ตรวจสอบวิธีการ ขั้นตอนการลงทะเบียนระบบ K-ETA ก่อนเข้าประเทศเกาหลีใต้ ใครอยากไปเที่ยวเกาหลีตอนนี้ ต้องทำอะไรยังไงบ้าง เรามีคำตอบ
เงื่อนไขสำหรับการเดินทางเข้าเกาหลีใต้แบบไม่กักตัว
- ต้องเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนที่รับรองโดย WHO 2 เข็ม ไปแล้ว 14 วัน แต่ไม่เกิน 180 วัน (1 เข็มสำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีน Johnson & Johnson) หรือ ผู้ที่ได้รับวัคซีน 3 เข็ม โดยเป็นวัคซีนที่กำหนด ได้แก่ Pfizer, Moderna, AstraZeneca, Johnson & Johnson, Novavax, Sinopharm(Beijing), Sinovac, Covishield, Covaxin, Covovax
ยกเว้นผู้เดินทางที่ไม่ได้รับวัคซีน หรือผู้ที่เดินทางจากประเทศปากีสถาน อุซเบกิสถาน เมียนมา และยูเครน ยังคงต้องกักตัว ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนแล้วหรือไม่
- ลงทะเบียนแจ้งประวัติการได้รับวัคซีนผ่านระบบยืนยันการได้รับวัคซีนโควิด 19 (COOV) โดยสามารถกรอกข้อมูลล่วงหน้า (Q-CODE) ได้ที่เว็บไซต์ระบบกรอกข้อมูลล่วงหน้าได้ที่ cov19ent.kdca.go.kr
- ลงทะเบียนระบบ K-ETA เป็นระบบลงทะเบียนแบบใหม่ที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเข้าประเทศได้ง่ายขึ้น แบบไม่ต้องต่อคิวรอขอวีซ่า
ระบบ K-ETA คืออะไร ?
ระบบ K-ETA หรือ Korea Electronic Travel Authorization เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อคัดกรองชาวต่างชาติที่มีความประสงค์จะขออนุญาตเดินทางเข้าประเทศเกาหลี โดยไม่ต้องขอวีซ่า โดยระบบนี้ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการโดนปฏิเสธไม่ให้เข้าเมืองที่มีจำนวนมากขึ้น รวมถึงการลักลอบเข้ามาทำงานอย่างผิดกฎหมายอีกด้วย
สำหรับระบบ K-ETA นี้ได้มีการเริ่มการใช้งานจริงตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2021 เป็นต้นมา นักท่องเที่ยวจากประเทศที่ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา (VISA) 112 ประเทศ จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติการเดินทางเข้าประเทศผ่านระบบ K-ETA ก่อน จึงจะสามารถออกบัตรโดยสารเครื่องบินไปยังประเทศเกาหลีได้ และหากได้รับการอนุมัติ K-ETA แล้ว การอนุมัติจะมีอายุการใช้งาน 2 ปี และสามารถใช้งานได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง จนกว่าหนังสือเดินทางจะหมดอายุ
นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีการเปิดให้บริการ K-ETA Center ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสนับสนุนการดำเนินการสมัคร K-ETA โดยทางหน่วยงานสามารถให้คำปรึกษา (ทางอีเมล) ได้ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษารัสเซีย ภาษาไทย และอื่น ๆ
เอกสารที่ต้องใช้สมัคร K-ETA
-
หนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ตที่ยังไม่หมดอายุ
-
รูปถ่ายหน้าตรง
-
ข้อมูลที่พักในเกาหลีอย่างชัดเจน
-
บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต สำหรับหักค่าธรรมเนียม 10,000 วอน
ขั้นตอนการลงทะเบียนระบบ K-ETA
- ลงทะเบียนที่เว็บไซต์ www.k-eta.go.kr หรือโมบายแอปพลิเคชัน K-ETA อย่างน้อย 24 ชั่วโมง ก่อนขึ้นเที่ยวบินที่จะเดินทางไปเกาหลี
- กรอกข้อมูลต่าง ๆ เช่น ข้อมูลของหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต, วัตถุประสงค์ในการเดินทาง, ที่อยู่ที่จะเข้าพักในเกาหลี อีเมล และอื่น ๆ พร้อมแนบรูปถ่าย แนะนำว่า ยิ่งกรอกข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลการเดินทางละเอียด และตรงตามความเป็นจริง ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสที่จะผ่านมากกว่าเดิม
- ชำระค่าธรรมเนียม 10,000 วอน หรือประมาณ 280 บาท ให้เสร็จเรียบร้อย เพื่อยืนยันการสมัคร K-ETA ซึ่งการสมัคร K-ETA นอกจากสมัครให้ตัวเองได้แล้ว ยังสามารถสมัครให้คนอื่นได้สูงสุดถึง 30 คน และจ่ายค่าธรรมเนียมพร้อมกันในครั้งเดียว
- รอผลการตรวจสอบข้อมูล เพื่อเช็กข้อมูลและความเป็นไปได้ว่าเป็นนักท่องเที่ยวจริง
- สามารถตรวจสอบผลการสมัครเดินทางไปเกาหลี ได้ที่เว็บไซต์ k-eta.go.kr, โมบายแอปพลิเคชัน K-ETA หรืออีเมลที่ให้ไว้ในขั้นตอนการสมัคร ได้ภายใน 24 ชั่วโมง
- หากได้รับอนุญาต K-ETA สามารถขึ้นเที่ยวบินที่จะเดินทางไปเกาหลีได้ และ K-ETA มีอายุการใช้ 2 ปี ระยะพำนักในเกาหลีครั้งละไม่เกิน 90 วัน ซึ่งสามารถเข้าเกาหลีได้โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง
นอกจากนี้หากมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเข้าประเทศ หรือเปลี่ยนแปลงที่อยู่ในเกาหลี หรือข้อมูลการติดต่อหลังจาก K-ETA ได้รับการอนุมัติแล้ว จำเป็นต้องขอแจ้งแก้ไขข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ของ K-ETA ในหน้า K-ETA application results ก่อนเข้าประเทศอีกครั้ง มิเช่นนั้นอาจถูกปฏิเสธการเข้าประเทศได้
** ในกรณีที่ยื่นข้อมูลในระบบ K-ETA แล้วไม่ผ่าน ต้องติดต่อไปที่สถานทูตเกาหลี (หรือสถานกงสุล) เพื่อยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศตามปกติ
ลงทะเบียน K-ETA ผ่านแล้ว ก็ยังต้องผ่าน ตม. อยู่ดี
ระบบ K-ETA เป็นเพียงการลงทะเบียนเพื่อคัดกรองชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้เท่านั้น ไม่ใช่วีซ่า และถึงแม้ประเทศไทยจะได้ฟรีวีซ่าแล้ว นักท่องเที่ยวไทยเมื่อเดินทางมาถึงสนามบิน ก็ต้องทำตามขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ตามปกติ ซึ่งการจะเข้าประเทศได้หรือไม่นั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่เป็นสำคัญด้วย
ทั้งนี้ แม้ว่าลงทะเบียนระบบ K-ETA ผ่านแล้ว ก็อาจจะถูกปฏิเสธหรือยกเลิกได้ ในกรณีที่มีการส่งข้อมูลเป็นเท็จ หรือไม่ถูกต้อง ซึ่งก็อาจจะมีโทษหรือถูกตัดสิทธิ์ในการเข้าประเทศตามที่กฎหมายของประเทศเกาหลีใต้กำหนดด้วย
ขั้นตอนหลังจากการเดินทางเข้าประเทศ
- ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศจำเป็นต้องตรวจ RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง (ก่อนเดินทางเข้าประเทศ ไม่เกิน 48 ชั่วโมง และหลังจากเข้าประเทศแล้ว 1 วัน) และตรวจ Rapid Antigen Test (RAT) 1 ครั้ง (หลังเดินทางเข้าประเทศแล้ว 6-7 วัน)
- ผู้ที่กักตัวในสถานที่ที่รัฐบาลกำหนดยังจำเป็นต้องตรวจ PCR ตามปกติ
- ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศหลังจากวันที่ 1 เมษายน (ศุกร์) เป็นต้นไป สามารถใช้บริการขนส่งสาธารณะได้ตามปกติ
เที่ยวเกาหลีใต้ ไปทำอะไรดี ?
เกาหลีใต้ นับเป็นประเทศในใจของใครหลายคน เพราะมีทั้งธรรมชาติแสนสวยงาม ไลฟ์สไตล์ที่มีทั้งความทันสมัยผสมผสานกับความเป็นดั้งเดิม อาหารรสชาติจัดจ้านถูกปาก รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ก็ครบครัน ยิ่งตอนนี้เกาหลีใต้กลับมาเปิดประเทศ และไทยยังได้ฟรีวีซ่าด้วย สายเที่ยวที่คิดถึงกิมจิและหมูย่างอร่อย ๆ เตรียมจัดกระเป๋าบินลัดฟ้าไปเที่ยวเกาหลีกันได้เลย ซึ่งเราก็มีสถานที่เที่ยวในเกาหลีมาฝากกัน เผื่อใครอยากเก็บเป็นเช็กลิสต์เอาไว้เช็กอินก็ตามสะดวกเลย
จัดเต็มที่เที่ยวเกาหลีใต้ 2020 เก็บครบทั้งแลนด์มาร์กและที่เที่ยวใหม่มาแรง
มาตรการเดินทางกลับมายังประเทศไทย
เอกสารที่ต้องเตรียม
1. หนังสือเดินทาง
2. เอกสารรับรองการฉีดวัคซีน
2.1 อายุระหว่าง 12-17 ปี หากได้รับวัคซีน 1 เข็ม ถือว่าฉีดวัคซีนครบ
2.2 อายุต่ำกว่า 18 ปี แต่ยังไม่ได้รับวัคซีน จะต้องลงทะเบียนและเดินทางพร้อมผู้ปกครอง
3. หลักฐานการชำระเงินค่าโรงแรม SHA Extre+/AQ 1 วัน (วันที่เดินทางมาถึง) และค่าตรวจ RT-PCR 1 ครั้ง ชุดตรวจ ART 1 ชุด และพาหนะรับส่งจากสนามบิน (ดูรายชื่อโรงแรมได้ที่เว็บไซต์ thailandsha.com)
4. กรมธรรม์ประกันภัยที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลในวงเงินไม่น้อยกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราคาซื้ออยู่ที่ประมาณ 500 บาทขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริษัทประกัน) ผู้มีสัญชาติไทยไม่ต้องมีประกัน และชาวต่างชาติสามารถใช้เอกสารประกันสังคมหรือเอกสารรับรองจากนายจ้างและหน่วยงานในไทยแทนได้
วิธีลงทะเบียน
1. ลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass ที่เว็บไซต์ tp.consular.go.th ซึ่งจะใช้เวลาพิจารณาคุณสมบัติ 3-7 วัน
2. เมื่อถึงประเทศไทย ผ่านจุดตรวจ และเดินทางไปยังโรงแรมด้วยพาหนะรูปแบบ Sealed Route หรือมาตรการควบคุมนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางตามเส้นทางที่กำหนด
3. ตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR และรอผลตรวจที่โรงแรม
4. ตรวจหาเชื้อแบบ ATK ด้วยตัวเองในวันที่ 5-6 อีกครั้ง และรายงานผลตรวจผ่านช่องทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
กล่าวโดยสรุป สำหรับการเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 เป็นต้นไป ยกเลิกตรวจ RT-PCR ก่อนการเดินทาง ภายใน 72 ชั่วโมง ทั้งรูปแบบ Test & Go, Sandbox และ Quarantine
สำหรับกรณี Test&Go และ Sandbox มีการตรวจ RT-PCR ในวันที่มาถึง และตรวจ ATK ในวันที่ 5, ไม่ต้องจองโรงแรมในวันที่ 5 (ในกรณีที่ผลเป็นลบสามารถออกจากโรงแรมได้เลย), ใช้ ATK (ที่โรงแรมมอบให้) ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ด้วยตัวเอง และรายงานผลผ่านระบบสาธารณสุขตามที่กำหนด หากผลตรวจเป็นลบจึงจะเดินทางออกจากโรงแรมได้
- กรณี Sandbox มีการตรวจ RT-PCR ในวันที่มาถึง และตรวจ ATK ในวันที่ 5 โดยจะลดเวลาอยู่ในพื้นที่เหลือ 5 วัน
- กรณี Quarantine มีการตรวจ RT-PCR ในวันที่มาถึง และลดกักตัวเหลือ 5 วัน แต่จะต้องตรวจ RT-PCR ในวันที่ 4-5
*** เมื่อเดินทางเข้ามายังประเทศไทย หลังจากที่ทำการยื่นลงทะเบียน Thailand Pass แล้ว ระบบจะตรวจสอบข้อมูลและหลักฐาน เมื่อได้รับการยืนยันผลการอนุมัติ หลังจากนั้นจะรับการตรวจเชื้อด้วยวิธี RT PCR ณ โรงแรม หรือสถานที่ที่โรงพยาบาลคู่ปฏิบัติการกำหนด (ส่วนใหญ่จะเป็นในลักษณะการจองแบบแพ็กเกจ โดยรวมค่าบริการต่าง ๆ ทั้งรถรับ-ส่งจากสนามบิน ค่าตรวจ และห้องพัก) และรอผลในห้องพัก ในกรณีที่ผลเป็นลบสามารถออกจากสถานที่พักได้เลย และในกรณีที่ผลเป็นบวก โรงพยาบาลจะเข้ามาช่วยดูแลกระบวนการเข้าสู่ระบบการรักษาต่อไป
ใครที่กำลังมีแพลนอยากไปเที่ยวประเทศเกาหลีใต้ ควรศึกษาข้อมูล ขั้นตอน และวิธีการต่าง ๆ ให้ละเอียด รวมถึงติดตามข่าวสารจากสถานทูตอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญต้องดูแลตัวเองให้ดีทั้งก่อนไปและหลังกลับมาด้วยนะ
ขอบคุณข้อมูลจาก
k-eta.go.kr, สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย, เฟซบุ๊ก สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล / Royal Thai Embassy, Seoul, เฟซบุ๊ก กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ, เฟซบุ๊ก KTO Thailand