ฝนเทกระหน่ำเรือไปพีพีคว่ำ สั่งปิด "เขาสก" (เดลินิวส์)
เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม เกิดอุบัติเหตุเรือโดยสารรับส่งนักท่องเที่ยวระหว่าง จังหวัดภูเก็ต-เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ประสบอุบัติเหตุล่มกลางทะเลอันดามัน ที่บริเวณเกาะมูสัง อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา กับ จังหวัดภูเก็ต จึงนำเรือออกไปตรวจสอบและสามารถช่วยเหลือกัปตัน พร้อมลูกเรือทั้งหมด 5 คน และนำขึ้นฝั่งที่บริเวณท่าเทียบเรืออ่าวปอ อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ได้อย่างปลอดภัย
จากการสอบถามทราบเรือลำเกิดเหตุ ชื่อเรือคชามารีน เป็นเรือดัดแปลงมาจากเรือประมงขนาดกลางไว้รับส่งผู้โดยสาร ความยาวประมาณ 18 เมตร กว้าง 5 เมตร บรรทุกผู้โดยสารได้ประมาณ 24-26 คน โดยขณะที่เรือลำดังกล่าวกำลังเดินทางกลับจากส่งผู้โดยสารที่เกาะพีพีเรียบร้อยแล้ว แต่พอเดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุ ถูกคลื่นลมขนาดใหญ่ซัดน้ำเข้าเรือเป็นเหตุให้เรือค่อยๆ จมลงกลางทะเล ทำให้กัปตันและลูกเรือ ว่ายน้ำขึ้นเรือยางและได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย อย่างไรก็ดี ขณะนี้ในพื้นที่ จังหวัดภูเก็ต มีฝนตกหนักและลมพัดแรงอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ส่งผลให้คลื่นลมในทะเลแรง จนต้องมีการประกาศเตือนไม่ให้เรือเล็กออกจากฝั่ง อีกทั้งพายุคลื่นลมแรง ทำให้ป้ายโฆษณา ต้นไม้หักโค่น ได้รับความเสียหายจำนวนมาก
ก่อนหน้านี้ วันเดียวกัน ก็ได้เกิดเหตุดินทรุดและทำให้รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้ ที่บริเวณเขาสก ถนนสายตะกั่วป่า-สุราษฎร์ธานี หมู่ 1 บ้านท่าหัน ตำบลรมณีย์ อำเภอกะปง จังหวัดพังงา จึงไปตรวจสอบ พบว่าจุดแรกที่บริเวณเขาสก หลักกิโลเมตรที่ 14 ห่างจากยอดเขาลงมาทางฝั่งบ้านท่าหัน มีดินได้สไลด์ลงมาทับเส้นทาง มีระยะทางกว่า 100 เมตร จึงใช้เครื่องจักรกลปรับดินออกจากถนนจนรถผ่านได้ ส่วนอีกจุดบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 17 มีดินสไลด์ลงสู่เหวลึกกว่า 30 เมตร เป็นระยะทางยาวกว่า 200 เมตร จนทำให้ถนนพังเสียหายถูกตัดขาด และรถทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้ จนปิดเส้นทางการจราจร เพื่อความปลอดภัย
นายชัยฤกษ์ เมฆสุวรรณ ผอ.สำนักงานบำรุงทางพังงา เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ มีฝนตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ 10 กรกฎาคม จนถึงเช้าวันเดียวกันนี้ และขณะนี้ฝนก็ยังคงตกลงไม่หยุด ทำให้ดินที่อุ้มน้ำไว้จนเกิดรับน้ำหนักไม่ไหว และเกิดสไลด์ลงมา 2 จุด โดยเฉพาะจุดที่กำลังมีการก่อสร้างทำแนวกั้นทาง ซึ่งเป็นเหวลึก จนเกิดทรุดพังลงมา ถนนถูกตัดขาด รถไม่สามารถผ่านไปมาได้ จนต้องสร้างทางเบี่ยงชั่วคราวเพื่อให้รถผ่านไปมาได้ และขณะนี้ได้เตรียมอุปกรณ์เครื่องจักรกล และดินสำหรับบดอัดไว้พร้อมแล้ว แต่เนื่องจากฝนยังตกไม่หยุด ทำให้ไม่สามารถสร้างทางเบี่ยงได้ จึงให้รถทุกชนิดไปใช้เส้นทางหลวงสาย 415 (ทับปุด-เขาต่อ) ไปเชื่อมกับเส้นทาง 401 อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นการชั่วคราว และหากฝนหยุดตกจะเร่งสร้างทางเบี่ยง เพื่อให้รถผ่านไปได้ทันที
ขณะที่ในพื้นที่จังหวัดพังงา ฝนตกหนักทำให้เกิดนำท่วมขังในหลายพื้นที่ เช่นที่บ้านสวนใหม่ หมู่ 12 ตำบลคุระ อำเภอคุระบุรี เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนหลายหลัง ส่วนพื้นที่ตำบลรมณีย์ และเขตเทศบาล ตำบลท่านา อำเภอกะปง น้ำไหลท่วมถนนเลียบคลองท่าน เข้าท่วมบ้านเรือนเสียหายนับ 10 หลัง และที่หน้าโรงพยาบาลกะปงชัยพัฒน์ ตำบลตำตัว ตำบลบางไทร ตำบลโคกเคียน และเขตเทศบาล อำเภอตะกั่วป่า น้ำท่วมบ้านเรือนและถนนหลายสาย บางแห่งมีน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร รถทุกชนิดผ่านไปมาไม่ได้
นายละออง แก้วสามศรี หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดพังงา เปิดเผยว่า ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบในอำเภอต่างๆ ที่ประสบภัยจากน้ำท่วม เพื่อให้จัดเจ้าหน้าที่ออกไปให้ความช่วยเหลือแล้ว และเตรียมความพร้อมออกปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที ตลอดจนการแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตลอด 24 ชั่วโมง
ด้านนายไชยธัช บุญภูมิพันตันติ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสก อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า หลังจากเกิดฝนตกหนักภูเขาถล่มทับเส้นทางสายสุราษฎร์ธานี-ตะกั่วป่า ระหว่างกิโลเมตรที่ 116-117 ตำบลรมณีย์ อำเภอกะปง จังหวัดพังงา เขตอุทยานแห่งชาติเขาสก ทำให้รถไม่สามารถ ผ่านไปมาได้ และเกรงว่า อาจจะเกิดน้ำป่าไหลหลากในบริเวณอุทยานฯ จนอาจเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว จึงจำเป็นต้องประกาศปิดอุทยานฯ ชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่าเกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดสตูล จนทำให้น้ำไหลบ่าจากภูเขาเทือกเขาบรรทัด ท่วมบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายราว 70 หลังคาเรือน ขณะที่เหล่ากาชาด จังหวัดสตูล ได้นำข้าวสารอาหารแห้งไปมอบให้ชาวบ้านเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแล้ว
ขณะที่พื้นที่ สวน ไร่ นา บ้านเรือนประชาชน ตามแนวพื้นราบแนวเทือกเขาบรรทัด ในอำเภอย่านตาขาว และอำเภอปะเหลียน และถนนหนทางในพื้นที่หลายตำบลของจังหวัดตรัง ถูกน้ำไหลเข้าท่วมหนัก จนต้องจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ส่วนที่จังหวัดระนอง เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ใน 2 อำเภอ คืออำเภอกะเปอร์ และอำเภอสุขสำราญ ถนนหลายเส้นถูกตัดขาด กระแสไฟฟ้าดับ ในเบื้องต้นพบว่ามีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 2,103 ครัวเรือน
ด้านนายคม ชัยภักดี หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอาวุโสเขาบรรทัด ได้ประกาศห้ามนักท่องเที่ยวและชาวบ้านในพื้นที่ อำเภอนาโยง อำเภอย่านตาขาว และอำเภอปะเหลียน ลงเล่นน้ำตก 6 แห่ง ได้แก่ โตนเต๊ะ, โตนตก, ไพรสวรรค์, สายรุ้ง, กะช่อง และลำปลอก โดยเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำตกสายรุ้งและน้ำตกไพรสวรรค์ ที่เคยเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากคร่าชีวิตนักท่องเที่ยวมาแล้ว 39 ศพ เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา รวมถึงน้ำตกโตนเต๊ะ ที่ตอนนี้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปกติไหลบ่ารุนแรง และบางช่วงเริ่มเปลี่ยนสี จึงเกรงว่าจะเป็นอันตรายกับนักท่องเที่ยว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก dnp.go.th
