaioasisseaworld.com)





และไปกินข้าวกลางวันที่ ครัวเสม็ดแดง ร้านอาหารชื่อดังในย่านแหลมสิงห์ บรรยากาศสุดชิล เพราะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์แถบแหลมสิงห์ได้แบบเต็ม ๆ ตา อีกทั้งมีมุมให้เลือกนั่งตามใจชอบ ด้านรสชาติอาหารก็จัดจ้านถึงใจ มีเมนูให้เลือกลิ้มลองหลากหลาย ส่วนเมนูอาหารที่แนะนำว่าไม่ควรพลาด เช่น ปลาหมึกไข่นึ่งมะนาว, ปูผัดผงกะหรี่, ทะเลผัดฉ่า, ปลากะพงราดน้ำปลา, ทอดมันกุ้ง และต้มยำซีฟู้ด นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีบริการที่พักราคาถูกอีกด้วย (ดูรายละเอียดของร้านได้ที่ เฟซบุ๊ก อ่าวเสม็ดแดง แหลมสิงห์ จันทบุรี)

กินอิ่มแล้วก็ไปเที่ยวกันต่อ โดยเราแวะชมสถาปัตยกรรมสมัยฝรั่งเศส ณ ตึกแดง ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ ซึ่งได้ ลุงเล็ก มัคคุเทศก์ท้องถิ่น มาคอยบอกเล่าเรื่องราวของที่นี่ให้ฟังแบบละเอียดยิบ โดยถูกสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2436 สมัยรัชกาลที่ 3 เดิมเป็นที่ตั้งของป้อมพิฆาตปัจจามิตร ต่อมาเมื่อฝรั่งเศสเข้ายึดเมืองจันทบุรี และได้รื้อป้อมแห่งนี้ก่อนจะสร้างตึกแดงเพื่อเป็นที่พักและกองบัญชาการทหารฝรั่งเศส มีลักษณะชั้นเดียวทาสีแดงหลังคามุงกระเบื้อง แต่สิ่งหนึ่งนอกจากคุณค่าทางประวัติศาสตร์แล้ว ยังมีความมหัศจรรย์ซุกซ่อนอยู่ด้วย เพราะบริเวณตัวผนังด้านในสีเกิดหลุดลอกและปรากฏเป็นภาพคล้ายกับพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงของเรา O__O


ปิดท้ายทริปด้วยการไปเที่ยวสวนผลไม้ที่ วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรชุมชน กลุ่มรักษ์เขาบายศรี ตั้งอยู่ตำบลเขาบายศรี อำเภอท่าใหม่ โดยมีราคาต่อหัวเพียง 150 บาท เนื่องจากทุกปีช่วงเดือนพฤษภาคม-เดือนกรกฎาคม ชาวสวนจะเปิดให้นักท่องเที่ยวชมและชิมผลไม้กันถึงในสวนกันเลยทีเดียว ประมาณว่าเลือกเด็ด เลือกกินกันได้ตามใจชอบ โดยมีผลไม้ เช่น ทุเรียน สละ มังคุด เงาะ ลางสาด ระกำ ฯลฯ หรือดูรายละเอียดการเที่ยวสวนผลไม้ได้ที่ "เที่ยวริมฝั่งตะวันออก อร่อยทุกไร่ ชิมไปทุกสวน" อย่างไรก็ตาม นอกจากเที่ยวสวนผลไม้แล้ว ยังมีบริการโฮมสเตย์ให้เข้าพักกันด้วยจ้า










และนี่คือทริปเที่ยวจันทบุรีในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่เราหยิบมาแนะนำกัน แต่จริง ๆ แล้วจังหวัดจันทบุรียังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายให้ได้สัมผัสกัน เอาเป็นว่า...หากมีโอกาสก็อย่าทำให้จังหวัดนี้เป็นเพียงทางผ่าน ลองแวะไปเที่ยวกันดูบ้างนะจ๊ะ ^^
ทั้งนี้ สอบถามรายะเอียดต่าง ๆ ของจังหวัดจันทบุรีได้ที่ โทรศัพท์ 0 3931 9700 ต่อ 34722, 34729 และ ททท.สำนักงานระยอง (ระยอง จันทบุรี) โทรศัพท์ 0 3865 5420-1


การเดินทาง
รถยนต์ : จากกรุงเทพฯ สามารถไปได้ 5 เส้นทาง คือ





รถโดยสารประจำทาง



นอกจากนี้ เฟซบุ๊ก ท่องเที่ยวเมืองจันท์มันส์สนุกสุขใจ ยังมีกิจกรรมโดน ๆ ดี ๆ ให้ร่วมเล่นกันด้วย กติกาง่าย ๆ เพียงแค่เข้าไปกดไลค์ แชร์ และคอมเม้นท์ ก็สามารถลุ้นรับที่พักริมทะเลสุดชิลแบบฟรี ๆ กว่า 10 รางวัล งานนี้ขอบอกว่ายิ่งไลค์ ยิ่งแชร์ ยิ่งมีสิทธิ์นะจ๊ะ อ๊ะ ๆ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะ เพราะในเพจยังมีกิจกกรมแจ่ม ๆ ของรางวัลงาม ๆ รอคุณอยู่เพียบเลย :D
ขอขอบคุณข้อมูลจาก

