ป่าบงเปียง ปี 2568 เที่ยวเชียงใหม่ช่วงกรีนซีซั่น ชมฝนโปรย หมอกลอย และนาขั้นบันได

           ป่าบงเปียง 2568 ที่เที่ยวหน้าฝน เสน่ห์ของเชียงใหม่ในช่วงฝนโปรย ที่ต้องมาเห็นกับตา นาขั้นบันได สายหมอกจาง ๆ วิวในฝันที่คนรักธรรมชาติต้องเลิฟ

          ถ้าเอ่ยถึงที่เที่ยวเชียงใหม่ช่วงหน้าฝน หลายคนคงนึกถึงบรรยากาศชุ่มฉ่ำ หมอกบาง ๆ และวิวเขียวขจีสุดลูกหูลูกตา ซึ่งหนึ่งในจุดหมายยอดฮิตที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ บ้านป่าบงเปียง หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่กลางหุบเขาในอำเภอแม่แจ่ม ที่นี่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่ นาขั้นบันได เริ่มเขียวสดไล่ระดับไปตามแนวภูเขา ราวกับพรมธรรมชาติผืนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นสายชิล สายถ่ายรูป หรือสายรักธรรมชาติ ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หน้าฝนคือต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต เพราะไม่ใช่แค่วิวสวย แต่ยังได้สัมผัสวิถีชีวิตเรียบง่าย โฮมสเตย์น่ารัก ๆ และอากาศบริสุทธิ์ที่หาไม่ได้ในเมืองใหญ่ ซึ่งถ้าใครอยากรู้จักป่าบงเปียงให้มากขึ้น เรามีข้อมูลมาฝากดังนี้

บ้านป่าบงเปียง 2568

ป่าบงเปียง อยู่ที่ไหน

          ป่าบงเปียง เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ไม่ไกลจากดอยอินทนนท์ ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งโลเคชั่นลับที่สายธรรมชาติไม่ควรพลาด ที่นี่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติแบบดั้งเดิม วิถีชีวิตชาวบ้านที่เรียบง่าย และไฮไลต์ที่สำคัญคือ นาข้าวขั้นบันได ที่เรียงรายไปตามไหล่เขา สวยเหมือนภาพวาด

         แม้จะเดินทางค่อนข้างลำบากกว่าที่เที่ยวเชียงใหม่อื่น ๆ แต่ถ้าได้มาถึงแล้วบอกเลยว่าคุ้มทุกโค้ง เพราะวิวที่ได้เห็นตรงหน้าคือสิ่งที่หาไม่ได้จากที่ไหนง่าย ๆ โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนที่ธรรมชาติกลับมาสดชื่นและสมบูรณ์ที่สุดของปี

ป่าบงเปียง ปี 2568

ทำไมต้องไปป่าบงเปียงในหน้าฝน ?

          คำตอบง่าย ๆ ก็เพราะว่า ป่าบงเปียงจะสวยที่สุดในช่วงหน้าฝน โดยตั้งแต่เดือนกรกฎาคมไปจนถึงตุลาคม ป่าบงเปียงจะกลายร่างเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในธรรมชาติ ทุ่งนาจะเริ่มเต็มไปด้วยต้นข้าวเขียวขจี โดยเฉพาะนาข้าวขั้นบันไดที่กลายเป็นจุดถ่ายรูปสุดฮิต มองไปทางไหนก็เห็นแต่ความเขียวชุ่มฉ่ำตัดกับสายหมอกบาง ๆ ที่ลอยเหนือหุบเขา ส่วนอากาศก็เย็นสบาย แม้จะมีฝนโปรยปรายบ้าง แต่ก็ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้โรแมนติกยิ่งขึ้น เหมาะกับคนที่อยากหนีเมืองมาพักใจ นอนโฮมสเตย์เล็ก ๆ ตื่นเช้ามาดูหมอกจาง ๆ จิบกาแฟร้อน ๆ แบบไม่ต้องเร่งรีบ

เที่ยวป่าบงเปียง ช่วงเวลาไหนดี ?

          หลายคนที่วางแผนเที่ยวป่าบงเปียง มักมีคำถามว่า ช่วงไหนสวยที่สุด ? หรือ ควรจะไปเที่ยวช่วงไหนดี ? เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องนาข้าวขั้นบันไดที่เปลี่ยนสีตามฤดูกาลในแบบที่ไม่เหมือนใคร โดยแต่ละช่วงก็มีเสน่ห์ต่างกันไป ใครชอบบรรยากาศแบบไหนก็เลือกจังหวะไปตามใจได้ดังนี้ 

  • ช่วงนาดำ (ปลายกรกฎาคม - ต้นสิงหาคม) : เป็นช่วงที่ชาวบ้านเพิ่งเริ่มดำนา ข้าวยังไม่เขียวมาก แต่น้ำในนาเต็มพื้นที่ ทำให้ได้วิวแสงสะท้อนกับท้องฟ้าในแปลงนา สวยแบบเงียบ ๆ เหมาะกับสายถ่ายรูปที่ชอบโทนธรรมชาติแบบเรียบง่าย และยังมีหมอกให้ลุ้นในตอนเช้า
จุดเด่น : น้ำเต็มนาขั้นบันได วิวสะท้อนสวย / นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะมาก
ป่าบงเปียง ปี 2568

  • ช่วงนาเขียว (กลางสิงหาคม - ต้นตุลาคม) : ถือเป็นช่วงพีคของการเที่ยวป่าบงเปียงเลยก็ว่าได้ เพราะต้นข้าวในนาขั้นบันไดกำลังเขียวขจีเต็มที่ เป็นสีเขียวสดทั่วทั้งหุบเขา บวกกับสายหมอกยามเช้าและอากาศเย็นสบาย ทำให้บรรยากาศชวนฝันสุด ๆ ถ้าอยากเห็นป่าบงเปียงในภาพจำที่ทุกคนหลงรักต้องมาในช่วงนี้เลย
จุดเด่น : วิวเขียวสดชุ่มฉ่ำ เหมาะกับการถ่ายรูป / อากาศดีเย็นสบาย
ป่าบงเปียง ปี 2568

  • ช่วงนาทอง (กลางตุลาคม – ต้นพฤศจิกายน) : เมื่อใกล้ฤดูเก็บเกี่ยว นาข้าวขั้นบันไดจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีทองอร่ามทั่วทั้งพื้นที่ ให้บรรยากาศอบอุ่นและโรแมนติกสุด ๆ ช่วงนี้เหมาะกับคนที่อยากเห็นป่าบงเปียงในโทนฤดูใบไม้ร่วงแบบเมืองไทย และยังถือเป็นโค้งสุดท้ายก่อนที่นาและหมอกจะหายไปในช่วงฤดูหนาว
จุดเด่น : วิวท้องนาเหลืองทองสุดอลังการ / บรรยากาศโรแมนติก
ป่าบงเปียง ปี 2568

กิจกรรมน่าสนใจที่ต้องห้ามพลาดเมื่อไปเที่ยวป่าบงเปียง

          การมาเที่ยวป่าบงเปียง ไม่ใช่แค่มาดูวิวแล้วกลับ แต่ที่นี่มีกิจกรรมเรียบง่ายที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความประทับใจ ชวนให้คุณได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน และซึมซับธรรมชาติแบบสโลว์ไลฟ์อย่างแท้จริง มาดูกันว่ามีอะไรที่ห้ามพลาดบ้าง

  • ถ่ายรูปกับนาข้าวขั้นบันได : แน่นอนว่าไฮไลต์อันดับ 1 ของการมาเที่ยวป่าบงเปียง คือการชมและถ่ายรูปกับนาข้าวขั้นบันไดที่เรียงลดหลั่นไปตามภูเขา ไม่ว่าจะเป็นช่วง นาดำ ที่น้ำสะท้อนท้องฟ้า, นาเขียว ที่สดชื่นเต็มตา หรือนาทอง ที่อบอุ่นสุดโรแมนติก ทุกฤดูกาลคือความสวยงามที่แตกต่าง กลายเป็นภาพความทรงจำที่คุณจะไม่มีวันลืม

  • นอนโฮมสเตย์ ชมวิวแบบ 180 องศา : อีกหนึ่งเสน่ห์ของป่าบงเปียง คือ การพักในโฮมสเตย์กลางทุ่งนา ตื่นเช้ามามีหมอกลอยผ่านหน้า เปิดประตูออกมาก็เจอวิวเขียว ๆ แบบพาโนรามา ฟีลแบบนี้หาไม่ได้ในเมืองแน่นอน นอกจากได้พักผ่อนเต็มที่ ยังได้ใกล้ชิดธรรมชาติและวิถีชีวิตของชาวบ้านแบบเรียล ๆ ด้วย

  • เดินเล่นชมหมู่บ้านและพูดคุยกับชาวบ้าน : ถ้ามีเวลาลองเดินเล่นในหมู่บ้าน ชมวิถีชีวิตของชาวปกาเกอะญอที่ยังคงเรียบง่ายและอบอุ่นใจ คุณอาจจะได้เห็นชาวบ้านดำนา ตากข้าว หรือทอผ้าแบบดั้งเดิม เป็นเสน่ห์เล็ก ๆ ที่ทำให้การเที่ยวเชียงใหม่รอบนี้ไม่เหมือนครั้งไหน ๆ

  • ฟังเสียงฝน…แล้วปล่อยใจให้ว่าง : หนึ่งในกิจกรรมที่ธรรมดาแต่ดีที่สุดในช่วงเที่ยวหน้าฝนก็คือ ไม่ทำอะไรเลย แค่นั่งเงียบ ๆ ฟังเสียงฝน ลมพัด และเสียงธรรมชาติ มันช่วยให้ใจเราสงบอย่างไม่น่าเชื่อ บางคนถึงกับบอกว่าป่าบงเปียงเยียวยาหัวใจได้จริง ๆ
ป่าบงเปียง ปี 2568

เที่ยวป่าบงเปียง พักที่ไหนดี ?

          หากคุณกำลังวางแผนเที่ยวป่าบงเปียง ในปี 2568 และมองหาที่พักที่มอบวิวนาข้าวขั้นบันไดสุดอลังการ เราแนะนำให้ลองมาพักโฮมสเตย์ที่บ้านป่าบงเปียง ที่พักที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวแบบเรียบง่ายและอบอุ่น เหมาะสำหรับคนที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองมาพักใจท่ามกลางธรรมชาติส่วนตัว ที่พักส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้เล็ก ๆ ริมทุ่งนา ไม่มีไฟฟ้า (ใช้พลังงานแสงอาทิตย์หรือเครื่องปั่นไฟบางช่วงเวลา) และไม่มีสัญญาณโทรศัพท์แรง ๆ แต่แลกมากับความสงบและวิวทุ่งนาขั้นบันไดสุดตระการตา นอกจากนี้ยังมีอาหารพื้นเมืองแบบโฮมเมดให้ได้ลิ้มรส เช่น แกงอ่อม ไก่ย่าง น้ำพริก และข้าวเหนียวร้อน ๆ เรียกได้ว่าทั้งอิ่มท้องและอิ่มใจในเวลาเดียวกัน ทั้งนี้ เรามีตัวอย่างโฮมสเตย์ยอดนิยมมาฝากกัน ดังนี้ 

1. บ้านระเบียงนา ป่าบงเปียง

          ที่พักยอดนิยมที่มีวิวทุ่งนาขั้นบันไดสวยงาม สามารถชมทะเลหมอกยามเช้าและดาวเต็มฟ้ายามค่ำคืน

2. ระเบียงนาโฮมสเตย์ ป่าบงเปียง

          โฮมสเตย์ที่ตั้งอยู่ติดกับบ้านระเบียงนา มีจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามและวิวทุ่งนาขั้นบันไดที่น่าประทับใจ

3. ม่อนนาป่าบงเปียง โฮมสเตย์

          ที่พักตั้งอยู่ในจุดที่สามารถมองเห็นวิวทุ่งนาขั้นบันไดได้เกือบทั้งหมดของหมู่บ้าน เหมาะสำหรับการชมพระอาทิตย์ตกและทะเลหมอกยามเช้า

4. มาฉิโพ ป่าบงเปียง

          โฮมสเตย์ที่ตั้งอยู่ในจุดสูงสุดของนาขั้นบันได มองเห็นวิวโดยรอบได้อย่างชัดเจน พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตชาวปกาเกอะญอ

5. บ้านพี่ทองดี ป่าบงเปียง

          ที่พักที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนมานอนบ้านญาติ พร้อมวิวพาโนรามาของทุ่งนาขั้นบันได

6. วีรศักดิ์ โฮมสเตย์ บ้านป่าบงเปียง 

          ที่พักท่ามกลางนาข้าวขั้นบันไดเขียวขจีและวิถีชีวิตแสนเรียบง่าย 

7. บ้านพักลอแอะ ป่าบงเปียง 

          ที่พักตั้งอยู่ท่ามกลางความงดงามของนาขั้นบันไดและทิวเขาเบื้องหน้า ทำให้ได้พักผ่อนไปกับธรรมชาติและบรรยากาศอันเงียบสงบอย่างแท้จริง 

8. ดาวบ้านดอย นาขั้นบันไดป่าบงเปียง 

          โฮมสเตย์กลางทุ่งนาขั้นบันได ชมวิวธรรมชาติ นอนฟังเสียงน้ำไหล เหมาะกับคนที่ต้องการเดินไม่ไกลหรือขนของ​เยอะ​

9. กระท่อมชาวนาป่าบงเปียง 

          ที่พักโฮมสเตย์วิวนาขั้นบันได ใกล้ชิดธรรมชาติ มีระเบียงหน้าบ้านที่ติดกับต้นไม้

10. บ้านไม้ไผ่ นาขั้นบันไดป่าบงเปียง 

          ที่พักบรรยากาศเรียบง่ายแต่มีความสุข มองเห็นวิวนาข้าวขั้นบันไดที่ปลูกลดหลั่นบนภูเขา

เคล็ดลับการจองที่พักที่ป่าบงเปียง
  • จองล่วงหน้า : เนื่องจากที่พักในป่าบงเปียงมีจำนวนจำกัดและเป็นที่นิยม ควรจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 เดือน โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนและฤดูเก็บเกี่ยว

  • สอบถามรายละเอียด : ติดต่อที่พักโดยตรง ทั้งโทรศัพท์ หรือ Inbox ทางเฟซบุ๊ก เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เช่น สิ่งอำนวยความสะดวก อาหาร และกิจกรรมต่าง ๆ

  • เตรียมตัวให้พร้อม : เนื่องจากบางที่พักไม่มีไฟฟ้าหรือสัญญาณโทรศัพท์ ควรเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น ไฟฉาย แบตเตอรี่สำรอง และเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ

ป่าบงเปียง ปี 2568

ป่าบงเปียง ปี 2568

ป่าบงเปียง เดินทางไปยังไง ?

          แม้จะซ่อนตัวอยู่กลางหุบเขา แต่ป่าบงเปียงก็ไม่ยากเกินจะไปถึง ถ้าวางแผนการเดินทางดี ๆ ไม่ว่าจะมีรถส่วนตัวหรือใช้รถสาธารณะก็สามารถเดินทางได้สะดวก 

เดินทางด้วยรถส่วนตัว
          เส้นทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปป่าบงเปียงค่อนข้างซับซ้อน ถ้าขับตาม GPS หรือ Google Map จนสุดทาง จะเป็นเส้นทางสายเก่าที่อ้อมผ่านตัวอำเภอแม่แจ่มแล้วไปเข้าทางบ้านทุ่งยาว จึงแนะนำให้ปักหมุดพิกัดไปที่ หน่วยพิทักษ์น้ำตกแม่ปาน (แม่แจ่ม) ก่อน โดยทางนี้จะเป็นทางที่ขึ้นไปยังดอยอินทนนท์ เมื่อผ่านจุดตรวจด่านที่ 2 ของอินทนนท์ ให้เลี้ยวซ้ายเพื่อไปยังอำเภอแม่แจ่ม จากนั้นให้ขับเข้าแยกขวาไปยังน้ำตกแม่ปาน เมื่อผ่านหน่วยพิทักษ์น้ำตกแม่ปาน (แม่แจ่ม) ไปเล็กน้อยจะมีทางแยกที่มุ่งหน้าไปสู่ป่าบงเปียง ให้ขับต่อไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร ก็ถึงป่าบงเปียงแล้ว
เดินทางด้วยรถสาธารณะ
         จากเชียงใหม่ไปถึงจอมทอง ให้ขึ้นรถตู้สาย เชียงใหม่-จอมทอง ที่ขนส่งช้างเผือก หรือ ขนส่งอาเขต ใช้เวลาประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง ลงรถที่ตลาดจอมทอง หรือแวะหน้าทางขึ้นดอยอินทนนท์ จากนั้นให้นั่งรถจากจอมทองไปแม่แจ่ม ลงที่ทางแยกน้ำตกแม่ปาน และโทรศัพท์ติดต่อกับทางที่พักที่ได้จองไว้ให้นำรถออกมารับจะสะดวกที่สุด
ป่าบงเปียง ปี 2568

          หน้าฝนนี้ไปบ้านป่าบงเปียงกันเถอะ ไปชมวิวนาขั้นบันไดเขียวขจี จะถ่ายรูปมุมไหนก็ปัง ไปสูดอากาศสดชื่นจนชุ่มปอด ไปนอนโฮมสเตย์เรียบง่ายแต่เงียบสงบ แถมได้กินอาหารพื้นบ้านอร่อย ๆ บอกเลยว่าที่นี่คือสวรรค์ของทุ่งนาขั้นบันไดในฤดูฝน ที่สีเขียวจะปกคลุมทุกพื้นที่แบบไม่มีฟิลเตอร์ใด ๆ เทียบได้
 

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

บทความ ที่เที่ยวแม่แจ่ม ที่เที่ยวนาขั้นบันได อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ป่าบงเปียง ปี 2568 เที่ยวเชียงใหม่ช่วงกรีนซีซั่น ชมฝนโปรย หมอกลอย และนาขั้นบันได อัปเดตล่าสุด 6 มิถุนายน 2568 เวลา 10:01:12 1,817 อ่าน
TOP
x close