พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี 2023 ช่วงเวลาแห่งความสวยงามของใบไม้ที่จะเปลี่ยนสีจะเป็นช่วงไหนบ้าง พร้อมแนะนำจุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดฮิตของเกาหลี
ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เรียกได้ว่าเป็นฤดูที่สวยที่สุดของเกาหลีใต้เลยทีเดียว เพราะใบไม้จะค่อย ๆ เปลี่ยนสีทั้งเหลือง ส้ม แดง น่าไปถ่ายรูปสุด ๆ แถมสภาพอากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป ทำให้ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีของเกาหลี กลายเป็นหนึ่งในที่เที่ยวต่างประเทศยอดฮิตสำหรับสายโกอินเตอร์ที่ต้องไปสักครั้ง วันนี้เรามีข้อมูลเกี่ยวกับฤดูใบไม้ร่วงของเกาหลีใต้ ทั้งช่วงเวลา พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี 2023 พิกัดชมใบไม้เปลี่ยนสี และการเตรียมตัวสำหรับการไปเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงของเกาหลี มาฝากกัน
ฤดูใบไม้ร่วงของเกาหลี ช่วงเวลาใด
โดยปกติฤดูใบไม้ร่วงของเกาหลี จะอยู่ในช่วงต้นเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนของทุกปี แต่ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี จะเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน และมีช่วงพีคคือกลางถึงปลายเดือนตุลาคม ทั้งนี้ วันที่เริ่มต้น-สิ้นสุด และช่วงพีคของใบไม้เปลี่ยนสี จะขึ้นอยู่กับภูมิภาคของประเทศเกาหลีด้วย
ใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี เริ่มที่ไหน เมื่อไร
จุดใบไม้เปลี่ยนสีที่แรกของเกาหลี จะอยู่ที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนืออย่างอุทยานแห่งชาติซอรัคซาน ซึ่งจะเริ่มในช่วงปลายเดือนกันยายน แต่จะสูงสุดใน 3 สัปดาห์ต่อมาคือช่วงกลางเดือนตุลาคม สำหรับกรุงโซล อุทยานแห่งชาติพูคันซาน และเกาะนามิ จะเริ่มช่วงกลางเดือนตุลาคม และเปลี่ยนสีเต็มที่ภายในปลายเดือนตุลาคม ทั้งนี้ ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนยังคงมีใบไม้ร่วงอยู่บนพื้นบ้างเล็กน้อย
ในภาคกลางของเกาหลี รวมถึงแทจอน อุทยานแห่งชาติซงนิซัน และอุทยานแห่งชาติวอรัคซาน ใบไม้เปลี่ยนสีจะเริ่มต้นตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมจนถึงปลายเดือนตุลาคม ซึ่งบางครั้งอาจยาวนานถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ส่วนบริเวณชายฝั่งตะวันออกของประเทศ ใบไม้เปลี่ยนสีจะเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม และสูงสุดช่วงปลายเดือนตุลาคม
สำหรับที่ปูซานและทางใต้ของประเทศ รวมถึงอุทยานแห่งชาติจิรีซาน ใบไม้ร่วงจะเริ่มในช่วงกลางเดือนตุลาคม และจะถึงจุดสูงสุดภายในปลายเดือนตุลาคม ส่วนใบไม้เปลี่ยนสีที่เกาะเชจู จะเริ่มช่วงกลางเดือนตุลาคม และจะถึงจุดสูงสุดในช่วงปลายเดือนตุลาคม ซึ่งปลายเดือนตุลาคมเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสีในปูซานและเชจู
และสถานที่สุดท้ายที่จะชมใบไม้เปลี่ยนสีในเกาหลี คือ รอบ ๆ อุทยานแห่งชาติแนจังซาน ซึ่งใบไม้เปลี่ยนสีจะปรากฏในช่วงปลายเดือนตุลาคม และจะเปลี่ยนสีเต็มที่ในสัปดาห์แรกของเดือนพฤศจิกายน ทำให้แนจังซานเป็นหนึ่งในสถานที่สุดท้ายที่สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีในเกาหลี
พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี 2023
สำหรับในปี 2023 Korean Forecasting Service ได้ประกาศพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี อย่างเป็นทางการออกมาแล้ว ดังนี้
หลังจากที่ผ่านความร้อนของฤดูร้อนไป อากาศเย็นในฤดูใบไม้ร่วงก็เริ่มต้นขึ้น ทำให้เกิดใบไม้เปลี่ยนสี เพิ่มสีสันสวยงามไปทั่วทั้งเกาหลี โดยใบไม้เปลี่ยนสีแรกของปีนี้จะเริ่มที่ภูเขาซอรัคซานในวันที่ 1 ตุลาคม โดยคาดว่าจะมีใบไม้เปลี่ยนสีสูงสุดทั่วประเทศตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ภูเขาบูคันซานจะถึงจุดสูงสุดในวันที่ 30 ตุลาคม ภูเขาจิรีซันในวันที่ 27 ตุลาคม ภูเขาแนจังซานในวันที่ 6 พฤศจิกายน และภูเขาฮัลลาซานในเมืองเชจูในวันที่ 29 ตุลาคม
Credit: Weatheri Inc.
พิกัดชมใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี
อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน (Seoraksan National Park)
ตั้งอยู่ในเมืองซกโช จังหวัดคังวอนโด ทางฝั่งตะวันออกของเกาหลี สวยงามด้วยวิวทิวทัศน์ที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วง บรรดาต้นไม้และต้นเมเปิลต่าง ๆ ที่อยู่รอบอุทยานก็จะเปลี่ยนเป็นสีส้ม แดง เหลือง แจกความสดใสและสวยงามสลับกันทั่วทั้งภูเขา
ส่วนใหญ่ชาวเกาหลีจะนิยมมาท่องเที่ยวและปีนเขากัน แต่สำหรับใครที่มีเวลาน้อยหรือไม่อยากเดินก็สามารถโดยสารเคเบิลคาร์ขึ้นไปชมวิวบนยอดเขาได้ ไปสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ รับลมเย็นบนยอดเขา พร้อมชมวิวแบบ 360 องศา จุใจกับใบไม้เปลี่ยนสีแน่นอน
อุทยานแห่งชาติบุคฮันซาน (Bukhansan National Park)
ลักษณะเป็นภูเขาหินแกรนิตขนาดใหญ่ อยู่ทางตอนเหนือของกรุงโซล โอบล้อมด้วยพรรณไม้ต่าง ๆ กว่า 1,300 ชนิด อีกทั้งเป็นสถานที่เก่าแก่ เพราะเคยเป็นที่ตั้งของวัดและป้อมปราการตั้งแต่สมัยอาณาจักรชิลลาด้วย
ที่นี่จึงเป็นสถานที่ยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินป่า ปีนเขา ชมธรรมชาติ เนื่องจากมีหลากหลายเส้นทางและหลายยอดเขาให้เลือกท้าทายความสามารถกัน ซึ่งนอกจากจะได้ชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่ปกคลุมไปทั่วภูเขาทั้งลูกแล้ว จากจุดชมวิวบนยอดเขายังสามารถมองเห็นกรุงโซลและแม่น้ำฮันได้อย่างชัดเจนอีกด้วย
เกาะนามิ (Nami Island)
เกาะที่โด่งดังจากซีรีส์เรื่อง Winter Love Song เป็นเกาะเล็ก ๆ รูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว อยู่ห่างจากกรุงโซลเพียง 60 นาที แต่สวยงามเลอค่าเหมาะแก่การมาท่องเที่ยวและถ่ายภาพเป็นที่สุด โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ต้นแปะก๊วยที่เรียงรายอยู่ตามทางเดินก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด บรรดาต้นเมเปิลต่าง ๆ ก็จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มและแดงกระจายอยู่ทั่วทั้งเกาะ ไม่ว่าจะเดินเล่น ถ่ายรูป ขี่จักรยาน หรือแค่นั่งปิกนิกใต้ต้นไม้ ก็ฟินสุด ๆ ไปเลย
ภาพจาก : nami chwang / Shutterstock.com
พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace)
ใครอยากมีรูปสวย ๆ สวมชุดฮันบกอยู่ท่ามกลางใบไม้แดง ในบรรยากาศสุดคลาสสิกประหนึ่งเป็นองค์หญิงในวังหลวง ต้องมาที่ พระราชวังเคียงบกกุง เป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดของกรุงโซล อีกทั้งยังสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปีด้วย ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ที่นี่จะมีความงดงามมากเป็นพิเศษ ด้วยสีสันของบรรดาต้นแปะก๊วย ต้นเมเปิล ที่มาช่วยแต่งแต้มให้พระราชวังหลวงแห่งนี้ดูมีเสน่ห์และน่าเยี่ยมชมมากขึ้น จะมาเดินเล่นชิล ๆ หรือจะเช่าชุดฮันบกถ่ายรูปตรงจุดไหนก็ฟิน
พระราชวังชางด็อกกุง (Changdeokgung Palace)
อีกหนึ่งจุดถ่ายรูปใบไม้เปลี่ยนสียอดฮิตในโซล ที่นี่เคยเป็นพระราชวังหลวงแห่งที่สองที่ได้รับการดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดี และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจาก UNESCO เมื่อปี ค.ศ. 1997 บรรยากาศรอบ ๆ มีความงดงาม คลาสสิก และค่อนข้างเงียบสงบ รายล้อมไปด้วยสีสันสดใสของต้นไม้ต่าง ๆ ที่กำลังผลัดใบเปลี่ยนสี โดยเฉพาะภายใน สวนฮูวอน หรือที่เรียกกันว่า Secret Garden ทางเดินอาจจะชันหน่อย แต่ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็ดีงาม ยิ่งสวมชุดฮันบกสวย ๆ เข้าไปเก็บภาพด้วยนะยิ่งได้ฟีลเหมือนเข้าไปอยู่ในละครย้อนยุคอีกต่างหาก
พระราชวังด็อกซูกุง (Deoksugung Palace)
ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโซล เป็นพระราชวังที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของเกาหลี และสถาปัตยกรรมสไตล์ตะวันตกได้อย่างลงตัว พอถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วง ภายในพื้นที่ของพระราชวังก็จะเต็มไปด้วยวิวใบไม้เปลี่ยนสีล้อมรอบอาคารทรงเก่าแก่
นอกจากภายในพระราชวังด็อกซูกุงแล้ว บริเวณถนนเลียบกำแพงพระราชวัง หรือที่รู้จักกันในชื่อ ถนนชองดง (Jeongdong-gil) ถนนที่ขึ้นชื่อเรื่องความโรแมนติก เป็นอีกหนึ่งจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในโซลเลยก็ว่าได้ โดยจะมีคู่รักมากมายพากันมาเดินเล่นที่ถนนแห่งนี้ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งตลอดทั้งถนนจะเต็มไปด้วยสีเหลืองทองของใบแปะก๊วย
มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา (Ewha Womens’ University)
มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา หนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ของเกาหลี และยังเป็นจุดถ่ายรูปใบไม้เปลี่ยนสียอดฮิตในกรุงโซลอีกด้วย ทั้งสถาปัตยกรรมอลังการล้อมด้วยทิวทัศน์สวย ๆ ผสมกับสีสันสดใสของต้นแปะก๊วยและต้นเมเปิลที่อยู่รอบ ๆ ยิ่งทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่ต้องลิสต์ไว้ในทริปใบไม้เปลี่ยนสีของเกาหลีเลยทีเดียว
ภาพจาก : kikujungboy CC / Shutterstock.com
สวนสาธารณะซัมชอง (Samcheong Park)
ใครอยากชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีในกรุงโซลให้จุใจ ต้องมาที่สวนสาธารณะซัมชอง เพราะในฤดูใบไม้ร่วงที่นี่จะเต็มไปด้วยผู้คน ทั้งนักท่องเที่ยวและชาวเกาหลีต่างเดินทางมาชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่โอบล้อมสวนสาธารณะแห่งนี้ สูดอากาศสดชื่นท่ามกลางธรรมชาติในเมืองหลวง บรรยากาศสงบ เหมาะกับการมานั่งพักผ่อนชิล ๆ
อุทยานนัมซานพาร์ค (Namsan Park) และ หอคอยเอ็นโซลทาวเวอร์ (N Seoul Tower)
สวนสาธารณะบนภูเขากลางกรุงโซลที่มีชื่อเสียง ที่ทั้งชาวเกาหลีและนักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมาพักผ่อน เดินชมธรรมชาติ และเพลิดเพลินไปกับวิวสวย ๆ ของกรุงโซล บริเวณยอดเขาเป็นที่ตั้งของ หอคอยเอ็นโซลทาวเวอร์ โดยในช่วงฤดูใบไม้ร่วงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของใบไม้เปลี่ยนสีที่ปกคลุมภูเขาทั้งลูก ใครมาเที่ยวกับคนรักต้องไม่พลาดไปเช็กอินบริเวณระเบียงดาดฟ้า ซึ่งสามารถคล้องกุญแจแห่งความรักได้ด้วยนะ
ถนนกาโรซูกิล (Garosu-gil)
ตั้งอยู่ในย่านกังนัม มีชื่อเล่นว่า ถนนศิลปิน โดยเป็นที่ช้อปปิ้งยอดนิยมของหนุ่มสาวชาวโซล เต็มไปด้วยร้านค้าชิค ๆ ให้ช้อปปิ้งกันเพลิน ๆ รวมถึงมีร้านอาหาร คาเฟ่เก๋ ๆ มากมาย ชื่อของถนนกาโรซูกิล หมายถึง ถนนที่เต็มไปด้วยต้นไม้สองข้างทาง ซึ่งสองข้างทางของถนนนี้เต็มไปด้วยต้นแปะก๊วย หรือ ต้นกิงโกะ เมื่อถึงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง สวยงามน่าเดินเล่นมาก ๆ
ทะเลสาบซอกชน (Seokchon Lake)
ทะเลสาบแห่งกรุงโซล อยู่ในย่านจัมชิล ลักษณะเป็นทะเลสาบที่ถูกแบ่งเป็นสองฝั่ง มีถนนกั้นกลาง ล้อมรอบด้วยต้นไม้ตลอดแนว ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะเปลี่ยนเป็นสีส้มแดง รอบทะเลสาบมีทางเดินและทางสำหรับจักรยาน นอกจากนี้ในพื้นที่เดียวกันยังเป็นที่ตั้งของ LOTTE World Tower ตึกที่สูงที่สุดในเกาหลี ส่วนที่ทะเลสาบอีกฝั่งเป็นที่ตั้งของสวนสนุก Lotte World Adventure นั่นเอง
สวนสาธารณะโอลิมปิก (Seoul Olympic Park)
มาชมใบไม้เปลี่ยนสีกันให้จุใจที่ โอลิมปิกปาร์ค หรือ สวนสาธารณะโอลิมปิก สวนสาธารณะขนาดใหญ่ในพื้นที่กว่า 1.45 ล้านตารางเมตร ในพื้นที่มีจุดท่องเที่ยวมากมาย เช่น สนามกีฬาที่เคยใช้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน เมื่อปี ค.ศ. 1988, ฮอลล์สำหรับจัดกีฬาและคอนเสิร์ต, ลานโล่งที่มี ต้นไม้โดดเดี่ยว หรือ นาฮลโลนามู รวมถึง ประตูสันติภาพโลก (The World Peace Gate) เป็นสถานที่ที่มีพื้นที่ใหญ่มาก แต่รับรองว่าเดินไปตรงไหนก็เจอใบไม้เปลี่ยนสีแน่นอน
สภาพอากาศในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
เกาหลีใต้
ที่เกาหลีมี 4 ฤดูกาล ซึ่งแต่ละฤดูจะมีสภาพอากาศที่แตกต่างกันมาก ตั้งแต่ฤดูร้อนที่ร้อนชื้นมาก (40+ องศาเซลเซียส) ไปจนถึงฤดูหนาวที่หนาวเย็นถึงจุดเยือกแข็ง (-18 องศาเซลเซียส) รวมถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงที่แสนสั้น แม้ว่าฤดูใบไม้ผลิจะมีดอกซากุระให้ชม แต่ก็มีมลพิษทางอากาศมากที่สุดเช่นกัน ดังนั้นฤดูใบไม้ร่วงจึงเป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับการวางแผนไปเที่ยวเกาหลี เพราะสภาพอากาศที่ดีขึ้น เย็นสบาย และมลพิษทางอากาศที่ลดลง อีกทั้งยังได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสี เพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์สดใหม่ และชมเทศกาล รวมถึงวันหยุดนักขัตฤกษ์มากมายของเกาหลีใต้ด้วย
สภาพอากาศในฤดูใบไม้ร่วง เกาหลี มีตั้งแต่ร้อนชื้นในช่วงต้นเดือนกันยายน (ประมาณ 30 องศาเซลเซียส) ไปจนถึงหนาวจัดภายในกลางเดือนพฤศจิกายน สำหรับอุณหภูมิเดือนตุลาคมอยู่ระหว่าง 15-25 องศาเซลเซียส ในตอนกลางวัน แต่อาจลดลงต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส ในตอนกลางคืน อย่างไรก็ตาม อาจมีพายุไต้ฝุ่นในช่วงฤดูนี้ ดังนั้นควรระมัดระวัง เนื่องจากอาจมีลมแรงและฝนตกหนักในช่วงสั้น ๆ บ้าง
เสื้อผ้าที่ควรเตรียมไป
ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี
เนื่องจากอุณหภูมิในฤดูใบไม้ร่วง หรือช่วงใบไม้เปลี่ยนสี สามารถเปลี่ยนแปลงได้ค่อนข้างมากตั้งแต่เช้าถึงกลางคืน จึงแนะนำให้เตรียมเสื้อผ้าที่เบากว่าสำหรับสวมใส่ในเวลากลางวัน และเตรียมเสื้อแจ็กเก็ตหรือเสื้อสเวตเตอร์เนื้อบางเบา เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นหลังพระอาทิตย์ตกดินด้วย ในส่วนของรองเท้า ควรเลือกเป็นรองเท้าธรรมดาสำหรับเดินเล่นในเมือง แต่หากต้องการชมใบไม้เปลี่ยนสีในอุทยานแห่งชาติต่าง ๆ ควรสวมรองเท้าเทรนนิ่งหรือรองเท้าเดินป่าที่สวมใส่สบายในภูมิประเทศที่ขรุขระ
ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี หรือฤดูใบไม้ร่วงของเกาหลี ถือเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่น่าไปเที่ยว เพราะจะได้เห็นวิวธรรมชาติที่แตกต่างไป ใบไม้ทั้งหลายจะเปลี่ยนจากสีเขียวที่เห็นจนชินตาไปเป็นสีส้ม ๆ แดง ๆ มองไปทางไหนก็น่าถ่ายรูปไปหมด แถมยังดูโรแมนติกอีกต่างหาก ใครอยากไปชมใบไม้เปลี่ยนสีที่เกาหลีให้จุใจ อย่าลืมวางแผนล่วงหน้า จะได้ไม่พลาดช่วงเวลาน่าเที่ยวนี้กันนะ
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
บทความ เที่ยวเกาหลี อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง