ปาตาโกเนีย (Patagonia) ณ อาณาเขตใต้สุดของโลก ระหว่างประเทศอาร์เจนตินาและชิลี ดินแดนท่องเที่ยวที่ผสมผสานความเป็นธรรมชาติเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
ใครจะเชื่อว่าบนโลกนี้จะมีดินแดนสวรรค์ที่รวมเอาทะเลสาบ ทุ่งหญ้า และธารน้ำแข็ง มาอยู่ร่วมกันได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ประมาณว่าอุณหภูมิติดลบ แต่มีแสงแดดส่องรำไร ใช่แล้ว เรากำลังเอ่ยถึง ปาตาโกเนีย (Patagonia) อาณาเขตใต้สุดของโลก โดยกั้นพรมแดนเป็นแนวยาวระหว่างประเทศอาร์เจนตินาและชิลี สถานที่ที่ดึงดูดนักผจญภัยรอให้ไปสัมผัสอยู่เสมอ นั่นแน่ ! อยากยลโฉมความงดงามของดินแดนขอบโลกอย่างปาตาโกเนียแล้วใช่ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้นก็ตามเราไปเที่ยวกันเลย
ปาตาโกเนียอยู่ที่ไหน
ภูมิภาคปาตาโกเนีย (Patagonia) ตั้งอยู่ปลายใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้ ครอบคลุมพื้นที่ในประเทศอาร์เจนตินาและชิลี มีเทือกเขาแอนดีสเป็นปราการสำคัญ โดยเขตตะวันตกอยู่ติดกับเทือกเขาแอนดีสและมหาสมุทรแปซิฟิก ประกอบไปด้วยภูเขาสูงปกคลุมด้วยป่าไม้ และทะเลสาบ มีธารน้ำแข็งกระจัดกระจายอยู่โดยรอบ ส่วนเขตตะวันออกอยู่ติดกับมหาสมุทรแอตแลนติก
จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเยือนจะอยู่บริเวณ Los Glaciares National Park (ทางฝั่งอาร์เจนตินา) เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่ โดดเด่นด้วยธารน้ำแข็งขนาดยักษ์ อีกทั้งยังได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (Unesco) ในปี ค.ศ. 1981 และ Torres Del Paine National Park (ทางฝั่งชิลี) เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีภูเขา ธารน้ำแข็ง ทะเลสาบ แม่น้ำ และผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ ถูกเรียกขานว่าชิเลียน ปาตาโกเนีย (Chilean Patagonia)
ที่มาของชื่อ Patagonia
สำหรับชื่อเรียก "ปาตาโกเนีย" (Patagonia) มีที่มาจากนักเดินเรือสำรวจชาวสเปน เชื้อชาติโปรตุเกส เฟอร์ดินันท์ มาเกยัน พบเจอดินแดนสวรรค์แห่งนี้จากการออกเดินทางสำรวจโลก และสร้างสรรค์ชื่อเรียกให้มันว่า Patagonia
สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ
สิ่งที่ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวจากต่างแดนแวะเวียนมาถึงปาตาโกเนีย นั่นก็คือ ธารน้ำแข็งเปอริโต โมเรโน (Perito Moreno) ซึ่งเสมือนเป็นสัญลักษณ์สำคัญของสถานที่แห่งนี้ ความงดงามตระการตาของก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมาที่อยู่รวมกันคล้ายกำแพงสีขาว
การันตีความอลังการได้ด้วยตำแหน่งธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก มีความยาวกว่า 30 กิโลเมตร ความกว้าง 5 เมตร สูงจากพื้น 60 เมตร และลึกลงไปอีกกว่า 100 เมตร ที่สำคัญเขาเปิดให้เข้าไปสัมผัสใกล้ ๆ ได้อีกด้วย รับรองได้เลยว่าถ้าได้เข้าไปเห็นน้ำแข็งสีขาว แซมด้วยประกายสีฟ้าจากน้ำทะเล ที่แทรกตัวอยู่ในก้อนน้ำแข็งแล้วละก็ ปาตาโกเนียจะเป็นความประทับใจไม่รู้ลืมแน่นอน
อย่างไรก็ตามเนื่องด้วยสภาพภูมิภาคอยู่ในเขตสุดขอบโลก ที่มีทั้งมหาสมุทร ธารน้ำแข็ง เทือกเขา ทะเลสาบ และทุ่งหญ้า ปาตาโกเนียจึงเป็นตัวอย่างของธรรมชาติที่พึ่งพาอาศัยกันและอยู่ร่วมกันได้อย่างสมดุล ทั้งนี้ นอกจากธารน้ำแข็งแล้วยังมีดอกไม้นานาชนิดสีสันสดใส พื้นหญ้าสีเขียวสลับกับความแห้งแล้งสีน้ำตาลเป็นระยะ มีทั้งสัตว์ป่าและนกเพนกวินที่อยู่ในอาณาเขตเดียวกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ
กิจกรรมที่น่าสนใจเมื่อมาเยือนปาตาโกเนีย นั่นคือการล่องเรือชมธารน้ำแข็ง ชมฝูงเพนกวิน ดูวิถีชีวิตแมวน้ำ เดินป่าดูสัตว์ แวะชมดอกไม้ สูดอากาศสดชื่นริมทะเลสาบ นอกจากนี้ยังมีเกาะเล็ก ๆ รูปหัวใจอยู่กลางทะเลสาบกูเตียเรซ (Gutierrez) ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นเป้าหมายของนักท่องโลกหลายคน ที่น่าลองไปดูสักครั้งจริง ๆ
เตรียมตัวก่อนเดินทาง
- ตะลุย Patagonia สุดขอบโลกที่ธรรมชาติรังสรรค์ความงาม
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
quasarex.com, theguardian.com, onelyplanet.com และ travel.usnews.com
ปาตาโกเนียอยู่ที่ไหน
ภูมิภาคปาตาโกเนีย (Patagonia) ตั้งอยู่ปลายใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้ ครอบคลุมพื้นที่ในประเทศอาร์เจนตินาและชิลี มีเทือกเขาแอนดีสเป็นปราการสำคัญ โดยเขตตะวันตกอยู่ติดกับเทือกเขาแอนดีสและมหาสมุทรแปซิฟิก ประกอบไปด้วยภูเขาสูงปกคลุมด้วยป่าไม้ และทะเลสาบ มีธารน้ำแข็งกระจัดกระจายอยู่โดยรอบ ส่วนเขตตะวันออกอยู่ติดกับมหาสมุทรแอตแลนติก
จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเยือนจะอยู่บริเวณ Los Glaciares National Park (ทางฝั่งอาร์เจนตินา) เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่ โดดเด่นด้วยธารน้ำแข็งขนาดยักษ์ อีกทั้งยังได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (Unesco) ในปี ค.ศ. 1981 และ Torres Del Paine National Park (ทางฝั่งชิลี) เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีภูเขา ธารน้ำแข็ง ทะเลสาบ แม่น้ำ และผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ ถูกเรียกขานว่าชิเลียน ปาตาโกเนีย (Chilean Patagonia)
ที่มาของชื่อ Patagonia
สำหรับชื่อเรียก "ปาตาโกเนีย" (Patagonia) มีที่มาจากนักเดินเรือสำรวจชาวสเปน เชื้อชาติโปรตุเกส เฟอร์ดินันท์ มาเกยัน พบเจอดินแดนสวรรค์แห่งนี้จากการออกเดินทางสำรวจโลก และสร้างสรรค์ชื่อเรียกให้มันว่า Patagonia
สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ
สิ่งที่ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวจากต่างแดนแวะเวียนมาถึงปาตาโกเนีย นั่นก็คือ ธารน้ำแข็งเปอริโต โมเรโน (Perito Moreno) ซึ่งเสมือนเป็นสัญลักษณ์สำคัญของสถานที่แห่งนี้ ความงดงามตระการตาของก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมาที่อยู่รวมกันคล้ายกำแพงสีขาว
การันตีความอลังการได้ด้วยตำแหน่งธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก มีความยาวกว่า 30 กิโลเมตร ความกว้าง 5 เมตร สูงจากพื้น 60 เมตร และลึกลงไปอีกกว่า 100 เมตร ที่สำคัญเขาเปิดให้เข้าไปสัมผัสใกล้ ๆ ได้อีกด้วย รับรองได้เลยว่าถ้าได้เข้าไปเห็นน้ำแข็งสีขาว แซมด้วยประกายสีฟ้าจากน้ำทะเล ที่แทรกตัวอยู่ในก้อนน้ำแข็งแล้วละก็ ปาตาโกเนียจะเป็นความประทับใจไม่รู้ลืมแน่นอน
อย่างไรก็ตามเนื่องด้วยสภาพภูมิภาคอยู่ในเขตสุดขอบโลก ที่มีทั้งมหาสมุทร ธารน้ำแข็ง เทือกเขา ทะเลสาบ และทุ่งหญ้า ปาตาโกเนียจึงเป็นตัวอย่างของธรรมชาติที่พึ่งพาอาศัยกันและอยู่ร่วมกันได้อย่างสมดุล ทั้งนี้ นอกจากธารน้ำแข็งแล้วยังมีดอกไม้นานาชนิดสีสันสดใส พื้นหญ้าสีเขียวสลับกับความแห้งแล้งสีน้ำตาลเป็นระยะ มีทั้งสัตว์ป่าและนกเพนกวินที่อยู่ในอาณาเขตเดียวกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ
กิจกรรมที่น่าสนใจเมื่อมาเยือนปาตาโกเนีย นั่นคือการล่องเรือชมธารน้ำแข็ง ชมฝูงเพนกวิน ดูวิถีชีวิตแมวน้ำ เดินป่าดูสัตว์ แวะชมดอกไม้ สูดอากาศสดชื่นริมทะเลสาบ นอกจากนี้ยังมีเกาะเล็ก ๆ รูปหัวใจอยู่กลางทะเลสาบกูเตียเรซ (Gutierrez) ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นเป้าหมายของนักท่องโลกหลายคน ที่น่าลองไปดูสักครั้งจริง ๆ
เตรียมตัวก่อนเดินทาง
- เตรียมเสื้อผ้าให้ครบ 4 ฤดู เพราะสภาพอากาศในปาตาโกเนียแปรปรวนมาก มีแดดจ้า แต่อากาศหนาวเย็น ฝนตกชุก และลมแรง อากาศเปลี่ยนแปลงได้ตลอดทั้งวัน จึงควรมีเสื้อผ้าไว้สำรองตามสภาพอากาศ
- ที่นี่มีกฎในการชมธารน้ำแข็งคือการห้ามสูบบุหรี่เด็ดขาด ไฟกับน้ำแข็งยังไงก็อยู่ร่วมกันไม่ได้ แม้จะไกลสุดขอบโลกนะ
- ตะลุย Patagonia สุดขอบโลกที่ธรรมชาติรังสรรค์ความงาม
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
quasarex.com, theguardian.com, onelyplanet.com และ travel.usnews.com