x close

แบกเป้เที่ยวเกาหลีด้วย 16 มุมมองใหม่ ๆ ที่ต้องไปโดน

           คงยากที่จะปฏิเสธว่าประเทศเกาหลีใต้ เป็นอีกหนึ่งประเทศที่โดดเด่นในสายตาชาวโลก ทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมล้วนหล่อหลอมให้เกาหลีใต้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและน่าสนใจ ใครต่อใครก็ต่างที่อยากจะไปสัมผัส นักท่องเที่ยวมากมายเดินทางไปเที่ยวประเทศเกาหลีใต้ ตามเส้นทางสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม จนเห็นเพียงแค่เกาหลีใต้ในมุมเดิม ๆ



          วันนี้เราจะพาคุณไปพบเจอกับเกาหลีใต้ในอีกมุมมองจาก คุณปลาทูตัวกลม สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้แบ่งปันเรื่องราวสถานที่ท่องเที่ยวในเกาหลีใต้ของเพื่อน ซึ่งอาศัยอยู่ที่นั่นมาหลายปี โดยเพื่อนของคุณปลาทูตัวกลมได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับที่เที่ยวและข้อมูลการเดินทาง พร้อมทั้งภาพถ่ายในมุมมองที่เราไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนัก ซึ่งแต่ละภาพก็ดึงดูดให้เราอยากจะเก็บกระเป๋าไปเที่ยวเกาหลีใต้วันนี้พรุ่งนี้เลยทีเดียว อย่ารอช้าค่ะ...ไปตามรอยเพื่อนของคุณปลาทูตัวกลมกันเลย

          สวัสดีค่ะ เห็นหลายคนขอยืม Account ของเพื่อนมาตั้งกระทู้ แต่กระทู้นี้ของเรากลับกันค่ะ Account พันทิปเป็นของเรา แต่เราขอเนื้อหาแล้วก็รูปของเพื่อนมาโพสต์ เพราะเห็นว่ามีประโยชน์สำหรับคนที่วางแผนจะไปเที่ยวประเทศเกาหลี แต่เพื่อนเราดันไม่มี Account พันทิปซะอย่างงั้น เพื่อนเราอยู่ที่นู่นมาหลายปีก็เลยมีข้อมูลอยู่พอสมควร บางทีข้อมูลและรูปสวย ๆ ในกระทู้นี้อาจจะทำให้หลายคนได้เห็นประเทศเกาหลีในมุมมองใหม่ ๆ

          (ป.ล. นอกจากข้อความข้างบนแล้ว ข้อมูลและรูปสวย ๆ ที่จะเห็นต่อไปนี้เป็นของเพื่อนเราทั้งหมด ^^)

1. พระราชวังคย็องบก (Gyeongbokgung Palace)

          พระราชวังคย็องบก เป็นวังที่ใหญ่ที่สุดในบรรดา 5 วัง ในกรุงโซล สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1394 และเป็นพระราชวังหลักที่ใช้ประทับว่าราชการของกษัตริย์ราชวงศ์โชซอนมาโดยตลอด เดิมทีมีกว่า 200 อาคาร แต่โดนเผาและทุบทำลายไปเป็นจำนวนมากโดยกองทัพญี่ปุ่นเมื่อปี ค.ศ. 1592 ปัจจุบันได้รับการบูรณะขึ้นใหม่โดยใช้ชิ้นส่วนของอาคารเดิมที่หลงเหลืออยู่เข้ากับวัสดุใหม่

          การเดินทางนั้นง่ายมาก เพียงนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานี Gyeongbokgung สาย 3 หรือ Gwanghwamun สาย 5

          ค่าเข้าชม : 3,000 วอน

        *** ปิดทุกวันอังคาร ส่วนเวลาปิด-เปิดนั้นจะไม่เหมือนกันตามแต่ฤดู (ฤดูหนาวจะปิดเร็วกว่า เพราะมืดเร็ว)


16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

2. กำแพงรอบตำหนักจากย็องจอน (Jagyeongjeon Chamber)

          ตำหนักจากย็องจอนเป็นหนึ่งในอาคารที่อยู่ในพระราชวังคย็องบก สร้างขึ้นเพื่อให้เป็นที่ประทับของพระพันปีหลวง (แม่ของกษัตริย์) เคยถูกไฟไหม้จนหมด และได้รับการสร้างขึ้นมาใหม่เมื่อปี ค.ศ. 1888 ภายหลังได้รับการประกาศให้เป็นสมบัติแห่งชาติลำดับที่ 809 ของเกาหลี จุดเด่นของตำหนักนี้ก็คือกำแพงที่มีลวดลายสวยงาม ซึ่งแตกต่างจากตำหนักอื่น ๆ ในพระราชวังเดียวกัน

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

3. ปากน้ำโพแห่งโซลบุรี (จุดที่สายน้ำบรรจบกัน)

          หลายคนคงเคยได้ยินชื่อคลองชองเกชอน (Cheonggyecheon) จริงๆ ในภาษาเกาหลีมันไม่ได้เรียกว่าคลอง มันคือ "แม่น้ำสายย่อม ๆ (ชอน = 천[川])" ชองเกชอนดังเพราะหนังเรื่อง "กวนมึนโฮ" (ฉากที่นางเอกโดนแฟนทิ้ง) เป็นคลองที่ถูกบูรณะขึ้นมาใหม่หลังจากที่โดนสร้างสะพานคร่อมทับอยู่หลายปี ถ้าเดินเลียบคลองนี้ไปเรื่อย ๆ ประมาณ 8 กิโลเมตร ก็จะเจอจุดรวมกับคลองอีกสายหนึ่งที่ไม่ค่อยดัง ชื่อว่า จุงนังชอน (Jungnangcheon) เดินลงมาอีกสักพักหนึ่งก็จะเจอจุดที่คลองทั้งสองไหลลงแม่น้ำฮัน (Hangang หรือ Han River) ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักที่ไหลตัดผ่านกลางกรุงโซล นับว่าเป็นตำบลปากน้ำโพแห่งโซลบุรีแห่งนี้นี่เอง

          ภาพนี้ถ่ายบนยอดเขาชื่อ อึงบงซาน (Eungbongsan) ใครที่สนใจสามารถนั่งรถไฟฟ้าสาย จุงอัง (Jungang Line) มาลงที่สถานีอึงบง (Eungbong Station) แล้วเดินตามป้ายไปเรื่อย ๆ เขาลูกนี้นับว่าเบบี๋มาก เดินไม่ถึง 20 นาที ก็ถึงยอดแล้ว (อย่าเรียกว่าเขาเลย เรียกเนินดีกว่า)

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

4. เอาเท้าจุ่มน้ำที่ชองเกชอน (Cheonggyecheon)

          แต่เดิมแล้วชองเกชอนเป็นคลองธรรมชาติที่ไหลผ่านเขตเมืองเก่าของกรุงโซล แต่แล้วธรรมชาตินั้นก็ถูกมนุษย์รุกราน หากใครนึกภาพไม่ออกว่าสภาพของคลองนี้ในอดีตเป็นอย่างไร ให้นึกถึงคลองแสนแสบของบ้านเราเป็นที่ตั้งแล้วบวกความเสื่อมโทรมไปอีก 10 เท่า แถมสมัยหนึ่งยังมีการสร้างถนนทับคลองให้รถวิ่งอีกด้วย

          จนถึงปี ค.ศ. 2003 ทางรัฐบาลเกาหลีจึงมีแนวคิดที่จะปฏิรูปคลองนี้ และสร้างให้เป็นสวนสาธารณะให้ชาวกรุงโซลได้มาพักผ่อนหย่อนใจ จึงทำการรื้อถนนและขยายพื้นที่ของคลองออก และสร้างระบบเดินน้ำใหม่ โดยการนำน้ำจากแม่น้ำฮันมากรองและปล่อยลงที่ต้นคลองให้ไหลตลอดความยาว 10.84 กิโลเมตร และไหลลงแม่น้ำฮันเป็นลูปไป จากคลองเน่า ๆ ที่แห้งขอดในหน้าแล้ง ก็กลายเป็นแม่น้ำสวย ๆ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาโยนเหรียญอธิษฐานกันที่ต้นคลองอย่างในปัจจุบัน

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

5. อนุสรณ์สถานแห่งสงครามเกาหลี (The War Memorial of Korea)

          อนุสรณ์สถานแห่งสงครามเกาหลี (The War Memorial of Korea) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สร้างขึ้นเพื่อให้คนรุ่นหลังรำลึกถึงความเสียสละของเหล่าทหารที่จากไปในระหว่างสงครามเกาหลี หลายคนคงอาจไม่รู้ว่าเหตุผลที่คนไทยสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาหลีใต้ได้นาน 90 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า เป็นเพราะรัฐบาลเกาหลีต้องการตอบแทนทางฝั่งไทยที่ส่งทหารมาร่วมรบในสงครามนี้

          นอกจากสงครามเกาหลีแล้ว ที่นี่ก็ยังมีห้องจัดแสดงประวัติศาสตร์ของสงครามที่เกิดขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลีตลอด 5,000 ปีที่ผ่านมาอีกด้วย ใครสนใจมาเที่ยวก็ไม่ยากเลย แค่ขึ้นรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีซัมกักจี (Samgakji Station) และออกทางออกที่ 12

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

6. สวนกุหลาบที่ Dongdaemun Design Plaza (DDP)

          ดอกกุหลาบไฟ LED จำนวน 25,550 ดอก ได้ถูกนำมาจัดแสดงเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการฉลองครบรอบ 70 ปี ที่เกาหลีประกาศเอกราชจากการยึดครองของญี่ปุ่น (365 วัน X 70 ปี = 25,550 ดอก) เปิดไฟทุกวันตั้งแต่เวลา 1 ทุ่ม จนถึง 4 ทุ่ม (แต่เคยไปมา 5 ทุ่มแล้วก็ยังเปิดอยู่นะ) อันนี้ขอแนะนำว่าถ้าใครไม่มีเวลาให้มาดูตอนกลางวันก็จะได้อีกบรรยากาศหนึ่ง สวยไปอีกแบบ

          ใครที่สนใจให้นั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานี Dongdaemun History & Culture Park Station แล้วเดินออกมาทาง Dongdaemun Design Plaza (DDP) ได้เลย หาง่ายมาก ๆ อ้อ ... มีจนถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016 เท่านั้นนะ

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

7. วัดบงวอนซา (Bongwonsa Temple)

          วัดบงวอนซา เป็นวัดหลักของศาสนาพุทธนิกายแทโก (Taego Order) ในเกาหลี (ที่เกาหลีมีศาสนาพุทธหลัก ๆ อยู่ 2 นิกาย) พระสงฆ์นิกายนี้สามารถแต่งงานได้ วัดบงวอนซาตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นเขาอันซาน (Ansan Mountain) ซึ่งใกล้ ๆ กับมหาวิทยาลัยยอนเซ (Yonsei University)

          วิธีมาก็ไม่ยาก (แต่ต้องเดินเก็บเลเวลกันนิด) ให้นั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีชินชน (Sinchon Station) แล้วเดินไปทางมหาวิทยาลัยยอนเซ ลัดเขาและออกประตูด้านตะวันออกของมหาวิทยาลัย (East Gate) แล้วเลี้ยวซ้ายเดินขึ้นเนินไปเรื่อย ๆ เสียเหงื่อสักนิดก็ถึงแล้ว

          ถ้าใครอยากดูดอกบัวให้มาช่วงฤดูร้อน (กลางกรกฎาคม-สิงหาคม)

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

8. พระราชวังชังด็อก (Changdeokgung Palace)

          อินจ็องจอน (Injeongjeon) คือชื่อของพระที่นั่งหลักที่อยู่ในพระราชวังชังด็อก อีกวังหนึ่งที่อยู่ในเมืองเก่าของกรุงโซล วังแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของพระราชวังคย็องบก ผู้คนจึงเรียกพระราชวังแห่งนี้ว่าพระราชวังตะวันออก

          เกาหลีโดนญี่ปุ่นรุกรานมา 2 ครั้งใหญ่ (จริง ๆ ก็มีอยู่เรื่อยมา) ก็คือช่วงสมัยต้นราชวงศ์โชซอน (โดยขุนศึกญี่ปุ่น โทะโยะโตะมิ ฮิเดะโยะชิ) และสมัยช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 แค่ครั้งแรกกองทัพญี่ปุ่นก็ได้เข้ามาเผาทำลายวังต่าง ๆ ในโซลเกือบทั้งหมด รวมทั้งพระราชวังชังด็อกด้วย เมื่อสงครามสงบพระราชวังชังด็อกก็ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ แล้วใช้เป็นที่ว่าราชการของกษัตริย์ในระหว่างที่ทำการบูรณะพระราชวังคย็องบก

          สิ่งที่เป็น The Must ของการมาเที่ยววังนี้ก็คือ "สวนลับ" (Secret Garden) นั่นเอง

          การเดินทางมาที่วังนี้ ให้ขึ้นรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีอันกุก (Anguk Station) แล้วเดินออกทางออกที่ 2 แล้วตรงไปอีกประมาณ 300 เมตร

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

9. สวนดอกไม้ที่ Olympic Park

          Olympic Park สวนที่มีอะไรให้ดูมากกว่าต้นไม้ เพราะว่าเป็นเขตเมืองโบราณของอาณาจักรแพ็กเจ มีทั้งแนวกำแพงเมืองและพิพิธภัณฑ์ ใครสนใจมาเที่ยวที่นี่ให้นั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานี Olympic Park Station เดินออกทางออกที่ 3 แล้วเดินตรงไปเรื่อย ๆ จะเจอสวนกุหลาบและทุ่งดอกไม้

          (รูปที่เห็นนี้เป็นรูปที่ถ่ายช่วงเดือนกันยายน)

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

ชมเมืองในมุมสูง จาก 9 จุดชมวิวสูงเสียดฟ้าในเอเชีย

10. สวนฮานึล (Haneul Park)

          สวนฮานึล หรือเรียกอีกชื่อว่า Sky Park ("ฮานึล" ในภาษาเกาหลีแปลว่า "ท้องฟ้า") เป็นหนึ่งในสวนสาธารณะทั้ง 5 ที่เรียกรวมกันว่าสวนเวิลด์คัพ (World Cup Park)

          สวนนี้สร้างขึ้นในโอกาสที่เกาหลีและญี่ปุ่นได้เป็นเจ้าภาพร่วมในการแข่งขันฟุตบอลโลกเมื่อปี ค.ศ. 2002 โดยพื้นที่ตั้งของสวนทั้งหมดนี้เคยเป็นกองภูเขาขยะ ที่ไม่สามารถกำจัดได้ทันเนื่องจากการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของกรุงโซล ลองนึกภาพว่าตรงนั้นเคยเป็นกองขยะที่มีปริมาณมากถึง 92 ล้านตัน และใช้เวลากว่า 6 ปีในการปรับปรุงพื้นที่ตรงนี้ขึ้นมา ปัจจุบันบริเวณนี้ถูกสร้างให้เป็นสวนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยังสามารถผลิตก๊าซที่เกิดจากการหมักหมมของขยะที่ถูกฝังอยู่เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ต่อไปได้อีกด้วย

          สวนฮานึลมีชื่อเสียงเนื่องจากอยู่บนภูเขา (ที่เกิดจากการถมกองขยะนั่นแหละ) สามารถเห็นวิวแม่น้ำฮันและวิวกรุงโซลฝั่งตะวันตกได้ นอกจากนี้ในฤดูใบไม้ร่วงของทุกปียังมีเทศกาลหญ้ามิสแคนทัส (ภาษาเกาหลีเรียกว่า "อ็อกแซ, 억새") ที่จะบานสะพรั่งปลิวไสวไปตามลมหนาว เป็นวิวที่สวยและแปลกตาไปอีกแบบ

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

11. โบสถ์เมียงดง (Myeongdong Cathedral)

          หลายคนอาจยังไม่ทราบว่านอกจากเมียงดงจะเป็นแหล่งจับจ่ายซื้อของที่คึกคักที่สุดแห่งหนึ่งในเกาหลีแล้ว ยังเป็นสถานที่อันสำคัญทางประวัติศาสตร์ทั้งสังคมและศาสนาอีกด้วย หากมาเดินช้อปปิ้งที่เมียงดง อยากให้เพื่อน ๆ เจียดเวลาสักครู่เดินขึ้นมาตามถนนสายหลัก ก็จะเจอโบสถ์คาทอลิกทางด้านขวามือ โบสถ์นี้มีชื่อเต็ม ๆ ว่า The Cathedral Church of the Virgin Mary of the Immaculate Conception แต่มันยาวไป ไม่มีใครเรียกหรอก เค้าเรียกกันสั้น ๆ ว่า "โบสถ์เมียงดง"

          โบสถ์แห่งนี้เริ่มสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1892 หรือตั้งแต่สมัยที่ศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกได้เริ่มเผยแผ่เข้ามาในคาบสมุทรเกาหลี (ตรงกับราชวงศ์โชซอน) มีเอกลักษณ์ที่สำคัญคือสร้างขึ้นจากอิฐแดงและกระจกสี

          นอกจากโบสถ์นี้จะเป็นศูนย์กลางทางศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกให้กับประชาชนชาวเกาหลีแล้ว ที่นี่ยังเคยเป็นศูนย์กลางที่ประชาชนมาร่วมชุมนุมกันเพื่อต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหารในช่วงปี ค.ศ. 1970-1980 และยังเป็นสถานที่หลบภัยของบรรดาผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองหลายคนอีกด้วย แม้กระทั่งในปัจจุบัน บริเวณลานหน้าโบสถ์ก็ยังถูกใช้เป็นสถานที่รวมตัวกันเพื่อเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่เนือง ๆ

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

12. Korean Folk Village (한국민속촌)

          Korean Folk Village เป็นหมู่บ้านที่สร้างขึ้นเพื่อจำลองบรรยากาศ และวิถีชีวิตความเป็นอยู่สมัยราชวงศ์โชซอนยุคปลาย (ราชวงศ์สุดท้ายของเกาหลี) บนเนื้อที่กว่า 615 ไร่ รวบรวมเอาบ้านและอาคารจากภูมิภาคต่าง ๆ ในเกาหลีมาไว้ในนี้ถึง 260 หลัง โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ภูเขา และลำธาร (ธรรมชาติแน่นอน เพราะต้องนั่งรถออกมาจากโซลประมาณ 1 ชม.) มีการสาธิตการใช้ชีวิตตามวิถีของคนในสมัยนั้น นักท่องเที่ยวสามารถร่วมทำเวิร์กช็อปต่าง ๆ เช่น ปั้นหม้อ (โอ่ง, ไห) ดูดวง ดูโหงวเฮ้งตามตำราเกาหลีโบราณ ขี่ม้า ฮ้าไฮ่ ... อะไรก็ว่ากันไป นอกจากนี้ยังมีการจำลองสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น การสืบสวนผู้ต้องสงสัย การแสดงระบำรำฟ้อนต่าง ๆ รับรองว่าเมื่อผ่านประตูเข้ามาจะรู้สึกว่าหลุดเข้ามาในอีกยุคหนึ่งเลยทีเดียว (พนักงานในนี้พูดภาษาเกาหลีโบราณหมด)

          นอกจากนี้หมู่บ้านนี้ยังใช้เป็นสถานที่ในการถ่ายทำซีรีส์แนวย้อนยุคอีกหลายต่อหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นติ่งตามละคร หรือว่าตากล้องแนวธรรมชาติก็มาเที่ยวได้โดยไม่ต้องกลัวเสียเที่ยว

          หากใครสนใจจะเดินทางมาที่นี่ให้เผื่อเวลาเอาไว้เลย 1 วันเต็ม ๆ วิธีเดินทางก็มีหลากหลายวิธีมาก วิธีที่ง่ายที่สุดคือนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Suwon แล้วนั่งรถรับส่งที่มีบริการฟรีต่อไปอีกประมาณ 30 นาที ส่วนเวลานั้นสามารถเช็กได้ที่เว็บนี้ koreanfolk.co.kr

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

13. ป่าแห่งกรุงโซล (Seoul Forest)

          Seoul Forest (서울숲) เป็นสวนสาธารณะที่เปิดเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ค.ศ. 2005 แต่เดิมนั้นเป็นป่าธรรมชาติที่กษัตริย์แห่งราชวงศ์โชซอนใช้ล่าสัตว์ และเป็นพื้นที่ที่ใช้ตรวจแถวทหารและรวบรวมกำลังพล แต่เดิมพื้นที่ตรงนี้เรียกว่า "ตุ๊กซอม" (แปลว่า "เกาะตุ๊ก", Ttuk Island) แต่มันไม่ใช่เกาะแต่อย่างใด แต่เป็นแหลมที่อยู่ระหว่างแม่น้ำฮันและคลองชองเกชอน จนทำให้ดูเหมือนเป็นเกาะ ส่วนชื่อ "เกาะตุ๊ก" นั้น ก็มิได้ตั้งขึ้นเพราะมีเจ้าของชื่อตุ๊กแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะสมัยโบราณนั้น เมื่อมีการตรวจแถวทหารหรือเคลื่อนขบวนจะมีการตั้งธง "ดุกกี (纛旗)" (เป็นชื่อของธง) คนสมัยนั้นจึงเรียกพื้นที่ตรงนี้ว่า "ดุกซอม" แล้วเพี้ยนมาเป็น "ตุ๊กซอม" ในปัจจุบัน

          สวนสาธารณะแห่งนี้นอกจากจะมีต้นไม้และวิวเก๋ ๆ ให้ถ่ายรูปแล้ว ยังสามารถเช่ารถจักรยานปั่นรอบสวน หรือจะลงไปปั่นบนถนนเลียบแม่น้ำฮันก็จะได้เห็นวิวที่สวยไม่แพ้กัน

          สำหรับใครที่จะเดินทางมาเที่ยว ให้ขึ้นรถไฟฟ้าสาย Bundang (สีเหลือง) แล้วลงที่สถานี Seoul Forest (서울숲) ได้เลย

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

14. สุสานอึยรึง (Euireung)

          "อึยรึง" คือชื่อของสุสานที่ฝังศพของกษัตริย์กยองจง (Gyeongjong, 景宗, ค.ศ. 1688-1724) กษัตริย์องค์ที่ 20 แห่งราชวงศ์โชซอน (ราชวงศ์โชซอนมีกษัตริย์ทั้งหมด 27 องค์) กับพระราชินีซอนอึย เป็นหนึ่งในสุสานกษัตริย์ทั้งหมด 42 แห่ง (40 แห่งในเกาหลีใต้ และ 2 แห่งในเกาหลีเหนือ) และสุสานทุกแห่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกจาก UNESCO ในชื่อของ Royal Tombs of the Joseon Dynasty

          หากใครอยากมาเยี่ยมชมสุสานแบบนี้ ให้เลือกเอาตามใจชอบได้เลย เพราะว่ามีหลายแห่งกระจายอยู่ทั้งในกรุงโซลและจังหวัดใกล้เคียง

          คำว่า รึง [陵] (ลึง, นึง อันนี้จะเปลี่ยนเสียงไปตามตัวสะกดของพยางค์หน้าตามกฎการเปลี่ยนเสียงในภาษาเกาหลี) หมายถึงสุสานที่ใช้ฝังศพขอกษัตริย์นั่นเอง เพราะฉะนั้นถ้าใครมาเที่ยวในโซลแล้วเจอสถานีรถไฟฟ้าที่ลงท้ายด้วยคำนี้ก็แสดงว่ามีสุสานอยู่ เช่น สถานี Seolleung (ซอลลึง), 태릉 (แทรึง)

          ดูจากรูปจะเห็นทางเข้าสุสานเป็นทางเดินหินที่มีเส้นตรงกลาง คนที่นี่เชื่อว่าทางเดินนี้เป็นทางผ่านของวิญญาณ ห้ามเดินเหยียบ เพราะว่าจะทำให้ฝันร้ายหรืออาจจะเกิดโชคไม่ดี (ใครอยากลองก็เชิญได้นะ อิอิ)

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

          잡상 (雜像), จับซัง คือตุ๊กตากระเบื้องที่ติดเอาไว้บนหลังคาอาคารต่าง ๆ ในวังหรือสุสานของกษัตริย์ เชื่อว่าจะช่วยขับไล่วิญญาณร้ายต่าง ๆ ที่อยู่บนฟ้า ไม่ให้เข้ามาก่อกวนหรือทำอันตรายภายในตัวอาคาร

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

15. ป่าแห่งความฝัน (Dream Forest)

          คือสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่บริเวณทางเหนือของกรุงโซล มีชื่อเป็นทางการว่าป่าแห่งความฝันแห่งโซลเหนือ (북서울 꿈의 숲) ทางกรุงโซลได้ทำการปรับปรุงและเปิดสวนนี้ขึ้นใหม่เมื่อปี ค.ศ. 2009 เป็นสวนสาธารณะที่มีเนื้อที่กว้างเป็นอันดับที่ 4 ในกรุงโซล

          ภายในสวนสาธารณะมีอาคารอเนกประสงค์ที่สร้างเป็นสโลป สามารถขึ้นไปชมวิวทางเหนือของกรุงโซลได้โดยรอบ (และเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์เรื่อง IRIS ... อันนี้จำเขามา) นอกจากอาคารนี้แล้วในสวนยังมีสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่ ลานน้ำพุ และสระน้ำขนาดใหญ่อีกด้วย

          สำหรับใครที่อยากมาเที่ยวสามารถเดินทางมาโดย

          1. รถไฟฟ้า สาย 4 สถานี Mia Samgeori ทางออกที่ 1 แล้วนั่งรถบัสสาย 9 หรือ 11 มาอีก 10 นาที และลงที่ป้าย Dream Forest

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

          2. รถไฟฟ้า สาย 6 สถานี Dolgoji ทางออกที่ 3 แล้วนั่งรถบัสสาย 147 มาอีก 5 นาที และลงที่ป้าย Dream Forest

          ปิดท้ายด้วยวิวสวย ๆ ที่อ่าวซุนชอนค่ะ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังวางแผนไปเที่ยวประเทศเกาหลีนะคะ ^^

16. ทุ่งต้นกกที่อ่าวซุนชอน (Suncheon Bay)

          อ่าวซุนชอนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ (Wetland) แห่งแรกในเกาหลีที่ได้รับการขึ้นทะเบียนในสนธิสัญญาแรมซาร์ (Ramsar Convention) เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ เช่น นก ปู ปลา หอย และพืชทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในเกาหลี จุดเด่นของอ่าวนี้อีกอย่างคือมีทุ่งต้นกกที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี และที่เด่นอีกอย่างคือจะมีคู่รักชาวเกาหลีมาสวีทกันเยอะมาก

          สำหรับคนที่ต้องการมาที่นี่ ต้องเดินทางมาที่เมืองซุนชอน (Suncheon) ซึ่งอยู่ที่จังหวัดชอลลานัมโด (ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้สุด) ใช้เวลานั่งรถบัสจากสถานี Central City Terminal ในกรุงโซลประมาณ 4-5 ชั่วโมง แล้วแต่สภาพการจราจร เมื่อถึง Suncheon Terminal แล้วให้นั่งรถบัสหรือรถแท็กซี่ไปยังทางเข้าอ่าวซุนชอนได้เลย (ใช้เวลาเดินทางโดยรถบัสจากสถานีซุนชอนประมาณ 30 นาที)

           ป.ล. 1 ถ้าอยากดูต้นกกสวย ๆ แนะนำให้มาในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงพฤศจิกายน
           ป.ล. 2 เปิดให้เข้าตั้งแต่ 08.00 น. ถึงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน


16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

16 มุมมองใหม่ ๆ ของเกาหลี

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
คุณปลาทูตัวกลม สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก หนึ่งเงาในเกาหลี - Korea Wanderer
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แบกเป้เที่ยวเกาหลีด้วย 16 มุมมองใหม่ ๆ ที่ต้องไปโดน อัปเดตล่าสุด 12 มีนาคม 2562 เวลา 10:03:35 54,104 อ่าน
TOP